ผู้เขียน หัวข้อ: ครูทวงควายเผือก หลังยกให้ มรภ.อุตรดิตถ์ แต่ถูกเชือด  (อ่าน 1777 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ครูทวงควายเผือก หลังยกให้ มรภ.อุตรดิตถ์ แต่ถูกเชือด
-http://hilight.kapook.com/view/75325-

 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ใบมอส สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ชาวโลกออนไลน์วิจารณ์แซ่ด ครูอัตราจ้าง มรภ.อุตรดิตถ์ ตั้งกระทู้ ทวงควายเผือกบุญมา หลังยกให้ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยของทางมหาวิทยาลัย แต่กลับถูกส่งโรงเชือด

กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เมื่อได้มีการตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ห้องจตุจักร โดยมีชื่อกระทู้ว่า "คน มาถามหา ควาย ค่ะ" และในกระทู้ดังกล่าวได้ระบุถึง การทวงควายเผือก ชื่อบุญมา ซึ่งเจ้าของกระทู้ ได้นำเรื่องราวของ คุณ Nantawan Thepraksa หรือชื่อจริงว่า น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ หลานสาวของนายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา นายก อบจ. อุตรดิตถ์ ที่ได้ร่วมกับเพื่อน นำควายเผือกตัวดังกล่าว ไปบริจาคให้ทางมหาวิทยาลัยฯ เพื่อส่งต่อให้ ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย แต่กลับมีข่าวว่า ควายเผือกบุญมา ได้ถูกเชือดไปแล้ว ทำให้มีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยข้อความจาก คุณ Nantawan Thepraksa มีดังนี้

"เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 55 นันได้ทำบันทึกเลขที่ ทอ 222/2555 เรื่องขอมอบกระบือให้ แก่โครงการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย ของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ (นันก็เป็นอาจารย์ที่นี่คะ)ก็ทำเรื่องเข้าไปว่า เราขอมอบกระบือเผือก เพื่อเป็นการสร้างการเรียนรู้ แก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ทางอธิการ ก็รับและสั่งให้ อ วิรัตน์ รับมอบ และมีหนังสือขอบคุณจากทางมหาวิทยาลัยเลขที่ ศธ 0535/ว0996"

"กระบือตัวนี้ นันและเพื่อนไถ่กันมา เนื่องจากตอนที่ยังทำงานอยู่ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและได้กลับมาบ้านที่ จ.อุตรดิตถ์ ก็ขับรถเจอรถบรรทุกขนควาย มุ่งหน้าไปแพร่ ซึ่งสะดุดตา ด้วยควายสีขาวชมพูตัวน้อย ขาห้อยลงมาจากตาข่ายสองข้าง ก็ขับรถแซงไปเพื่อขอซื้อ เค้าก็ขายให้ และมาส่งให้ที่บ้านสวนของนัน แรก ๆ กลัวคนมาก เข้าใกล้ไม่ได้ เราและที่บ้านก็พยายามคุย พยายามเข้าไปคลุกคลีกับมันจนเชื่อง บุญมาอยู่บ้านสวนมีป้าหน้าบ้านชื่อป้าแขก (แก่เรียกยายได้แล้วค่ะ) เลี้ยงให้ โดยตัดหญ้า เอากล้วยที่เราซื้อมาไว้ทีละ 200 โล มาหักเอาเฉพาะตัวกล้วยไม่เอาก้าน ให้ทุกวัน หน้าร้อนก็จะซื้อฟางทีละ 100 ก้อน ไว้ที่ใต้ถุนบ้าน เช้าป้าแขกก็จะเอาฟางอัดก้อนมาคลี่ ๆ ตัดกล้วยจากหวีมาให้มัน กลางวันร้อนป้าแขก ก็จะอาบน้ำให้ แกผูกพันกับบุญมาไม่แพ้คนในบ้าน"

