เผย 6 อันดับ คนไทยร้องเรียนยอดฮิต โวยฟิตเนสปิดมากสุด
-http://hilight.kapook.com/view/79850-
ผู้บริโภคเหยื่อรัฐ-เอกชน ทั้งบ้านเอื้ออาทร/ฟิตเนส (ไทยโพสต์)
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พบปัญหาร้องเรียนสูงสุดในรอบปี คือบริการด้านสุขภาพและสาธารณสุข ตั้งแต่ฟิตเนสไปจนถึงประกันสุขภาพไร้มาตรฐาน ขณะที่แบงก์งุบงิบค่าธรรมเนียมโอนเงิน ประกันภัยทำสัญญาเอาเปรียบ การเคหะฯ รังแกคนจนหาช่องยึดบ้านเอื้ออาทร จักรยานยนต์รับจ้างไม่รับคนอ้วน อาหารเสริมโฆษณาเกินจริง จี้ผลักดัน กม.องค์กรอิสระคุ้มครองผู้บริโภค
ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค วันที่ 21 ธันวาคม น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค 6 ภูมิภาค แถลง "รายงานสถานการณ์ความทุกข์ของผู้บริโภคประจำปี 2555" โดยระบุว่า ปัญหาที่ได้รับร้องเรียนเข้ามามากที่สุดผ่านศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค คือ ด้านบริการสุขภาพและสาธารณสุข ได้แก่ ศูนย์ออกกำลังกายที่ปิดบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบ หรือยังมีการรับสมัครสมาชิกตลอดชีพ ทั้งที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้แล้ว เมื่อสถานออกกำลังกายนี้ผิดสัญญาไม่สามารถให้บริการกับสมาชิกได้ ก็ยังไม่ยอมคืนเงินค่าสมาชิกให้ลูกค้าอีกด้วย ปัญหาข้อสัญญาไม่เป็นธรรม ทำแล้วต้องใช้บริการให้ครบ 1 ปี จึงจะสามารถบอกเลิกสัญญาได้ ทั้งนี้ศูนย์บริการส่วนใหญ่จะหักเงินบัตรเครดิตผู้บริโภคทันทีในคราวแรก หรือบางรายต้องจ่ายค่าใช้บริการอื่นเพิ่มจากการชักชวนของพนักงานขาย ปัญหาเหล่านี้มีผู้บริโภคร้องเรียนถึง 680ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
รองลงมาคือ มาตรฐานการรักษา, ระบบการส่งต่อ, การใช้สิทธิในกองทุนฉุกเฉิน ที่ยังคงเป็นปัญหาจากความเข้าใจและการตีความที่ไม่ตรงกัน ระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ ว่าอาการป่วยลักษณะใดที่เข้าข่ายใช้สิทธิฉุกเฉินได้ ปัญหาคุณภาพการให้บริการของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
อันดับ 2 ปัญหาด้านการเงินการธนาคาร ที่น่าสนใจคือ ปิดบังการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม โดยในใบสลิปจะไม่แสดงค่าธรรมเนียม แต่เมื่อนำสมุดบัญชีไปปรับ จะพบค่าธรรมเนียมปรากฏอยู่ ซึ่งเป็นการจงใจเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างยิ่ง ปัญหาการถูกธนาคารฟ้องร้องให้ชำระหนี้ทั้งที่ไม่ได้ใช้บริการ ซึ่งเป็นความผิดพลาดของระบบธนาคารเองทำให้ผู้บริโภคต้องแบกรับภาระในการต่อสู้คดี ทั้งที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องกระทำด้วยความสุจริต โดยคำนึงถึงมาตรฐานทางการค้าที่เหมาะสมภายใต้ธุรกิจที่เป็นธรรม ปัญหาเรื่องการชำระหนี้กับทางผู้ให้บริการบัตรเครดิตในปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการระบบการเงินส่วนบุคคลที่ผิดพลาด ทำให้ก่อหนี้แล้วไม่สามารถชำระได้ตรงตามเวลา ถูกฟ้องร้องเป็นคดีมากขึ้นสูงกว่าปีที่ผ่านมา
น.ส. สารี กล่าวว่า ยังมีปัญหาจากบริษัทประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยรถยนต์ ประกันชีวิต และประกันวินาศภัย ที่มักอ้างกับผู้บริโภคว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เข้าเงื่อนไขของการรับประกัน ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากต้องฟ้องร้องผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยเหล่านี้ จึงได้รับการชดเชยเยียวยา
