ผู้เขียน หัวข้อ: โรค DVT  (อ่าน 1437 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
โรค DVT
« เมื่อ: ตุลาคม 09, 2012, 05:54:27 am »
นั่งนาน ๆ ระวังโรค DVT ถามหา
-http://health.kapook.com/view14346.html-

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ไลฟ์สไตส์ของหนุ่ม ๆ สาว ๆ สมัยนี้ ยากเสียจริง ๆ เลยที่จะผละออกไปหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ แต่ระวังไว้ให้ดีนะจ๊ะ เพราะหากคุณไม่ยอมลุกไปไหน เอาแต่นั่งอยู่ที่เดิมนาน ๆ นอกจากจะเสี่ยงเป็นโรคยอดฮิตอย่าง ออฟฟิศซินโดรม แล้ว ก็เสี่ยงที่จะเกิด โรค DVT ตามมาอีก เอ้า...ชักสนใจแล้วใช่ไหมว่า โรค DVT คืออะไร มาอ่านกันเลย

          โรค DVT หรือ Deep Venous Thrombosis ก็คือ โรคหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน หรืออีกชื่อหนึ่งที่เราคุ้นเคยก็คือ "กลุ่มอาการเครื่องบินชั้นประหยัด" (Economy Class Syndrome) ซึ่งเกิดจากการนั่งเครื่องบินในระยะทางไกล ๆ โดยเฉพาะชั้นที่นั่งราคาประหยัด ที่มีพื้นที่คับแคบ แล้วไม่ได้ขยับร่างกาย หรือลุกเปลี่ยนอิริยาบถเลย ทำให้เลือดแข็งตัวเป็นก้อน จนกลายเป็นเลือดข้นอยู่ในหลอดเลือดดำ

          โดยโรค DVT นี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัย ที่ได้ข้อมูลมาจากชายวัย 32 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งต้องนั่งทำงานอยู่หน้าเทอร์มินัลคอมพิวเตอร์ประมาณ 18 ชั่วโมงต่อวันมานาน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะอาการเลือดจับตัวเป็นก้อน โดยเริ่มจากบริเวณขาของเขาก่อนที่จะแตกกระจายไปยังปอดทั้งสอง จนเกิดอาการโคม่า ต้องรีบรักษาเป็นการด่วน จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเริ่มหันมาใส่ใจกับโรคนี้กันมากขึ้น

          และแน่นอนว่า อาการหลอดเลือดดำอุดตัน ของ โรค DVT ไม่ได้เกิดกับพนักงานออฟฟิศ ที่ต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นเวลานาน หรือผู้โดยสารบนเครื่องบินชั้นประหยัดเที่ยวบินไกล ๆ เท่านั้น แต่คนที่มีอิริยาบถนั่งตลอดเวลาเป็นเวลานาน ๆ  ไม่ว่าจะทำอะไร อาชีพไหนก็มีความเสี่ยงไม่แพ้กัน อย่างเช่น

          พนักงานขับรถแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง นักบิน

          ผู้เข้าชมภาพยนตร์เรื่องยาว ละครเวที คอนเสิร์ต

          ผู้ที่นั่งไขว่ห้างเป็นเวลานาน ๆ

          ผู้ป่วยอัมพาต ที่ไม่สามารถขยับตัวไปมาได้

          ผู้ป่วยที่ต้องพักฟื้นหลังผ่าตัด รวมทั้งมารดาที่้ต้องนอนพักฟื้นหลังคลอดบุตร

          ผู้ที่ต้องเข้าเฝือก

          ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และโรคพันธุกรรมบางโรค

          ฯลฯ

          นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะเสี่ยงต่ออาการผิดปกตินี้ถึง 2 เท่า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กบนเครื่องชั้นประหยัด

อาการของ โรค DVT

           ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงข้างต้น ต้องรีบมาทำความรู้จักอาการของ โรค DVT โดยเร็ว เพื่อสำรวจดูว่า คุณเข้าข่ายเป็น โรค DVT หรือไม่ นั่นก็คือ หากนั่งนาน ๆ จะเกิดอาการปวดชาที่ขา เท้าจะบวมแดง ซึ่งมักจะบวมข้างเดียว บางรายอาจจะเห็นเส้นเลือดโปงพอง อาจจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อหรือเป็นตะคริว

          ทั้งหมดนี้ สาเหตุเกิดจากการไม่ลุกไปไหนมาไหนเลย ทำให้เลือดที่เคยไหลเวียนได้สะดวก ๆ เกิดการจับตัวเป็นลิ่ม เป็นก้อน มาคั่งอยู่ที่บริเวณเส้นเลือดดำตรงส่วนขา แล้วไหลเข้าไปตามกระแสเลือด ซึ่งอาจไปอุดตันตามอวัยวะที่สำคัญ เช่น ปอด หัวใจ ฯลฯ ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น ใครที่มีอาการชา บวมแดงที่ขาหรือเท้า ต้องรีบลุกยืดเส้นยืดสายโดยพลัน

