► ►►. . .The Letter : จม. เปิดผนึก ถึง อิหม่ามี๊ . . .◄ ◄◄
อิหม่ามี๊ ว่า...
มาลงชื่อว่า อิหม่ามิ๊ ตามไปอ่านทีใต้ร่มธรรม แระนะ
อ่านแล้วก็ ยิ้มเฉยๆ ง่ะ โนพลอมแพลม
เพราะแต่ละคนก็มีสติปัญญาและภูมิปัญญาต่างๆกัน
ก็เผชิญปัญหาและแก้ไขไปตามสภาพของตน
ส่วนใครจะทำได้ดีกว่า แย่กว่า ก็แล้วแต่วาสนาบารมีเนาะ
แต่ตอนจบของแต่ละเรื่องจะเป็นตัวตัดสินการกระทำ
ของเราเอง ว่าสมควร เหมาะแก่กาล ถูกต้องตามธรรม
หรือป่าว ส่วนเราก็ดูเรื่องคนอื่นไว้เพื่อศึกษาและโยนิโสฯ
มาปรับปรุงตัวเรา มาปรับใช้กับตัวเราเพื่อจะได้มีโอกาส
ทำให้ถูกต้องเหมาะสมกับเราต่อไปนิ
เรื่องป๋ารถสังข์กับบักระนาด และคนอื่นๆ ก็โนพลมแพลม
อะจะ เพราะเป็นเรื่องของเขา เราแค่รู้และเลือกว่าเป็นเรา
อยู่ในสถานการณ์แบบนี้เราจะทำแบบเขาหรือทำแบบอื่น
ถ้าอิหม่ามิ๊เป็นบักระนาดนะ อิหม่ามิ๊เลือกคว่ำบาตร
ป๋ารถสังข์ไปตั้งแต่นัดแล้วไม่มาแระ แปลว่าไม่จริงใจ
ที่ช่วยจะกันไขปัญหาข้อข้องใจ มีแต่จะเล่นสำนวนโวหาร
ไปวันๆแค่นั้น ป๋ารถสังข์จะแปลบาลีได้หมดหรือไม่
ก็ไม่ได้อยากรู้แล้ว และป๋าจะพูดจริงหรือพูดเท็จก็
ไม่ได้ใส่ใจด้วยเพราะไม่ได้มีฟามผูกพันธ์ต่อกัน
ไม่เดือดร้อนไปกับป๋ารถรสังข์ไง ป๋าจะขึ้นสวรรค์หรือ
ตกนรก เราก็ไม่ได้เดือดร้อนด้วยอะ แบบว่า อิหม่ามิ๊
มันเป็นคนใจดำเป็นปกติง่ะ ไม่ค่อยอยากไปผูกกรรม
ผูกเวร กะใคร ไม่ใส่ใจเรื่องของคนอื่น อิอิ
ชอบแต่รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหลัก
และหลีกเลี่ยงเรื่องที่ทำให้ตัวเองเดือดเนื้อร้อนใจ
หลีกเลี่ยงที่จะทำให้ตัวเองต้องลำบาก แหะ แหะ
โดย : อิอิ วันที่: 31 สิงหาคม 2555 เวลา: 12:38:41 น.
แหม๊ ? ม่ะเชื่ออ่ะ ว่า อิหม่ามี๊ เนี่ยนะ จะ ใจดำปิ๊ดปี๋ ?
( ถ้าเป็น อิพวกแข็งทั้งนอก แข็งทั้งใน แบ่บ นู๋บี ก็ว่าไปอย่าง หุหุ )
อืม... ไหน อิอ่อนทั้งนอกอ่อนทั้งใน ลองตอบให้ฟังหน่อยดิ๊ ?
ถ้า เห็น ฮาร์ทจัง / ป๋าโจ / พระปราโมช
และ อิตาสับสนในชีวิต กำลังจะจมน้ำตาย
อิหม่ามี๊ จะตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยใครก่อน ?