"พ่อเราช่วงหน้าฝน ขึ้นบ้านบนดอย จะตัดหญ้าอ่อนมาให้บุญมาทุกวัน ใส่ท้ายรถมา หน้าร้อน ก็จะตัดปลีกล้วยบนดอยมาผ่า 4 ซีก ให้ พ่อมักป้อนบุญมากับมือ เพื่อให้เค้าจำกลิ่นได้ พวกเรา พี่สาว หลาน ๆ รวมทั้งเพื่อนที่ไถ่มา ก็มักลงไปเด็ดผักอีทรงให้และเล่นกับมัน บุญมาเชื่องกะคนในบ้านมาก จำเสียงรถได้ทุกคัน เวลาพ่อกลับมาจะเอารถไปจอดบ้านสวน พอเปิดรั้วเค้าจะมายืนรอ เวลาเรากลับมาจาก กทม. ขับรถลงไปก็จะมายืนรอ ตอนเช้าบุญมา จะมีเพื่อนเป็นลูกหมาบ้านป้าแขกห้าตัว มาป้วนเปี้ยนอยู่ด้วยทุกวันจนไม่เกาเหมือนควาย เวลาเกา บุญมาจะยกขาเกา ตลกมาก เค้ารู้เรื่องมาก และจะกลัวคนแปลกหน้า เวลาที่เชือกขาด ต้องผูกใหม่ เราต้องให้คนรู้จักที่เค้าเลี้ยงควายมาผูกให้ และตอนเค้ามาบุญมาจะกลัวมาก ตาแดงก่ำ พี่สาว ต้องลงไปยืนด้วยถึงหาย และยอมให้คนผูกเข้าใกล้"

"พวกเราเลี้ยงมันไม่ค่อยเหมือนควายทั่วไป เพราะมันอยู่กับคนเลยค่อนข้างผูกพัน เลี้ยงมาจนสามปี เค้าเริ่มเป็นหนุ่ม เวลาพวกเราลงไปเค้าจะร้องอื้ด ๆ เราก็พอเข้าใจ จนเรากลับมาทำงานเป็นอาจารย์ที่ราชภัฏอุตรดิตถ์ ก็ได้ไปอบรมอาจารย์ใหม่ ได้ฟัง อ.วิรัตน์ บรรยายเรื่องการทำวิจัยเพื่อชุมชน โครงการหมู่บ้านขยะ โครงการศูนย์อนุรักษ์ควายไทย ก็ปลื้มและประทับใจมาก ที่อาจารย์ทำได้ขนาดนี้ จนมานึกเอ๊ะ บุญมาก็เป็นหนุ่มแล้ว ทำไมเราไม่เอาไปไว้ที่ ม. เราอยากเจอเมื่อไรก็ไปหาได้ ตอนแรกมีคอกที่รู้จักกันเค้าอาสาเลี้ยงให้ ราคาแล้วแต่เราจะให้เค้าเป็นค่าเลี้ยงดู เราก็ไม่ไว้ใจเพราะเค้าเลี้ยงขาย (ตอนนี้มานึกเสียใจ เพราะเค้าบอกว่าอยากมาหามันเมื่อไรก็มาได้เลย เค้ากางมุ้งให้นอนอย่างดี เพราะอยากได้ลูกมัน) ก็เลยตัดสินใจ ยกให้ศูนย์อนุรักษ์ฯ จนผ่านไปสามเดือน ฝันถึงก็เอ๊ะสงสัยบุญมาอยากกินกล้วย จึงจะเข้าไปหา ก็โทรไปหา อ.วิรัตน์ ก่อน แกบอกว่า บุญมาเข้ากะฝูงได้ดี มาได้เลย พอเข้าไปไม่เจอก็โทรหาแก แกบอกว่าบุญมาไปหากินกะฝูงชาวบ้านเพราะเข้ากะฝูงที่ ม. ไม่ได้"

