ผู้เขียน หัวข้อ: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++  (อ่าน 3487 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ honeypor

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 43
  • พลังกัลยาณมิตร 95
    • ดูรายละเอียด

สภาวะของทูตสวรรค์

จำนวนของทูตสวรรค์นั้นเหลือคณนา เป็นจิตที่รับใช้พระเจ้าไปช่วยเหลือมนุษย์ เป็นภาพสะท้อนฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า
ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวว่า

พระเจ้าทรงกล่าวถึงบรรดาทูตสวรรค์ว่า “ทรงใช้ลมเป็นทูตนำสาร ทรงใช้เปลวเพลิงเป็นผู้รับใช้ของพระองค์” (ฮบ 1:7)


พระศาสนจักรจึงสรุปคำสอนว่า “ ความมีอยู่จริงของจิตบริสุทธิ์ที่ไม่มีร่างกายซึ่งพระคัมภีร์เรียกเป็นประจำว่าทูตสวรรค์
เป็นข้อความจริงของความเชื่อ ”

บรรดาทูตสวรรค์ “ เป็นผู้รับใช้และผู้ส่งข่าวของพระเจ้า ” “ ทูตสวรรค์ในฐานะที่เป็นจิตล้วนจึงมีสติปัญญาและอำเภอใจ เป็นบุคคลที่ถูกสร้างและไม่รู้จักตาย มีความศักดิ์สิทธิ์ครบครันเหนือกว่าสิ่งสร้างทั้งหลายที่มองเห็นได้ ”


บทบาทหน้าที่ของบรรดาทูตสวรรค์

นอกจากบรรดาทูตสวรรค์จะเป็น “ เป็นผู้รับใช้และผู้ส่งข่าวของพระเจ้า ” ทูตสวรรค์จำนวนมากยังมีหน้าที่ประจำอื่นๆ

ปกป้องดูแลทวีป ประเทศชาติ หรือเมือง

เราทราบว่ามีทูตสวรรค์อุปถัมภ์ของชาติต่างๆ นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 นักบุญเกลเมนแห่งอาเล็กซานเดรียกล่าวว่า “ พระเจ้า
ทรงบัญชาให้ทูตสวรรค์แยกย้ายกันไปอยู่ตามชาติต่างๆ ”

ในพระคัมภีร์มีการกล่าวถึงเทวดาอารักขาพวกกรีกและพวกเปอร์เซีย นักบุญเปาโล กล่าวถึงทูตสวรรค์ที่อารักขามาซิโดเนีย
และอัครเทวดามีคาแอล นอกจากเป้นจอมทัพสวรรค์ ยังถือว่าเป็นผู้อารักขาประชากรอิสราแอลด้วย

พระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ตรัสเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1986 ว่า “ เราพอที่จะยืนยันได้ว่าหน้าที่ของบรรดาทูตสวรรค์
เป็นเสมือนทูตของพระเจ้าทรงชีวิตที่สัมพันธ์ไม่เฉพาะกับแต่ละบุคคลหรือกับบุคคลที่ได้รับการเลือกสรรเท่านั้น แต่กับคนทั้ง
ชาติด้วย ”


ทูตสวรรค์เป็นผู้พิทักษ์เราแต่ละคน

คริสต์ศาสนามีข้อคำสอนที่ว่า มีทูตสวรรค์ดูแลเราแต่ละคนอยู่ พระเยซูคริสต์ได้ตรัสเรื่องนี้มีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ว่า

“จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่นคนธรรมดา ๆ เหล่านี้คนใดเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ตลอดเวลาในสวรรค์ ทูตสวรรค์ของเขา
เฝ้าชมพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ” (มธ 18:10)

ทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์เรา ท่านจะอยู่กับเราตลอดเวลา ท่านพิทักษ์เราจากพลังชั่วทุกอย่าง กี่ครั้งแล้วที่ท่านได้ช่วยเราให้รอด
พ้นจากภยันตรายทั้งกายและใจ ท่านได้ช่วยเราให้รอดพ้นจากการประจญล่อลวงอย่างนับครั้งไม่ถ้วน

