ผู้เขียน หัวข้อ: ทำยังไงดีคับกับการทำงานจริงที่แสนท้อจิงๆ  (อ่าน 4277 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ่ีjuju

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 4
  • พลังกัลยาณมิตร 3
    • ดูรายละเอียด
ผมพึ่งจบใหม่ร้อนๆๆเลย ประสบการณ์ทำงานก็ยังไม่มี แต่ตอนนี้ผมได้ทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่ง และเริ่มงานมาได้3 อาทิตย์โดยพรุ่งนี้ผมต้องทำงานใหญ่ ซึ่งผมยังเรียนรู้งานยังไม่หมดเลยและยิ่งกว่านั้นงานตำแหน่งนี้มีคนรู้งานแค่คนเดียวซึ่งพี่เค้าก็ลาหยุดเป็นเวลา 3 เดือน ผมละท้อจิงๆๆ ช่วยผมด้วยคับผมควรทำยังไงดี :11: :11:

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
ทุกอย่างก็ต้องมีเริ่มต้นครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับผม ทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด  :13:

การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ lek

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1724
  • พลังกัลยาณมิตร 687
    • ดูรายละเอียด
ทำให้คิดถึงตอนเป็นเด็กเล็กๆ
ที่คลานๆแล้วอยากจะเดินวิ่ง
เด็กๆจะท้อเหมือนเราตอนนี้มั๊ยนะ
เด็กๆไม่กลัวแต่อาจจะงอแงนิดหน่อย
พอล้มแล้วก็ลุกขึ้นอีกเรื่อยๆจนเดินได้
แต่เรากลัวเพราะเราคิดอะไรต่อมิอะไรได้แล้ว...
เราคิดคาดหวัง คิดห่วงกังวลมากมาย
แต่เด็กไม่กลัวแต่พยายามจนในที่สุดก็เดินและวิ่งได้ในที่สุด
ความพยายามมันทำให้เราทำอะไรได้ทุกอย่าง
ตามความตั้งใจที่เราเพียรพยายาม...
ทุกสิ่งที่เรายังไม่เคยนั้น เรามักจะกลัวไปก่อนเสมอ
แต่เมื่อเราผ่านพ้นมันไปได้แล้ว...
ลองหันกลับมาดูตัวเองในวันนั้น...
ก็น่าขำดีเหมือนกัน...ในตอนนั้นที่มีแต่ความกลัว
ไม่มั่นใจว่าจะทำได้หรือเปล่า กังวลไปร้อยแปดพันเก้า
แต่ในที่สุดก็ผ่านพ้นมันไปจนได้...
ทุกครั้งที่ผ่านพ้นไป...สิ่งที่เราทำไว้นั้น
มันจะแสดงสิ่งที่เราทำขณะนั้น ว่าเราพยายามแค่ไหน
ละเอียดรอบคอบมีสติปัญญาแค่ไหน...
ประสบการณ์บทเรียนที่เราสะสมแต่ละขณะนั้น
จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ทำอะไรได้ดีขึ้น รู้อะไรมากขึ้น
และในที่สุดความกลัวที่เกิดจากความไม่รู้ก็ค่อยๆหายไป
เหลือแต่ความรู้ความตั้งใจความมุ่งมั่นที่มาจากเรานั่นเอง...

พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้
เหมือนคำพี่คนนึงเคยบอกไว้ว่า
"คนใหม่ๆทำอะไรพลาดคนอื่นมักให้อภัยเสมอ
แต่ถ้าเป็นคนเก่าๆแล้ว ถ้าทำพลาดก็ควรพิจารณาด้วย"
เพราะฉะนั้น ยังใหม่ไม่ค่อยรู้ หากพลาดก็นำสิ่งที่พลาด
มาเป็นบทเรียนเพื่อเรียนรู้ที่ดี เพื่อพัฒนาตัวเราเอง
หากทำไม่ได้ก็พยายามหาใครเป็นที่ปรึกษา หรือ
ค้นหาข้อมูลด้วยตัวเองให้ถึงที่สุด...
ผลลงเอยยังไงก็แล้วแต่...เราทำดีที่สุดแล้วหรือยัง?
ถ้ายัง ก็ทำให้ดีที่สุด จะได้สบายใจที่ได้ทำไปทุกขณะ
สู้ๆ :47:เป็นกำลัง :19:ทุกสิ่งจะผ่านพ้นไป... :13:
คงเหลือไว้ซึ่งสิ่งที่เราทำไว้นั่นเอง... :45:

ออฟไลน์ honeypor

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 43
  • พลังกัลยาณมิตร 95
    • ดูรายละเอียด
ก็ทำเท่าที่เราทำได้สิจ๊ะ

ออฟไลน์ ่ีjuju

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 4
  • พลังกัลยาณมิตร 3
    • ดูรายละเอียด
 :07: สวัดดี ครับพี่ๆ ที่คอยช่วย ตอนนี้ก็ผ่านมา 2 เดืือนแล้ว ยชีวิตการทำงานก็ยากลำบาก ไม่มีคนสอนทำผิดก็โดนดา หาว่าไม่มีสมอง คนในแผนกก็ไม่มีใครมาสนใจว่าคุณจะจะเป็นเด็กใหม่หรือ รู้เพียงอย่างเดียวว่าหน้าที่ใครหน้าที่มัน สิ่งที่เห็นมากขึ้นคือความเห็นแก่ตัวของคน การเอาดีเข้าตัว ซึ้งยิ่งทำให้ผมท้อมากขึ้นเรื่องงานก็โดนเรียกตัวเข้าไปคุยถึง 4 ครั้งซึ้งทำใหผมอยากออกจากงาน ซึ้งถ้าผมทำอย่างงั้น มีแต่ทำให้พ้อแม่คงเป็นห่วง  พี่ช่วยหาหลักธรรมให้ผมหน่อยครับ  :11:

ออฟไลน์ ดอกโศก

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 862
  • พลังกัลยาณมิตร 595
    • rklinnamhom
    • ดูรายละเอียด
สวัสดีค่ะ

พี่มาให้กำลังใจค่ะ ไม่มีหลักธรรมคำสอนใดๆมาแนะนำให้เลยค่ะเพราะพี่ไม่แม่นยำในหลักธรรมข้อใดเลย
สิ่งเดียวที่พี่ยึดถือในใจก็คือ คิดดี พูดดี ทำดี ค่ะ 

ตอนที่พี่เรียนจบกลับมาทำงานใหม่ๆ ก็รู้สึกไม่ต่างจากที่น้องรู้สึกค่ะ
โลกในรั้วสถาบันที่เราเรียนมา เรามีเพื่อนเกื้อกูล ช่วยเหลือกัน
เราก็จะรู้สึกสนุกและมีความสุขกับทุกการงานที่นั่น
แต่ในโลกของการทำงานจริง เราต้องเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือและดูแลตัวเองค่ะ
ไม่มีเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องมาคอยช่วยเหลืออีกแล้ว

เพื่อนๆที่ทำงานก็คือคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เราต้องเข้าใจกันและกันค่ะ
เขาไม่เคยรู้จักเราจะให้เขามาเอ็นดูเอื้ออาทรเราก็คงจะไม่ได้ เราก็ต้องค่อยเรียนรู้กันไปค่ะ

ส่วนงานที่ทำผิดพลาดไปแล้วก็ถือว่าเป็นครูค่ะ คนที่ไม่เคยทำผิดก็คือคนที่ไม่ทำอะไรเลยจริงไหมคะ
แต่อย่าทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีกเพราะนั่นมันหมายถึงเราไม่เคยเรียนรู้จากความผิดพลาดเลย
คิดเสียว่าที่เจ้านายเรียกมาพูดคุย ตักเตือน ก็ให้คิดว่านั้นเขากำลังบอกทางให้เราอยู่
เป็นคำแนะนำที่จะช่วยให้เราเห็นทางที่จะปรับตัว เปลี่ยนตัวเองไงค่ะ

พี่คิดว่าการทำงานที่พิดพลาดของน้องน่าจะมาจาก "ใจ"
เพราะใจที่ห่อเหี่ยว ไม่มีกำลัง ก็ทำให้เราไม่มีใจกับงานไงคะ
ลองเริ่มต้นดูใหม่ค่ะ เริ่มวันใหม่ด้วยใจดีๆนะคะอาจจะคิดว่ามันทำยากแต่มันทำได้ค่ะ
ถ้าใจเราดี มันไม่ได้ดีกับคนอื่น มันก็ดีกับตัวเราเองทั้งนั้น