"เราก็เอ๊ะ ไหนตอนแรกบอกเข้ากันได้หว่า ก็อืม รอจนเย็นก็เอากล้วยเข้าไป (พ่อขับเอาเข้าไปเนื่องจากราชภัฏบึงกะโล่ สร้างขยายจากในเมือง ถนนยังเป็นดิน) ก็ไม่เจอบุญมา พ่อยืนเรียกชื่อ ก็เจอแต่ควายดำ เลยโทรหา อ.วิรัตน์ อ.บอกว่า บุญมาไปหากินไกล ช่วงนี้ฝนตก เลยติดเกาะ พ่อก็เอ๊ะ ทำไมคำพูดมันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ วันต่อมาพวกเราเลยติดตามเข้าไปดู ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ในราชภัฏบึงกะโล่ รปภ หน้า ม. ก็บอกว่าแกเคยเลี้ยงอยู่เดือนนึง แล้ว อ.วิรัตน์ก็เอามันเข้าไปหลัง ม. แล้วไม่เคยเห็นออกมาอีกเลย แล้ว อ. วิรัตน์ก็โทรมาหาแม่เรา ว่าจะขอนัดคุยกันในวันที่ 12 ส.ค. พวกเราก็ตกลง พอถึงวันที่ 12 อ.วิรัตน์ปิดเครื่องหนี แล้วติดต่อไม่ได้จนถึงวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่เราเข้าไปยื่นหนังสือถึงอธิการ เพื่อขอคำชี้แจง พร้อมขอรับควายคืน เนื่องจากไม่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เรายื่นหนังสือเสร็จก็ขึ้นรถ พอขับรถออกมาก็เจอ อ. วิรัตน์ เดินออกมาจากตึก เราก็เอ๊ะ แล้วทำไมถึงปิดเครื่อง เราเลยไปสืบจากคนที่เคยเอาฟางมาส่งให้เราเพราะเค้ารู้จัก อ. วิรัตน์ เค้าก็บอกว่าเคยเห็นนะ แล้วลูกสาวของคนที่ อ. วิรัตน์ซื้อควายด้วยก็มาบอกกับแม่เราว่า อ้อ เค้ายังเห็นอยู่นะ ญาติเค้าเป็นคนเลี้ยง เราก็ใจชื้ันขึ้นมา"



.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ครูทวงควายเผือก หลังยกให้ มรภ.อุตรดิตถ์ แต่ถูกเชือด
-http://hilight.kapook.com/view/75325-

 

ภาพตอนเด็ก... วันที่ได้รับการไถ่ชีวิต


 


 

"พอโทรไปเค้าก็พูดแบบอึก ๆ อัก ๆ เราก็รู้สึกว่ามันแปลก ๆ พอสืบไปสืบมา ได้ความว่า ควายที่คนเอามาบริจาคให้ที่ศูนย์ อ. วิรัตน์จะเลี้ยงไว้ระยะหนึ่ง พอโตก็เอาไปขาย แล้วซื้อควายถูก ๆ มาแทน (คนที่บอกเราตอนนี้ไม่กล้ามาที่โรงสีเลย เค้ากลัวแม่เราว่า เพราะตอนแรกเค้ามายืนยันว่าญาติเค้าเป็นคนเลี้ยง แต่จริง ๆ เราขอบคุณเค้าด้วยซ้ำที่ทำให้รู้และสืบข้อมูลได้เยอะ) หลังจากอธิการรู้เรื่องก็โทรหา อ. วิรัตน์ ว่าให้เคลียร์ให้จบเพราะเสียชื่อเสียงมหาวิทยาลัย อ.วิรัตน์ ก็เข้าไปหาน้าเราที่โรงสี (อ.วิรัตน์มีศักดิ์เป็นหลานของสามีน้าเรา) ให้น้าเราช่วยพูดกับเรา อันที่จริงถ้าวันที่ อ.วิรัตน์ นัดพวกเรา แล้วแกมา แล้วยอมรับแบบแมน ๆ ว่าเอาไปขาย พวกเราก็แค่ขอให้บอกว่าว่าขายใครไปแล้วจะไปตามเอง แล้วเรื่องคงไม่ยาวขนาดนี้ แต่แกกลับปิดเครื่องหนี เราก็บอกน้าเราไปว่า มาถึงป่านนี้แล้วคงให้จบไปไม่ได้แล้ว ปัญหาที่มี อธิการควรแก้ให้หมดไป ไม่ใช่อยากให้จบ มันก็เท่ากับการหมกปัญหาไปเรื่อย ๆ ซึ่ง อ.วิรัตน์แกมีปัญหาเรื่องนี้มาเยอะพอสมควร เราเพิ่งรู้จากบุคลากรและ อ. ภายในมหาวิทยาลัยว่าแกมักมีปัญหาเรื่องทุจริตอยู่บ่อย ๆ แต่ก็แปลก ที่อธิการยังคงให้แกเป็นผู้บรรยายให้อาจารย์ใหม่ฟังตลอด แล้วตอนนี้มันไม่ใช่แค่เราและเพื่อน แต่มีเจ้านายเพื่อน ที่เป็นเจ้าของกิจการใหญ่ ที่จังหวัดนครปฐม ที่เค้ารู้ว่าเราไถ่ควายตัวนี้มาเค้าก็ขอร่วมด้วย ซึ่งเค้าไม่ยอมแล้ว เรื่องควายอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่นี่มันคือเรื่องของความรู้สึก ความผูกพัน ที่มีให้กันมาสามปีเต็ม ๆ ของทุก ๆ คน เพราะการเลี้ยงควายตัวเดียวแบบดูแลกันขนาดนี้ มันค่อย ๆ ผูกพันกันไปเรื่อย ๆ และอีกอย่างมันคือเรื่องของความถูกต้อง... การตั้งศูนย์อนุรักษ์ หมายความว่าคุณต้องเลี้ยงพวกเค้าไว้ในศูนย์ ไม่ใช่เลี้ยง เพื่อเอาไปขายแลกเปลี่ยนมาตลอด ถ้าเป็นอย่างนี้ก็เท่ากับว่า นี่คือตลาดค้าควายของราชการ ซึ่งผิดไปจากการตั้งของบศูนย์อนุรักษ์ใช่ไหมคะ

