ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
ร่วมกันต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น
sithiphong:
ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ
-http://www.anti-corruptionnetwork.com/mainpage.html-
จุดมุ่งหมายของภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ
(1). เสริมสร้างให้ประชาชน นักศึกษา เยาวชน ที่ยังไม่ได้รับรู้ และตระหนักรู้ถึงพฤติกรรมการทุจริตคอร์รัปชั่น การประพฤติมิชอบในวงราชการ ซึ่งบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ไม่อยากละทิ้งผลประโยชน์ที่ได้มาจากการที่ตนปฏิบัติ หรือเป็นคำสั่งจากผู้บังคบบัญชาหรือผู้มีส่วนได้เสีย จึงทำให้ไม่กล้าที่จะทำการใดๆขัดกับคำสั่งนั้น
(2). เสริมสร้างทัศนคติ ค่านิยม ในความซื่อสัตย์สุจริตให้ประชาชน นักศึกษา เยาวชน ได้รับรู้และตระหนักรู้ต่อการดำเนินการที่ขัดต่อหลักจริยธรรมที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและความสงบสุขโดยรวม
(3). เสริมสร้างและปลุกจิตสำนึกของประชาชน นักศึกษา เยาวชน ให้มีความกล้าหาญที่จะเปิดโปง ต่อต้านขัดขวางการทุจริตคอร์รัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง และช่วยกันปกป้อง คุ้มครองป้องกัน เรียกร้อง รายงานเผยแพร่ต่อพฤติกรรมการทุจริตคอร์รัปชั่นออกสู่สาธารณะชน
(4).ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชน นักศึกษา เยาวชน ได้รับรู้ตระหนักรู้ถึงการพิทักษ์ปกป้องและคุ้มครองป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากงบประมาณและทรัพยากรของชาติ โดยให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอย่างเข้มข้นตามระบอบประชาธิปไตยและมีกำลังใจที่จะอาสามาอุทิศตนเพื่อให้เกิดสังคมอันพึงปรารถนา
(5). ส่งเสริมสนับสนุนให้การศึกษาให้ความรู้แก่ประชาชน นักศึกษา เยาวชน ได้รับรู้รับทราบในเรื่องสิทธิหน้าที่ ความรับผิดชอบการเป็นเจ้าของประเทศชาติโดยรวมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(6). ส่งเสริมสนับสนุนโครงการต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน นักศึกษา เยาวชน ทุกภาคส่วนโดยรวม หรือร่วมกับองค์กรอื่น คณะบุคคลอื่นที่ไม่ดำเนินงานเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
(7). ช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชน นักศึกษา เยาวชน ได้รับการปฏิบัติที่ชอบธรรมและความเป็นธรรมถูกต้องจากภาครัฐ
.
http://www.anti-corruptionnetwork.com/mainpage.html
.
sithiphong:
.
รูปจากInternet
.
sithiphong:
ไม่ผ่านเซ็นเซอร์! หนังโฆษณาแฝงข้อคิดต้านคอร์รัปชั่น
-http://hilight.kapook.com/view/60435-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย beartaihitech
ไม่ผ่านเซ็นเซอร์อีกแล้ว สำหรับภาพยนตร์โฆษณาแฝงข้อคิดชุด "ต่อต้านคอร์รัปชั่น" ผลงานของทีมผู้สร้างโฆษณา "ขอโทษประเทศไทย" ที่ออกมาภายหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในครั้งก่อน แต่ก็ถูกแบน ไม่สามารถเผยแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ได้ และในครั้งนี้ คลิปโฆษณา "ต่อต้านคอร์รัปชั่น" ก็ออกมาในช่วงการเลือกตั้งพอดิบพอดี โดยมีกำหนดแพร่ภาพเมื่อวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกแบนไปตามระเบียบ
ทั้งนี้ โฆษณาชุด "ต่อต้านคอร์รัปชั่น" เกิดขึ้นจากแนวคิดของภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งจัดตั้งจากตัวแทนภาคธุรกิจเอกชน ที่ให้โจทย์กับทีมผู้สร้างว่าหากจะขจัดปัญหาคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากสังคมไทยได้ ต้องเริ่มที่ "ภาคธุรกิจ" ก่อน จึงได้คลิปโฆษณาดังกล่าวออกมาในความยาว 90 วินาที ซึ่งพยายามจะสื่อถึงความต้องการจากประชาชนส่วนใหญ่ที่อยากได้นักการเมือง ข้าราชการ รวมไปจนถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่โกงกินบ้านเมือง และละอายต่อความชั่ว รวมทั้งปลุกกระแสให้ประชาชนทุกคนต่อต้านการโกง เพราะเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน
TVC ต่อต้านคอร์รัปชั่น
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=VbJLaYY2irA-
คลิปภาพยนตร์โฆษณา "ต่อต้านคอร์รัปชั่น"
...ดูภาพยนตร์โฆษณา "ต่อต้านคอร์รัปชั่น" กันแล้ว เพื่อน ๆ คิดอย่างไรกันบ้างคะ...