ยิ้มน้อยๆในใจให้ได้ทุกวัน กับทุกเรื่อง พยายามนะคะ สู้ๆค่ะ
พี่เอาใจช่วย แล้วต่อไปหากมีอะไร ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องงานและเรื่องความไม่สบายใจ
แล้วอยากมีคนรับฟัง ก็แวะมาเข้ามาที่นี่นะคะ
พี่ๆ เพื่อนๆ หลายคนที่นี่อาจช่วยหาทางแก้ไขปัญหาให้ได้ค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 02, 2011, 10:01:31 am โดย ดอกโศก »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

สวัสดีค่ะ

พี่มาให้กำลังใจค่ะ ไม่มีหลักธรรมคำสอนใดๆเพราะไม่แม่นยำในหลักธรรมขอใดเลย
สิ่งเดียวที่ยึดถือในใจก็คือ คิดดี พูดดี ทำดี ค่ะ 

ตอนที่พี่เรียนจบกลับมาทำงานใหม่ๆ ก็รู้สึกไม่ต่างจากที่น้องรู้สึกค่ะ
โลกในรั้วสถาบันที่เราเรียนมา เรามีเพื่อนเกื้อกูล ช่วยเหลือกัน
เราก็จะรู้สึกสนุกและมีความสุขกับทุกการงานที่นั่น
แต่ในโลกของการทำงานจริง เราต้องเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือและดูแลตัวเองค่ะ
ไม่มีเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องมาคอยช่วยเหลืออีกแล้ว

เพื่อนๆที่ทำงานก็คือคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เราต้องเข้าใจกันและกันค่ะ
เขาไม่เคยรู้จักเราจะให้เขามาเอ็นดูเอื้ออาทรเราก็คงจะไม่ได้เราก็ต้องค่อยเรียนรู้กันไปค่ะ

ส่วนงานที่ทำผิดพลาดไปแล้วก็ถือว่าเป็นครูค่ะ คนที่ไม่เคยทำผิดก็คือคนที่ไม่ทำอะไรเลยจริงไหมคะ
แต่อย่าทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีกเพราะนั่นมันหมายถึงเราไม่เคยเรียนรู้จากความผิดพลาดเลย
คิดเสียว่าที่เจ้านายเรียกมาพูดคุย ตักเตือน ก็ให้คิดว่านั้นเขากำลังบอกทางให้เราอยู่
เป็นคำแนะนำที่จะช่วยให้เราเห็นทางที่จะปรับตัว เปลี่ยนตัวเองไงค่ะ

พี่คิดว่าการทำงานที่พิดพลาดของน้องน่าจะมาจาก "ใจ"
เพราะใจที่ห่อเหี่ยว ไม่มีกำลัง ก็ทำให้เราไม่มีใจกับงานไงคะ
ลองเริ่มต้นดูใหม่ค่ะ เริ่มวันใหม่ด้วยใจดีๆนะคะอาจจะคิดว่ามันทำยากแต่มันทำได้ค่ะ
ถ้าใจเราดี มันไม่ได้ดีกับคนอื่น มันก็ดีกับตัวเราเองทั้งนั้น

ยิ้มน้อยๆในใจให้ได้ทุกวัน กับทุกเรื่อง พยายามนะคะ สู้ๆค่ะ
พี่เอาใจช่วย แล้วต่อไปหากมีอะไร ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องงานและเรื่องความไม่สบายใจ
แล้วอยากมีคนรับฟัง ก็แวะมาเข้ามาที่นี่นะคะ
พี่ๆ เพื่อนๆ หลายคนที่นี่อาจช่วยหาทางแก้ไขปัญหาให้ได้ค่ะ



ขออนุโมทนาสาธุในเมตตาจิตที่ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ยิ่งนะคะ
และขอร่วมเป็นกำลังใจให้น้อง Ju Ju ค่ะ...


ออฟไลน์ ดอกโศก

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 862
  • พลังกัลยาณมิตร 595
    • rklinnamhom
    • ดูรายละเอียด

สวัสดีค่ะ

พี่มาให้กำลังใจค่ะ ไม่มีหลักธรรมคำสอนใดๆเพราะไม่แม่นยำในหลักธรรมขอใดเลย
สิ่งเดียวที่ยึดถือในใจก็คือ คิดดี พูดดี ทำดี ค่ะ 