อันดับ 3 ปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ ประเด็นที่ส่งผลต่อผู้บริโภคส่วนใหญ่ คือการผิดสัญญาซื้อขายบ้านเอื้ออาทร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำ เมื่อจ่ายค่างวดช้า ก็ถูกธนาคารร่วมกับการเคหะแห่งชาติเปลี่ยนแปลงสัญญา อ้างว่าทางการเคหะฯ ได้ซื้อบ้านคืนแล้ว หากผู้บริโภคยังต้องการอยู่อาศัย ต้องจ่ายค่าเช่าคืนละ 100 บาท และท้ายสุดทางการเคหะฯ ก็จะดำเนินการฟ้องคดีเพื่อขับไล่ให้ผู้บริโภคออกจากบ้านหลังนั้น
สำหรับปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับอาคารชุด เป็นเรื่องการก่อสร้างล่าช้า และการยึดเงินจองจากผู้บริโภค ปัญหาการใช้บริการห้องเช่า ลักษณะการร้องเรียน เป็นเรื่องการเก็บค่าน้ำค่าไฟฟ้าแพงเกินจริง และไม่คืนเงินประกัน อ้างเรื่องความเสียหายของห้องเช่า ซึ่งเกิดก่อนที่ผู้เช่าจะเข้าอาศัย
อันดับ 4 บริการสาธารณะ เรื่องร้องเรียนมากที่สุดคือ ปัญหาการให้บริการของระบบขนส่งสาธารณะ ส่วนรถจักรยานยนต์รับจ้าง ปัญหาที่พบคือการเก็บค่าโดยสารแพงเกินจริง, ปฏิเสธรับผู้โดยสารที่มีรูปร่างอ้วน, ขับรถหวาดเสียวทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย, พูดจาไม่สุภาพ ตวาดผู้โดยสาร, ทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง ด้านรถตู้โดยสาร มีปัญหาบรรทุกเกินจำนวน ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับรถหวาดเสียว และเก็บค่าบริการแพง ปัญหาด้านสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา เก็บค่าบริการสูงเกินจริง โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดน้ำท่วมและผู้ร้องไม่ได้อยู่บ้าน ปัญหาสายการบินโลว์คอสต์ยกเลิกเที่ยวบิน ไม่แจ้งหรือแจ้งกระชั้น, กระเป๋าสัมภาระหาย, ซื้อตั๋วผ่านอินเทอร์เน็ตถูกหักเงินจากบัตรเครดิตซ้ำ 2 ครั้ง
อันดับ 5 ด้านสื่อและโทรคมนาคม ที่พบมากสุดคือ ได้รับซิมฟรีแล้วถูกเรียกเก็บเงินภายหลัง ทั้งที่ไม่ได้เปิดใช้บริการ รองลงมาคือปัญหาวันหมด แต่เงินไม่หมด ก็ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นความหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เครื่องสำอาง
อันดับ 6 ปัญหาด้านอาหาร ยา เครื่องสำอาง ทั้งปัญหาอาหารหมดอายุแล้วยังนำมาจำหน่ายในห้างร้าน วันที่ผลิต วันหมดอายุ ไม่ชัดเจน ฉลากกำกับไม่เป็นภาษาไทย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเสมือนยารักษาโรคที่มีอย่างดาษดื่นในระบบโซเชียลมีเดีย โดยที่ไม่มีการควบคุม หรือกำกับดูแลอย่างทั่วถึง เช่น ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก เร่งผิวขาว หน้าเด้ง หน้าใส หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์เสริมสมรรถภาพทางเพศ ก่อให้เกิดอันตรายกับผู้บริโภค
น.ส.สารี กล่าวว่า มูลนิธิผู้บริโภคและเครือข่าย ขอย้ำถึงข้อเสนอที่ได้ยื่นไปแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่ดำเนินการคือ
1.ผลักดันกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
2.บริการสุขภาพมาตรฐานเดียว โดยผู้ประกันตนต้องไม่ร่วมจ่ายเรื่องบริการสุขภาพและนำไปใช้ในสิทธิประโยชน์อื่น
3.บัตรเติมเงินจะต้องไม่กำหนดวันหมดอายุ ผู้ประกอบการต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
4.ออกประกาศให้รถโดยสารสาธารณะต้องทำประกันภัยชั้น 1 (ประกันภัยภาคสมัครใจ)
5.ปรับโครงสร้างและการคิดราคาก๊าซให้เป็นธรรมในทุกประเภทการใช้งาน เช่น ภาคปิโตรเคมี ภาคครัวเรือน (หุงต้ม) และภาคขนส่ง (ยานยนต์)
6.เร่งรัดให้หน่วยงานที่รับเรื่องร้องเรียนกรณีแคลิฟอร์เนีย ว้าว ดำเนินการเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับการแก้ไขเยียวยาอย่างรวดเร็ว ทั้งในส่วนคดีแพ่งและคดีอาญา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก -http://www.thaipost.net/news/221212/66998-
