ผู้เขียน หัวข้อ: “ศิษย์หลวงตามหาบัว” ยื่นหนังสือต้าน กสทช.กำหนดสเปก วิทยุชุมชน”  (อ่าน 6507 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


๑) ธรรมค้ำจุนโลก   
...เสียงธรรมเป็นเสียงที่ประเสริฐเลิศโลก เพราะทำคนให้พ้นจากทุกข์ได้ ยิ่งเสียงธรรมดังกัมปนาทกึกก้องไปไกลเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คนฟังได้รับประโยชน์อย่างมากมาย ผิดกับเสียงกิเลสที่มีแต่ทำคนให้ไปตกนรกหมกไหม้
(   หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

๒) ปกป้องเสียงธรรม..เสียงของพ่อแม่ครูอาจารย์กรรมฐาน
...คณะสงฆ์และประชาชน ศิษย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน รวมตัวกันคัดค้านร่างประกาศ “หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง” ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
แถลงการณ์จากคณะศิษย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วันที่ ๒๒ ส.ค ๒๕๕๕

๓) ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
....การต้องคัดค้านร่างประกาศของ กสทช. ฉบับนี้ เนื่องจากความไม่เป็นธรรมและไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ที่ส่อว่าจะขัดต่อเจตนารมณ์ของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐

๔) หลักเกณฑ์ที่ กสทช. ร่างประกาศฉบับนี้
...จะทำให้เครือข่ายวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน ฯ ซึ่งกระจายเสียงธรรมะ ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ต้องลดกำลังส่ง และลดความสูงของเสาลง ทำให้ผู้ที่เคยได้รับฟังส่วนใหญ่จะไม่สามารถรับฟังได้อีกต่อไป...

๕) กลายเป็นแค่หอกระจายข่าว
...กสทช.จะบังคับให้สถานีวิทยุชุมชนลดกำลังส่งจาก 10,000 วัตต์ ให้ลดลงเหลือเพียง 100 วัตต์ และลดความสูงของเสาส่งจาก 120 เมตร ให้เหลือเพียง 40 เมตร ซึ่งจะส่งผลให้การออกอากาศเป็นแค่หอกระจายข่าวของหมู่บ้านเท่านั้น...

๖) ไม่มีความเป็นธรรมในการจัดสรรคลื่นความถี่
... ด้วยร่างประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงโดยเฉพาะประเด็นมาตรฐานทางเทคนิค เป็นสิ่งปรากฏชัดแจ้งถึงแนวคิดในการจัดสรรคลื่นความถี่และการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ชุดปัจจุบันว่า ไม่มีความเป็นธรรมในการจัดสรรคลื่นความถี่ ขัดแย้งต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐ ส่งผลเสียหายต่อสถานีวิทยุเพื่อสังคมทั้งหลายที่ทุ่มเททำประโยชน์สาธารณะโดยไม่แสวงกำไรในทางธุรกิจ...

๗) รับฟังได้แต่ไม่ชัดเจน
...โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีวิทยุเพื่อสาธารณะด้านพุทธศาสนา เป็นความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงทางศาสนาซึ่งเป็นสถาบันหลักหนึ่งของประเทศ เพราะทำให้ขอบเขตการกระจายเสียงของสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนและสถานีอื่นที่ทำหน้าที่เช่นเดียวกันนี้ลดลง เป็นผลให้พระป่าสายปฏิบัติรับฟังหลักธรรมคำสอนจากสถานีวิทยุเหล่านี้ไม่ได้หรือรับฟังได้แต่ไม่ชัดเจน

๘) หวังยึดเอาธรรมะเป็นที่พึ่ง
....พุทธศาสนิกชนจำนวนมหาศาลที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนชรา คนเจ็บไข้ ฯลฯ ที่ไม่สามารถไปวัดฟังธรรมได้ต้องสูญเสียโอกาสในการรับฟังธรรมะซึ่งอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของชีวิตแล้วก็เป็นได้ แม้กระนั้นการฟังธรรมะการยึดธรรมะจากหลักธรรมคำสอนเป็นที่พึ่งเพื่อถือปฏิบัติ และเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ดี...