-http://hilight.kapook.com/view/60435-
.
sithiphong:
“วันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2555 : รวมพลังเปลี่ยนประเทศไทย”
-http://www.mediamonitor.in.th/main/news/2011-06-21-07-29-43/804-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E2%80%9C%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-2555-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E2%80%9D.html-
42 องค์กรภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ร่วมกำหนดให้ทุกวันที่ 6 กย.ของทุกปี เป็น “วันต่อต้านคอร์รัปชั่น” เตรียมจัดกิจกรรม “ วันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ 2555 : รวมพลังเปลี่ยนประเทศไทย ” ในวันที่ 6 กย. นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เชิญชวนทุกภาคส่วนผนึกกำลังสร้างกระแสต่อต้านคอร์รัปชั่นในสังคมไทย
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยถึงการจัดงาน “วันต่อต้านคอร์รัปชั่น ประจำปี 2555” ว่า หลังจากภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ได้จัดตั้งและดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 1 ปี เพื่อต่อต้านการคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ผ่านยุทธศาสตร์ 3 ป. คือ ป้องกัน ปลูกฝัง และร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ปราบปราม มีการดำเนินงานต่อเนื่องในหลายรูปแบบ โดยการจัดกิจกรรมรวมพลังสร้างกระแสต่อต้านคอร์รัปชั่นในปีนี้ ได้รับความสนใจและร่วมมือจากบุคคลหลายฝ่าย ที่จะมาสะท้อนให้เห็นถึงอุปสรรคในการต่อสู้กับการคอร์รัปชั่น ขณะเดียวกัน จะร่วมกันเสนอแนะวิธีการในการหลีกเลี่ยงหรือต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่น
“แนวคิดของการจัดงานรวมพลังเปลี่ยนประเทศไทยในปีนี้ ต้องการให้ภาคธุรกิจลุกขึ้นมาเป็นพลังขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ก้าวพ้นจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งสะสมมานาน เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงได้เชิญ ศาสตราภิชาน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาบรรยายพิเศษ เรื่อง “ร่วมกันปลุกกระแสตื่นตัวของภาคธุรกิจ เพื่อต่อต้านคอร์รัปชั่น” รวมถึง คุณ มีชัย วีระไวทยะ จะนำประสบการณ์ตรงมานำเสนอในหัวข้อเรื่อง “จะทำให้การต่อต้านคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติได้อย่างไร” รวมถึงการแสดงพลังและแถลงการณ์ของเยาวชนจากกลุ่มศึกษานอกระบบ โครงการโตไปไม่โกง ศูนย์คุณธรรม และทูตความดี
นอกจากนี้ จะนำกรณีศึกษาการทุจริตคอร์รัปชั่นในอดีตที่เป็นประเด็นในความสนใจของสังคมไทย ออกมาเผยแพร่ในรูปแบบสารคดี รวมถึงการจัดเสวนากลุ่มย่อย ในประเด็นสำคัญของสังคมไทย โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ ภาคการศึกษา ภาคประชาชน สื่อมวลชน รวมถึงเยาวชน ร่วมแสดงพลัง พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นต่ออนาคตของประเทศไทยอีกกว่า 1,500 คน ” นายประมนต์ กล่าว
นายสมพล เกียรติไพบูลย์ รองประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะมีการสัมมนากลุ่มย่อย โดยมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นผ่านมุมมองและบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป อาทิ การเสวนาใน เรื่อง “ ตรวจแถวหมาเฝ้าบ้าน” เป็นการสะท้อนมุมมองของสื่อมวลชน จากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถาบันอิศรา ในรูปแบบของการเสวนาโต๊ะกลม โดยจะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระหว่างสื่อมวลชน และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ที่มีประสบการณ์การทำข่าวในประเด็นการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะโครงการของภาครัฐ อาทิ คุณประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา คุณก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักข่าวไทย พีบีเอส และ คุณสมโภชน์ โตรักษา ผู้ช่วยหัวหน้ากองบรรณาธิการข่าวช่อง 7 เป็นต้น เพื่อหาแนวทางในการดำเนินงานในบทบาทของสื่อมวลชน