พอเมื่อวานนี้ อ.วิรัตน์ก็ได้พูดว่า คุณรู้ไหมผมเป็นใคร คำพูดนี้แหละ ทำให้บรรดาผู้ร่วมไถ่ โกรธมาก ถึงกับผู้ใหญ่โทรไปหาอธิการว่า ทำไม เป็นมาเฟียที่จังหวัดอุตรดิตถ์เหรอ ถึงได้มาพูดจาแบบนี้ แล้วยังบอกว่าควายบริจาคมาแล้วผมจะเอาไปทำอะไรก็ได้!! มาถึงตอนนี้เราก็ได้แต่หวังว่า บุญมายังมีชีวิตอยู่ และขอทวงความยุติธรรมให้เค้า ตามสืบเพื่อเอากลับมา ซึ่งไม่น่าจะยาก เนื่องจากลักษณะพิเศษของบุญมา ที่มีตัวใหญ่สีชมพูใส ก็ไม่น่าจะสืบตามยาก และขอแชร์เป็นประสบการณ์ถึงเพื่อน ๆ ที่อยากบริจาคสัตว์ที่เราไถ่ชิวิตมาว่าให้สืบเรื่องการจัดตั้งโครงการและผู้รับผิดชอบให้ดีก่อน ไม่งั้นจะเสียใจเหมือนพวกเรา แม่บอกว่า หมาที่บ้านเราตาย ยังไม่เคยเอาเค้าไปทิ้ง ยังฝัง เลี้ยงมาเราก็ผูกพัน แล้วนี่ควายตัวเบ้อเร้อ จะไม่ให้เราผูกพันได้ยังไง ถึงตอนนี้เราก็ขอแลกด้วยตำแหน่งระหว่างอาจาย์ผู้น้อย ที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ เป็นเพียงพนักงานมหาวิทยาลัย กับ ตำแหน่งอาจารย์ข้าราชการประจำอย่าง อ.วิรัตน์แล้ว ความถูกต้อง ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นหรือไม่ ก็ต้องดูกันต่อไปคะ"