๙) ยกระดับจิตใจ
...เสียงธรรมะ ย่อมเป็นการยกระดับจิตใจ เป็นการเสริมสร้างพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศ ดังจะเห็นจากปรัชญาในการพัฒนาประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ที่ต่างมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพทั้งร่างกายและจิตใจของคนในประเทศทั้งสิ้น...


๑๐ ) ไม่เป็นการปฏิรูปสื่อ
...ร่างประกาศ กสทช. ฉบับนี้ ทำให้วงการศาสนาทุกศาสนาเดือดร้อนได้ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะธรรมยุติ มหานิกาย คริสต์ อิสลาม ร่าง ก.ม. นี้คลื่นวิทยุชุมชนอื่นๆ เช่น วิทยุบริการสาธารณะ เพื่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ผู้พิการ ก็ได้รับผลกระทบด้านลบเช่นเดียวกัน ร่าง กสทช.ฉบับนี้จึงส่อว่าขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปสื่อ เพราะการปฏิรูปสื่อ คือ ต้องให้ประชาชนได้ถือครองและจัดรายการซึ่งเนื้อหาที่เป็นคุณและสาธารณประโยชน์อย่างแท้จริง...
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


๑๑) ทำลายความมั่นคงของสถาบันพุทธศาสนา
...แนวคิดของ กสทช. ที่ลดเสาสัญญาณและกำลังส่งของสถานีเช่นนี้ ทำให้พื้นที่กระจายเสียงของสถานีวิทยุที่ดีเนื้อหามีคุณภาพอย่างนี้ ต้องถดถอยลงไปอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันพุทธศาสนา ซึ่งเป็นสถาบันศาสนาหลักของชาติแล้ว ยังบั่นทอนทรัพยากรมนุษย์ที่ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาประเทศให้เสื่อมสิ้นลงไป ซึ่งมิอาจตีค่าความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงจากแนวคิดของ กสทช. ในครั้งนี้ให้เป็นตัวเงินได้ ...

๑๒ ) สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน
...เป็นสถานีวิทยุที่ทำประโยชน์ให้กับโลกอย่างมากมาย ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีโฆษณาหารายได้แม้แต่วินาทีเดียว ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของชาวพุทธที่มีใจเสียสละ อยากให้คนไทยได้รับฟังเสียงธรรมอันล้ำเลิศ เพื่อปลดเปลื้องตนออกจากทุกข์ได้...

๑๓) ทองคำ ๑๓ ตัน-ค้ำจุนเศรษฐกิจของชาติ
...จากพระธรรมเทศนาขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ออกอากาศทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนนี้เอง ที่ทำให้ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ร่วมแรงกายแรงใจเสียสละประโยชน์ส่วนตนมาช่วยชาติ ด้วยการนำทองคำที่สะสมมาทั้งส่วนตัวและของบรรพบุรุษ กราบถวายองค์หลวงตา เพื่อให้ไปสว่างไสวอยู่ในท้องพระคลัง ค้ำจุนเศรษฐกิจของชาติไปชั่วลูกชั่วหลาน....

๑๔) ทองคำเข้าสู่คลัง-ธรรมเข้าสู่ใจ
...การช่วยชาติครั้งนี้ พระหลวงตาเทศน์ไว้ว่า นอกจากจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของชาติแล้ว การเทศนาว่าการของท่านในแต่ละแห่ง ได้ถูกนำมาถ่ายทอดทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนไปทั่วประเทศ ทำให้ผู้ฟังได้รับข้ออรรถธรรม นำเข้าสู่จิตใจ จะได้รู้เนื้อรู้ตัว จิตใจเกิดความสงบร่มเย็น เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน บ้านเมืองจะร่มเย็นเป็นสุขได้ด้วยธรรมเข้าสู่ใจ...

๑๕) หลวงตาอุ้มชาติ ศาสน์ กษัตริย์ - กสทช.สกัดวิทยุหลวงตา
...จริงๆแล้ว กสทช. ควรส่งเสริมสถานีฯเนื่องจากเนื้อหาการออกอากาศของสถานีเสียงธรรมเพื่อประชาชนเป็นกุศลธรรมยกระดับจิตล้วนๆ ซึ่งสถานีเกิดจากแรงศรัทธาของสาธุชนล้วนๆไม่ได้หารายได้กำไรผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น กสทช.ควรจะส่งเสริมให้มากๆ จึงจะเป็นการดีการชอบ ไม่ใช่มาข่มเหงรังแกให้ลดกำลังส่งลง...

๑๖) ยื่นหนังสือคัดค้าน กสทช.
...เครือข่ายเสียงธรรมเพื่อประชาชน-ประชาชน 151,767 คน ขอลงนามคัดค้าน ตามชื่อ-หมายเลขประจำตัวประชาชน และลายมือชื่อ ไม่ยอมรับร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการกระจายเสียง เนื่องจากเป็นมหาภัยร้ายแรงต่อการรับฟังและปฏิบัติธรรมของประชาชนทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น...

๑๗) ปฏิญาณตน
...เฉพาะพระพักตร์พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระรูป พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระบิดาแห่งกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย และเบื้องหน้าพระสงฆ์เถรานุเถระทั้งหลาย อันประชุมอยู่ ณ ที่นี้...

๑๘) ขอพึ่งพระบารมี
...ข้าพเจ้าทั้งหลาย เดินทางมาจากสารทิศ ประชุมรวมกันในที่นี้ ขอถวายสักการะ และขอพึ่งพระบารมีจากสองพระองค์
ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ และพระราชโอรส ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณ ในการพัฒนาการสื่อสาร รวมถึงวิทยุกระจายเสียงในประเทศไทย ด้วยมุ่งหวังประโยชน์สุข แห่งพสกนิกรในสยามประเทศ...

๑๙) เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
.... ในปัจจุบันสมัย รัฐธรรมนูญบัญญัติให้ กสทช.จัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนในด้านต่าง ๆ
กฎหมายยังกำหนด ให้มีวิทยุ ๓ ประเภทเพื่อเอื้อต่อการจัดการ ให้สามารถปฏิรูปสื่อที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง ได้แก่
๑ วิทยุที่มุ่งโฆษณาหากำไร หรือวิทยุบริการธุรกิจ ส่วน ๒ และ ๓ เป็นวิทยุที่ไม่แสวงหากำไร ได้แก่ วิทยุบริการสาธารณะ และ วิทยุบริการชุมชน


๒๐) กสทช. ไม่เป็นธรรม
...แต่ กสทช.กลับไม่ใช้ความเป็นธรรม ดึงดันจะลดเสาลดกำลังส่ง แก่บรรดาวิทยุรายใหม่ แต่เอื้อประโยชน์แบบไร้ขอบเขต แก่วิทยุรายเก่า ให้ผูกขาดอำนาจรัฐไว้กับกลุ่มทุน เห็นแก่คนบางกลุ่มยิ่งกว่าชาติกว่าประชาชน
จนส่งผลกระทบร้ายแรง ต่อวิทยุทั้งหลายที่ดี ที่ไม่มีโฆษณา ได้กระจายเสียงสาระความรู้ เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน...

ภาพ เหตุการณ์ทั้งหมด https://www.facebook.com/media/set/?set=a.325882337507238.73443.272363436192462&type=3

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.441460399232169.102828.100001046379172&type=1
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


3G - จอดำ - ปิดกั้นคลื่นธรรมะ ตอกย้ำ “กสทช.” ไร้น้ำยา

กสทช. หรือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ องค์กรที่เพิ่งดำเนินงานมาได้แค่ไม่กี่ปี แต่จากผลงานที่ผ่านมา หลายๆกรณีก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงควาไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ตั้งแต่ครั้ง 3G ที่ยืดเยื้อ กรณีจอดำการแข่งขันบอลยูโร จนมาถึงล่าสุดกับกรณีลดกำลังส่งของวิทยุชุมชนให้เหลือเพียง 100 วัตต์ เลยทำให้เกิดคำถามว่า ตกลงแล้วกสทช.มีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ให้ใครกันแน่ ผู้บริโภค หรือ นายทุน ??
       
       คลื่นวิทยุชุมชน ตกลงใครเป็นเจ้าของ
       
        ประเด็นล่าสุดที่ทำให้กลุ่มประชาชนคลางแคลงใจต่อการทำงานของกสทช. คือเรื่องของร่างประกาศหลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการกระจายเสียงที่จะส่งผลให้คลื่นเล็กๆ อย่างวิทยุชุมชนถูกกลืนหายไปเพราะแรงกระทบจากสัญญาณคลื่นวิทยุหลักบดบังนั่นเอง หลังจากที่ กสทช. ได้กำหนดลดสเปกให้กำลังส่งของวิทยุกระจายเสียง สำหรับกิจการบริการสาธารณะ กิจการบริการชุมชน และกิจการทางธุรกิจ เหลือน้อยลงเพียง 100 วัตต์ จึงทำให้เมื่อวาน (22 ส.ค.) กลุ่มพระสงฆ์นับร้อยรูป กับผู้ชุมนุมอีกจำนวนหนึ่งได้มารวมตัวกันที่หน้าที่สำนักงานกสทช. เพื่อยื่นหนังสือเรื่องรายชื่อประชาชนที่ไม่ยอมรับ เพราะไม่เป็นธรรมเมื่อเทียบกับคลื่นหลัก และกังขาว่าเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนหรือไม่
       
        ในส่วนของการชุมนุมครั้งนี้ ผู้นำคือ พระครูอรรถกิจนันทคุณ วัดป่าคอยสืบงา จ.กำแพงเพชร ในนามของกรรมการมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พระครูก็เคยเดินทางมาที่บ้านพระอาทิตย์เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ออกร่างประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ที่พบว่า ได้กำหนดให้กำลังส่งของวิทยุกระจายเสียง สำหรับกิจการบริการสาธารณะ กิจการบริการชุมชน และกิจการทางธุรกิจ ไม่เกิน 100 วัตต์ และความสูงของเสาอากาศ วัดจากระยะพื้นดินที่ตั้งเสาอากาศไม่เกิน 40 เมตร ซึ่งเห็นว่าไม่เป็นธรรม เพราะสัญญาณจะกระจายในวงแคบเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และจะถูกคลื่นวิทยุหลักบดบังสัญญาณ ซึ่งอาจกลายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับวิทยุภาคธุรกิจที่ได้รับสัมปทาน
       
        อีกมุมองหนึ่งจาก นางสาวจุฑารส พรประสิทธิ์ ตัวแทนศูนย์ประสานงานเพื่อการปฏิรูปสื่อกล่าวว่า “กระแสการปฏิรูปสื่อเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของประชาชน ตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภา 35 ซึ่งเราต่อสู้ขึ้นมา ดังนั้น รัฐธรรมนูญจึงเปิดช่องให้คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติ เพื่อประโยชน์ของสาธารณะทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ดังนั้น จึงเกิดวิทยุที่เกิดใหม่ ไม่ใช้วิทยุเถื่อน ไม่อยากให้เรียกวิทยุเถื่อน เพราะว่าเราเกิดมาในภาวะตรงนี้เป็นสมบัติของชาติ เป็นสมบัติของประชาชน ที่ผ่านมาไปผูกขาดอยู่ที่นายทุนกลุ่มๆ หนึ่งมานานแล้ว แล้วภาครัฐก็ไปเอื้อกับกลุ่มนายทุนผูกขาด ในวันนี้ประชาชนส่วนหนึ่งก็พยายามขึ้นมาทำประโยชน์สาธารณะที่อาจอยู่ในบริการของสาธารณะหรือในบริการชุมชนก็ตาม ก็ไม่ได้แสวงหากำไร
       
        เพราะฉะนั้น เพื่อความเท่าเทียมกัน วิทยุหลักซึ่งเป็นผู้ที่จะต้องคืนคลื่นความถี่ให้กับประชาชน จะต้องเอาคืนคลื่นได้แล้ว แต่มีการผ่อนผันให้ถึง 5 ปี ตรงจุดนี้คุณจะต้องคืนแต่ยังไม่ได้คืน เมื่อมีการปฏิบัติต่อเขาต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการเราไม่ว่ากัน แต่พออยู่ในกระบวนการแล้วมากดดันภาคประชาชน แทนที่จะเป็นกลุ่มนายทุนที่ถือครองคลื่นวิทยุมานานแล้ว”
       
        ตอนนี้ก็ยังต้องรอฟังผลกันต่อไปว่ากสทช.จะมีเปลี่ยนแปลงร่างฉบับนี้หรือไม่ ตามความคิดเห็นของกลุ่มเสียงธรรมะกลุ่มเล็กๆที่หวังว่าจะมีช่องทางในการสื่อสารกระแสธรรมเหมือนสถานีเพลงบันเทิงตามคลื่นใหญ่ๆ บ้าง
       
       ขนานนาม “เสือกระดาษ” กรณีจอดำ
       
        เหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ทำให้กสทช. ถูกขนานนามว่า “เสือกระดาษ” (ประเทศ องค์การ หรือผู้ที่ทำท่าทีประหนึ่งมีอำนาจมาก แต่ความจริงไม่มี) กับเหตุปัญหาจอดำ ที่แม้จะยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาช่วยผู้บริโภคให้ได้กลับมาดูการถ่ายทอดสดบอลยูโร แต่พอถึงเวลาก็กลับทำอะไรไม่ได้ ซึ่งก็เป็นกรณีครั้งแรกของประเทศไทยที่ว่าประชาชนต้องซื้อกล่องใหม่ของผู้ได้ลิขสิทธิ์เพื่อจะได้ดูรายการนั้นๆ ซึ่งก็หวั่นใจว่าจบปัญหากล่องเจ้ากรรม GmmZ ไปแล้วในอนาคตอาจจะปวดหัวกับกล่องจากค่ายอื่นๆอีกหรือเปล่า
       
        หลังผ่านมาสดๆร้อนๆ แถมได้คำด่าตลบไล่หลังไปจนปวดหูกับ กล่องเจ้าปัญหา GmmZ ที่ทำให้คอบอลอดดูบอลยูโรไปหลายล้านครัวเรือน โดยต้องทนดูจอดำมืดสนิทอยู่หลายวันจนคนใช้จานแดงต้องยอมกดรีโมตไปดูหลินปิงแทนแก้เซ็ง
       
        ตอนแรกทาง กสทช. ก็กระตือรือร้นเป็นอย่างดีที่จะเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยให้ครัวเรือนที่ใช้กล่องอื่นๆที่ไม่ใช่ GmmZ สามารถรับชมถ่ายทอดสดฟุตยอลยูโรผ่านทางช่องฟรีทีวี แต่ผ่านไปหลายนัดก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ จนกระทั่งปิดฤดูกาล ในครั้งนั้น เมื่อหาทางออกไม่ได้ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค จึงออกมากล่าวชี้แนะถึงปัญหากล่องรับสัญญาณว่า
       
        “อนาคตเราอาจซื้อกล่องมาเพียงกล่องเดียว แล้วไปซื้อสัญญาณมาลงกล่อง สามารถรับสถานีได้เป็นร้อยสถานี อาจจะทำอย่างนั้นก็ได้ ซึ่งต้องขอเวลาแก้ไข รวมทั้งการจัดทำร่างประกาศจะทำให้ครอบคลุมการนำเข้ากล่องที่บังคับให้สามารถเข้ารหัสสัญญาณได้ หรือมีช่องให้สามารถเข้ารหัสได้ด้วยการนำการ์ดเสียบ” แต่มันก็เป็นเพียงความคิดในอนาคตที่ออกมาแก้ต่างความผิดในครั้งนั้นนั่นเอง
       
        จากนั้น สุภิญญา ได้กล่าวถึงทิศทางในอนาคตต่อไปว่า กสทช.จะออกหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการนำพาสัญญาณดาวเทียมให้ถูกกฎหมาย และจัดทำประกาศพิเศษที่เรียกว่า "มัสต์ แครี" ซึ่งประกาศนี้จะบอกชัดเจนเลยว่าการนำพาสัญญาณฟรีทีวีไปบริการผ่านเคเบิลและดาวเทียมเป็นสิ่งที่ชอบธรรมด้วยกฎหมาย ก็จะทำให้มั่นใจถ้าจะเอาสัญญาณไปออก
       
        หลังจากการเจอมรสุมปัญหาที่ล้มเหลวครั้งนั้น กสทช.ก็ทำได้แค่ตามไล่บี้ค่าปรับกับทางทรูวิชั่นส์ โทษฐานขัดคำสั่งทางปกครองกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนเงินวันละ 20,000 บาท หรือรวมเป็นเงินประมาณ 500,000 บาทตลอดระยะเวลาการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ซึ่งหากไม่จ่ายค่าปรับตามคำสั่งปกครองดังกล่าวภายใน 1 เดือน ทรูวิชั่นส์จะต้องเสียค่าปรับเพิ่มอีก 2% ของเงินค่าปรับ 500,000 บาท ส่วนกรณีมีผู้บริโภค และสมาชิกทรูวิชั่นส์ประมาณ 200 รายที่ยื่นเรื่องร้องเรียนมายังกสทช.ในกรณีเดียวกัน ทาง กสทช.ได้สั่งให้ทรูวิชั่นส์จะต้องเป็นผู้ไปดำเนินการเยียวยาทั้งหมดภายใน 2 เดือนนับจากนี้ ก็หวังว่าการลงดาบคาดโทษแบบเอาจริงเอาจังและนโยบายผลงานชิ้นโบแดงอย่าง “มัสต์ แครี” จะช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวให้กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ไม่ใช้สักแต่ว่าแก้ปัญหาเอาหน้าประชาชนแค่ตอนนี้เท่านั้น
       
       กว่าจะได้ฤกษ์คลอด 3G
       
        อีกหนึ่งปัญหายืดเยื้อลากยาวน่าเบื่อจนพาประเทศถอยหลังลงคลองกับปัญหา 3G ที่ยังประมูลไม่ได้ แถมฟ้องกันไปมาอีนุงตุงนัง จนคนดูนั่งเซ็งว่าเมื่อไหร่จะได้ใช้ 3G เสียที
       
        โดยเมื่อวันที่ 15 สิงหาที่ผ่านมา มีการประชุมหารือโดยสรุปได้ว่ามีการลดเพดานการถือครองคลื่นความถี่ลง สำหรับใบประมูลอนุญาตโครงข่ายโทรศัพท์ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ด้วยคลื่นความถี่ 45 เมกะเฮิรตซ์ จะแบ่งเป็น 9 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 5 เมกะเฮิรตซ์ และสามารถประมูลคลื่นความถี่ได้สูงสุด ไม่เกิด 15 เมกะเฮิรตซ์ หรือจำนวน 3 ใบอนุญาต ซึ่งลดจากเดิมซึ่งถือให้ไม่เกิด 20 เมกะเฮิร์ตซ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน ในการประมูล มีความเป็นธรรม ในการถือครองคลื่นความถี่ เพื่อการแข่งขัน ทั้งการประมูลและการดำเนินธุรกิจ ส่วนราคาของใบอนุญาต 3G ยังคงมีการยืนยันในราคาเดิมที่ 4,500 ล้านบาทต่อคลื่นความถี่ 5 เมกะเฮิรตซ์ เนื่องจากเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว โดยคำนวณจากกลไกของราคาตลาดและอัตราเงินเฟ้อ
       
        สำหรับการเสนอราคาในการประมูลจะขยับขึ้นครั้งละ 5% หรือ 200 ล้านบาท และจะเสนอให้ที่ประชุม กสทช.พิจารณาอนุมัติวันที่ 22 ส.ค.55 จากนั้นจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในสิ้นเดือน ส.ค.55 และเปิดประมูลกลางเดือน ต.ค.55 ซึ่งคาดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นการสรุปทางออกเพื่อนำไปสู่การใช้ 3G อย่างเป็นรูปธรรม
       
        เมื่อมาเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ใหญ่ที่อยู่ในหน้าที่การดูแลของ กสทช.แล้ว เราก็พอจะเห็นข้อบกพร่องและช่องโหว่ของกฎหมายที่ไม่สามารถรักษาสิทธิของผู้บริโภคแบบเต็มร้อยได้ ดร.อานุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม จึงเป็นอีกหนึ่งคนที่มองว่า กสทช.อาจไม่ใช่องค์กรที่เข้าข้างประชาชนสักเท่าไหร่ และหลายครั้งที่ผลการตัดสินของ กสทช.เอื้อต่อภาคธุรกิจและภาครัฐ แต่ไม่เคยเหลือตกถึงมือประชาชน
       
        “องค์กรนี้ไม่เคยช่วยอะไรประชาชนเลย ตั้งแต่ยังเป็น กทช.แล้ว มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม 11 ประการ ที่ผ่านไป 6 ปีแล้ว ก็ยังไม่ได้บังคับใช้ วงโคจรดาวเทียมก็เกือบเสียไป เพราะมัวแต่โยนกันไปโยนกันมากับไอซีที บอกว่าไม่ใช่ส่วนที่ดูแล
       
        การประมูลคลื่อนความถี่ 3G ประมูลไปในราคาแพงๆแล้วประชาชนได้อะไร บอกแต่ว่ารัฐได้ประโยชน์มากขึ้น ผมว่าน่าจะเป็น รัฐได้เงินมากขึ้นมากกว่า แต่ไม่เห็นว่าจะออกมาระบุชัดเจนว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้ อย่างราคาเพิ่มทุกล้านบาท ประชาชนได้ส่วนลดสิบสตางค์ หรือราคาเพิ่มอีกร้อยล้านบาท ทั้งหมู่บ้านได้รับสิทธิ์โทรฟรี แต่ก็ไม่เห็นมี ไม่เคยชี้แจงว่าได้ประโยชน์อะไร แล้วพอยิ่งแพง ภาระก็มาตกที่ผู้บริโภค ประชาชนก็ซวย ต้องจ่ายแพงมากขึ้น ตามต้นทุนที่เขาจ่ายไป
       
        ความถี่เป็นของประชาชน เหมือนเรามีที่นาอยู่ให้นายทุนเช่าไป พอได้ผลก็ต้องแบ่งข้าวกันคนละครึ่งถึงจะถูก แต่เปล่าเลยกลายเป็นว่านายทุนเอาที่นาเราไปทำ แต่เก็บผลประโยชน์ไว้กับนายหน้า ไม่ได้มาแบ่งให้เจ้าของนา ต้นทุนไม่เกิน 10 สตางค์ เอามาขายประชาชนเมกฯละบาท ได้กำไรเป็นสิบเท่า แต่ประชาชนไม่รู้ ตรงนี้ กสทช.นี่แหละต้องมากำกับดูแลไม่ให้ประชาชนโดนเอารัดเอาเปรียบ แต่นี่ก็เห็นเงียบเฉย”
       
        ถึงแม้ กสทช. เพิ่งจะเข้ามาทำงานแต่ก็สร้างผลงานและชื่อเสียงให้ประชาชนได้จดจำว่าเป็นองค์กรที่ดูแลกำกับในด้านวิทยุ โทรทัศน์ และการสื่อสาร ที่ครอบคลุมผลประโยชน์หลักๆของประเทศ ก็ไม่อยากจะด่วนสรุปตัดสินว่าองค์กรนี้ดีหรือไม่ดี เพราะคิดว่าประชาชนทุกคนคงรู้ดีว่าผลประโยชน์นั้นตกอยู่ที่ใครกันแน่
       
       ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE


 :19: http://astv.mobi/AKNhyDd
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...