ในศตวรรษที่ 5 มีเหตุการณ์ที่บันทึกในประวัติศาสตร์ที่ อัตตีลา นำทัพชาวฮั่นบุกตีทั่วยุโรปจนมาถึงกรุงโรม
และกลับถอยทัพกลับไปเฉยๆเมื่อพบกับพระสันตะปาปาเลโอ(ปัจจุบันได้รับการประกาศเป็นนักบุญแล้ว) ว่ากันว่าเวลา
ที่นักบุญพระสันตะปาปาเลโอองค์ใหญ่ออกจากกรุงโรมเพื่อจะได้ไปพบกับอัตตีลา กษัตริย์ของพวกฮั่นซึ่งต้องการยึดกรุง
โรมนั้นทูตสวรรค์ได้ปรากฏมาอย่างยิ่งใหญ่หลังพระสันตะปาปา อัตตีลามีความเกรงกลัวต่อปรากฏการณ์นี้มากจนถึงกับ
ได้สั่งให้กองทัพถอยทัพกลับจากสถานที่แห่งนั้น เป็นไปได้ไหมว่านั่นเป็นอารักขเทวดาของพระสันตะปาปา แต่ที่แน่นอน
ที่สุดคือ กรุงโรมได้รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมที่น่าสะพรึงกลัวนั้น เป็นความจริงที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์โลก

ออฟไลน์ honeypor

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 43
  • พลังกัลยาณมิตร 95
    • ดูรายละเอียด



    ความเข้าใจแบบผิดๆ เรื่องทูตสวรรค์ และ ปีศาจ

    มีภาพยนตร์ การ์ตูน หรือ เกมมากมายที่นำเรื่อราวของทูตสวรรค์มาใช้ และนำไปใช้กันอย่างผิดๆ เป็นต้นการนำทูตสวรรค์
    ไปใช้เสมือนหนึ่งว่าเป็นสิ่งมีชีวิตปกติธรรมดา เป็นเผ่าๆหนึ่งที่อยู่ในโลก ไม่แตกต่างอะไรจากสิ่งมีชีวิตปกติอื่นๆเสียเท่าไหร่
    เป็นต้น ซึ่งภาพลักษณ์ที่บิดเบี้ยวหลายๆแบบนี้เราสามารถพบเห็นได้ตามการ์ตูนและสื่อต่างๆทั่วไป ที่อาจทำให้เราเข้าใจ
    ธรรมชาติของทูตสวรรค์ผิดไปจากความเชื่อสากลเรื่องทูตสวรรค์



    ในพระคัมภีร์มีการพูดถึงธรรมชาติของทูตสวรรค์ไว้อย่างชัดเจนว่า

    ทูตสวรรค์คือสิ่งมีชีวิตที่มีจิตวิญญาณ มีความฉลาด มีอารมณ์ และ เจตนารมณ์ ทูตสวรรค์มีความฉลาด
    ทูตสวรรค์เป็นวิญญาณ ที่ไม่มีรูปร่าง แต่การไม่มีรูปร่างไม่ได้หมายถึงว่าทูตสวรรค์ไม่มีตัวตน

    ความรอบรู้ของทูตสวรรค์มีความจำกัดเพราะทูตสวรรค์เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ซึ่งหมายความว่าเหล่าทูตสวรรค์ไม่ได้รอบรู้
    ปหมดทุกอย่างเหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงรอบรู้ แต่ทูตสวรรค์จะมีความรอบรู้มากกว่ามนุษย์ ทูตสวรรค์ถูกสร้างขึ้นมาใน
    จักรวาลให้อยู่ในระดับสูงกว่ามนุษย์ ดังนั้นเหล่าทูตสวรรค์จึงมีความรู้ที่มากกว่าโดยปริยาย ทูตสวรรค์ได้รับสติปัญญาจากการ
    เฝ้าดูกิจกรรมของมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน ทูตสวรรค์ไม่จำเป็นที่จะต้องศึกษาอดีตเหมือนมนุษย์; ทูตสวรรค์ประสบการณ์
    เหล่านั้นมาแล้วจึงรู้ว่าคนอื่นๆ มีปฏิกิริยาหรือตอบโต้อย่างไรในสถานการณ์นั้นๆ และสามารถทำนายค่อนข้างจะถูกต้องว่า
    เราจะมีปฏิกิริยาอย่างไรในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าทูตสวรรค์จะมีเจตนารมณ์ แต่พวกเขาก็ต้องจำนนต่อเจตนารมณ์
    ของพระเจ้าเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่พระองค์ทรงสร้าง ทูตสวรรค์ที่ดีถูกพระเจ้าส่งมาให้ช่วยผู้ชอบธรรม