ตอนที่พี่เรียนจบกลับมาทำงานใหม่ๆ ก็รู้สึกไม่ต่างจากที่น้องรู้สึกค่ะ
โลกในรั้วสถาบันที่เราเรียนมา เรามีเพื่อนเกื้อกูล ช่วยเหลือกัน
เราก็จะรู้สึกสนุกและมีความสุขกับทุกการงานที่นั่น
แต่ในโลกของการทำงานจริง เราต้องเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือและดูแลตัวเองค่ะ
ไม่มีเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องมาคอยช่วยเหลืออีกแล้ว

เพื่อนๆที่ทำงานก็คือคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เราต้องเข้าใจกันและกันค่ะ
เขาไม่เคยรู้จักเราจะให้เขามาเอ็นดูเอื้ออาทรเราก็คงจะไม่ได้เราก็ต้องค่อยเรียนรู้กันไปค่ะ

ส่วนงานที่ทำผิดพลาดไปแล้วก็ถือว่าเป็นครูค่ะ คนที่ไม่เคยทำผิดก็คือคนที่ไม่ทำอะไรเลยจริงไหมคะ
แต่อย่าทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีกเพราะนั่นมันหมายถึงเราไม่เคยเรียนรู้จากความผิดพลาดเลย
คิดเสียว่าที่เจ้านายเรียกมาพูดคุย ตักเตือน ก็ให้คิดว่านั้นเขากำลังบอกทางให้เราอยู่
เป็นคำแนะนำที่จะช่วยให้เราเห็นทางที่จะปรับตัว เปลี่ยนตัวเองไงค่ะ

พี่คิดว่าการทำงานที่พิดพลาดของน้องน่าจะมาจาก "ใจ"
เพราะใจที่ห่อเหี่ยว ไม่มีกำลัง ก็ทำให้เราไม่มีใจกับงานไงคะ
ลองเริ่มต้นดูใหม่ค่ะ เริ่มวันใหม่ด้วยใจดีๆนะคะอาจจะคิดว่ามันทำยากแต่มันทำได้ค่ะ
ถ้าใจเราดี มันไม่ได้ดีกับคนอื่น มันก็ดีกับตัวเราเองทั้งนั้น

ยิ้มน้อยๆในใจให้ได้ทุกวัน กับทุกเรื่อง พยายามนะคะ สู้ๆค่ะ
พี่เอาใจช่วย แล้วต่อไปหากมีอะไร ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องงานและเรื่องความไม่สบายใจ
แล้วอยากมีคนรับฟัง ก็แวะมาเข้ามาที่นี่นะคะ
พี่ๆ เพื่อนๆ หลายคนที่นี่อาจช่วยหาทางแก้ไขปัญหาให้ได้ค่ะ



ขออนุโมทนาสาธุในเมตตาจิตที่ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ยิ่งนะคะ
และขอร่วมเป็นกำลังใจให้น้อง Ju Ju ค่ะ...

 :13: :43: :13:

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

*** พี่ช่วยหาหลักธรรมให้ผมหน่อยครับ
น้อง Ju Ju ลองอ่านพระสูตรนี้นะคะ...

สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ นิคมของชาวโกฬิยะ ชื่อว่ากักกรปัตตะ
ในครั้งนั้น มีชายคนหนึ่งชื่อทีฆชาณุ หรืออีกนามหนึ่งว่าพยัคฆปัชชะ
ได้เข้าไปเฝ้า แล้วกราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์เจ้าผู้เจริญ ข้าพระองค์เป็นคฤหัสถ์ ยังบริโภคกาม อยู่ครองเรือน…
ยังยินดี
ทองและเงินอยู่


ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงแสดงธรรม ที่เหมาะแก่ข้าพระองค์ อันจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์
เพื่อความสุขในปัจจุบัน   เพื่อประโยชน์และความสุขในภายหน้าเถิด พระเจ้าข้า”

พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า
“พยัคฆปัชชะ ! ธรรม ๔ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ และเพื่อความสุขในปัจจุบัน
แก่กุลบุตร คือ
๑. อุฏฐานสัมปทา ๒. อารักขสัมปทา ๓. กัลยาณมิตตตา ๔. สมชีวิตา…”

(ทีฆชาณุสูตร ๒๓/๒๕๖)


ลายแทง ๔ ข้อนี้ จัดว่าเป็น “หัวใจเศรษฐี” ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานแก่ทีฆชาณุ
ที่เราเอามาย่อว่า อุ อา กะ สะ มีคำอธิบายโดยย่อ ดังนี้

