เส้าหลินสองใหญ่ : สนุก บู้ ดราม่า และ ศาสนา

[มดเอ๊กซ]

จริงๆ ผมเห็นกระแสโปรโมตเรื่องนี้มาแบบเงียบๆ หรือเป็นเพราะผมไม่ค่อยตามข่าวก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่เห็นช่วงนี้กระแสข่าวของเรื่องเท่งโหน่ง จีวรบิน กับเรื่องกรีน ฮอเนต มาแรงกว่า แต่ด้วยกระแสของคนในพันทิพย์ที่ผมเห็นแค่ราวๆ 3 - 5 กระทู้บอกว่าเรื่องนี้ดีจริงๆ แต่หลักๆ ผมเห็นแค่มีเฉินหลงแสดงผมก็อยากไปดูแล้ว แต่เมื่อดูปั้มตราสะสมแต้มดูหนังฟรี เวร มันจะหมดอายุแล้วนี่หว่า ก็เลยรีบไปดูซะ (เพราะปกติหนังแนวนี้ผมจะไม่ดูในโรงหนัง)ฃ

เนื้อเรื่อง

ใน ยุคจีนสมัยโบราณ (ดูแล้วน่าจะหลังสงครามโลกครั้งที่ 2) ตัวเอกของเรื่องที่เป็นนายพันได้เข้าบุกยึดเมือง (ที่มีวัดเส้าหลินอยู่) จนชาวบ้านต้องอพยพมาอยู่กับวัดเพราะพิษภัยสงคราม เขาเป็นคนที่เชื่อเรื่องอำนาจและเพื่อให้ลูกเมียอยู่อย่างสุขสบาย แต่ทว่า ด้วยอำนาจของเขาทำให้มีคนคิดล้มล้าง ในที่สุดเมื่อเขาไร้ที่พึ่ง จึงได้มาอยู่กับวัดเส้าหลิน จนทำให้ธรรมะกลั่นเกลาจิตใจของเขาให้เข้าใจของคำว่า "ศาสนาพุทธ" แต่ทว่า เรื่องราวมันส์ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ที่เหลือดูเองเต๊อะ แต่นี้มันก็สปอยหน่อยๆ แล้วมั้ง = =

วิจารณ์

ที่ผมบอกว่ามัน สปอยหน่อยๆ นี่สปอยจริงๆ นะ เพราะไฮไลท์ของเรื่องนั้นกว่าจะให้เราเห็นได้ ก็ปาไปเกือบครึ่งเรื่องแล้ว ถ้าผมบอกมากกว่านี้คุณก็จะเดาเรื่องถูกหมดและเสียอรรถรสไปส่วนหนึ่งเลยที เดียว

เนื้อเรื่องนี้จะกล่าวถึงในยุคที่ฝรั่งแทรกแซงเข้ามาในประเทศ จีนด้วย ผมก็ไม่รู้ว่ามันมีในประวัติศาสตร์จริงๆ ไหม แต่ที่รู้ๆ บอกได้เลยว่าศัตรูในเรื่องนี้จะไม่ใช่แค่คนในชาติจีนด้วยกันอย่างเดียว แต่มันหมายถึงชาวต่างชาติที่หวังผลประโยชน์ในดินแดนแผ่นดินจีนอีกด้วย

เรื่อง นี้ผมบอกได้เลยว่าความรู้สึกนั้นจะออกแนวๆ เกิดมาลุย หนังไทยอยู่เหมือนกัน แต่ที่ต่างออกไปก็คือ เกิดมาลุย เป็นหนังรักชาติไทย แล้วบู๊ตลอดจนจบ แต่สำหรับเรื่องนี้ มันเป็นหนังรักศาสนา รักความเป็นเส้าหลิน แต่ถึงจะเป็นอย่างไรนั้นในหนังก็สอดแทรกความรักในศาสนาพุทธอยู่เยอะมาก ดังนั้นแล้วสำหรับคนไหนที่นับถือพุทธหรือชื่นชอบวัดเส้าหลินอยู่แล้ว คุณอาจได้เสียนํ้าตาได้

ผมบอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้มันวัดจิตใจคนดู ผมถามง่ายๆ คุณเห็นนักแสดง คุณเห็นชื่อเฉินหลง คุณอยากเข้าไปดูอะไร ? เขาบู๊กันทั้งเรื่อง หรือ เข้าไปดูเอาสาระ ? ถ้าจะบอกว่า คิดว่าเป็นหนังเอามันส์อย่างเดียวละก็ ผมคิดว่าคุณต้องบอกว่า "หนังบ้าไรไม่รู้ เสียดายเงินโคตร" เหตุเป็นเพราะ "คุณไม่ได้เข้าใจถึงแก่นศาสนาพุทธจริงๆ"