ถ้า ตำแหน่งที่ ไอ้สับฯ จมน้ำอยู่นั้น
มันเอื้อแก่การช่วยเหลือ มากกว่า
( เพราะอยู่ใกล้จุดที่อิหม่ามี๊ กระโดดลงไป ที่สุด ? )
และ ถ้าถาม คนสวยใจดำ ตัวจริงเสียงจริง อย่างนู๋บีอ่ะนะ
นู๋บีม่ะคิดจะ กระโดดลงไปช่วยไอ้หน้าไหนสักคนอ่ะ
( เพราะว่า กรู ว่ายน้ำไม่เป็น ! 5555 )
และ ถึงจะว่ายน้ำเป็น ก็ต้อง ชั่งใจดูด้วย ว่า
ถ้ากระโดดลงไปช่วยแล้ว กรูจะพลอยซรวยไปด้วยไหม
เกิดโดดลงไปแล้ว จุดนั้นดันเป็น วังน้ำวน ขึ้นมา
แทนที่จะได้ ช่วยกระเตงกันข้ามห้วงทุกข์
เก๊าะกลายเป็น กอดคอกันตายหมู่ ปะไร
อืม...และถ้าในเมื่อ พยามอย่างเต็มที่แล้ว
แต่ก็ยังช่วย พวกมันไม่ได้จริง ๆ
นู๋บี ก็คงต้องพยามทำใจวางให้ลงปลงให้ได้
แล้ว ร้องถามพวกมันอย่างห่วงใยไปอ่ะ ว่า
เฮ้ยยยย พวกเมิงชอบกินไร อ่า เด๋วตรูจาทำบุญไปหั้ยยย เอิ๊ก ๆ
เฮ้ออ คงทำได้แค่นี้แหล่ะ
ไอ้ครั้นจะให้ใจดี กระโดดไปร่วมหัวจมท้าย
แล้วสำลักน้ำตายเป็นเพื่อนใคร
มันก็ผิด วิสัย คนสวยใจดำอย่าง นู๋บี บรรลัยฮ่ะ อิอิ
อืม..และ ถ้าคนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างนู๋บี
ต้องมาเจอ บททดสอบเรื่อง การตัดสินใจ
กระโดดลงไปช่วย คนที่กำลังจะ จมน้ำ งี้ นะ
นู๋บีก็คงจะต้องเมียง ๆ มอง ๆ
จด ๆ จ้อง ๆ มองดูรอบ ๆ ตัว
เพื่อ หาอุปกรณ์เสริม มาช่วย
( อาทิเช่น กิ่งไม้ เชือก ฯลฯ )
แล้วหลับหูหลับตายื่นส่ง ๆ ไปให้คนที่อยู่ใกล้
และ มีโอกาสอำนวย ต่อการได้รับการช่วยเหลือ ณ ขณะนั้น มากที่สุด อ่ะ
ส่วน คน ๆ นั้น จะเป็นใคร
จะเคยเขม่นขี้หน้ากันไหมอันนี้ ก็ไม่เป็นไรนะ
ถึงจะขุ่นใจตะหงิด ๆ ที่ต้องช่วยชีวิตศัตรูคู่อาฆาต
ที่เคยจองเวรพยาบาทกันมาเป็นร้อยชาติ ก็เหอะไงมันก็ ต้องทำละวะ
เพราะ ถ้าจะปล่อยให้มันต้องมาตาย5 ต่อหน้าต่อตา
ทั้ง ๆ ที่เราสามารถช่วยมันได้ ณ ตอนนั้นนี่
ก็ รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ทำไม่ลง แฮะ
( อันนี้ พูดถึงความคิดในตอนนี้ อ่ะนะ
แต่พอถึงเวลาจริง ๆ นี่ก็ไม่ชัวร์ หรอก
ว่าจะ ตัดสินใจทำได้เหมือนที่บอกไว้ไหม
เก๊าะ ยถาสภาวะอันเป็น เหตุปัจจัยทั้งหลายแหล่
มัน เที่ยง ซะที่ไหน ล่ะ แหะ...แหะ... )
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อิหม่ามี๊ ว่า
ส่วนเราก็ดูเรื่องคนอื่นไว้เพื่อศึกษาและโยนิโสฯ
มาปรับปรุงตัวเรา มาปรับใช้กับตัวเรา
เพื่อจะได้มีโอกาสทำให้ถูกต้องเหมาะสมกับเราต่อไปนิ
เรื่องป๋ารถสังข์กับบักระนาด และคนอื่นๆ ก็โนพลมแพลม
อะจะ เพราะเป็นเรื่องของเขา เราแค่รู้และเลือกว่าเป็นเรา
