ทองคำ (7 ธ.ค.) ..หาจุดตัดขาดทุน-กำไรให้ชัดเจน
-http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9550000148683-
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
6 ธันวาคม 2555 17:47 น.
“วายแอลจี” ชี้ราคาทองคำช่วงนี้ยังคงไม่ตอบรับกับกระแสข่าวรายวัน และปัจจัยพื้นฐานมากนัก ทำให้ยังเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงเดือนสุดท้ายปลายปี แนะนำนักลงทุนระยะสั้นควรตั้งจุดตัดขาดทุน และจุดทำกำไรให้ชัดเจน “โกลเบล็ก” ให้รอซื้อบริเวณ 1,685-1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอไปทำกำไรบริเวณแนวต้านที่ 1,705-1,715 ดอลลาร์ต่อออนซ์
วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานสภาวะตลาดทองคำ วันที่ 6 ธ.ค. ว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,687.63-1,696.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ12 อยู่ที่ 24,780 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,990 บาท ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ12 อยู่ที่ 1,001 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 26 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,027 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.09 น.ของวันที่ 6/12/12)
สำหรับแนวโน้มวันที่ 7 ธ.ค. ประเมินว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของกรีซลงจากระดับ CCC มาอยู่ที่ระดับ “ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน (selective default)” ซึ่งการลดอันดับดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลกรีซประกาศเปิดตัวโครงการซื้อคืนพันธบัตร ส่งผลให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันในตลาดทองคำ
ขณะที่ยูโรสแตทรายงาน ยอดค้าปลีกเดือนตุลาคมของกลุ่มประเทศยูโรโซน หดตัวลง 1.2% ซึ่งลดลงมากกว่าที่ตลาดการณ์ไว้ ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภาคครัวเรือนทั่วยูโรโซนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และพยายามลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลผลิตทางเศรษฐกิจหดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส และอัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.7% ซึ่งปัจจัยพื้นฐานดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง
โดยเมื่อราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มุมมองเชิงลบในตลาดทองคำเพิ่มขึ้น หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำทั่วโลกในปี 2556 โดยได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในระยะ 12 เดือนลง 7.2% มาอยู่ที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และคาดว่าราคาทองคำในปี 2557 จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม วายแอลจีประเมินว่า ราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงไม่ตอบรับกับกระแสข่าวรายวัน และปัจจัยพื้นฐานมากนัก โดยราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงเดือนสุดท้ายปลายปี ทำให้วายแอลจียังคงแนะนำนักลงทุนในลักษณะเดิมคือ การลงทุนระยะสั้น และควรตั้งจุดตัดขาดทุน และจุดทำกำไรให้ชัดเจน สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคาทองคำ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อลงทุนระยะสั้นโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,680-1,678 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงในระดับที่รองลงมา แนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,672 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,702 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,712 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,678 (24,350 บาท) 1,672 (24,260 บาท) 1,660 (24,090 บาท) แนวต้าน 1,702 (24,700 บาท) 1,712 (24,840 บาท) 1,722 (24,990 บาท) GOLD FUTURES (GFZ12) แนวรับ 1,678 (24,570 บาท) 1,672 (24,480 บาท) 1,660 (24,310 บาท) แนวต้าน 1,702 (24,920 บาท) 1,712 (25,070 บาท) 1,722 (25,210 บาท) SILVER FUTURES (SVZ12) แนวรับ 32.40 (990 บาท) 32.15 (982 บาท) 31.80 (972 บาท) แนวต้าน 33.55 (1,014 บาท) 34.30 (1,025 บาท) 34.65 (1,036 บาท)
โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ (6 ธ.ค.)ในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศปรับตัวลดลงประมาณ 4.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ 1,691.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (จุดต่ำสุด-สูงสุดในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศอยู่ที่ 1,687.4-1,696.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำปลายปี 2013 ลงจาก 1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงเหลือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังได้รับข่าวดีในเรื่อง ข้อตกลงเพื่อการสกัดภาวะหน้าผาทางการคลัง อาจจะมีความชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในประเด็นดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำประวันที่ 7 ธ.ค. คาดกรอบการลงทุนที่ 1,680-1,715 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนหากยังไม่มาสถานะให้รอซื้อบริเวณ 1,685-1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอไปทำกำไรบริเวณแนวต้านที่ 1,705-1,715 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคาทองคำลดลงต่ำกว่า 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วนั้น แนะนำนักลงทุนให้ทยอยตัดขาดทุน
.