ผู้เขียน หัวข้อ: เตือน!สาวเที่ยวกลางคืนอย่าทิ้งแก้ว ถูกมอมยา-เสียสาวไม่รู้ตัว  (อ่าน 1101 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เตือน!สาวเที่ยวกลางคืนอย่าทิ้งแก้ว ถูกมอมยา-เสียสาวไม่รู้ตัว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    27 พฤษภาคม 2556 01:53 น.

-http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063012-

 เตือนสาวเที่ยวกลางคืนห้ามทิ้งแก้วเครื่องดื่มโดยไม่มีคนดูแล เสี่ยงโดนมอมยาลวงไปข่มขืนฟรี เหตุตื่นมาแล้วจำเหตุการณ์ไม่ได้ แนะดื่มเครื่องดื่มที่มีฝาปิด ไม่ดื่มของคนแปลกหน้า อย.ลั่น 17 มิ.ย.เป็นต้นไป การจ่ายและซื้อยาทุกครั้งต้องจ่ายโดยแพทย์และมีชื่อ-สกุล-จำนวนเม็ดชัดเจน ป้องกันการใช้ทำเรื่องผิด กม.
       
       นายประพนธ์ อางตระกูล ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ขอเตือนวัยรุ่น โดยเฉพาะเพศหญิงที่นิยมไปเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ ให้ระวังจากการถูกผสมยากลุ่มประเภทยานอนหลับ เช่น ยาอัลปราโซแลม ลงไปในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากขณะนี้ตนได้รับรายงานว่ามีหญิงสาวมาร้องเรียนภายหลังจากไปเที่ยวสถานบันเทิงแล้วมีอาการมึนเบลอจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนถูกล่อลวงไปข่มขืน ดังนั้น การไปเที่ยวสถานบันเทิงตอนกลางคืน เวลาจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ดื่มควรเป็นคนเปิดฝาดื่มเองและควรเป็นเครื่องดื่มที่มีฝาปิด เพื่อป้องกันการถูกผสมยานอนหลับลงไปในเครื่องดื่ม
       
       นายประพนธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เมื่อดื่มเครื่องดื่มไปแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีอาการมึนเบลอ สลึมสลือผิดปกติควรรีบออกห่างจากสถานที่ดังกล่าว และรีบให้เพื่อนหรือคนที่ไว้ใจได้พาส่งกลับบ้านหรือพาส่งโรงพยาบาล เนื่องจากหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผสมยาอัลปราโซแลมเพียง 1-2 เม็ด ยาก็จะออกฤทธิ์เร็วขึ้นกว่าปกติในเวลาเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ บางรายเมื่อดื่มยาดังกล่าวเข้าไปแล้วเมื่อตื่นนอนขึ้นมาก็ยังไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวได้
       
       “ยาอัลปราโซแลมเป็นยาที่ไม่มีสี กลิ่น หรือรส ดังนั้น เมื่อผสมยาอัลปราโซแลมลงไปในเครื่องดื่มแล้วก็จะไม่สามารถรู้ได้ว่าในเครื่องดื่มถูกผสมยาลงไป เพราะฉะนั้นการป้องกันที่ดีคือดื่มเครื่องดื่มที่มีฝาปิดและไม่ควรทิ้งแก้วเครื่องดื่มไว้โดยไม่มีคนดูแล แต่ยาอัลปราโซแลมสามารถตรวจพบได้ภายหลังจากรับเข้าสู่รายกายไม่เกิน 2-4 ชั่วโมงวิธีการแก้ไขหรือทำให้ยาอัลปราโซแลมลดฤทธิ์ลงได้นั้นทำได้เพียงการดื่มน้ำ เพื่อไปเจือจางความเข้มข้นของยาเท่านั้น” นายประพนธ์ กล่าว
       
       นายประพนธ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับยาอัลปราโซแลมเป็นยาที่แพทย์จะใช้ดุลพินิจในการจ่ายยาและจ่ายให้ในปริมาณที่ไม่มาก โดยกลุ่มที่ได้รับยาอัลปราโซแลม คือ กลุ่มที่มีอาการเครียดรุนแรง นอนไม่หลับวิตกกังวล หรือกลุ่มที่ต้องไปเดินทางไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีระยะเวลาห่างจากประเทศไทยหลายชั่วโมงและไม่สามารถปรับตัวได้จึงต้องใช้ยาดังกล่าว รวมไปถึงกลุ่มคนไข้ที่ต้องได้รับการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ยาอัลปราโซแลมหากได้รับในปริมาณที่มากหรือบางรายที่มีอาการแพ้ยา ยาอัลปราโซแลมอาจไปกดทับการหายใจจนส่งผลให้ถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด ทั้งนี้หลังจากวันที่ 17 มิ.ย. 2556 เป็นต้นไป การจ่ายยาอัลปราโซแลมแพทย์ที่ได้รับอนุญาตจะต้องเป็นคนจ่ายยาเท่านั้นและในการจ่ายแต่ละครั้งต้องมีการระบุชื่อ-นามสกุล คนไข้ รวมถึงจำนวนยาที่จ่ายเพื่อป้องกันการถูกจับและป้องกันการลักลอบใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นยาที่ถูกยกระดับให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและห้ามมีขายในร้านขายยาทั่วไป และโรงพยาบาลเอกชน แต่หากโรงพยาบาลแห่งใดต้องการขอครอบครองยาไว้ก็สามารถไปยื่นหนังสือได้ โดยในกรุงเทพฯสามารถไปยื่นหนังสือได้ที่กองควบคุมวัตถุเสพติด ส่วนในต่างจังหวัดให้ไปยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000063012
.

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)