สังคมทุกวันนี้ผมบอกได้ ง่ายๆ เลย กว่า 70 % ของคนในเมืองกรุงเนี่ย แค่เข้าวัดแต่ละปี นับครั้งได้เลย ถ้าไม่ใช่วันปีใหม่หรือวันพระจริงๆ ก็ไม่ค่อยเข้ากันหรอก ทำไมนะเหรอ ? เพราะโดนวัตถุเข้าครอบงำ เราอยู่ในสังคมเมือง เราต้องเอาตัวรอด และหลายคน ไม่เลือกวิธีการ ชั่วได้ชั่วไป อำนาจชื่อเสียงตำแหน่งเงินทองมันมาก่อนอยู่แล้ว คนดีที่แท้จริง อยู่รอดยากในสังคมทุกวันนี้ เพราะสังคมทุกวันนี้มันผลักดันให้เราทำความชั่ว เพื่อตอบสนองให้เรามีชีวิตต่อไปและเพื่อสนองความต้องการของตนเอง

ผม ขอแอบกัดง่ายๆ เพื่อให้มองภาพออกง่ายขึ้น แค่เรื่องโหลดบิทหนังเถื่อนมาดูเนี่ย หลายคนบอกว่า เราเสียเงินค่าเนตแล้ว ก็เท่ากับมีสิทธิโหลดฟรี หรือ ลองโหลดมาดูก่อน หนังหนุกค่อยซื้อ (แต่ไม่เห็นไปซื้อกันเลย) หรือ เพราะของแท้มันทำห่วย ก็เลยต้องโหลด , มันเข้าโรงช้า ฯลฯ

ไม่ว่าจะเป็นยังไง มันก็คือข้ออ้างดีๆ ดีเอง

ขอ อภัยสำหรับหลายๆ คน และอันนี้ก็สารภาพว่า แค่เรื่องนี้ผมก็เคยทำมาแล้ว และก็รู้ว่ามันไม่ดี ผมเลยเลิก ผมเลยหยุด แล้วทำไมเราต้องทำ ทำไมเราต้องโหลด เพราะเราต้องการดู เราต้องการได้ มันคือความรู้สึก อารมณ์และตัณหาของเรา และมันตัดได้ยาก

สำหรับในหนังเรื่องนี้ ตัวเอกของเรื่องเป็นระดับนายพัน เข้ายึดครองเมืองต่างๆ กำจัดคนที่จะมาขัดขวาง และคิดแม้กระทั่ง ฆ่าพี่น้องของตนเอง ทำไมนะเหรอ เพราะความต้องการในอำนาจ ความกลัว ถึงจะบอกว่าทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อเมีย เพื่อลูก แต่สุดท้าย มันก็คือความรู้สึก ความเห็นแก่ได้ มันก็คือตัณหา

ยิ่ง คนเรามีอำนาจมากแค่ไหน ก็ยิ่งมีความกลัว กลัวว่าจะมีคนมายึดอำนาจ กลัวว่าจะมีคนมาฆ่า กลัวนู่น กลัวนี่ ก็เลยขัดขวาง กำจัด ยึดมันทั้งหมด

ความ มีอำนาจ ชื่อเสียง และเงินทองไม่ได้ทำให้เรามีความสุขเลยแม้แต่น้อย คนรวยก็ต้องกลัวโดนปล้น กลัวหุ้นตก ก็ต้องประคองธุรกิจ ประคองรายจ่ายให้น้อยๆ กั๊กเงินเอาไว้ เพื่อให้รวยไปจนถึงวันตาย

และ สุดท้าย สำหรับพระเอกในเรื่อง กรรมก็ตามสนองทัน และสำหรับหลายคนที่อ่าน ผมเชื่อว่าทุกคนกำลังโดนกรรมตามหลอกลอน เช่น รถติด ไปประชุมไม่ทัน หรือ โดนแฟนทิ้ง ทำของหาย ตกบันได โดนคนด่า ฯลฯ นั่นก็คือ กรรมมันตามมาหาเราทันนั่นเอง เพียงแต่เราอาจไม่รู้ตัว

และความสุขของมนุษย์มันต้องมาจากไหนหละ ?

