จริงรูปหัวใจที่เราใช้ ๆ กันอยู่เนี่ย หน้าตามันไม่ค่อยเหมือนหัวใจจริง ๆ
ของคนเราสักเท่าไหลแต่ก็ไม่แปลกหลอกที่ของจริงกับสัญลักษณ์จะดูเหมือนแฝดคนละฝา
เพราะคนที่สร้างสัญลักษณ์นี้ขึ้นมา เป็นกลุ่มแรกเชื่อกันว่าเป็นพวกนายพรานยุโรป
ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์โน่น หรือเผลอๆ อาจจะเป็นคนรุ่นสุดท้ายในยุคน้ำแข็งเลยก็ได้
มีหลักฐานการค้นพบรูปหัวใจบนผนังถ้ำอายุ 10,000 ปีก่อนคริสตกาล ในประเทศสเปน
และเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกยอมรับ ว่ามีความคิดสร้างสรรค์ สูงมากสำหรับมนุษย์เมื่อ 10,000 ปีก่อน
เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่มีทั้งส่วนเว้าและส่วยโค้ง ซึ่งคนในยุคนั้นต้องสู้ชีวิตกันสาหัสมาก
คงไม่ค่อยว่างมาดีไซน์อะไรกันมากมายได้ขนาดนี้ นี่ต้องเรียกว่า ปาฏิหาริย์สรรค์สร้างสุดฤทธิ์แล้ว
เหตุผลที่นายพรานรุ่นพระเจ้าเหาสร้างสัญลักษณ์หัวใจขึ้นก็เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์
ของอวัยวะที่ตรึงชีวิตให้คงอยู่ จากนั้นรูปหัวใจก็ตกทอดมาเรื่อย ๆ เป็นสมบัติแบกะดิน
แล้วแต่ใครจะเอาไปใช้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะใช้ในทางศาสนา เพื่อสื่อถึงชีวิตและรูปร่าง
ของสัญลักษณ์หัวใจก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลาจนมีสภาพอย่างที่เราเห็นนี่ล่ะ
พอมาถึงยุคกลาง สัญลักษณ์รูปหัวใจเริ่มมีความหมายเฉพาะมากขึ้น
แต่ก็ยังมีหลายความหมายแล้วแต่ว่าจะอยู่ที่ไหน เช่น ถ้าอยู่ที่ประเทศหนึ่ง
รูปหัวใจจะหมายถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่พอไปอีกประเทศหนึ่งกลับหมายถึง
การไปด้วยกัน หรือในบางพื้นที่หัวใจก็มีความหมายที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างเช่น
หมายถึงไฟ หรือหมายถึงการบินก็ยังมี
ในประเทศสวีเดน หัวใจหมายถึงห้องน้ำ ที่ใช้ร่วมกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย
ชาวกรีกใช้สัญลักษณ์รูปหัวใจเป็นใบไม่ประดับมาลัยมงกุฎ ของเจ้าไดโดซุส
แต่ต่อมาเปลี่ยนมาประดับมงกุฎให้กามเทพแทน นั่นแสดงว่ารูปหัวใจเริ่มมีความหมาย
สื่อถึงความรักตั้งแต่สมัยนี้แล้ว
มีคนให้ความเห็นว่าสัญลักษณ์รูปหัวใจมีลักษณะคล้ายสะโพก
ซึ่งก็มีเสียงขานรับในทำนองเห็นด้วยมากมาย เพราะเชื่อกันว่าสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
มีวิวัฒนาการสูงอย่างลิงหรือคน สะโพกเป็นส่วนที่กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ จึงเป็นไปได้ว่า
สะโพกนี้เองที่เป็นจุดกำเนิด หรือที่มาของรูปหัวใจในปัจจุบัน
http://variety.teenee.com/foodforbrain/28333.html