ผู้เขียน หัวข้อ: วันนี้บ้านของคุณปลอดภัยจากหัวขโมยแล้วหรือยัง  (อ่าน 1761 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
วันนี้บ้านของคุณปลอดภัยจากหัวขโมยแล้วหรือยัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
1 กุมภาพันธ์ 2555 17:43 น.

-http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000014201-

ในยุคข้าวยากหมากแพง แถมมีการเปิดบ่อนการพนันและแหล่งอบายมุขอยู่ทั่วทุกหย่อมหญ้า ไม่แปลกที่จะทำให้คนในประเทศไทยเราสิ้นคิดหันไปเป็นโจรกันมากขึ้น บางทีอาจถึงเวลาที่จะต้องปรับบ้านเสียใหม่ให้พร้อมรับมือกับคนสิ้นคิดเหล่า นั้นกันแล้วก็เป็นได้ วันนี้ ทีมงาน Life & Family จึงมีแนวทางดี ๆ ที่จะช่วยให้บ้านปลอดภัยและหัวขโมยไม่อยากเข้าใกล้มาฝากกัน จะเป็นอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ

1. ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย

"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ไม่น่าแปลกหากเราจะขอยกเรื่องการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยให้กับบ้านมา ไว้เป็นข้อแรก เพราะหากบ้านของท่านผู้อ่านอยู่ในจุดเสี่ยง การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด สัญญาณเตือนภัย ฯลฯ เอาไว้ก็สามารถช่วยป้องกันชีวิต และทรัพย์สินจากหัวขโมยได้ เพราะเหล่าตีนแมวหากต้องเจอกับเสียงเตือนภัยที่ดังลั่นบ้านลั่นซอย พวกเขาก็ถอยเหมือนกัน

2. ดูแล-ซ่อมแซมบ้านให้เรียบร้อย

สำหรับท่านที่ปลูกบ้านไม้ หากไม้บางชิ้นผุ กรอบหน้าต่างพัง เหล่านี้อาจเป็นช่องทางให้หัวขโมยลอบเข้าต้วบ้้านได้ ดังนั้นควรเปลี่ยนหรือซ่อมให้เรียบร้อย รวมถึงติดตั้งกลอน กุญแจ ให้แน่นหนา

3. เปิดไฟให้ทางเข้าบ้านสว่าง

การเปิดไฟให้บริเวณทางเข้าบ้านสว่างเป็นประโยชน์กับตัวเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะในเวลาที่คุณไม่อยู่ หรือมีเหตุต้องกลับบ้านดึก อย่างไรก็ดี การเลือกหลอดไฟ หากใช้วัตต์ต่ำจะดีกว่าการหลอดไฟที่วัตต์สูง เพราะในเวลากลางคืน หากเปิดไฟที่วัตต์สูง ๆ ให้แสงสว่างมาก ๆ ทิ้งไว้จะทำให้เกิดจุดบอดที่โจรสามารถใช้ซ่อนตัวได้

4. ดูแลพื้นที่รอบตัวบ้านให้ดี

หากมีสนามหญ้าหน้าบ้านควรตัดเล็มบ่อย ๆ หรือหากปลูกต้นไม้เอาไว้ ควรดูแลตัดแต่งกิ่งไม่ให้รกรุงรัง เพราะความรกรุงรังนี้เองจะเป็นที่ซ่อนตัวให้กับหัวขโมยได้ แต่เจ้าของบ้านก็ไม่ควรมองพื้นที่รอบบ้านเป็นจุดอ่อน เพราะข้อดีของการมีสนามหญ้าก็คือ คุณสามารถปลูกต้นไม้ที่มีหนามแหลมคมเอาไว้บริเวณหน้าต่าง หรือจุดที่สามารถปีนเข้าบ้านได้ในชั้น 1 เพราะมันจะเป็นตัวสร้างความยุ่งยากชั้นดี เวลามีใครคิดย่องเบาเข้าบ้านคุณ

สำหรับใครที่มีโรงรถ ห้องเก็บของอยู่นอกบ้าน ก่อนเข้านอนในตอนกลางคืน ควรปิดล็อกให้เรียบร้อย เพราะหัวขโมยอาจหยิบเอาบันไดที่คุณเก็บไว้ในห้องเก็บของปีนขึ้นสู่ตัวบ้าน ได้

5. เก็บทรัพย์สินอย่างชาญฉลาด

คนที่เป็นโจรมืออาชีพมักจะทราบว่าเจ้าของบ้านซ่อนของมีค่าไว้ที่จุด ใดบ้าง เช่น หัวเตียงในห้องนอน เราจึงไม่ควรนำของมีค่าไปซ่อนในจุดนั้น ที่สำคัญ เวลาซื้อข้าวของเครื่องใช้ใหม่มา ก็ไม่ควรวางกล่องสินค้าเอาไว้หน้าบ้าน หรือทิ้งไว้ที่ถังขยะหน้าบ้านที่คนเดินผ่านไปผ่านมาสามารถมองเห็นได้ เพราะนั่นอาจเป็นเครื่องชี้บอกให้ทราบว่า มีอะไรอยู่ในบ้านคุณบ้าง

นอกจากนั้น การวางของมีค่าไว้บริเวณหน้าต่างก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ เพราะหากมีใครมาด้อม ๆ มอง ๆ หน้าบ้าน เขาก็อาจเห็นของมีค่าเหล่านั้น และนำไปสู่การวางแผนย่องเบาเข้าบ้านคุณก็ได้

