ไทยโล่ง! อโวคาโดไม่อันตราย-เจอในกะหล่ำปลีปมเพิ่มอีก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผลตรวจอีโคไลในอโวคาโด ยืนยันไม่ใช้เชื้อชนิดที่คร่าชีวิตชาวยุโรป สธ.ให้ขายต่อได้ ขณะที่ผลตรวจกะหล่ำปลีปมพบเชื้ออีโคไลอีก ยังไม่ทราบสายพันธุ์ เตือนประชาชนอย่าวิตก
หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าวพบแบคทีเรียอีโคไล ไม่ทราบชนิด ปนเปื้อนอยู่ในอโวคาโดที่นำเข้าจากยุโรปนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า จากการตรวจยืนยันทางชีวเคมีของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในอโวคาโด พบว่าไม่ใช่เชื้ออีโคไลสายพันธุ์ โอ 104 ที่ระบาดและคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 30 รายในยุโรป โดยเชื้ออีโคไลที่พบในอโวคาโดนั้นพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงอนุญาตให้ผู้นำเข้าอโวคาโดสามารถจำหน่ายได้
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เฝ้าระวังผักผลไม้นำเข้าจาก 13 ประเทศในยุโรปที่มีรายงานเชื้อแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และให้วอร์รูมกรมควบคุมโรค ประชุมติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด และต้นตอแหล่งแพร่เชื้อ จึงขอให้ประชาชนไทยมั่นใจในมาตรการป้องกันเฝ้าระวังของกระทรวงที่พร้อมปกป้องสุขภาพคนไทย ขอให้ประชาชนรับประทานผักผลไม้ตามปกติ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ หากประชาชนยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ จะป้องกันไม่ให้ป่วยได้
ขณะที่ นายอมรินทร์ นันทวิทยาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มตรวจด่านอาหารและยา อย. กล่าวว่า ได้มีการเก็บตัวอย่างผักและผลไม้ อาทิ แครอต พริกหยวก กะหล่ำปลี และผลไม้รวมทั้งหมด 1 ตู้คอนเทนเนอร์ และจะนำผักผลไม้อย่างละ 1 กิโลกรัมไปตรวจสอบเชื้อดังกล่าว โดยจะนำไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน ซึ่งสินค้าดังกล่าวมีทั้งพร้อมรับประทาน และต้องนำไปปรุงให้สุกก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากอังกฤษ เบลเยียม สเปน และนำเข้ามาตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. ส่วนผลอโวคาโดที่ตรวจพบเชื้ออีโคไลเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์ใด ซึ่งในล็อตดังกล่าวนั้นมีการนำเข้ามา 420 ลัง และนำมาตรวจสอบหมดแล้ว
"ประชาชนที่จะรับประทานผักและผลไม้ในช่วงนี้ ควรนำมาล้างให้สะอาดก่อน โดยอาจใช้น้ำส้มสายชูหรือเกลือก็ได้ หรือควรต้มให้สุกก่อนรับประทาน รวมทั้งได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการชะลอการนำเข้าผักผลไม้จากยุโรปแล้ว" นายอมรินทร์กล่าว
วันเดียวกัน พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจตลาดสดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย พร้อมทั้งระบุว่า แม้ยังไม่พบการแพร่เชื้ออีโคไลในไทย แต่ก็มีการแพร่ระบาดหลายประเทศในยุโรป กทม.จึงต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง และจะลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันตัวเอง ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจ แต่รู้เท่าทัน
และสำหรับความคืบหน้าการตรวจหาเชื้ออีโคไลในกะหล่ำปลีปม ล่าสุด นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการเก็บตัวอย่างผักผลไม้ ที่นำเข้าจากทางทวีปยุโรป อาทิ กะหล่ำปลีปม พริกหยวก แครอท นั้น เบื้องต้นพบว่า กะหล่ำปลีปม มีเชื้อ อี.โคไล ปนเปื้อนอยู่ แต่ยังไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้ชัดเจนว่า เป็นสายพันธุ์อันตรายที่ทำให้เกิดโรคหรือไม่ จะต้องมีการตรวจสอบลงลึกในรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสายพันธุ์ที่แท้จริง เนื่องจาก เชื้อ อี.โคไล บางสายพันธุ์ไม่เป็นอันตราย และสามารถพบได้ทั่วไปในบ้านเรา ซึ่งจะต้องมีการเก็บตัวอย่างเพิ่มเติม คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ก็จะทราบผลว่า เป็นเชื้ออี.โคไล สายพันธุ์ใด ส่วนพริกหยวก แครอท ยังอยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อ อี.โคไล