   
 ทูตสวรรค์เป็นสิ่งที่ทรงสร้างที่แตกต่างไปจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง มนุษย์ไม่ใช่ทูตสวรรค์ และทูตสวรรค์ไม่ใช่มนุษย์ และมนุษย์
    เองก็ไม่ได้กลายเป็นทูตสวรรค์เมื่อเสียชีวิตลง ซึ่งตรงข้ามกับความเข้าใจที่ผิดว่ามนุษย์ที่ทำความดี ตายไปจะได้เป็น
    ทูตสวรรค์เป็นเทวดาจากการ์ตูนหรือเกมบางอัน ที่สับสนความเชื่อของเทวดาพุทธและพราหมณ์เข้ามา

    ไม่มีปีศาจดี ไม่มีทูตสวรรค์ชั่ว

    หลายๆครั้ง เราพบมุขการ์ตูนหรือเกมส์ ที่แสดงภาพของทูตสวรรค์และปีศาจเป็นเรื่องของเผ่าที่ต่างกัน แถมมีปีศาจจิตใจดี
    หรือทูตสวรรค์จิตใจชั่ว สิ่งนี้คือความสับสนจากเทวดาและมารในทางพุทธหรือพราหมณ์ เพราะในทางหลักความเชื่อคริสต์
    ศาสนา พระเจ้าไม่ได้สร้างปีศาจหรือซาตานปีศาจคือทูตสวรรค์ที่หลงผิดคิดชั่วและนั่นทำให้ทูตสวรรค์จะไม่เป็นทูตสวรรค์อีก
    ต่อไป แต่กลายเป็นปีศาจทันที ทูตสวรรค์ จึงไม่ใช่ชื่อเผ่าที่มีรูปร่างหน้าตาแบบมีปีกขาวๆ แต่เป็นชื่อเรียกจิตที่ดีที่รักมนุษย์
    ถ้าจิตใดเกลียดมนุษย์และคิดชั่วเราจะเรียกจิตนั้นว่าปีศาจ ดังนั้น หากจิตใดเคยดีงามความงดงามนั้นออกมาจากความรักและ
    ความดีของจิตนั้น จิตใดเปลี่ยนไปเป็นชั่วหรือเลวร้ายจิตนั้นก็สกปรกน่าเกลียดกลายเป็นปีศาจโดยอัตโนมัติ เพราะทูตสวรรค์
    เป็นจิตล้วนๆไม่ได้มีกายเนื้อคอยบดบังจิตใจแท้จริงแบบเรา ดังนั้นการที่ชั่วช้าโดยยังมีการสะท้อนภาพของตนให้ภายนอก
    ดูสวยงามจึงเป็นไปไม่ได้ จึงไม่มีปีศาจใจดี หรือทูตสวรรค์ใจชั่ว



    ดังนั้นปีศาจก็คือทูตสวรรค์ที่ทำการกบฎขัดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าและได้ตกสวรรค์ แปดเปื้อนความชั่วร้ายจนกลายเป็น
    “ปีศาจ” ไป หากปีศาจหรือจิตชั่วร้ายกลับใจใหม่หาแสงสว่างเปลี่ยนเป็นจิตที่ดี ก็จะกลับเป็นทูตสวรรค์ไม่ใช่ ปีศาจ อีกต่อไป
    แน่นอนไม่มีการเป็นพ่อเป็นแม่ แต่งงานมีลูก มีพี่มีน้องออกมาอย่างที่การ์ตูนบางเรื่องทำด้วย เพราะทูตสวรรค์ทั้งหมดมาจาก
    พระเจ้าผู้เป็นผู้สร้างแต่พระองค์เดียว ไม่มีเพศ ทูตสวรรค์จึงไม่ต้องมีการสืบพันธุ์หรือมีเรื่องเกี่ยวกับเพศ แต่ภาพลักษณ์ที่ดู
    เป็นชายหรือหญิง มาจากบุคลิคที่จิตนั้นสะท้อนออกมาประกอบกับการรับรู้ของผู้เห็นนิมิต แปลออกมาให้ดูเป็นชายหรือหญิง
    แต่ไม่ใช่เพศแบบของมนุษย์แน่นอน

