อริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมอันดี > มาลาบูชาครู

ความสุขที่ไม่ควรสูญเสีย (พระอาจารย์อํานาจ โอภาโส)

<< < (3/3)

ฐิตา:





"พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า..."

...พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าธรรมะของพระพุทธศาสนานั้น
สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน
หากธรรมะในพระพุทธศาสนานั้นไม่มีคุณค่าแล้ว
การครองชีวิตอันประเสริฐในปัจจุบันก็มีไม่ได้
เหตุเพราะเป็นเหตุปัจจัยเป็นองค์ประกอบของโครงสร้าง
เมื่อเราสร้างเหตุใหม่ เราก็สามารถที่จะรับผลใหม่ในทันที…

... ดังเช่นตัวอย่างในพุทธกาลที่มีมากมายไม่ว่าเรื่องราวขององคุลีมาล
ซึ่งทำร้ายผู้คนมามากมายก็แล้วแต่ แต่เมื่อสร้างเหตุใหม่
ก็สามารถที่จะได้รับผลใหม่ กรรมนั้นคือเจตนาเป็นที่ตั้งของเวทนา
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เรากล่าวว่า เจตนานั่นแหละคือกรรม...

... พุทธพจน์ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเราสามารถสร้างกรรมใหม่
ได้ด้วยการตั้งเจตนาที่ดี คิดดี ดำริดี เราก็จะเสวยเวทนา
คือ ความรู้สึกหรืออารมณ์ในทางที่ดี
กรรมใหม่ในปัจจุบันขณะจึงมีผลมาก
ปัจจุบันขณะเป็นเวลาอันประเสริฐสุดที่เราสามารถจะทำสิ่งใดก็ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำต่อจิตใจกับตัวเรา
ไม่ว่าเหตุการณ์เบื้องหน้าจะเป็นอย่างไร
แต่หากเราสามารถที่จะกระทำจิตใจเราให้มีความสงบระงับ
ปราณีตด้วยปัญญาแล้ว เราก็จะไม่ทำร้ายจิตใจตัวเอง
ไม่ก่อโทษให้กับจิตใจตนเอง
ด้วยการคิดที่เป็นอกุศลทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าเรา ...

... เราสามารถใช้โอกาสนั้นในการเรียนรู้
และสร้างกุศลให้เกิดขึ้นในจิตใจได้
อย่างทำให้หัวใจของเราเปรอะเปื้อนไปด้วยเปลวไฟ
หรือกลีบดอกไม้แห่งความลุ่มหลง
เมื่อเราสิ้นความเริงใจก็สิ้นการย้อมติด

เมื่อสิ้นการย้อมติดก็สิ้นการเริงใจ
เพราะเราเพลินไปในราคานุสัยก็ดี ในปฏิฆานุสัยก็ดี
จึงเกิดการย้อมติดขึ้นมาในหัวใจ
ความระเริงไปตามอำนาจแห่งการย้อมติดนั้น
ทำให้เกิดการปรุงแต่งไปในทิศทางที่จิตใจ
ถูกย้อมเอาไว้ขาดอิสรภาพ ขาดความบริสุทธิ์...

(พระครูใบฎีกา อำนาจ โอภาโส,
พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว, หนังสือคำตอบของชีวิต ปฏิจจสมุปบาท)




:http://nitipatth.blogspot.com/2010/03/blog-post_26.html
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ

ฐิตา:





ทุกอย่างมีอาหาร มีเหตุปัจจัยหมด

การเสวนากับสัตบุรุษเป็นอาหารการฟังธรรม
ฟังธรรม เป็นอาหารให้กับ ศรัทธา เชื่ออย่างมีเหตุผล
ศรัทธาเป็นอาหารให้กับโยนิโสมนสิการ ทำให้รู้จักแยกแยะในใจ
โยนิโสมนสิการเป็นอาหารให้กับสติสัมปะชัญญะ เกิดสติ ระลึกรู้ตัว
สติสัมปะชัญญะเป็นอาหารให้กับอินทรีย์สังวรงอกงามขึ้นมา
ไม่ประมาท ตากระทบรูป หูกระทบเสียง
อินทรีย์สังวร เป็นอาหารให้กับศีล ไม่ก่อความผิดทางกาย วาจา ใจ
มีศีล ทำให้เกิดสัมมาสมาธิงอกงาม ตั้งมั่น
ศีลทำให้เกิดปัญญาเห็นเห็นความเป็นจริงของสรรพสิ่ง
ทุกอย่างเป็นกระบวนการอาหาร
เราทำปลายทางไม่ได้ เราจึงทำต้นทางให้ดี

: พระอาจารย์อํานาจ โอภาโส
-http://www.facebook.com/goiPapawi



ฐิตา:






ปรากฏการณ์ต่างๆ ไม่ได้เป็น..
..ต้นเหตุแห่งทุกข์
ความหลงผิด อยากให้..
ปรากฏการณ์ต่างๆ เป็นดั่งใจ ต่างหาก
ที่เป็น  เหตุ  แห่งทุกข์





พระอาจารย์อํานาจ โอภาโส


ฐิตา:

http://youtu.be/VpxGA-YDluk

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version