คลายวิถีทุกข์ด้วยธรรมะ > ธรรมะเสวนา

วิถีแห่งเต๋า หลักธรรม มณีปัญญา ของ จวงจื๊อ จอมปราชญ์

(1/3) > >>

ฐิตา:


             

วิถีแห่งเต๋า หลักธรรม มณีปัญญา
ของ จวงจื๊อ จอมปราชญ์

ชะตากรรมมีดีมีเลว เมื่อเลวก็ต้องใช้สติปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบ ใช้ความสงบรอดูการเปลี่ยนแปลง
                –˜™—

บ่อจำกัดกบเอาไว้ เอาไว้ ความรู้ก็จำกัดคนเอาไว้ ความรู้ทำให้ท่านยิ่งใหญ่ได้ แต่ความรู้ก็อาจจะทำให้ท่านเล็กกระจ้อยร่อยได้เหมือนกัน ฉะนั้น พึงตั้งตนอยู่เหนือความรู้ทั้งปวง
                –˜™—


ฐิตา:


               

คนเรียนหนังสือนั้น เดิมทีประสงค์ที่จะแสวงหามรรค ฟื้นฟูลักษณะดั้งเดิมของธรรมชาติ แต่นานไปนานไปก็หลงทางอยู่เขาวงกตแห่งหนังสือ เดินออกมาไม่พ้น
                –˜™—

                มนุษย์นี้ แม้ว่าจะมีความจำเป็นที่จะต้องแต่งตั้งขึ้นก็ตาม แต่กล่าวสำหรับผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศแล้ว ฐานะตำแหน่งก็เหมือนกับโรงเตี๊ยม ไม่มีอะไรที่น่าอาวรณ์แต่ประการใดทั้งสิ้น
                –˜™—


ฐิตา:


               

                คนกินเหล้าเมาตกรถ
                คนกินเหล้าจนเมา ตกกลิ้งลงมาจากรถแม้ตัวจะหนัก แต่ก็ไม่ตาย คนที่กินเหล้าเมา โครงสร้างกระดูกของเขาก็เหมือนกันกับของคนอื่น แต่เหตุไฉนจึงตกรถไม่ตาย เพราะว่าในขณะนั้นเขาไม่รู้เลยว่าตนเองกำลังนั่งรถอยู่ ทั้งก็ไม่รู้ว่าตนเองตกลงมาจากรถ ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงในเรื่องความเป็นความตาย มิได้สอดแทรกเข้าไปในใจของเขาเลย ฉะนั้น เขาจึงมิได้ตกรถตาย!
                คนกินเหล้าเมาก็เหมือนกับคนที่ลืมตัวตน คนที่ลืมตัวไร้ตน ย่อมสามารถที่จะได้รับการคุ้มครองจากธรรมชาติ
                –˜™—


ฐิตา:


               

                เราพึงตั้งตนอยู่ในระหว่างไร้ประโยชน์กับมีประโยชน์ แต่ทว่าในทางเป็นจริง แม้จะตั้งตนอยู่ในระหว่างไร้ประโยชน์กับมีประโยชน์ ก็ยังคงต้องประสบกับความยุ่งยากอยู่ดี เพราะฉะนั้น พึงอนุโลมตามการเปลี่ยนแปลง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ามีประโยชน์ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าไร้ประโยชน์ ล่องลอยไปกับศีลธรรม (มรรควิถีแห่งธรรมชาติ) จึงจะสามารถรอดพ้นจากความอับจนได้
                ศีลธรรมในโลกมนุษย์เราล้วนสัมพัทธ์ ที่เรียกว่ามีประโยชน์และไร้ประโยชน์ก็เป็นสิ่งสัมพัทธ์เช่นกัน ดังนั้นผู้ที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ ควรจะอยู่เหนือศีลธรรมอันสัมพัทธ์นั้น
                –˜™—


ฐิตา:

               

                บ่อน้ำใสย่อมแห้งก่อน
                ขงจื๊อท่องไปในแคว้นต่าง ๆ ถูกล้อมอยู่ในระหว่างแค้นเฉินกับแคว้นไฉ้ ไม่ได้กินไม่ได้ดื่มมา ๗ วัน
                ต้ากงเริ่นจึงไปเยี่ยมเยียนถามว่า “คราวนี้ท่านเกือบจะถูกประทุษร้ายแล้วซีนะ?”
                ขงจื๊อกล่าวว่า “ใช่”
                ต้ากงเริ่นถามอีกว่า “ท่านเกลียดการตายใช่ไหม”
                ขงจื๊อกล่าววา “ใช่”

                ต้ากงเริ่นจึงกล่าวว่า “ที่แล้วมาข้าพเจ้าเคยบอกเหตุผลของการหลีกเลี่ยงการถูกประทุษร้ายแก่ท่านแล้วมิใช่หรือ? ทางทะเลตะวันออกมีนกอยู่ตัวหนึ่งเรียกว่าอี้ไต้ นกตัวนี้ดู ๆ ไปคล้ายกับไม่มีความสามารถอะไร ในขณะที่บินมันต้องให้ตัวอื่นนำทางให้ ในขณะที่หยุดพักมันก็ปะปนอยู่ในฝูงนก ในขณะที่กินอาหารมันก็ไม่กล้าแย่งกินก่อน เพราะฉะนั้นคนภายนอกจึงไม่อาจจะทำร้ายมันได้ ต้นไม้ที่มีลำต้นตรงจะต้องถูกโค่นก่อน บ่อน้ำที่มีน้ำใสสะอาดจะต้องถูกขอดจนแห้งก่อน นี่เป็นเหตุผลที่แจ่มชัดมากเหลือเกิน บัดนี้พฤติการณ์ของท่าน ก็เหมือนหนึ่งถือแสงสว่างแห่งปัญญาไปส่องความโสมมอื่น ๆ เพื่อแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ผุดผ่องของท่าน การทำเช่นนี้ก็ย่อมจะไม่มีใครยอมอดกลั้นให้แก่ท่าน”

                ขงจื๊อได้ฟังดังนั้น ก็เกิดความสำนึกในทันที จึงร่ำลามิตรสหาย แยกตัวออกจากลูกศิษย์ ไปบำเพ็ญพรตในป่าเขาตามลำพัง
                สติปัญญามิพึงเผยให้ปรากฏยังภายนอก มิฉะนั้นแล้ว หากผู้อื่นมิได้กลัวท่าน ก็จะต้องริษยาท่านเป็นแน่
                –˜™—

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ตอบ

Go to full version