ศาสนาพุทธไม่ได้บอกให้เราโกนหัว สวมจีวรแล้วเป็นคนดี หรือ ไม่ได้บอกให้เราบริจาดเงินหลักแสนหลักล้านแล้วบอกว่าเราเป็นคนดี ไม่ใช่

ศาสนา พุทธสอนให้เรารู้จักการให้ ความมีเมตตา การปล่อยวาง และการรู้จักตนเอง เราไม่จำเป็นต้องรวย ต้องมีชื่อเสียง หรืออำนาจ เราก็สามารถมีความสุขได้ ไม่ว่าเราจะจนหรือกินแกลบแค่ไหนก็ตาม อยู่ที่ว่าเราจะค้นหาความสุขของเรายังไงก็เท่านั้นเอง

เนื้อหาหลักคำ สอนในเรื่องนี้คุณจะได้เจอทั้งเรื่อง แทรกเข้ามาเป็นระยะๆ และจะได้คำสอนทั้งๆ ที่ตัวหนังยังคงซึ่งความสนุก ตื่นเต้น และซาบซึ้งอยู่

เอา หละมาดูกันเรื่องภาพ สำหรับภาพในเรื่องนี้ผมขอแบ่งออกเป็นสองช่วง ช่วงแรกนั้นยังทำออกมามึนๆ งงๆ ตามฉากไม่ทันบ้างบางฉาก นั่นอาจเป็นฉากมืด ดังนั้นพวกแผ่นผีทั้งหลายคุณอาจดูฉากนี้ไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อผ่านไปกลางเรื่องแล้ว ฉากจะยิ่งอลังการและสวยงามมากๆ โดยเฉพาะฉากสุดท้ายที่ผมคิดได้เลยว่า บลูเรย์คุ้มแน่นอน มุมมองกล้องนั้นหลายฉากทำออกมาได้สวยงามและดีเยี่ยม เห็นรายละเอียดคมชัดแจ๋ว ฉาก แสง ทำให้เราลุ้นระทึกในเรื่องได้เป็นอย่างดี

เรื่อง ของเสียงก็เป็นอีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดี ไม่ดังเกินไป ไม่เบาเกินไป ไม่ต้องกลัวฉากบางฉากเสียงดังหูแตก เพราะทำออกมาค่อนข้างถนอมหูคนดูเอาไว้มาก เสียงมีความนุ่ม ลึก ถึงจะไม่ได้ดีเด่นเท่าเรื่อง Tron แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับเยี่ยม เสียงประกอบนั้นไม่ได้ทำออกมาโบราณ แต่ทำออกมาไพเราะ สะเทือนใจไปถึงแก่น ถ้าคุณดูแล้วเข้าใจเรื่องได้ ตัวเพลงจะเป็นตัวขับกล่อมทำให้คุณดูหนังแล้วสนุกยิ่งขึ้น

เสียงพากษ์ นั้นแน่นอนว่าทีมพันธมิตรพากษ์ ถ้าถามผมว่าหนังฮาแตกไหม มันฮาเกือบทุกช่วงที่มีเสียงพันธมิตรพากษ์อยู่แล้ว แต่เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ได้เน้นฮาตั้งแต่แรก มันจะมีฉากซึ้งสะเทือนใจอยู่เยอะ จึงไม่ได้ฮาทั้งเรื่อง ถ้าแบ่งสั..ส่วนแล้ว ฮา 40 % ซึ้ง สะเทือนใจ 60 % ครับ โดยเฉพาะตอนที่เฉินหลงเล่นนั้น ฮาแตกแน่นอน

และสำหรับแฟนๆ เฉินหลงที่กลัวว่าเฉินหลงจะเล่นไม่ไหวแล้วนั้น ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้คิวบู๊ของเฉินหลงทำออกมาได้ไม่เหมือนเรื่องคาราเต้คิด คุณจะได้เห็นเขาบู๊กับผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็ก และบู๊ได้เยี่ยมเหมือนเรื่องใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด และ Spy Next Door แน่นอน เพียงแต่เนื่องจากเรื่องนี้เฉินหลงไม่ใช่ตัวเด่น จึงทำให้บทของเขาน้อยไปนิ๊ด ว้า น่าเสียดาย