ต่อมา เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2555 น.ส.นันทวรรณ เจ้าของเรื่องดังกล่าว ได้เปิดเผยว่า "วันนี้ความจริงได้ปรากฎแล้วว่า อ.วิรัตน์ ได้นำบุญมาไปขาย และคนที่ขาย เค้าส่งเข้าโรงเชือดวันนั้นเลย ซึ่งเป็นวันที่มันมาเข้าฝัน แม่บอกว่า มันคงลำบากเลยมาเข้าฝัน เราก็ยิ่งใจไม่ดี ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ตอนนี้ อ.วิรัตน์ พยายามจะขอชดใช้เป็นเงิน แต่คนเลวอย่างเค้า ไม่เข้าใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องเงิน คนอย่าเค้า เอาเงินหลวงมาหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ในส่วนต่างของการขายควายบริจาค แล้วที่สำคัญเป็นควายที่ไถ่ชีวิตมา แล้วเอาเงินไปซื้อควายน้อยมาสองตัว ซึ่งอนาคตของควายน้อยสองตัวก็คงเป็นแบบบุญมา"

"ตอนนี้เราทำเต็มที่ โดยไม่สนใจถึงตำแหน่งอะไรแล้วค่ะ ความถูกต้อง ความจริง ต้องเกิดค่ะ จะได้ทำงานต่อ หรือไม่ก็ไม่สนแล้วคะ ตำแหน่งเราก็ไม่ได้เป็นข้าราชการ เป็นแค่อาจารย์พนักงานมหาวิทยาลัย คงไม่มีอะไรจะเสียคะ นอกจากคำว่าเสียใจที่คนที่เราไว้ใจ กับโครงการที่ดูเหมือนจะดีเป็นแบบนี้"


.

-http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12554996/U12554996.html-

http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12554996/U12554996.html

.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2012, 09:52:45 pm โดย sithiphong »
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
มรภ.อุตรดิตถ์ ขอโทษ หมดหนทางหาควายเผือกบุญมา
-http://hilight.kapook.com/view/75362-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ใบมอส สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          มรภ.อุตรดิตถ์ ขอโทษบอกหมดทางหาควายเผือกบุญมา มาคืนแล้ว ด้านเจ้าของไม่พอใจคำชี้แจง ลั่นขอให้กรณีนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก
 
           ถือว่าเป็นข่าวที่กระทบกระเทือนจิตใจของประชาชนเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องราวเหตุการณ์จากกระทู้ "คนมาถามหาควายค่ะ" ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ซึ่งในกระทู้ดังกล่าวได้ระบุถึงการทวงควายเผือกที่ชื่อบุญมา ซึ่งเป็นควายของคุณนันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ ที่ได้ร่วมกับเพื่อนไถ่ชีวิตและนำมาเลี้ยงไว้จนกระทั่งโต ก่อนจะมอบให้ทางมหาวิทยาลัย เพื่อส่งต่อให้ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย แต่กลับมีข่าวว่า ควายเผือกบุญมาถูกส่งโรงเชือด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

          ล่าสุดวันนี้ (24 สิงหาคม) นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ผู้รับผิดชอบศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ ได้เชิญ นางสาวนันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.อุตรดิตถ์ เจ้าของควายเผือกบุญมา เพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในกรณีดังกล่าว

          โดย นายสิทธิชัย อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรงของผู้บริจาคควายบุญมาและประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าว มรภ.อุตรดิตถ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และหลังจากที่รับทราบเรื่องก็สั่งให้นายวิรัตน์ผู้รับผิดชอบเร่งติดตามว่าควายบุญมาอยู่ที่ไหน แต่ในวันนี้ตนต้องยอมรับว่าตนหาควายบุญมาไม่เจอแล้ว

          อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลเท่าที่ทราบ หลังจากที่นางสาวนันทวรรณได้นำควายบุญมามามอบให้ ทางศูนย์ฯ ก็นำไปเลี้ยงรวมกับฝูงที่อยู่ในศูนย์ฯ กว่า 40 ตัว แต่ควายบุญมาไม่สามารถเข้ากับฝูงได้ เพราะมักขวิดไล่ควายตัวอื่น ๆ ส่วนคนที่ดูแลก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้ง ๆ ที่คนดูแลก็เป็นคนที่รักควายมาก จึงได้ปรึกษากับนายวิรัตน์ว่าจะนำควายบุญมาไปแลกกับควายของชาวบ้าน จากนั้นคนดูแลก็นำเอาเจ้าบุญมาไปแลกกับชาวบ้านที่ บ้านน้ำพี้ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ และควายบุญมาก็ถูกขายส่งต่อ ซึ่งตนก็ไม่สามารถติดตามได้อีกเลย เพราะควายบุญมาอาจจะถูกซื้อต่ออีกที่ จ.แพร่ หรือ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นจุดรับซื้อแลกเปลี่ยนควาย

         นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า ตนตั้งใจจะหาควายบุญมาให้เจอ แต่วันนี้ไม่รู้จะตามหาที่ไหน ตนรู้สึกผิดมากที่เอาควายไปแลก โดยไม่แจ้งให้กับผู้บริจาครับทราบก่อนว่าจะยอมให้นำควายไปแลกกับควายตัวอื่นหรือไม่ แต่ขณะนี้เมื่อแลกไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะเป็นความบกพร่องของทาง มรภ.อุตรดิตถ์ ที่ทำอะไรไปโดยไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้นำมาบริจาค และทำให้ภาพพจน์ของ มรภ.อุตรดิตถ์ เสียหายในชั่วข้ามคืน

         อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเรื่องนี้แล้ว ทาง มรภ.อุตรดิตถ์ ก็ขอยืนยันการดำเนินงานของศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยต่อไป เพราะคงไม่นำเรื่องควายบุญมาตัวเดียว มาเป็นเหตุผลหลักในการยุติโครงการนี้ แต่ต่อไปนี้รับประกันว่าจะทำการรับบริจาคให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น ต้องมีการทดลองเลี้ยงก่อน หากไม่สามารถเข้าฝูงได้ก็ต้องมีการนำตัวส่งคืน  ส่วนเรื่องผลกระทบต่อการทำงานของนางสาวนันทวรรณนั้น ตนอยากให้สบายใจได้ เพราะการต่อสัญญาจ้างขึ้นอยู่กับคณบดีในคณะ คงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการนำควายบุญมา มาบริจาคอย่างแน่นอน

          ขณะที่ นางสาวนันทวรรณ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เมื่อมาถึงวันนี้แล้ว ตนไม่อยากพูดอะไรอีก ส่วนเรื่องที่ มรภ.อุตรดิตถ์ มาชี้แจงตนก็ไม่พอใจ เพราะพูดแต่เรื่องเดิม ๆ ทำไมไม่พูดความจริงออกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับควายบุญมากันแน่ ตอนนี้ตนอยากรู้ว่าควายบุญมายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากควายบุญมายังมีชีวิตอยู่ทำไมทาง มรภ.อุตรดิตถ์ ติดต่อกับตนมาว่าจะขอชดใช้เงินคืนให้ อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ขอให้ตนเป็นรายสุดท้าย และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับรายอื่น ๆ อีก


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345783951&grpid=00&catid=&subcatid=-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
พักงาน ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือฯ จี้สอบกรณีควายบุญมา ภายใน 3 วัน

-http://hilight.kapook.com/view/75522-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณใบมอส สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

สภา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เร่งประชุมด่วนถกปัญหาควายเผือกบุญมา พร้อมยืนยันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ด้านครูสาวเดินหน้าตามหา พร้อมตั้งรางวัล 100,000 บาท

หลังจากที่ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ ออกมาเรียกร้องตามหา เจ้าบุญมา ควายเผือกที่ตนเองนำไปบริจาคให้กับ ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เนื่องจากพบว่าควายบุญมาได้หายตัวไป และมีการออกตามหาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่มีผู้พบเห็น แต่ก็ยังไม่พบควายเผือกบุญมานั้น

ล่าสุด สภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ มีการแจ้งประชุมด่วนในวันนี้ (28 สิงหาคม) โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายกสภามหาวิทยาลัย คณะกรรมการสภา อธิการบดี ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ปฏิบัติการภายในมหาวิทยาลัย รวมถึง นายวิรัตน์ จำนงรัตนพัน ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย ด้วย