          และนอกจากโรค DVT หรือ Economy Class Syndrome แล้ว ผู้ที่นั่งนาน ๆ ยังควรระวังอาการ Travelers Stroke อีกด้วย ซึ่งเป็นอาการที่เกิดร่วมกับ โรค DVT โดยหลังจากที่เลือดที่จับตัวเป็นลิ่ม ไหลเข้าไปอุดตันหลอดเลือดที่ปอด แล้วหากเกิดหลุดไปถึงหลอดเลือดแดงในสมอง ผ่านทางช่องเปิดที่ผนังกั้นห้องหัวใจ ก็อาจทำให้มีอาการใบหน้าบิดเบี้ยว พูดลิ้นแข็ง แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก จนเป็นอัมพฤกษ์ได้เลยทีเดียว

การรักษาโรค DVT

          หากแพทย์ตรวจพบว่า ผู้ป่วยเป็น โรค DVT แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาล และให้ยารักษาอาการ รวมทั้งให้ยาป้องกันลิ่มเลือดแข็งตัว


วิธีป้องกัน โรค DVT

          เห็นความน่ากลัวของ โรค DVT กันไปแล้ว มาดูวิธีป้องกันกันดีกว่า ง่ายที่สุดก็คือ หากนั่งนาน ๆ ไม่ว่าจะนั่งทำงาน หรือเล่นเกม ควรยืดเส้นยืดสายบ้าง ทุก ๆ ชั่วโมง และควรลุกขึ้นเดินทุก ๆ 2 ชั่วโมง ไม่ควรนั่งไขว้ขา

           หากหลีกเลี่ยงการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ไม่ได้ อย่างน้อยให้พยายามกระดิกนิ้วเท้าและข้อเท้าไว้ เพื่อให้เลือดไหลเวียนบ้าง

          ควรดื่มน้ำมาก ๆ ขณะนั่งทำงาน เพื่อจะได้เป็นการบังคับให้ตัวเองลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ จะได้ยืดเส้นยืดสายไปในตัว

          ควบคุมน้ำหนักตัวเอง อย่าให้อ้วน เพราะความอ้วนเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่ออาการเส้นเลือดอุดตันได้

          ไม่ควรสวมเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับที่รัด จะทำให้การไหลเวียนภายในเส้นเลือดดำไม่สะดวก เพิ่มโอกาสเกิดลิ่มเลือดได้

          ส่วนผู้ที่ต้องใช้เวลาเดินทางบนเครื่องบินเป็นเวลาหลายชั่วโมง ก็มีข้อแนะนำว่า

          ก่อนออกเดินทางให้เลือกใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ สบาย ๆ ผู้หญิงไม่ควรสวมถุงน่อง

          ควรเลือกที่นั่งใกล้ ๆ ทางเดินไว้ เพราะจะมีพื้นที่ว่างให้เหยียดแข้งเหยียดขา พอแก้อาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวได้

          ให้รับประทานยาแอสไพริน วันละครึ่งเม็ด ก่อนเดินทาง 2 วัน และทานอีกครึ่งเม็ด เมื่ออยู่บนเครื่อง เพราะจะช่วยทำให้เกล็ดเลือดไม่จับตัวเป็นลิ่ม เป็นก้อนได้

          ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ หรืออาหารรสเค็มจัด ให้ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ

          หมั่นบริหารขาโดยยื่นเท้าทั้ง 2 ข้างออกไป ยกขึ้นสูง เท่าที่จะยกได้ เหยียดนิ้วเท้ากางออกสัก 3 วินาที แล้วยกเท้าลง เหยียดนิ้วเท้าชี้ลงพื้นดินอีก 3 วินาที ก็จะช่วยบรรเทาอาการเมื่อยขบได้

          หมั่นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ และที่สำคัญไม่ควรนั่งไขว่ห้าง ที่จะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก

          ลองใช้ถุงเท้าพันรอบขา เพื่อให้ถุงเท้าออกแรงบีบกล้ามเนื้อขา จะช่วยไล่เลือดจากขากลับไปยังหัวใจ ป้องการอาการลิ่มเลือดอุดตันได้

          ผู้ที่เคยมีประวัติเป็นลิ่มเลือดอุดตันมาก่อน แพทย์อาจให้ยาป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันไว้ก่อนเดินทาง

          รู้จักโรค DVT กันแล้ว หากใครต้องนั่งเครื่องบิน หรือมีพฤติกรรมที่ต้องนั่งนาน ๆ โดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็หาเวลาลุกไปยืดเส้นยืดสายกันหน่อยดีกว่า โรค DVT จะได้ไม่มาถามหาให้กวนใจ

http://health.kapook.com/view14346.html

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: โรค DVT
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2012, 05:56:33 am »
เซียนคอมฯ ระวังจะเป็น โรค DVT หลอดเลือดดำอุดตัน
-http://health.kapook.com/view4082.html-