ที่จะเป็นตัวแทนในการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาการคอร์รัปชั่น ที่จะเกิดขึ้นกับสังคมไทยได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับ เรื่อง “จำนำพืชผลการเกษตร” ได้เชิญผู้ที่มีประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงสินค้าเกษตร อาทิ คุณนิพนธ์ วงศ์ตระหง่าน อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าว คุณวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และคุณประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย มาพูดคุยถึงแนวทางในการจำนำพืชผลการเกษตรอย่างไร จึงจะโปร่งใสเป็นต้น โดยมีคุณรัชชพล เหล่าวานิช เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย
ด้านคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม รองประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า สำหรับการเสวนาเรื่อง “สู้ด้วยเสียง” จะเป็นการเสวนาของตัวแทนจากกลุ่มภาคประชาชนและอาสาสมัคร ภายใต้หัวข้อ “หมาเฝ้าบ้าน” ที่ประชาชนทั่วประเทศสามารถสมัครเข้าร่วมเป็นหนึ่งในการสอดส่องดูแลปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศ และได้เชิญบุคคลที่ต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นด้วยสิทธิ์ และเสียงของตัวเอง ที่ประสบความสำเร็จ ใน 3 รุ่น คือ คุณรสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร พลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร และคุณธีระ กาญจนไพริน หรือ ดีเจจั๊ด มาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด และวิธีการในการต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยมี ดร.เสรี วงค์มณฑา เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจในการเข้าเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โดยได้กำหนดการเสวนาเรื่อง “ รวมพลังภาคธุรกิจ ริเริ่ม Clean & Clear’ Standards for AEC” ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญด้วยในปี 2558 ที่ไทยจะก้าวเข้าสู่ AEC ได้มีนักธุรกิจจากวงการต่างๆ อาทิ คุณปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานกลุ่มบริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ มาร่วมกันวางมาตรฐาน “Clean & Clear” เพื่อเตรียมตัวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมี ดร.บัณฑิต นิจถาวร เป็นผู้ดำเนินการ
นายประมนต์ กล่าวต่อว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศไทยรุนแรงมากขึ้นทุกปี ในปี 2554 ไทยอยู่ในอันดับที่ 80 สูงขึ้นจากลำดับที่ 78 ใน 183 ประเทศทั่วโลกที่มีปัญหาการคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับผลสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่พบว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นของประเทศไทย ประจำเดือนมิถุยายน 2555 ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลสำรวจล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นต่ำลงมาอยู่ที่ 3.5 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งถือว่าการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นของประเทศไทยยังสอบตก เชื่อว่าในปี 2556 ปัญหาคอร์รัปชั่นจะเกิดมากขึ้น จากงบประมาณ 3.4 แสนล้านบาท ของโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนของภาครัฐ ”นับเป็นสัญญาณที่น่าตกใจสำหรับประเทศไทย และหากประชาชนคนไทยยังคิดว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องของชาติ ไม่ใช่ของตัว และไม่มาร่วมกันสอดส่อง ป้องกัน และต่อสู้ปัญหาการคอร์รัปชั่น ในอนาคตประเทศไทยจะไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานพวกเราอีกต่อไป“ นายประมนต์ กล่าวในตอนท้าย
ที่มา: Press Release (ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น) วันที่ 23 สิงหาคม 2555
.
http://www.mediamonitor.in.th/main/news/2011-06-21-07-29-43/804-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E2%80%9C%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-2555-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E2%80%9D.html
.
sithiphong:
อึ้ง! คน 3 ใน 4 ยอมรับคอร์รัปชั่น ถ้าตัวเองได้ประโยชน์
-http://hilight.kapook.com/view/75923-
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
โพลสำรวจพบคนไทยเกือบ 3 ใน 4 ยอมรับคอร์รัปชั่นถ้าตัวเองได้ประโยชน์ด้วย เด็ก-เยาวชนน่าห่วงสุด ขณะที่ข้าราชการ 60% ก็ยอมรับโกงได้
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง แนวโน้มทัศนคติอันตรายของสาธารณชนคนไทย ว่าด้วยการยอมรับรัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย และการโกหกเพื่อเอาตัวรอด กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ
ผลสำรวจพบว่า ประชาชนคนไทยที่ถูกศึกษาครั้งนี้มีแนวโน้มยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 63.4 ในเดือนมิถุนายน มาอยู่ที่ร้อยละ 65.8 ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในขณะที่ร้อยละ 34.2 ไม่ยอมรับ และเมื่อจำแนกออกตามเพศ พบว่า ผู้ชายมีร้อยละ 68.9 มากกว่าผู้หญิงที่มีอยู่ร้อยละ 62.3 ที่ยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย
ดร.นพดลยังระบุด้วยว่า กลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะผลสำรวจพบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.1 และร้อยละ 76.5 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และอายุระหว่าง 20-29 ปียอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย ในขณะที่ร้อยละ 64.8 ของคนอายุระหว่าง 30-39 ปี ร้อยละ 65.4 ของคนอายุ 40-49 ปี และร้อยละ 59.9 ของคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย
ผลสำรวจยังพบด้วยว่า กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ร้อยละ 70.6 ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนสูงที่สุดที่ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย ในขณะที่รองลงมาคือกลุ่มพ่อค้า ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 66.2, กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 64.3, กลุ่มรับจ้างทั่วไป เกษตรกร ร้อยละ 61.9 และส่วนใหญ่เช่นกัน คือร้อยละ 59.4 ของกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และร้อยละ 58.8 ของกลุ่มแม่บ้าน เกษียณอายุที่ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย
ผลการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึกกลุ่มข้าราชการ เนื่องจากว่ากลุ่มข้าราชการมีสัดส่วนสูงถึงเกือบร้อยละ 60 ที่ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย โดยพบว่า ผู้ถูกศึกษาส่วนใหญ่จะนึกถึงการได้ผลตอบแทนจากรัฐบาลในเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงาน การโยกย้ายพรรคพวกเพื่อนฝูงให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือได้ดูแลพื้นที่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ ก็จะยอมรับรัฐบาล เพราะมีเหตุผลอ้างความชอบธรรมว่า ทุกรัฐบาลก็ทุจริตคอร์รัปชั่นด้วยกันทั้งนั้น เอาอำนาจทางการเมืองมาแทรกแซงด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าแทรกแซงแล้วตนเองได้ประโยชน์ด้วย ก็ยอมรับได้ เรียกกันว่า "กินตามน้ำ" หรืออย่างมากก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น อยู่เฉย ๆ ดีกว่า อยู่รอดได้ หรือปิดตาข้างเดียว
ด้านนายเมธี ครองแก้ว อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ความเห็นว่า รัฐบาลเองต้องออกมาตีฆ้องร้องป่าวในเรื่องนี้บ้าง เพราะหากฝ่ายบริหารให้ความร่วมมือ มุ่งมั่นที่จะทำเรื่องนี้ โอกาสประสบความสำเร็จมันก็มี แต่เท่าที่ดูตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่ รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความเห็นว่า สิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้ในเบื้องต้นคือจะต้องไม่ทำนโยบายที่เอื้อผลประโยชน์ รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามทุจริต โดยต้องเริ่มที่ตัวท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ต้องทำเป็นตัวอย่าง เพราะการคอร์รัปชั่นทำให้วัยรุ่นไทยเกิดความเคยชินกับการโกง เนื่องจากเห็นการคอร์รัปชั่นตั้งแต่เด็ก ทำให้เด็กไทยมองว่าการโกงนั้นปกติ ไม่ได้ผิดอะไร ทำให้เกิดศีลธรรม คุณธรรมลดน้อยลง ดังนั้นข้าราชการระดับท้องถิ่นเอง เช่น อบต. อบจ. ไปจนถึงพวกนักการเมือง ต้องทำเป็นตัวอย่างให้เด็กไทยได้เห็น ถ้าเราไม่ทำอะไร ก็จะทำให้พวกนักการเมืองกล้าที่จะทำมากขึ้น โกงอย่างแนบเนียนมากขึ้น
ส่วนนายบรรเจิด สิงคะเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า วิธีแก้ไขคือต้องมีความเด็ดขาดในการลงโทษ หากใครทำผิด ภายใน 1-2 ปี ต้องติดคุกทันที ตนเชื่อว่าถ้าทำแบบนี้คนที่โกงก็จะกลัว แต่พอกลไกตรวจสอบเราไปกองอยู่ที่ ป.ป.ช.หมด นักการเมืองใหญ่ทำผิดก็หนี ตัวเล็กๆ ก็รอขาดอายุความอย่างเดียว แล้วใครจะกลัวกฎหมาย ส่วนกลไกตรวจสอบอย่าง ป.ป.ท.ที่มีอำนาจตรวจสอบ เราก็เห็นแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้น คือพอเข้าไปตรวจสอบก็ถูกย้าย ตนถามว่าแล้วกลไกที่ไหนจะมาทำได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก -http://thaipost.net/news/080912/62102-
.------------------------------------------------------------------------------------.
ประเทศไทย จะอยู่กันอย่างไร
ที่สำคัญ หากโกงกินประเทศชาติ ความฉิบหายจะตามมาแน่นอน ถึงแม้ว่าจะตามไม่ทันในชาตินี้
ไม่มีใครหนีกรรมพ้น
.
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version