ออฟไลน์ honeypor

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 43
  • พลังกัลยาณมิตร 95
    • ดูรายละเอียด

ความเชื่อเรื่องเทวดาในศาสนาต่าง ๆ

แทบทุกศาสนาในโลกนี้ยอมรับในการมีอยู่ของเทพเทวดา...หรือแม้ไม่เชื่อเรื่องเทวดา อย่างน้อยที่สุด ก็ยังมีการกล่าวถึงใน
เรื่องของชาวฟ้าชาวสวรรค์ ซึ่งนอกจากความเชื่อเรื่อง ทูตสวรรค์ของทางศาสนาคริสต์แล้ว ศาสนาอื่น ๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็น
ศาสนาเก่าแก่โบราณอย่างกรีก โรมัน อียิปต์โบราณ หรือศาสนาที่ยังมีผู้นับถือในปัจจุบัน อย่าง ฮินดู อิสลาม ชินโต พุทธ ก็ล้วน
แต่มีการพูดถึงเทวดาด้วยกันทั้งสิ้น แต่มีมุมมองที่ต่างกันในรายละเอียด

ความเชื่อเรื่องเทวดาของทางพุทธ และ พราหมณ์



ในทางพุทธนั้น ถ้าเราศึกษาถึงที่มาของเทวดาต่างๆ ที่สังคมไทยรู้จักและนับถือกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็จะพบว่า เทวดาต่างๆ
เกือบทั้งหมด นั้นมาจากคัมภีร์หลักของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู และ พุทธศาสนา และถ้าว่าตามคัมภีร์ชั้นปฐมภูมิของทั้ง 2
ศาสนานี้ต่าง ก็กล่าวไว้ในทำนองเดียวกันว่า มีสิ่งที่อยู่เหนือประสาทสัมผัสธรรมดาของมนุษย์บางประเภทเรียกว่า "เทวดา"
ซึ่งมีคุณสมบัติและความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ธรรมดาอยู่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะมีการยอมรับตรงกันว่าเทวดามีจริง
แต่สถานภาพของเทวดาในพุทธศาสนาและศาสนาฮินดูกลับแตกต่างกันเป็นอย่างมาก เมื่อเทวดามีสถานภาพที่ต่างกัน ทั้ง 2
ศาสนาจึงได้บัญญัติหรือสอนวิธีที่มนุษย์จะพึงปฏิบัติหรือมีปฏิสัมพันธ์ต่อเทวดาไว้ต่างกันอีกด้วย

ศาสนาฮินดู หรือศาสนาอย่างชินโต ที่เป็นศาสนาพหุเทวนิยม เทวดาคือแก่นหลักของศาสนา เทวดาทุกองค์ได้รับการยกย่อง
ในฐานะเทพเจ้า เป็นอำนาจเหนือธรรมชาติที่มีอิทธิพลเหนือมนุษย์ เทวดาคือที่มาของศีลและธรรมของศาสนา แต่ในอีกฝั่ง
หนึ่ง เช่น ศาสนาพุทธในบางนิกาย เทวดาไม่ใช่แก่นหลักของศาสนา เทวดาไม่ได้อยู่ในฐานะที่ได้รับการยกย่องนับถือจาก
ศาสนิกชนเช่นเดียวกับเทพเจ้าในศาสนาฮินดู เพราะเทวดาไม่มีอิทธิพลให้คุณให้โทษเหนือมนุษย์ แต่เทวดาในทางพุทธ
ศาสนา เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ในความเชื่อทางศาสนา หรืออย่างน้อยที่สุด ในความเชื่อ
ความเข้าใจของพุทธศาสนิกชนบางหมู่เหล่า เทวดาก็เป็นตัวอย่างที่ดีของ “รางวัล” ที่จะพึงตอบแทนให้แก่ผลกรรมดีที่
ศาสนิกชนได้ปฏิบัติไป

ในคัมภีร์พระสุตตันตปิฎก คำว่าเทวดาเป็นคำใช้เรียกชาวสวรรค์ที่มีกำเนิดเป็นโอปปาติกะ คือมีกำเนิดด้วยการผุดขึ้นทันที
โดยอาศัยอำนาจแห่งกุศลกรรมที่เคยทำไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานเป็นผู้จัดสรร ถ้าหากต้องการจะใช้เรียก
เจาะจงเพศ จะเรียกเทวดาเพศชายว่า เทพบุตร และเรียกเทวดาเพศหญิงว่า เทพธิดา ส่วนในคัมภีร์พระเวทสังหิตา ไม่มีคำ
เรียกเทวดาเพศชายเป็นคำเฉพาะ คงมีแต่คำเรียกเทวดาเพศหญิง โดยใช้คำว่า เทวี ต่อท้ายชื่อ



