เออ จิงดิ มีคนเข้าไปบ่นให้ฟัง ที่ บล็อกสุมหัวนินทาชาวบ้าน
เกี่ยวกับ เรื่อง ศีล 5 ก๊ะ การแอบอ่าน หนังสือ ใน บุ๊ค สโตร์ ด้วย อ่ะ
มัน บอกว่า
ชวนพีนู๋บีคุยนะ พี่เคยเข้าไปร้านหนังสือ
แล้วอ่านหนังสือโดยไม่ซื่อหรือเปล่าพี่นู่บีว่า
เรา อ่านแล้วจำเอาโดยไม่ซื่อนี้ผิดใหม เอาละซิ
คราวหน้าถ้าไม่ซื้อหนังสือเขาห้ามเปิดอ่านน่า
เดียวชาวเน็ตเขาปวดหัวหาคำตอบให้ตัวเองอีก
เหอ อะไรไม่รู้เรื่อง อีกและไปก่อนนะ
ก็แค่รูปยึดเอาเป็นสัญญาของใครของเรา
ตามอัตถยาสัยแล้วกัน ไม่รู้เขียนถูกหรื่อเป่ลา
ป ปลิง
ถ้าเพื่อนซื้อหนังสือแล้วเรายืมเพื่อนอ่าน
เราจะผิดใม๊ ถ้าเราความจำดี
นี้ หนักเลยเอาความคิดคนอื่นมาเป็นของเรา
โดย: ก็แค่รูป IP: 49.48.150.213 วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:37:17 น.
อืม...ไหน ๆ อิฉัน ก็กำลังโพสกระทู้
เกี่ยวกับ ศีล 5 ท้าอธรรม อยู่แระ
เก๊าะเรย แวะเอา คำตอบพวกนี้ มาแปะ ไว้
ใหมันเข้ามาอ่าน ในกาทู้นี้ เอาเองก็แระกัล
( เรทติ้ง กาทู้ อิฉันจาได้ วิ่ง ๆ 5555 )
เอาล่ะ คำถามแรก
ชวนพีนู๋บีคุยนะ พี่เคยเข้าไปร้านหนังสือ
แล้วอ่านหนังสือโดยไม่ซื่อหรือเปล่าพี่นู่บีว่า
เราอ่านแล้วจำเอาโดยไม่ซื่อนี้ผิดใหม
เอาละซิ คราวหน้าถ้าไม่ซื้อหนังสือเขาห้ามเปิดอ่านน่า
อิอิ เคยสิจ๊ะ ทำไมจะไม่เคยล่ะ
สมัยยังละอ่อน ทำบ่อยจะตายไป
เฮ้ยย นี่ ๆ รู้แล้ว เหยียบไว้เลยนะ
พี่เคยเข้าไปแอ๊บเนียน ยืน อ่าน เอ๊ย ยืน เลือกการ์ตูน
ในร้านเช่าหนังสือ ทีละเป็น หลาย ชม.
จน เจ้าของร้าน มันแอบค้อน เลยมั้ง 5555
เผลอ ๆ บางทีก็แอบลอก กลอนเพราะ ๆ
ใน การ์ดอวยพร ที่เขาวางขายในร้านด้วย
สมัยเรียนมหาลัย นี่ ก็เป็นซีร็อกหนังสือเป็นเล่ม ๆ ด้วยนะ
แต่เดี๋ยวนี้ พี่
เลิกแล้วค่ะ เพราะ พี่นึกครึ้ม เลยว่าจะ บำเพ็ญเพียร แบบ กระรอกโพธิสัตว์ว่ะ
และ เนื่องจาก พี่ คิดว่า ตัวเอง สวย แจ่ม เจ๋ง
กว่า อิพวกลูกกระรอก อ่ะ เรย กะว่า
จะ ไม่ บำเพ็ญเพียร แบบบ้าน ๆ ธรรมดา ๆ หรอก นะ
แต่ พี่ว่าจะ บำเพ็ญเพียร สไตล์ สัมมาวายามะ
โดยมี สัมมัปปธาน 4 เป็นที่ยึดเหนี่ยว ว่ะ
( ก็ว่าจะทำ เท่าที่ อิการ์ฟิลด์ มันจะอนุยาด ให้ทำ อ่ะนะ อิอิ )
ดังนั้น ความระยำ อะไร ที่พี่ทำ
แล้ว รู้สึกว่า มันขัดกับ หลักสัมมัปปทาน 4
พี่ ก็พร้อมที่จะ ลด ละ เลิก ว่ะ
( เท่าที่พอจะกล้อมแกล้ม ทำได้ โดยไม่ลำบากใจว่ะ )
เออล่ะ เพื่อไม่ให้ ชาวเน็ตเขาปวดหัวหาคำตอบให้ตัวเองอีก
พี่ จะ ยก เคส เรื่องการแอบอ่านหนังสือ ในร้าน
มาถกเป็น กรณี ศึกษา ให้เป็นทาน
กับคุณน้องก็แล้วกันนะจ๊ะ ทูนหัววววววว
การจะยืนอ่านหนังสือ ในร้าน นั้น
ก่อนอื่น ต้อง สำรวจดูก่อน ว่า
เจ้าของร้านมัน เขี้ยว ไหม
เอ๊ย ไม่ใช่ พี่หมายความว่า
การกระทำนั้น จะนำมา ซึ่ง ปฏิฆะ
ระหว่าง เรา กับ เจ้าของร้านขายหนังสือ ไหม ?
ถ้าร้านขายหนังสือ บางร้าน
เขาไม่อยากให้เราอ่าน
ถึงขนาด ไปสรรหาเอา ถุงพลาสติกมาห่อ
เราก็อย่าเสือกหน้าด้าน
แอบฉีกถุง ควักหนังสือมาอ่าน
หรือ ถึง เขาไม่ห่อถุงพลาสติกไว้
แต่ มายืนทำตาขวาง ๆ ปัดโน่นปัดนี่ ใกล้ ๆเรา
ก็ อย่าเข้าไปอ่านในร้านนั้น
ให้มันเกิด ปฏิฆะ ต่อกันเรยว่ะ
แต่จะว่าไปเดี๋ยวนี้ ร้านหนังสือ บางร้าน
เขาก็ใจป้ำ จัดมุมเล็ก ๆให้ บรรดาหนอนหนังสือ
มานั่งชิล ๆ จิบกาแฟ แล้วกระดิกตรีน
นอนอ่านหนังสือ ในร้านได้อยู่แล้วนิ
เรื่องนี้เมันก็คงคล้าย ๆ กับ การทำมาร์เกตติ้ง
เวลาที่ อิพวกแม่ค้าขายขนม
มันเอา ขนมชิ้นเล็ก ๆ ใส่ถาดเอาไว้
เพื่อให้ ลูกค้า ลองชิม นั่นแหล่ะ กินเสร็จ พอใจก็ซื้อ
ถ้า ไม่พอใจ ไม่ซื้อ ไม่หา ก็ไม่ว่าอะไร
ไม่งั้นก็เหมือน การลองใส่เสื้อที่ขายใน บูติก อ่ะ
เฮ้ออ คุณน้องนี่ ถ้าจะไม่ใช่ หนอนหนังสือ ตัวแม่ แฮะ
จะบอกอะไร ให้นะ คนที่เขาเป็นหนอนหนังสือ
ที่อ่านหนังสือ มาจนทะลุ อ่ะน่ะ
ถ้าเขาพอใจหนังสือเล่มไหน
ต่อให้ อ่านจบไป สามรอบแปดรอบ
เขาก็พร้อมจะ สอย หนังสือเล่มนั้น
มาสะสมไว้ในคอลเลคชั่นส่วนตัวจร้าา
เพื่อ เสพกำซาบให้ชื่นทรวง ว่ะ
หนอนหนังสือไฮโซ เขาไม่นิยม ไปยืนหัวโด่
แอบ ๆ ซ่อนๆ ลักอ่านขโมยอ่าน หรอกนะ
ทำแบบนั้น มันไม่ได้ ฟิลลิ่ง ในการอ่าน อ่า 555
แล้วถ้า เจอหนังสือ สักเล่มอ่ะนะ
แค่ เขาอ่านเรื่องย่อที่ปกหลัง + ชื่อคนอ่าน
เขาก็ ตอบได้แระ ว่า ตรูจะซื้อหนังสือ เล่มนั้นไหม
ดังนั้น สรุป ก็คือว่า ถ้า เป็น หนอนหนังสือ
ที่มีภูมิกึ๋นและ ปฏิภาณไหวพริบ ที่ดีพอ
เขาจะ ฉลาดเลือก เข้าร้านหนังสือ ได้ถูกทีถูกทาง
ปฏิฆะระหว่าง ลูกค้า กับ เจ้าของร้านตรงนี้
มันก็จะ ไม่มี อยู่แล้ว อ่ะจร้าาาาา
แต่ ปัญหา เรื่อง ปฏิฆะ ระหว่างกัน นี้
มันก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บ ๆ สำหรับนักปฏิบัติตัวแม่ว่ะ
ประเด็น ที่พึงจะสังวร สำรวม ระวัง มากกว่านั้น
ก็คือ การเกิด อกุศลกรรม ในใจเรา มากกว่า นะ
เมื่อไรก็ตามที่ จิตเรา มันตั้งใจมั่น คิดที่จะ
เอาแต่ได้ เมื่อนั้น ศีล ข้อ 2 มันก็มัวหมองแล้ว
ยกตัวอย่างนะ
ถ้า คุณ หยิบหนังสือที่ขาย ในร้านมาอ่านผ่าน ๆ
เพราะต้องการ เอาข้อมูลที่ได้ มาประกอบการตัดสินใจ
ว่า หนังสือเล่มนี้ สมควรซื้อหามาเชยชม หรือ ไม่
อันนี้ เค้าเรียก ชิมลางเป็น ออร์เดิร์ฟ
ก่อนตัดสินใจจะเลือกซื้อมาเปิบ
คิดว่า เรื่องนี้ ถ้าเจ้าของร้าน โอเค
ก็จะ ไม่เกิด ปฏิฆะ ระหว่างกัน แระ
จึงน่าจะ เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้
ทั้งทางโลก และ ทางธรรม นะ
แต่ ถ้า เมื่อไร คุณ มีจิตตั้งใจแต่แรกเริ่ม แล้ว
ว่า กรูจะมา นั่งอ่าน หนังสือฟรี
สไตล์ อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ ว่ะ ชะเอิงเอย ฯลฯ
อีแบ่บนี้ ต่อให้ คุณไปนั่งอ่านหนังสือ
ในร้านที่เขา เต็มใจให้ลูกค้า
มานั่งอ่านนอนอ่านหนังสือในร้านได้
มันก็ เริ่ม มีกลิ่น ทะแม้ง ๆ แล้วนะ
เรียกว่า ถึงจะ ชอบด้วยกฏหมาย
แต่ก็ไม่ถูกต้องทางธรรม อ่ะ
แม้ กฏหมายจะเอาผิดอะไรกับคุณไม่ได้
แต่กฏแห่งกรรม มันพร้อมที่จะเอาคืนเสมอนะ
เพราะ คุณได้สร้าง อกุศลกรรม ในจิต
บ่มเพาะนิสัย ชอบคิดเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ เอาไว้ ในจิตแล้ว
และ ถ้าทำจนเป็น อาจิณกรรม บ่อย ๆ
มันก็จะ สะสมเป็นนิสัย และ ติดไปเป็นสันดาน
แล้วกลายเป็น อนุสัย เป็น โคตรภู แบบ ข้ามภพข้ามชาติ
นั่นแหล่ะ ความสยองขวัญ อันเป็นบทลงโทษ
ของ กฏแห่งกรรมของจริง ล่ะ
เอาล่ะ คุณพี่ ฝอยมาถึงตรงนี้ แล้ว
หวังว่า คุณน้อง คงจะเก็ท และ ตอบตัวเองได้ว่า
ถ้าเพื่อนซื้อหนังสือแล้วเรายืมเพื่อนอ่าน เราจะผิดใม๊
ถ้าเราความจำดีนี้ หนักเลย
เอาความคิดคนอื่นมาเป็นของเรา นี่มันผิดไหม ?
ลองดูที่ รากเหง้าของ การกระทำ
อย่างซื่อสัตย์ต่ออัตตาตัวเอง
ก็จะ รู้ซึ้งถึงก้นบึ้ง อ่ะจร้าาาาาาาาา