ความคุ้มค่าในการดูโรง หนัง สำหรับเรื่องนี้ช่วงแรกๆ อาจไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ เนื่องจากสภาพแล้วเหมือนละครจีนทั่วไป แต่เมื่อผ่านไปครึ่งเรื่องแล้ว ฉากจะอลังการมากขึ้น โดยเฉพาะฉากสุดท้ายทำออกมาได้สะใจโรงหนังมากๆ องค์ประกอบภาพ เสียง ฉาก ความอลังการของเรื่อง จะทำให้คุณมีความรู้สึกได้ว่า เริ่มคุ้มค่าตั๋วขึ้นมาบ้างแล้ว

ส่วน การดำเนินเรื่องนั้น ก่อนถึงกลางเรื่องจะมีความอืดบ้าง แต่หลังๆ นั้นจะไม่ได้เน้นบู๊อย่างเดียว มันจะบู๊ท่ามกลางความสะเทือนอารมณ์ สะเทือนใจ และสำหรับคนที่เข้าใจแก่นของเรื่อง เข้าใจหลักของพระพุทธศาสนา คุณได้บีบนํ้าตาแน่นอน แต่สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ เมื่อหนังจบ คุณอาจลุกไปแล้วบอกว่า "หนังไรไม่รุ แค่เนี๊ย" ก็ได้

และความคุ้มค่า ในการซื้อแผ่นนั้น เรื่องนี้ผมยืนยันและนอนยืน ให้ถีบยันก็ได้ ซื้อ DVD ไปเลยครับ เพราะฉากนั้นงามมากๆ งามกว่าหนังหลายเรื่อง อลังการกว่าหลายเรื่อง ภาพชัดและกว่าอีกหลายเรื่อง คุณซื้อ VCD คุณอาจดูแล้วภาพงั้นๆ แต่ถ้าซื้อ DVD คุณจะได้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ถ้าถามถึงความคุ้มค่าสำหรับบลูเรย์แล้วนั้น จะคุ้มเฉพาะเลยกลางเรื่องไปแล้ว ดังนั้นคนที่ไม่ค่อยเล่นบลูเรย์อาจต้องคิดให้ดีๆ เพราะไฮไลท์ที่จะแสดงภาพระดับ HD ออกมาได้สุโก้ยนั้นมันจะอยู่ช่วงหลังๆ ของเรื่องนั่นเองครับ

ทำไมต้องดู ? ทำไมนะเหรอ มันไม่ใช่แค่ฉากบู๊หรือฉากที่ทีมพันธมิตรพากษ์ฮาอย่างเดียวนะครับ หนังได้สอนให้เราถึงแก่นของศาสนาพุทธด้วย คุณอาจเห็นฉากสะเทือนอารมณ์ในหนังแล้วเฉยๆ เพราะมันไม่ใช่บ้านเรา แต่เชื่อเถอะ ถ้าคุณเข้าใจเรื่องแล้ว คุณอาจเสียนํ้าตาโดยไม่รู้ตัว ในฐานะของชาวพุทธด้วยกันแล้ว ศาสนาคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นคนดี แม้ว่าเราอาจต้องตายสักวัน หรือโลกนี้ดับสูญ แต่ศาสนาย่อมไม่ตายจากไป เพราะมันจะอยู่ในใจของพวกเราทุกคนครับ

คะแนน - 8.5 / 10.00

เหตุที่ตัด
- หนังดึงไฮไลท์ได้ช้านิดนึง
- ก่อนถึงกลางเรื่อง ดำเนินอืดนิดหน่อย
- ฉากบู๊ช่วงแรกๆ โดยเฉพาะฉากร้านอาหาร ทำออกมาได้มึนตามาก
- หนังทดสอบจิตใจของคนดูโดยเฉพาะเด็ก แต่หลายช่วงก็ทำออกมาได้อืด ดังนั้นสำหรับเด็ก อาจไม่ดูในบางฉาก จึงทำให้พวกเขาดูเพื่อ "เอามัน" อย่างเดียว และอาจไม่เข้าใจถึงแก่นของหนัง แก่นของศาสนาได้ ถ้าหนังทำให้กระชับกว่านี้ในช่วงแรกจะดีกว่านี้

ปล. เนื่องจากเป็นหนังจีนและนักแสดงส่วนมากโกนหัว คุณอาจจำตัวละครสับสนเพราะบางคนหน้าคล้ายๆ กัน แนะนำว่าควรดูจากหนวดและจำเสียงแต่ละคนให้ได้ครับ

http://www.ict.in.th/17980

Shaolin (Jackie Chan, 2010) Trailer