เซียนคอมฯ ระวังจะเป็น DVT (Deep Venous Thrombosis) (momypedia)
โดย: พอใจ

          นั่งนาน ๆ รู้สึกปวดชาที่ขา และเท้าบวมแดง ระวังจะเป็น DVT ในโลกไฮเทคอย่างทุกวันนี้ เราคงปฏิเสธคอมพิวเตอร์ไม่ได้แล้ว แต่ระวังนะคะ มีคุณอนันต์ก็อาจมีโทษมหันต์ ถ้าใช้คอมพิวเตอร์อย่างไม่ถูกวิธี โรค DVT อาจจะถามหา

          คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในโลกยุคใหม่ แม้แต่เด็ก ๆ คอมพิวเตอร์ก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเรียน นี่ยังไม่รวมวิถีชีวิตด้านอื่น ๆ อีก และด้วยเหตุนี้แหละค่ะที่ทำให้ร่างกายของเด็กได้รับผลกระทบต่างๆ ตามมาอีกมากจากการใช้คอมฯ แบบไม่รู้เท่าทัน
   
          เพราะฉะนั้นไม่ว่าลูกเราจะตั้งใจทำงาน แช็ตคุยกับเพื่อน หรือแม้กระทั่งเอาแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์แบบไม่วางตานั้น ต่างก็ล้วนทำให้สุขภาพย่ำแย่ ไม่ว่าจะเป็นตาเมื่อยล้า ตาแห้ง แสบตา ตาสู้แสงไม่ได้ ตาพร่ามัว ปวดหัว ปวดเมื่อยบ่า ไหล่ คอ หรือปวดหลัง จากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ
 
          นอกจากนี้ยังเสี่ยงกับการเป็นโรค Deep Venous Thrombosis (DVT- เส้นเลือดดำอุดตัน) หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ Economy Class Syndrome อีกต่างหาก
 
          โรคนี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัยที่ได้ข้อมูลมาจากชายวัย 32 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งต้องนั่งทำงานอยู่หน้าเทอร์มินัลคอมพิวเตอร์ประมาณ 18 ชั่วโมงต่อวันมานาน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะอาการเลือดจับตัวเป็นก้อน โดยเริ่มจากบริเวณขาของเขาก่อนที่จะแตกกระจายไปยังปอดทั้งสอง จนเกิดอาการโคม่า ต้องรีบรักษาเป็นการด่วน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเริ่มหันมาใส่ใจกับโรคนี้กันมากขึ้น มากกว่าจะเพ่งเล็งไปที่สาเหตุ จากการนั่งเครื่องบินชั้นราคาประหยัดเป็นเวลานานๆ เหมือนก่อน
 
          ฉะนั้นถ้าเห็นลูกคร่ำเคร่งอยู่หน้าคอมฯ นาน ๆ ก็เตือนไว้บ้างค่ะว่า ถ้าเขารู้สึกปวดชาที่ขา และเท้าบวมแดงเมื่อไหรให้รีบลุกจากเก้าอี้มายืดเส้นยืดสายทันที เพราะถ้าลูกมัวทำงานเพลินหรือเล่นเกมจนติดพัน ไม่คอยจับสังเกตอาการ และแก้ไขให้ทันท่วงที ลูกจะกลายเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ เพราะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยไม่ลุกหรือขยับเขยื้อนร่างกายเลย จะทำให้เลือดซึ่งเคยไหลเวียนได้สะดวกจับตัวกันเป็นลิ่มๆ และอาจไปอุดตันตามอวัยวะที่สำคัญ เช่น ปอด หรือหัวใจ ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ นี่ล่ะค่ะคือความเสี่ยงที่ลูก ๆ ของเราต้องระวังไว้บ้าง
 
          แต่ถ้าเลี่ยงการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ไม่ได้ อย่างน้อยก็ให้พยายามกระดิกนิ้วเท้าและข้อเท้า เมื่อเริ่มรู้สึกว่านั่งนานแล้ว หรือดื่มน้ำมากๆ เข้าไว้ และถ้าเป็นไปได้ควรลุกขึ้นมายืดแข้งยืดขาอย่างน้อยๆ ชั่วโมงละครั้งก็ยังดีค่ะ อ้อ...ท่าทางการนั่งที่ถูกต้องคือ นั่งลำตัวตรง ไม่ไขว้ขา จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ด้วยค่ะ
 
          เตือนลูก ๆ แล้ว ก็อย่าลืมเตือนตัวเองด้วยนะคะ หากคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เช่นกัน
 
          การแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดให้โรค DVT เป็นโรคของความผิดปกติที่ค่อนข้างร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับขาส่วนล่าง ตั้งแต่หัวเข่าลงไป และจากการสำรวจพบว่าในจำนวนประชากร 1,000 คนจะมี 1 คนที่เป็นโรค DVT โดยที่อาจจะยังไม่แสดงอาการที่เด่นชัดออกมา และในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยถึง 600,000 คนที่มีอาการชัดเจนจนต้องเข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล

ขอขอบคุณข้อมูลจาก momypedia


http://health.kapook.com/view4082.html





คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)