ทั้งนี้ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังฝากไปยังประชาชนอย่าวิตกกังวล เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้มีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงท่านใดจะรับประทานผักและผลไม้ ในช่วงนี้ควรจะนำมาล้างให้สะอาดก่อน โดยอาจจะใช้น้ำส้มสายชู หรือเกลือก็ได้ หรือควรจะต้มให้สุกก่อนรับประทาน
อีโคไล
[10 มิถุนายน] อีโคไล ระบาดหนัก! ดับแล้ว 30 ราย-ไทยพบในอโวคาโด
"อี.โค ไล" ระบาดไม่หยุด ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ราย ขณะเจ้าหน้าที่เร่งหาที่มาเชื่อมรณะจากการตรวจสอบอาหารของผู้เสียชีวิต
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุข ได้พยายามอย่างสุดความสามารถ ในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อี.โคไล
ขณะที่ หน่วยงานสาธารณสุขในเมืองคัสเซิล ตอนกลางของประเทศเยอรมัน ได้ทำการตรวจสอบไปยังหน่วยงานที่ให้บริการด้านอาหาร ในงานเลี้ยงวันเกิด ใกล้กับเมืองเกอตติงเกน เมื่อวันที่วันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้น พบผู้ป่วย 8 คน จากการร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการทดสอบเชื้อ ด้านบริษัทกล่าวว่า จะให้ร่วมมืออย่างเต็มที่
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อล่าสุด พบแล้วกว่า 2,900 ราย ใน 12 ประเทศ และยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยัน จากหน่วยงานในแฟรงค์เฟิร์ตของเยอรมนี วานนี้ (9 มิ.ย.) ระบุมีแล้วทั้งสิ้น 30 ราย
อโวคาโด
อโวคาโด
[9 มิ.ย.] อีโคไลโผล่ไทย! สธ.เจอปนเปื้อนในอโวคาโดนำเข้า
สธ.เผยพบอโวคาโดนำเข้าจากยุโร ปปนเปื้อนเชื้ออี.โคไล แต่ยังไม่ทราบชนิด อีก 5 วันรู้ผลชัด เตือนประชาชนไม่ต้องวิตก เพราะเชื้ออี.โคไลมีหลายชนิด มักอยู่ตามผักผลไม้ได้ทั่วไป แต่ไม่เป็นอันตรายต่อคน
วันนี้ (9 มิถุนายน) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังจากด่านอาหารและยา ประจำท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิได้สุ่มเก็บอโวคาโด จำนวน 2 กิโลกรัมที่นำเข้าจากยุโรป ส่งตรวจหาเชื้อแบคทีเรียอี.โค ไลชนิดรุนแรง โอ 104 (Enterohaemorrhagic E.coli O104) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ผลการตรวจในเบื้องต้น พบเชื้ออี.โคไล ในอโวคาโดตัวอย่างที่สุ่มเก็บมา แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเชื้ออี.โคไลชนิดใด ทำให้เกิดสารพิษหรือไม่ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์อีกประมาณ 3-5 วันจึงจะทราบผล ส่วนกะหล่ำปลีปม จะทราบผลตรวจเบื้องต้นในเช้าวันพรุ่งนี้ (10 มิถุนายน 2554)
อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ยังย้ำว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวลที่มีการตรวจพบเชื้ออี.โคไลในอโวคาโดครั้งนี้ เพราะถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเชื้ออี.โคไล มีหลายชนิด และเป็นเชื้อที่มีอยู่ทั่วไปในผลิตภัณฑ์การเกษตร ผัก ผลไม้ ซึ่งไม่เป็นอันตรายสำหรับประชาชน และยังสามารถรับประทานผัก ผลไม้ต่อไปได้ตามปกติ
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ยังได้แนะนำว่า ก่อนที่จะนำผัก ผลไม้มารับประทาน ควรล้างน้ำให้สะอาดก่อนหลาย ๆ ครั้ง ด้วยการเปิดน้ำจากก๊อกแรงพอประมาณให้ไหลผ่านผักสด ผลไม้นานอย่างน้อย 2 นาที หรืออาจใช้น้ำส้มสายชู เกลือ ควบคู่ไปด้วย หากเป็นผักที่มีกาบใบห่อต้องคลี่ใบถูให้สะอาดก่อน รวมทั้งลอกหรือปอกเปลือกชั้นนอกของผักสดหรือผลไม้ทิ้งไป เพื่อลดสิ่งปนเปื้อน อย่างไรก็ตาม การรับประทานผักที่ปรุงผ่านความร้อนแล้วจะปลอดภัยที่สุด เพราะเชื้อแบคทีเรียจะตายเมื่อถูกความร้อน 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กระทรวงสาธารณสุข และ ไอ.เอ็น.เอ็น.
http://health.kapook.com/view27014.html.