โดย นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เปิดเผยความคืบหน้าในการสอบข้อเท็จจริงหลังมีการชี้แจงจากผู้ที่มีส่วน เกี่ยวข้องว่า ฝ่ายกฎหมายระบุว่า การแลกควายเผือกบุญมาหลังจากได้รับบริจาคมานั้นถือว่าไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากควายเป็นทรัพย์สินของสถาบันที่ได้รับบริจาคและศูนย์อนุรักษ์กระบือ ไทยได้รับมอบอำนาจมาจากอธิการบดีมหาวิทยาลัย หลังจากนี้งานของศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยก็ยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากยังมีควายที่ต้องเลี้ยงอีกกว่า 40 ตัว ส่วนกรณีเรียกร้องให้มีการปิดศูนย์อนุรักษ์นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการทำงานทุกอย่างก็ต้องมีปัญหาและต้องแก้ไข สถาบันไม่ได้นำควายไปเชือดอย่างที่คิด อีกทั้งทางสถาบันไม่เคยกีดกันหากจะมีการตรวจสอบ

ขณะที่ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา ผู้บริจาคควายเผือกบุญมา นั้น ไม่ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมประชุมกับสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์แต่ อย่างใด โดย น.ส.นันทวรรณ ยังคงมีความหวังที่จะได้เจอควายเผือกบุญมา และเชื่อว่าเจ้าบุญมายังมีชีวิตอยู่ จึงวอนผู้ที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส และยินดีซื้อควายบุญมาคืนในราคา 100,000 บาท

ส่วน การประชุมด่วนกรรมการสภา มรภ.อุตรดิตถ์ 24 คน ในช่วงเช้า โดยได้มีการเชิญ นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ ให้ปากคำนานกว่า 30 นาที โดย การประชุมดังกล่าวกินเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงมีการแถลง โดยทางกรรมการสภาพได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาต่อสภา 7 ข้อด้วยกัน ดังนี้

1.สั่งการให้ นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ หยุดปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ดูแลโครงการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ

2.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน หากมีมูลความผิด จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

3.แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาควายเผือกบุญมา โดยมี น.ส.นันทวรรณ เป็นคณะกรรมการด้วย และคณะกรรมการที่แต่งตั้งจะเป็นบุคคลที่ น.ส.นันทวรรณ เสนอมาก็ได้ และจะอำนวยความสะดวกในการสืบหาควายเผือกบุญมา

4.ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอความร่วมมือในการสืบหาควายเผือกบุญมาร่วมกับคณะกรรมการที่ น.ส.นันทวรรณ เสนอแต่งตั้งขึ้น

5.หากผลการสืบหาควายบุญมาประสบความสำเร็จ และมีความประสงค์จะซื้อคืน อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยเงินส่วนตัว

6.ปรับปรุงระบบการบริหารงานของโครงการอนุรักษ์กระบือไทย ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

7.ในการดำเนินการข้างต้น อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ จะรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรให้คณะกรรมการสภาทราบทุกระยะ

อย่างไรก็ดี ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และละเอียดอ่อนมาก เนื่องจากมีผลกระทบต่อจิตใจของคนทั่วไป และยอมรับว่า อาจารย์รุ่นใหม่ของ มรภ.อุตรดิตถ์ มักจะไม่ค่อยศึกษาระเบียบในการปฏิบัติสักเท่าไร จึงทำให้เกิดความผิดพลาดมากมายขึ้น อย่างไรก็ตาม ต่อไปตนจะกำชับให้ศึกษากฏหมายและระเบียบให้มากขึ้น พร้อมกับหวังว่า เรื่องควายบุญมาจะเป็นเรื่องผิดพลาดครั้งสุดท้าย และจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องนี้จะกระทบต่อการทำงานของ น.ส.นันทวรรณหรือไม่นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่กระทบแน่นอน



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346140418&grpid=00&catid=&subcatid=-
--http://www.komchadluek.net/detail/20120828/138716/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AF%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A0.%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%96%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99!%E0%B8%96%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%A1%E0%B8%B2.html#.UD1SWKPiHx--
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)