อยู่ในสถานการณ์แบบนี้เราจะทำแบบเขาหรือทำแบบอื่น
ถ้าอิหม่ามิ๊เป็นบักระนาดนะ อิหม่ามิ๊เลือกคว่ำบาตร
ป๋ารถสังข์ไปตั้งแต่นัดแล้วไม่มาแระ แปลว่าไม่จริงใจ
ที่ช่วยจะกันไขปัญหาข้อข้องใจ
มีแต่จะเล่นสำนวนโวหารไปวันๆแค่นั้น
ป๋ารถสังข์จะแปลบาลีได้หมดหรือไม่
ก็ไม่ได้อยากรู้แล้ว และป๋าจะพูดจริงหรือพูดเท็จก็
ไม่ได้ใส่ใจด้วยเพราะไม่ได้มีฟามผูกพันธ์ต่อกัน
ไม่เดือดร้อนไปกับป๋ารถรสังข์ไง ป๋าจะขึ้นสวรรค์หรือ
ตกนรก เราก็ไม่ได้เดือดร้อนด้วยอะ
อืม..เห็นด้วยกะ คำแนะนำของอิหม่ามี๊น้าาาาา
เรื่อง
ดูหนังดูละคร แล้วให้ย้อนดูตัว อ่ะ
แต่ถ้า นู๋บีเป็นบักระนาด อ่ะนะ นู๋บี เลือกที่จะ ยุติกรรม
ไม่กระโดดเข้าไปสร้างเวรสร้างกรรมต่อกัน
และ ไม่ไป ท้าตบท้าตี เอ๊ยท้า แปลบาลี ตะแต่แรกแว้ววววววว
เพราะ การไปร้องท้าตีท้าต่อย กะชาวบ้านเหย็ง ๆ นี่
มันก็ ผิด กฏมณเฑียรบาล ของการเป็นนักปฏิบัติ อีกแระ ว่ะ
ขืน หน้ามืดตามัว คิดแต่จะเอาชนะคะคานกัน โดยไม่ระวังให้ดี
เด๋วก็ได้มี ไอ้ตัวมานะ มาร้องเจี๊ยก ๆ
เกาะหัวเกาะหู ซะแน่นจนแกะไม่ออกอ่ะดิ
อิคิตตี้มันสอนนู๋บีไว้ ว่า
เมิงจงยอมให้คนทั้งโลก ตราหน้า
ว่าเมิง เป็น อิหมาขี้แพ้ แล ขี้ขลาดตาขาว
ดีกว่า จะยอมให้ มี อิตัวมานะ มาเกาะ อยู่บน กบาล อ่าเออ แต่พูดถึง ดราม่า ของ ป๋ารถสังข์ ก๊ะ บักระนาด
ตอนนี้ เห็น ป๋ารถสังข์ กลายเป็นลิงตกต้นไม้
โดนบักระนาด แอบตลบหลัง
ด้วยการอาศัยยืมมือ บุคคลที่ 3
มา ทุบซะหอยแตกกระจุย เลยวุ้ย
เล่นเอา ป๋ารถสังข์ เสียงอ่อยจ๋อย ไปเรยง่ะ
อะโหยย สงสัย มหากาพย์ดราม่าเรื่องนี้
คงใกล้จะเข้าสู่ปัจฉิมบท แห่งกาลอวสาน ซะแล้วมั้ง
ส่วนจะเป็น กาลอวสานของ ระนาดเอก
หรือ อวสานของเซลแมน นั้น
ก็คงต้องวัดดูจาก ปริมาณ มานะ
ที่เกาะอยู่บนหัวของเจ้าตัวอ่ะ อิอิ
แต่ก็นะ เห็นสารรูปป๋ารถสังข์ตอนนี้
นู๋บีสงซ้าน สงสารคุณป๋าจังเรยว่ะ
ที่โดนบักระนาด ขึงพืด ตบกบาลกลางเวบ แบบนั้น
แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ป๋ารถฯของนู๋บียังโดน โจทก์เก่าเจ้าประจำ
อาศัยกินตามน้ำ มาร่วมสามัคคีธรรมมารุมสกรัม
จนแบนแต๊ดแต๋ คาตรีนอีกตะหาก
โธ่เอ๋ย ไม่น่าเลย ป๋ารถฯของตรู ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร
และเหนือ สิ่งอื่นใด นู๋บี สงสารตัวเอง ที่ซู๊ดดดดเยยยย
เนี่ย ถ้าป๋ารถฯ กลายเป็นคนหงิม ๆ สนิมสร้อย เหมือนเป็น แมวนอนหวด งี้
แล้วต่อไป จะมีใครมาต้ม มาม่าแซ่บ ๆ ให้นู๋บีกินวะ ฮือ...ฮือ...
เฮ้ออ แต่ช่างมันเหอะเน๊าะ
เพราะ ถึงจะไม่มี ป๋ารถ ฯ ก๊ะ บัก ระนาด
มาต้มมาม่าแซ่บ ๆ ให้หม่ำอีกแล้ว
เด๋วมันก็ต้องมี คนอื่น มา ต้มมาม่า
ให้นู๋บี แดร่กอยู่ดี นั่นแหล่ะ
แบ่บว่า ในกระแสของโลกธรรมแปดนั้น
ดราม่า เนเวอร์ ดาย 5555555555
อืม... ตราบเท่าที่ พวกมันยังไม่สำเหนียก สำนึก
คอย ระลึกถึง สัมมัปปธาน 4
แล้ว นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน อ่ะนะ
วงจรดราม่า ก็ยังคงวนลูปมาให้นู๋บี ได้ เสพกำซาบ
จนเเสร็จสมอารมณ์หมาย อยู่ ซาเหมอ แหล่ะ แผล่บ ๆ
นู๋บี ก็แค่ เก็บมันไว้ ดูเล่น ๆ เวลาครึ้ม ๆ
แก้หง่อมไปงั้นเองว่ะ หนุกดี อิอิ
นี่ตอนนี้ก็กำลัง ติดตาม ดราม่า ของผู้ชายคนนี้ อยู่อ่ะ
ม่ะอยากบอกเรยว่า ดู ดราม่าของป๋าเหม่ง
แล้ว ทำให้ นู๋บี ลุ้น ยิ่งกว่า ดูดราม่าของ ป๋ารถสังข์ อีกว่ะ
หวังว่า วันดีเดย์ ในเดือนกันยานี้
ป๋าเหม่ง คงจะไม่ดราม่ากระจาย
ทำให้ นู๋บีต้องเจ๊งบ๊งจนหัวใจสลาย
เพราะ น้ำลายป๋าน้าาาาาาาาา เฮ้ออ คิวอี 3 เจ้าขราาาา
โผล่หน้าออกมาจากหอย ซะทีสิว้อยยย สาธุ สาธุ๊
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เออนี่ ๆๆๆ เห็น อิหม่ามี๊ บอกว่า
เหมือนคนที่ชอบกินหวานรู้ทั้งรู้ว่าอาจทำให้เป็นบาวหวาน
ก็ยังชอบกินอยู่เลิกหรือลดไม่ได้เพราะยังไม่เป็นบาวหวาน
วันไหนเป็นบาวหวานแล้วโทษมันส่งผลแล้ว
ถึงได้รู้จักพิษภัยของความหวานของน้ำตาล
แต่ก็นะยังมีบางคนขอยอมตายไปพร้อมกับน้ำตาลและความหวานก็มี หุหุ
อยู่ที่เราจะมีสติปัญญาเลือกแบบไหนให้ตัวเราเอง
อิอิ อ่านเรื่องที่ อิหม่ามี๊ แพล่ม แล้ว
นึกถึง คำบาลี อันนี้จัง อ่ะ
มธุวา มญญตี พาโลยาว ปาปํ น ปจจติ
ยทา จ ปจจติ ปาปํอถ (พาโล) ทุกขํ นิคจฉติ.
ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน
แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้นแล้วก็นึกถึง เรื่องที่ เคยโม้กับน้อง ๆ จัง
นู๋บี บอกพวกมันว่า กับคนไข้เบาหวานน่ะ
พี่เตือนเขาให้ งดอาหารพวกแป้งและ น้ำตาล ก็จริง
แต่ ถ้าพี่เป็นโรคเบาหวานนะ
พี่ก็ยังจะกิน ทองหยิบ ฝอยทอง
แอนด์ ทุเรียน ของชอบอยู่ดีว่ะ มีปัญหา อะไรป่ะ ?
และ พี่ก็ไม่กลัว เบาหวานจะกำเริบ ด้วยนะ
เพราะ พี่มีปัญญาพอที่จะปรับลดสัดส่วนอาหาร ที่กิน
จนรักษาปริมาณน้ำตาลในเลือด ให้มันสมดุล
และ ไม่เกิดอันตราย กับตัวเองได้ว้อยยยย
อืม...ไม่รู้สินะ สำหรับ นู๋บี แล้ว
น้ำตาลกับความหวาน มันก็เหมือน กามราคะ ล่ะมั้ง
ไม่ถึงกับต้อง งด แต่ต้อง เสพ มัน ในปริมาณที่เหมาะสม + ถูกกาลเทศะ
และ คุมไว้ให้อยู่ในขอบเขตที่ สมควรแก่สภาพ
มีก็เสพ ไม่มีก็ไม่เสพ ไม่ต้องไปทุรนทุราย ดิ้นรนขวนขวาย
ถ้าทำงี้ได้ มันก็ไม่ต้องเกิดทุกขังกาละมัง อะไร อ่ะ
อารมณ์ ก็ประมาณ กะลังกรึ่ม ๆ แล้ว นึกครึ้ม
เลย กรึ๊บเหล้า สักเป๊กสองเป๊ก แก้กระสัย มั้ง อิอิ
แต่สิ่งที่ ทำให้ ชาวบ้าน มันกลัวกัน
ก็เป็นเพราะ มันไม่รู้ แทคติก และ หลักการยืดหยุ่น
ในการรักษาความสมดุล เกี่ยวกับการบริโภคกาม ไง
สุดท้ายก็เลย ต้องทุรนทุราย เพราะ การพยายามหักดิบ
ฝืนจิตหักห้ามกามราคะ น่ะนะ
( ยกตัวอย่าง ให้เห็น ภาพชัด ๆ
อาทิเช่น ไอ้ตี๋จิกตรีน เป็นต้น อิอิ )
นี่ยังขำไม่หายเลยอ่ะ ที่มันมาบ่นกระปอดกระแปด
เรื่องที่มัน ต้องเกิดทุกขังกาละมัง
เพราะ พยามตัด กามราคะ น่ะ
แมร่ง มันช่างไม่เจ๋ง เหมือน อิตั้วเจ้ เลยว่ะ
ทำไมไม่รู้จัก ใช้ แทคติก ซะมั่ง ฟระ หุหุ
อ้อ จริงดิ เห็นพูดเรื่อง เบาหวาน
มีเรื่องจะเล่า ด้วยแหล่ะ
เมื่อตะเช้า เม้าส์กะน้องมัน อ่ะ
เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับ ความหวาน และ น้ำตาล เท่าไรนะ
แต่มันเกี่ยวกับ เรื่องของ ความมันส์ ก๊ะ โคเลสเตอรอล ล้วน ๆ อ่ะ เอิ๊ก ๆ
คือ อาทิตย์ก่อนนู้น โรงบาลมีตรวจสุขภาพ น่ะ
พี่พยาบาลเลยโทรมาถาม น้ำหนัก ก๊ะ ส่วนสูง นู๋บี ไปลงข้อมูล
พอนู๋บีบอกไปว่า ตอนนี้ สูงประมาณ 150 ซม.
น้ำหนักชั่งเมื่อเช้า 49 กก. คร้าาาาาาาาาาาาา
เท่านั้นแหล่ะ คนฟัง ไม่ยอมเชื่อเว้ยเฮ้ย
ไม่งั้นคงคิดว่า เครื่องชั่งเสียมั้ง
เลย จิกหัว เอ๊ย จุดธูปอัญเชิญ นู๋บี
ไปชั่ง น้ำหนักต่อหน้าพี่เขาอีกครั้ง (ตามหลักกาลามสูตร ) อ่า
พี่แกถึงจะยอมเชื่อ อย่างสนิทใจ อ่ะ
ว่า นู๋บี นน. 49 กิโล จริงจริ๊งงงงง
แต่พี่แกก็ไม่วายพูดเปรย ๆ เข้าหูนะ
ประมาณว่า เป็นเพราะนู๋บีชอบใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ ๆ
ชาวบ้านชาวช่องเก๊าะเลยมองว่า ไม่น่าจะตัวน้อย
แถมยังแนะนำเพิ่มเติม ว่า
ถ้าใส่เสื้อผ้าพอดีตัว สารรูปจะดูดีกว่า นี้ว่ะ
ฟังคุณพี่พยาบาลเจ้าของบูติกหญ่าย แนะนำ
แล้วเล่นเอา ขำพิลึก เลยว่ะ
แต่คงทำใจ ทำตามไม่ลงหรอกนะ
เพราะว่า มันผิดคอนเซปต์ของนู๋บีอ่ะ
ใส่เสื้อผ้าพอดีตัว แล้วมันขาดความมั่นใจว่ะ
ชอบใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ โคร่ง ๆ
ปิดนมปิดตรูด มากกว่านะ
เวลาจะทำอะไรมันมั่นใจดี ว่ะ
เผื่อกางเกงตรูดขาดขึ้นมากะทันหัน
จะได้ไม่เสียเซล์ฟไง หุหุ
อิอิ...ฝอยไปโน่น เลย วุ้ย แค่อยากจะบอกเฉย ๆ ว่า
ถึงจะ ถือ ศีล 6 ฉัน 2 มื้อ จนน้ำหนัก ลดฮวบไปหลายโล
แต่ โคเลสเตอรอล ของนู๋บี เก๊าะ ยังคงสวนกระแส
ปาเข้าไป ตั้ง 272 โน่น แหน่ะ ( ปกติ ไม่ควรเกิน 200 )
เล่นเอาโดนเอาชื่อไปติดบอร์ดประจานซะทั่วโรงบาลเลยว่ะเอิ๊ก ๆ
เนี่ยอินังคิตตี้ มันเก๊าะกะลังหาเรื่อง
จะเปลี่ยน วิกฤต เป็น โอกาส นะ
แมร่ง มันอ้อน สะกิด ชวน อิการ์ฟิลด์ ยิก ๆ เรยว่ะ มันบอก ว่า
นี่ ๆ ไหน ๆ ช่วงนี้ เก๊าะ ไขมันในเลือดมันจุกอก
จนเสี่ยงจะเป็น สโตรค งี้ แล้ว
หันมา ฉันมื้อเดียว ดีป่ะ ?
ปฏิปทาในการปฏิบัติ จะได้แจ่มขึ้น
แถม ยังช่วยรักษา สุขภาพ อีกด้วย น้าาาาาา
ตอนแรก อิการ์ฟิล์ด มันก็ส่ายหัวดิก ๆ เลยนะ
มันบอกว่า เฮ่ย ที่ โคเลสเตอรอล ของนู๋บีสูง เนี่ย
เป็นเพราะช่วงนั้น อินู๋บี มันเอนจอย อิทติ้ง
เจี๊ยะ ทั้ง หนังไก่ปิ้ง ก๊ะ ปลาหมึกย่าง
ตบท้ายด้วย น้ำสลัด เจ็ดวันรวด
ก่อนไปเจาะเลือด ตรวจสุขภาพ ตะหากว้อยยย
โคเลสเตอรอลมันถึงได้กระฉูด จนเสียประวัติ
เด๋ว พอเข้าสู่วงจรการกินแบบเดิม ๆ
ไขมันในเลือดมันก็ปกติ แระ
แถม อิการ์ฟิลด์มันยังบ่นกระปอดกระแปด อีกว่า
เนี่ย แค่กิน 2 มื้อ มันก็อดอยากปากแห้งจะแย่อยู่แระ
ยังจะมาใจร้ายกลั่นแกล้งให้มัน หม่ำแค่มื้อเดียวอี๊กกกกกก
ถ้าเป็นวันหยุด ก็ยังพอหลับหูหลับตาหยวน ๆ ให้ได้นะ
เพราะว่า มันไม่ได้ทำงานใช้แคลอรี่ แต่นี่ ขืนฉันมื้อเดียวทุกวัน
ตอนบ่าย ตรูจะเอา สารอาหารที่ไหนมาใช้เป็นพลังงานล่ะ
รู้ป่ะ มื้อเที่ยงน่ะ มันช่วยบำรุงสมองนะว้อยยยย แว้ด ๆ ฉอด ๆ
อิอิ ก็ 2 จิต 2 ใจ อยู่พักใหญ่ เลยนะ
แต่สุดท้าย เจอลูกอ้อน ของ อิเจ้าคิตตี้ หนักเข้า
อิการ์ฟิลด์ มันเก๊าะใจอ่อนอีกตามเคย
เลย กัดฟัน ยอมหยวน ๆ ให้อ่า
ว่า เออ ๆๆ ต่อไปตรูจะทดลองฉัน มื้อเดียวดู ก็ได้ฟระ
ส่วน มื้อเที่ยงน่ะ อนุโลม ขอ ดื่มน้ำหวานเป็น น้ำปานะ
เพื่อเพิ่ม น้ำตาลไปเลี้ยงสมอง สัก แก้วสองแก้ว ก็แล้วกันนะเธอว์
จะได้ไม่ เบลอ แล้ว เอ๋อ จนทำงานไม่ได้
เฮ้ออ นี่ก็ไม่รู้ว่า โปรเจค ฉันมื้อเดียว นี่ จะไปรอดไหมนะ
ไง แควน ๆ ก็ช่วยเป็น กำลังใจให้กันมั่งเน้ออออ
เฮ้ออ นี่ครึ้ม ๆ อิเจ้าเงาะ มันก็ว่า จะส่งเทียบเชิญ
ไป ชวน อิรจนาของป๋าโจ
มา ฉันมื้อเดียว เป็นเพื่อนกันด้วย อ่ะ
อิการ์ฟิล์ด จะได้ไม่เหงา อิอิ
เอ่อ...ไม่ทราบว่า อิรจนา จะสนใจ
มาร่วม โปรเจค ลดโคเลสเตอรอล ด้วยกันไหมน้ออออออออออออ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อิหม่ามี๊ ว่า...
จะว่าไปโจรที่สำนึกตัวและกลับใจเลิกเป็นโจรได้นี่ก็น่านับถือนะ
เพราะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากส่วนใหญ่ก็ทำได้แต่ปาก หุหุ
ส่วนพฤติกรรมสันดานก็ยังเหมือนเดิม
หาคนจริง ทำได้จริง ยากแท้น้อ แต่ก็คงมีคนทำได้อยู่แหละ
ก็โลกนี้มันไม่เที่ยงงงงงง อะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
มีทั้งมาเกิดแล้วสันดานแย่ลง กับสันดานดีขึ้นเป็นกองหุหุ
อยู่ที่เราจะมีสติปัญญาเลือกแบบไหนให้ตัวเราเอง
+++++++++++++++++++++++++
อืม....มีเรื่องของ นางโจรี คนนึงมาเล่าให้ฟังโตย
เช้านี้ เม้าก๊ะ รุ่นน้องตอนไปออกหน่วย น่ะ
น้องมันมาเปรย ๆ เชิงปรึกษาว่า พี่บีรู้สึกไหม
ว่า มีบางคนในห้องยา ชักจะมาทำงานสายจนเกินงามแล้วนะ
นู๋บีก็เลยบอกกับมันไป ประมาณ ว่า
----------------------------------------------------
เออพี่รู้ว่ะ แต่ตอนนี้พี่ยังไม่สามารถจะ ไปตักเตือนอะไรมันได้
เพราะ ว่า พี่เองก็มาสายเหมือนกันวะ
ถึงแม้ พี่จะ ทดเวลาบาดเจ็บ ชดใช้คืนให้โรงบาล
ด้วยการ ไม่ลงเวรบ่ายไปพักแล้ว
แต่ การมาสาย ก็คือ การมาสาย อยู่ดี
ถึงแม้มันจะแค่ 10 นาที 15 นาที ก็ตาม
และ ตราบใดที่ พี่ยัง แก้ไขความระยำในส่วนนี้ ของตัวเองให้หมดจด ไม่ได้
พี่ก็คงไม่มีหน้าไปเตือน ใคร ๆ เรื่องมาทำงานสาย ว่ะ
รอให้พี่ปรับปรุงตัวเองเสร็จก่อนนะ
แล้ว เด๋วพี่จะไปเตือนมันให้ แหะ ๆ
------------------------------------------------------------------------- เฮ้ออ นี่ก็เป็นกฏมณเฑียรบาลอีกข้อ
ของการเป็นนักปฏิบัติ สำรับนางโจรีอย่างนู๋บีนะ
อะไรที่เรายัง ประพฤติปฏิบัติไม่ได้
เราก็จะไม่สะแอ๋งไปว่ากล่าวตักเตือน
หรือ อ้าปากสั่งสอนคนอื่น ในเรื่องนั้น ๆ อ่ะ
แต่ถ้าเรื่องไหนทำได้แร้ววว ตรูก็พร้อมที่จะ ยกตนข่มท่าน
เอามาโอ้อวดชาวบ้าน ให้มัน อิจฉาเล่น ทันที เยยย
( อันนี้ มันก็เป็น สันดาน นางโจรี ที่แก้ไม่หายซ้าที แหะ...แหะ.... )