แสงธรรมนำใจ > วัชรยาน
บทสนทนา...กับท่านผู้เฒ่า (ธรรมนิพนธ์จากทิเบต)
lek:
:06: :45: :07:
ฐิตา:
เมื่อท่านผู้เฒ่าได้กล่าวเช่นนั้น
เจตคติ.. ของเจ้าหนุ่มน้อย ก็พลันแปรเปลี่ยน
"ใช่แล้ว ท่านผู้เฒ่าเอย เป็นความจริงยิ่งแล้ว
สิ่งที่กระผมพบเห็นประจักษ์ด้วยสองตาของกระผม
และสิ่งที่กระผมได้ยินด้วยสองหูนั้น
เป็นสิ่งที่ยืนยัน ถึงสิ่งที่ท่านกล่าวอย่างแท้จริง
คำพูดของท่านสะท้านสะเทือนอารมณ์กระผมอย่างลึกล้ำ
ความทุกข์ยากลำบากของผู้เฒ่าชราวัย ช่างใหญ่หลวงยิ่งนัก
ท่านผู้เฒ่าเอย ท่านผ่านพ้นประสบการณ์มามากมาย
ดังนั้นได้โปรดเถิด ได้โปรดบอกความจริงแก่กระผม
ไม่มีวิธีการใดเลยเทียวหรือ
ที่บุคคลจะเอาชนะซึ่งความน่าสะพึงกลัวนี้ได้ ?
ฐิตา:
ท่านผู้เฒ่าอมยิ้มอีกคำรบหนึ่ง
"มี...ยังมี มรรควิธี ที่จะเอาชนะความน่าสะพึงกลัวนี้ได้
และเป็นอุบายวิธีที่ไม่ยากเกินไปหรอกหนา
ด้วยว่าสรรพสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมา ย่อมต้องดับสิ้นสลายไป
แลหาใช่มีทุกชีวิตที่จักสถิตอยู่ได้ถึงวัยชรา
ในการดำรงชีพมีชีวาโดยไม่ม้วยมรณานั้น
ต้องอาศัยอมฤตธรรมอันเป็นทิพยวิเศษ
และนั่นเป็นสิ่งพิเศษเอกอุที่จะบรรลุได้ยากยิ่ง
ผู้ยิ่งใหญ่ทุกท่านในอดีตกาลที่ผ่านมา ได้ม้วยมรณาลงสิ้นแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์
และพระราชา ผู้ที่ทรงคุณธรรม
เช่นเดียวกับผู้ที่ทำบาปกรรมอกุศล
ถ้วนทั่วทุกคน ต้องผจญกับความตายในวันหนึ่ง
แล้วตัวเจ้าจะพึงแตกต่างไปจากนี้หรือไฉน ?
ฐิตา:
"ผิว์กระนั้น หากผู้ใดหมั่นเจริญภาวนา ในมรรคาวิถีแห่งจิตวิญญาณ
จิตเบิกบานแนบแน่นอยู่กับปิติสุข
ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะอายุมากน้อยเพียงใดก็ตาม
เมื่อยามความตายได้มาถึง
บุคคลนั้นก็เปรียบประดุจดังเด็กน้อย ที่คล้อยเดินกลับบ้าน
อย่างสุขสำราญเริงใจ
เจ้าหนุ่มเอย แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็มิได้กล่าวถึงอุบายวิธี
ที่ลึกซึ้งมากไปกว่านี้
นี่คืออนุศาสนีที่มีแก่เจ้า ที่กลั่นมาจากจิตเบื้องลึกที่สุดของข้า
มันออกมาจากใจของข้า หาใช่เพียงจากปากของข้าเท่านั้น
ชะตากรรมของเจ้าอยู่ในกำมือของเจ้าเอง
และเจ้าควรจะเชื่อถือไว้วางใจ ในมโนธรรมสำนึกลึกลงไปในตัวเจ้า"
เมื่อได้ฟังคำกล่าวเช่นนี้ หนุ่มน้อยจึงเอ่ยวจีตอบว่า
"จริงแล้วท่านเอย ท่านผู้เฒ่ากล่าวถูกต้องแล้ว
แต่ก่อนที่กระผมจะมอบตัวอุทิศตน เพื่อฝึกฝนอบรมจิตอย่างลึกซึ้งจริงจัง
ยังมีบางประเด็นที่กระผมใคร่ขอความแจ่มกระจ่าง
ตัวอย่างเช่น...ความต้องการกลับไปหาครอบครัวของกระผม
รวมทั้งเรื่องบ้านเรือน และทรัพย์สมบัติพัสถาน
เมื่อกระผมจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จเรียบร้อยดีแล้วนั่นแหละ
กระผมจึงจะแวะกลับมาหา และสนทนากับท่านอีกครั้งหนึ่ง"
ฐิตา:
ท่านผู้เฒ่าฟังแล้ว ถึงกับสะอึกอึ้งกล่าวว่า
"แนวคิดของเจ้า ไร้ซึ่งเหตุแลผลอันสมควร
แต่ก่อนนี้ ข้าก็มีชีวิตล่วงผ่านด้วยการคิดว่า
จะเริ่มฝึกฝนภาวนาในอีกไม่ช้านี้
แต่กิจการงานที่มีอยู่นั้น เปรียบประดุจดังหนวดเคราของเหล่าบุรุษ
ไม่ว่าเจ้าจะโกนมันออกเท่าใด การโกนก็หาได้จบสิ้นลงไม่
หนวดเคราใหม่ก็ยังงอกออกมาอีกร่ำไป
สำหรับตัวข้า ปีแล้วปีเล่าผ่านไปเช่นนี้
แต่กิจการงานของข้า ก็หาได้สิ้นสุดลงไม่
การผัดวันประกันพรุ่งเป็นเพียงการลวงล่อตัวเอง
หากเจ้าคิดจะผัดวันให้เนิ่นนานเรื่อยไป
เจ้าก็ไม่มีหวังที่จะก้าวหน้าสัมฤทธิ์ในทางจิตวิญญาณ
และการสนทนาของเรา ก็ไร้ผลสูญเปล่า
เจ้าก็เพียงแต่กลับไปบ้านของเจ้า
และปล่อยให้ตัวข้า ผู้แก่เฒ่าชรานี้
ได้นั่งสมาธิภาวนา สงบจิตไปตามลำพัง"
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version