ประเด็นที่แตกต่างกันระหว่างเทวดาในคัมภีร์ของทางพุทธกับทางพราหมณ์ คือ เทวดาในคัมภีร์พระสุตตันตปิฎกไม่มีบิดา
มารดา แต่มีกรรมดีที่ได้ทำไว้เมื่อครั้งมีชีวิตเป็นผู้ให้กำเนิด ซึ่งการเกิดในลักษณะนี้เรียกว่า "โอปปาติกะ" คือเกิดผุดขึ้น
โตเต็มที่ในทันที แม้เมื่อเกิดเป็นเทวดาแล้วก็ยังอยู่ในภาวะของปุถุชนและยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเช่นเดียวกับมนุษย์จน
กว่าจะสิ้นกิเลสอาสวะ เทวดาจึงอยู่ในฐานะต่ำกว่าพระอริยเจ้า ในขณะที่เทวดาในคัมภีร์พระเวทมีมารดาบิดาเป็นผู้ให้กำเนิด
เมื่อเจริญเติบโตถึงวัยหนุ่มสาวแล้วก็คงอยู่ในวัยนี้ตลอดไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มีชีวิตเป็นอมตะและมีความยิ่งใหญ่
เหนือมนุษย์ทุกระดับ ส่วนความเชื่อเทวดาในสังคมไทยนอกจากยังคงเชื่อและนับถือผีแบบดั้งเดิมแล้วสังคมไทยก็ได้ยอมรับ
นับถือเทวดาที่มาจากวัฒนธรรมอื่นโดยเฉพาะวัฒนธรรมอินเดียอีกด้วย และคนส่วนใหญ่ที่นับถือเทวดาก็เพราะหวังพึ่งพา
อำนาจจากเทวดาหรือหวังผลประโยชน์จากเทวดาเป็นสำคัญ

ทวดาเหล่านี้ แม้จะมีจิตใจไม่ดีขึ้นมา เช่น คิดอิจฉา หรือผิดลูกเมีย หากยังไม่หมดกรรมที่จะไปจุติใหม่ก็ยังคงสถานะเทวดา
ต่อไป เช่นการลักลอบเป็นชู้ของพระอินทร์ ในตำนานต่างๆ

มารในพุทธศาสนา และพราหมณ์

มารในพุทธศาสนาไม่ได้เหมือนปีศาจในคริสต์ศาสนาตรงที่ ในทางพุทธ มาร เป็นอีกเผ่าหนึ่งไม่ได้เป็นเทวดาที่เปลี่ยนไปแบบ
ทางคริสต์ ตั้งแต่เกิดจนตายเป็นมาร มีลูกหลานสืบพันธุ์ก็เป็นเผ่ามาร มักแสดงภาพออกมาเป็นยักษ์ จึงมีคำกล่าวเรียกคู่กันใน
ภาษาไทยว่า “ยักษ์มาร” แต่อาจมีจิตใจดีงามกว่าเทพเทวดาบางองค์ สามารถบำเพ็ญเพียรเพื่อเกิดใหม่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีกว่า
ได้ แต่เมื่อเกิดเป็นมารก็ยังคงสถานะเป็นมารอยู่ เช่นในเรื่องรามเกียรติ์ ภิเพกที่เป็นยักษ์กลับใจมาเข้าฝ่ายพระราม
(แต่ก็ยังเป็นยักษ์อยู่ดี) เป็นต้น



เทวดาพุทธศาสนาและทูตสวรรค์ในคริสตศาสนา

ซึ่งหากเทียบกันแล้วจะเห็นว่าทางเทวดาของทางพุทธ จะแตกต่างจากทูตสวรรค์ของคริสต์ และเป็นที่มาของความสับสนของ
งบรรดาการ์ตูนและเกมส์ที่ผู้แต่งหรือผู้เขียนเป็นพุทธหรือชินโต แต่อยากเอาเรื่องทูตสวรรค์คริสต์มาใช้แต่กลับเอามาใช้ใน
บริบทความเชื่อเดิมของตัวเองไม่ใช่ตามความถูกต้องของทูตสวรรค์ของคริสตศาสนา