6. รักษาข้อมูลส่วนบุคคล

โจรวันนี้จะขึ้นบ้านทั้งที เขาไม่มองแต่อัญมนี ทองหยอง หรือว่าทรัพย์สินมีค่าแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางการเงินก็เป็นสิ่งที่มีมูลค่าสำหรับโจรเช่นกัน ดังนั้น พยายามตั้งพาสเวิร์ด หรือหาทางจำกัดจำนวนผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ให้ได้ ความเสี่ยงที่จะถูกขโมยข้อมูลก็จะน้อยลง

7. ทำบ้านให้เหมือนมีคนอยู่

การมีแสงไฟ เสียงทีวี หรือเสียงวิทยุดังออกมาจากบ้าน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่า บ้านนั้นมีคนอยู่ และคนที่เป็นโจรมักไม่อยากย่องเข้าไป แต่หากคุณมีเหตุต้องออกจากบ้านไป ลองตั้งเวลาเปิดปิดทีวี-วิทยุเอาไว้ก็ได้เช่นกัน หรือติดเซนเซอร์ตรวจจับแสง เมื่อค่ำลง พระอาทิตย์ตก หลอดไฟก็จะเปิดได้เองโดยอัตโนมัติ เป็นต้น

8. ทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน

ในยุคทุนนิยมครองเมือง ต่างคนต่างทำงาน ไม่มีใครเสียเวลามาทำความรู้จักกัน นั่นยิ่งทำให้เหล่านักย่องเบาได้ใจ แต่หากคุณมีเพื่อนบ้านที่ดี คนเหล่านี้จะเป็นอีกด่านหนึ่งของการป้องกันโจรร้าย โดยเฉพาะเวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน ก็ยังมั่นใจได้ว่า บ้านข้าง ๆ ยังช่วยเป็นหูเป็นตาแทนคุณได้นั่นเอง

9. ทำรายการข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน

ในกรณีที่มีขโมยขึ้นบ้าน หากคุณมีการจดว่าคุณมีสมบัติใดอยู่บ้าง จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบริษัทประกันภัยในการติดตามหาตัวคนร้าย และทรัพย์สินที่หายไป รวมถึงการชดเชยค่าเสียหายให้คุณและครอบครัวได้ แต่ถ้าไม่อยากเสียเวลาจด ก็มีวิธีที่ง่ายกว่า เช่น ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายรูปทรัพย์สินมีค่าของคุณเอาไว้ และไรท์ลงซีดี หรือส่งเข้าอีเมล (ไม่ควรอัดเป็นภาพ เพราะหากโจรเจอแฟ้มภาพ ก็จะยิ่งเสียหายหนักยิ่งขึ้น)

10. มองบ้านด้วยมุมมองของโจร

หลังจากทำทั้ง 9 ข้อมาแล้ว ลองเปลี่ยนมุมมาเป็นโจรดูบ้าง ด้วยการเดินสำรวจรอบบ้าน และถามตัวเองว่า หากเราเป็นโจร เราจะลอบเข้าไปในบ้านหลังนี้ได้อย่างไร ที่สำคัญ อย่าเดินคนเดียว ควรมีเพื่อน หรือเพื่อนบ้านมาเดินด้วย เพราะเขาอาจมองเห็นในรายละเอียดที่คุณมองข้ามไป

การทำให้บ้านของคุณยากที่จะเข้าถึง และยากที่จะหนีกลับไปให้ได้ นั่นก็อาจทำให้เหล่านักย่องเบาสิ้นคิดมองข้ามบ้านของคุณแล้วค่ะ

เรียบเรียงบางส่วนจาก quizzle.com


.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ กระตุกหางแมว

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 943
  • พลังกัลยาณมิตร 545
    • ดูรายละเอียด
หมู่บ้านผมนี่ก็สุ่มเสี่ยงอยู่เหมือนกันครับ
ตอนบ้านไม่มีคนอยู่ก็โดน..เลยต้องมาเฝ้า
ขอบคุณครับพี่หนุ่ม  :45:
อัน1เพ ของดี มีตำหนิ แต่พอใจ
-อยากอยู่อย่างเพียงพอ แต่ใจไม่ยอมพอเพียง-

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ต้องระมัดระวังให้มากๆ

เพราะว่า  ไอ้คนพวกนี้  มันใช้เวลาไม่นานในการงัดแงะ

พี่ใช้วิธีผูกมิตรกับข้างบ้าน  เวลาไปไหน  มักจะซื้อของฝากมาฝาก  ทั้งด้านหน้า  ด้านข้าง(ขวา) ด้านหลัง  และ ด้านหลัง(ซ้าย) 

ส่วนข้างซ้าย  ไม่ค่อยถูกชะตากัน (ตั้งแต่เจ้าของบ้านคนเก่า  จนถึงพี่  ประเภทไม่สนใจใคร)

ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันครับ

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ eikQsung

  • เกล็ดเมล็ด
  • *
  • กระทู้: 3
  • พลังกัลยาณมิตร 1
    • ดูรายละเอียด
พุทธ ธรรม สงฆ์ รัตนธรรมแห่งจิต แม้ชีวิตนี้จะ ไม่ค่อยได้ใกล้ธรรม แต่หัวใจจะน้อมศรัทธาในความดี จะพยายามรักษาศีล 5 ให้ดีที่สุด ธรรมะจริยาในจิต สักวันจะรับความดีไว้เต็มใจ