อ่านต่อตามลิ้งค์นะคะ... 
http://www.tairomdham.net/index.php/topic,5312.0.html

อนุโมทนาสาธุกับน้องที่มีใจกตัญญูต่อคุณพ่อ คุณแม่น่ะค่ะ เชื่อว่า
พอปรับตัวให้คุ้นกับหน้าที่ที่ทำอยู่ โดยใช้ความอดทน ศึกษางาน
อย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ทัอต่ออุปสรรคใดๆ คุ้นชินแล้วข้อผิดพลาดก็
จะน้อยลงจนถึงหมดไปได้ในไม่ช้า สู้ๆค่ะ ดีกว่าไปเริ่มเรียนรู้งานใหม่
ซึ่งความไม่คุ้นชินก็ต้อง เริ่มนับหนึ่งใหม่อยู่ดี...

ออฟไลน์ lek

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1724
  • พลังกัลยาณมิตร 687
    • ดูรายละเอียด
1. P-Positive Thinking คือ การมีทัศนคติที่เป็นบวก มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ไม่คิดใน ทางลบ เช่น หากเจอปัญหาในการทำงาน แทนที่จะมานั่งกลุ้มใจคิดว่าคราวนี้ต้องแย่แน่ๆ ก็ให้มองว่า นี่เป็นหนทางหนึ่งที่จะฝึกฝนให้เราเก่งกล้ามากยิ่งขึ้น



          2. P-Peaceful Mind คือ การมีจิตใจที่สงบ เคยได้ยินคำพูดที่ว่า “จงใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว” หรือเปล่า คำพูดนี้ใช้ได้ผลดีทีเดียว เวลาเกิดปัญหาขึ้น เราอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปกับปัญหานั้น การที่เรามีจิตใจที่สงบ มีสมาธิ จะทำให้เราเกิดปัญญาในการคิดหาวิธีแก้ปัญหา นอกจากนี้ ยังทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย



          3. P-Patient คือ การมีความอดทน คาถาข้อนี้ก็สอดคล้องกับข้อที่แล้ว เพราะการที่เราจะมีจิตใจที่สงบได้ เราต้องรู้จักอดทนอดกลั้น ระงับอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่ดีต่างๆ หากสิ่งใดไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ เราก็ต้องอดทนรอคอยให้ถึงช่วงเวลาของเรา นอกจากนี้ยังต้องอดทนต่อปัญหาและความยากลำบากในการทำงานด้วย



          4. P-Punctual คือ การเป็นคนตรงต่อเวลา มนุษย์เราได้ถูกปลูกฝังให้เป็นคนมีวินัย รู้จักตรงต่อเวลามาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เช่น การไม่มาโรงเรียนสาย การส่งการบ้านให้ตรงเวลา ในการทำงานก็เช่นกัน หากเรามาทำงานสาย เจ้านายหรือหัวหน้าก็คงไม่ชอบแน่ๆ แล้วยิ่งถ้าเราผิดนัดลูกค้า ผลเสียคงตามมาอีกเป็นกระบุง เพราะแม้แต่เวลายังรักษาไม่ได้ แล้วคุณจะได้รับความไว้วางใจให้ทำงานใดๆ อีก
          5. P-Polite คือ การเป็นคนสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน การเป็นคนสุภาพนอบน้อมจะทำให้มีแต่คนรักใคร่ และอยากช่วยเหลือ ยิ่งถ้าเรามีตำแหน่งใหญ่โตด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีความสุภาพอ่อนน้อม เพราะจะทำให้ผู้อื่นยิ่งเกรงใจเรามากขึ้น ตรงกันข้าม การทำตัวกระด้างกระเดื่องหยิ่งยโส ย่อมเป็นที่รังเกียจของสังคม และไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย
          6. P-Professional คือ ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน การที่เรามีหน้าที่อะไร เราก็ควรทำตัวให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในหน้าที่นั้นๆ หมั่นแสวงหาความรู้ใหม่ๆ และหมั่นฝึกปรือฝีมือในการทำงานอยู่เสมอ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด การทำงานอย่างมืออาชีพ จะเป็นที่ชื่นชมและไว้วางใจของเจ้านาย รวมไปถึงลูกค้าที่ย่อมจะพอใจ และไว้วางใจให้เราทำงาน ดูแลงานของเขาต่อไป

ขอบพระคุณที่มาจากhttp://www.vcharkarn.com/varticle/39081