ในทางพุทธ ในสวรรค์เทวดาบางพวกยังเสพกาม มีนางอัปสรเป็นนางบำเรอเทวดาชาย ในทางฮินดูเทพเทวดาสมรสมีชายา
และมีบุตรธิดา แต่ในคริสตศาสนา ทูตสวรรค์ไม่กระทำสิ่งเหล่านี้

มธ 22:29
พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านคิดผิดแล้ว เพราะไม่เข้าใจพระคัมภีร์ และไม่รู้จักพระอานุภาพของพระเจ้า
เมื่อมนุษย์จะกลับคืนชีพ จะไม่มีการแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอีก แต่เขาจะเป็นเหมือนทูตสวรรค์

หากจะเปรียบว่าเทวดาของพุทธเหมือนชาวสวรรค์แบบไหนของคริสต์ ก็อาจเทียบได้กับ “นักบุญ” มากกว่า “ทูตสวรรค์”
เพราะนักบุญในคริสต์ศาสนา ก็คือศาสนิกชนที่กระทำคุณงามความดเมื่อเสียชีวิตลงก็ได้รับรางวัลเป็นผลตอบแทนจาก
คุณงามความดีที่ได้กระทำมา ได้ไปอยู่ในสวรรค์จึงเรียกว่า “นักบุญ” ดังนั้น นักบุญทางคริสต์คือคนในโลกมาก่อนเหมือน
เทวดาทางพุทธ แตกต่างจากทูตสวรรค์ที่เป็นจิตที่ถูกพระเจ้าสร้างขึ้นเป็นทูตสวรรค์เลยโดยตรงและไม่เป็นมนุษย์มาก่อน

นอกจากนี้เทวดาทางพุทธจะยังสามารถหมดสถานะเทวดา กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ หรือสัตว์ หรืออื่นๆ แต่ทูตสวรรค์จะเป็นจิต
ตลอดไปเพราะถูกสร้างมาเช่นนั้น หากทำผิดจะกลายเป็นปีศาจ ไม่มีการเกิดมามีเนื้อหนัง เป็นคน หรือสัตว์ ในโลก

นอกจากนี้ ทูตสวรรค์ มีหน้าที่รับใช้พระเจ้า ไม่ต้องการกินดื่ม แต่เทวดาในทางพุทธหรือพราหมณ์ เกิดเป็นเทวดาเพื่อเสวยผล
บุญที่ทำความดีมา อาจรับของเซ่นไหว้ ในรูปแบบอาหารต่างๆจากมนุษย์


ทั้งหมดนี้ คือบางส่วนของความแตกต่างที่ไม่เหมือนกัน ของบรรดาทูตสวรรค์และเทวดาในศาสนาอื่น ที่หลายๆคนรวมทั้ง
คริสตชนเองสับสนกันเสมอๆ แม้เราจะไม่สามารถรู้ทุกอย่างของฟ้าสวรรค์ แต่เราก็มีความรู้ในบางอย่างที่ทำให้ทราบและ
แยกแยะความแตกต่างได้



สำหรับคริสตชนเราแล้ว ทูตสวรรค์ทุกองค์รักเราและเป็นเพื่อนเรา และท่านเหล่านั้นปรารถนาให้เราทุกคนได้กลับ
ไปอยู่ในสวรรค์ด้วยกันกับพวกท่านนิรันดร เราจงรู้จักขอความช่วยเหลือจากเพื่อนในสวรรค์ที่เต็มใจช่วยเราใน
กิจการดีตามพระประสงค์ของพระเจ้าทุกประการ

ขอทูตสวรรค์ทั้งหลายช่วยวิงวอนพระเจ้าเพื่อเราด้วยเทอญ

http://www.belongtothetruth.com/Holy/angel02/angel01.htm

ออฟไลน์ (〃ˆ ∇ ˆ〃)

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นไม้เล็กพริ้วไหวดั่งสายลม
  • *
  • กระทู้: 328
  • พลังกัลยาณมิตร 199
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
 :13: ขอบคุณครับและอนุโมทนาครับพี่ปอ
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด