อิ่มกาย อิ่มใจ > สุขภาพกับชีวิต
108 เคล็ดกิน
sithiphong:
กิน “ผักบุ้ง” บำรุงสายตา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2553 14:28 น.
หลายๆ คนคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่ากิน “ผักบุ้ง” แล้วทำให้ตาหวาน ตาสวยได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลย เพราะว่าผักบุ้งมีสารที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นวิตามิน A ที่เรียกว่า เบต้า-แคโรทีนเยอะมาก แล้ววิตามิน A นี้เองเป็นสารที่ช่วยบำรุงสายตา ช่วยให้ดวงตามีน้ำหล่อเลี้ยงให้ตาเป็นประกาย ไม่แสบ ไม่แห้ง แล้วยังมีสรรพคุณแก้ตาฟางหรือตาบอดกลางคืนได้ ช่วยให้หายแสบตาจากอาการตาแห้ง และลดอาการปวดกระบอกตาในกรณีที่ใช้สายตาเยอะ ๆ และอยากจะบอกอีกว่าผักบุ้งไมได้มีแต่วิตามิน A เท่านั้น ยังมีวิตามิน C ด้วย แต่ถ้าอยากได้วิตามิน C จากผักบุ้ง ก็ต้องกินผักบุ้งดิบ ทั้งวิตามิน A และวิตามิน C รวมถึงเบต้า-แคโรทีน เป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันมะเร็งได้ด้วย
นอกจากนี้ในผักบุ้งยังมีเกลือแร่ มีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือด อีกทั้งแคลเซียม และฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูก รวมถึงมีเส้นใยอาหารช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย และในผักบุ้งมีสารชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างคล้ายอินซูลินที่สามารถลดน้ำตาลในกระแสเลือดสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน และผักบุ้งเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็นจึงช่วยบรรเทาอาการร้อนในได้ และประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของผักบุ้งที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือ ผักบุ้งเป็นหนึ่งในตำรายาไทย คือถือเป็นยาเย็นแก้ถอนพิษเมื่อเมาอีกด้วย
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000163231
sithiphong:
สุขภาพดีไม่มีขาย…มากินตะไคร้ ต้านหวัดกันเถอะ
คมชัดลึก :ใน ช่วงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย คงจะทำให้หลายคนเกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัดกันได้ง่ายๆ เราจึงต้องดูแลสุขภาพกันให้มากๆ โดยเริ่มต้นจากอาหารที่เรากิน ซึ่งอาหารและสมุนไพรไทยมีหลายชนิดที่มีสรรพคุณต้านหวัด หรือบรรเทาอาการของโรคหวัดได้ หนึ่งในนั้นก็คือ "ตะไคร้"
สรรพคุณในการรักษาโรค ต่างๆ ของตะไคร้มาจากน้ำมันหอมระเหยหลายชนิดที่มีอยู่ในใบและลำต้น ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่คนไทยและอีกหลายประเทศใช้บรรเทาอาการหวัดมานานแล้ว โดยสามารถช่วยลดไข้ แก้ปวดหัว เพิ่มภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอบอุ่น และที่สำคัญคือช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดี
สำหรับบางคนที่อาจจะไม่ชอบรับประทานตะไคร้สด การนำตะไคร้มาทำเป็นเครื่องดื่มก็จะทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยาก เพียงนำใบตะไคร้และต้นตะไคร้สดทุบพอละเอียดแล้วมาต้มกับน้ำให้เดือดสักครู่ พักไว้ให้พออุ่นๆ แล้วนำมาดื่มหลังอาหารหรือดื่มเป็นระยะๆ ตลอดทั้งวันก็จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หายใจโล่ง ถ้าใครไม่ชอบดื่มจืดๆ ก็อาจจะเติมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมลงไปเพิ่มความหวานเล็กน้อย หรือลองนำตะไคร้มาต้มกับใบเตยสดหรือขิงสดก็จะได้รสชาติและกลิ่นหอมไปอีกแบบ แถมยังช่วยต้านหวัดได้อีกด้วย
หากใครมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ลองนำตะไคร้มาต้มรวมกับหอมแดงและใบมะขามจนเดือดนานพอควร แล้วคอยสูดไอน้ำที่ลอยขึ้นมา ทำวันละหลายๆ ครั้ง จะช่วยลดน้ำมูกและทำให้หายใจโล่งขึ้น ไม่คัดจมูก สูตรนี้ใช้กันมาแต่โบราณทีเดียว
ตะไคร้ยังมีสรรพคุณเป็นยาขับลม เพราะน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์กระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว จึงช่วยลดการแน่น จุกเสียด แก้ท้องอืด ช่วยเจริญอาหาร บำรุงสมอง ช่วยให้สมาธิดี ลดความดันโลหิตสูง ขับเหงื่อและช่วยรักษาโรคหืด นอกจากนี้น้ำมันตะไคร้ยังนำมาทาแก้ปวดเมื่อยได้ผลอย่าบอกใคร
ด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัวของตะไคร้ คนไทยจึงนิยมนำมาช่วยชูรสและเป็นเครื่องปรุงสำคัญของอาหารหลากหลายชนิด รวมถึงการนำมายัดไส้หรือผสมในอาหารประเภทเนื้อสัตว์เพื่อช่วยดับคาวและทำให้ อาหารมีกลิ่นหอม เรียกว่าได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าจากตะไคร้ในคราวเดียว
สำหรับคนที่ไม่สะดวกจะนำตะไคร้สดมาปรุงอาหารหรือทำเป็นเครื่องดื่มรับ ประทานเอง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ตะไคร้แปรรูปหลายชนิด ให้ได้เลือกซื้อง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่มตะไคร้ผงสำเร็จรูปที่มาในรูปแบบต่างๆ กันไป เช่น ชาตะไคร้ ตะไคร้ผงสำหรับชง หรือเครื่องดื่มตะไคร้ผสมสมุนไพร เป็นต้น ซึ่งเหมาะกับคนที่รักสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามการซื้อเครื่องดื่มตะไคร้สำเร็จรูป เราต้องพิจารณาถึงส่วนประกอบของเครื่องดื่มให้ถ้วนถี่ โดยควรสังเกตและเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติแท้ๆ เพื่อให้ได้คุณค่าจากตะไคร้อย่างเต็มที่ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่แต่งสีแต่งกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลให้รสหวานมากเกินไป เพื่อสุขภาพอนามัยของผู้รับประทานในครอบครัว เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถรับมือกับสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวเป็นหวัดอีกต่อไป
ที่มา คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/detail/20101203/81514/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E2%80%A6%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%B0.html
.
.
sithiphong:
“วาซาบิสด” รสชาติญี่ปุ่น สรรพคุณล้นเหลือ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ธันวาคม 2553 14:50 น.
“วาซาบิ” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการกินอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะอาหารพวกซูชิ หรือปลาดิบทั้งหลาย และที่ “108 เคล็ดกิน” จะพูดถึงในวันนี้ก็คือ “วาซาบิสด” ที่ทำมาจากโคนลำต้นของต้น Canola แล้วนำมาฝนด้วยแผ่นหนังปลาฉลาม ก็จะได้วาซาบิสดที่กินคู่กับอาหารญี่ปุ่นหลายชนิด
รสเผ็ดของวาซาบิจะแตกต่างกับความเผ็ดของพริก คือจะมีรสเผ็ดขึ้นจมูกอยู่เพียงชั่วครู่ วาซาบิจะระเหยได้ง่ายโดยเฉพาะหากโดนน้ำและความร้อน และแนะนำว่า หากจะกินวาซาบิคู่กับโชยุ อย่านำทั้งสองอย่างลงไปผสมกัน เพราะวาซาบิจะละลายไปกับโชยุได้ง่าย ซึ่งจะทำให้รสชาติที่แท้จริงของวาซาบิผิดเพี้ยนไป
ส่วนสรรพคุณของวาซาบินั้น นอกจากจะช่วยชูรสชาติอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย อาทิ
- ใช้ยับยั้งเชื้อโรคและเชื้อรา วาซาบิมีสรรพคุณลดการแพร่พันธุ์ของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ
- ใช้ยับยั้งพยาธิ มีผลหยุดการเกิดพยาธิที่อาศัยอยู่ในสัตว์ทะเล
- ใช้ยับยั้งมะเร็งกระเพาะอาหาร หยุดการเจริญเติบโตและการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งในกระเพาะอาหาร
- ใช้ป้องกันเส้นเลือดตีบ ป้องกันเลือดแข็งตัวเป็นก้อน
นอกจากนี้ ยังใช้กระตุ้นการดูดซับในระบบย่อยอาหาร ป้องกันการท้องเสีย ทำให้กระดูกแข็งแรง รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในการกำจัดเซลล์ที่เริ่มผิดปกติ
สรรพคุณยาวเป็นหางว่าวแบบนี้ เห็นที “108 เคล็ดกิน” คงต้องรีบไปเสาะหา “วาซาบิสด” มากินเสียแล้ว
.
.
.
Plusz:
วาซาบิเผ็ดขึ้นจมูกเลยค๊า T^T :24: :24:
sithiphong:
ให้ ‘ลูกแพร์-วอเตอร์เครส’ ขับของเสีย
ส่งท้ายปี 2553 ‘มุมสุขภาพ-กินดี’ เตรียมสูตรเครื่องดื่มเพื่อการล้างของเสีย ช่วยให้ร่างกายสะอาด มาฝากผู้อ่านรักษ์สุขภาพ ได้นำสูตรเครื่องดื่มจากธรรมชาติไปสกัดดื่มให้ร่างกายแข็งแรงรับปีใหม่
สูตรนี้มีส่วนผสมไม่กี่ชนิด เริ่มจาก ลูกแพร์ มีวิตามินซี กรดโฟลิก แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม และไนอาซิน ช่วยขับปัสสาวะ ทำความสะอาดทั้งไต ไส้ตรง รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ลดคอเรสเตอรอล ต้านอนุมูลอิสระ ขับโลหะหนักและของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกาย
และ วอเตอร์เครส อุดมด้วย วิตามินซี คลอโรฟีลล์ เหล็ก กำมะถัน ไบโอติน เบต้าแคโรทีน แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และไฟโตเคมิคอล รวมทั้งไอโซไทโอไซยาเนต ที่ช่วยทำลายสารก่อมะเร็ง ดีต่อลำไส้ใหญ่และทางเดินอาหาร ล้างพิษออกจากตับและไต ฟอกเลือด ล้างของเสียออกจากร่างกาย
สำหรับส่วนผสมให้เตรียมตามสัดส่วนต่อไปนี้...
* ลูกแพร์สุกเต็มที่ 1 ถ้วย
* วอเตอร์เครส 1/2 ถ้วย
* น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
ส่วนขั้นตอนในการทำง่าย ๆ สั้น ๆ เพียงหั่นลูกแพร์เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า หั่นวอเตอร์เครสพอหยาบ สกัดเอาแต่น้ำด้วยเครื่องสกัดน้ำผักและผลไม้ เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งเย็นชื่นใจ
ปีหน้าขอให้สุขภาพดีกันถ้วนหน้า ด้วยความปรารถนาดีจาก ‘มุมสุขภาพ’
takecareDD@gmail.com
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=457&contentId=112859
.
.
.
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version