ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง
sithiphong:
เตือน “ปลั๊กพ่วง” ภัยร้ายใกล้ตัวสุดอันตราย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤศจิกายน 2556 09:21 น.
-http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000147049-
ฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - กรมวิทยาศาสตร์บริการ เตือนประชาชนให้ระวังการใช้ปลั๊กพ่วง เนื่องจากคุณภาพของสายพ่วงที่มีเต้ารับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ นั้น ไม่ได้มาตรฐานที่จะช่วยป้องกัน อันตรายจากการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจากวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทรัพย์สิน หรือร้ายแรงที่สุดก็อาจลุกลามไปจนถึงอันตรายต่อชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุจากการใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง
น.ส.เสาวณี มุสิแดง อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวว่า ประชาชนควรตื่นตัวระวังอันตรายจากปลั๊กพ่วง ซึ่งปัจจุบันกลยุทธการตั้งราคาสินค้าที่ย่อมเยาสามารถเป็นจุดขายเสนอให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสิ่งที่ผู้บริโภคนึกถึงคือการอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลายชนิดในคราวเดียวกัน
“นอกจากผู้บริโภคต้องตรวจสอบคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานแล้ว การตรวจสอบคุณภาพของ สายพ่วงที่มีเต้ารับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ นั้น ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นอันตรายต่อทรัพย์สิน จนกระทั่งถึงชีวิตของผู้ใช้งานได้ ถ้าใช้ปลั๊กพ่วงจนปริมาณไฟรวมกันแล้วเกินกว่าขนาดที่ปลักพ่วงทนได้ สายไฟก็จะเกิดความร้อนขึ้น จนถึงกับทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟหลอมละลาย เกิดไฟลุกได้ หรือสายไฟฟ้าร้อนถึงจุดหลอมละลาย จนกระทั่งสายทองแดงภายในทั้งสองเส้นแตะกัน ก็จะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรทันที ซึ่งจุดนั้นก็จะมีความร้อนที่สูงมากขึ้นทำให้เกิดเพลิงไหม้” น.ส.เสาวณีกล่าว
ทั้งนี้ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ ระบุว่า ปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์เสริมทางไฟฟ้าที่ยังไม่มีมาตรฐาน ม.อ.ก.ควบคุม จึงเป็นช่องว่างที่ผู้ผลิต จำหน่าย แสดงเครื่องหมายที่ทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิด เช่น ติดตรามาตiฐาน ม.อ.ก.11 ซึ่งเป็นมาตรฐานบังคับของสายไฟฟ้า ไม่ใช่ของปลั๊กพ่วง ดังนั้นการเลือกใช้ปลั๊กพ่วงจึงควรพิจารณาให้ดี ในส่วนประกอบต่างๆ ของปลั๊กให้ดี ทั้งตัวปลั๊กเสียบ ตัวผู้ ตัวเมีย สายไฟฟ้า และวัสดุที่ใช้ทำรางปลั๊ก แต่อย่างไรก็ดี สินค้าที่มีตราที่น่าเชื่อถือราคาสินค้าก็สูงตาม อาจเป็นดัชนีหนึ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพสินค้าที่เราใช้พิจารณาได้ง่ายๆ วิธีหนึ่ง
น.ส.เสาวณี กล่าวต่อว่า ปัจจุบันผู้บริโภคได้รับผลเสียและอันตรายจากการใช้ปลั๊กพ่วงมากขึ้น กรมวิทยาศาสตร์ฯ จึงได้มีเฝ้าระวังสินค้าที่ไม่ปลอดภัย และสุ่มเก็บมาตรวจสอบคุณภาพ เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค โดยในปีงบประมาณ 2557 นี้ จะทำการสุ่มเก็บตัวอย่างปลั๊กพ่วงต่อไฟฟ้าในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้สุ่มตรวจสอบตัวอย่างปลั๊กพ่วงต่อ มาจากจังหวัดพิจิตร นครสวรรค์ สิงห์บุรี ปทุมธานี ซึ่งจะเผยแพร่ข้อมูลการทดสอบให้ประชาชนทราบในลำดับต่อไป
------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 8
"นอกจากผู้บริโภคต้องตรวจสอบคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานแล้ว การตรวจสอบคุณภาพของ สายพ่วงที่มีเต้ารับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆนั้น ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากการเกิด กระแสไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งเป็นอันตรายต่อทรัพย์สิน จนกระทั่งถึงชีวิตของผู้ใช้งานได้ ถ้าใช้ปลั๊กพ่วงจนปริมาณไฟรวมกันแล้วเกินกว่าขนาดที่ปลักพ่วงทนได้ สายไฟก็จะเกิดความร้อนขึ้น จนถึงกับทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟหลอมละลาย เกิดไฟลุกได้ หรือสายไฟฟ้าร้อนถึงจุดหลอมละลาย จนกระทั่งสายทองแดงภายในทั้งสองเส้นแตะกัน ก็จะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรทันที ซึ่งจุดนั้นก็จะมีความร้อนที่สูงมากขึ้นทำให้เกิดเพลิงไหม้" น.ส.เสาวณีกล่าว
พูดง่ายนะให้ประชาชนตรวจสอบเอง
มันเป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่ต้องตรวจสอบแล้วแจ้งให้ประชาชนทราบว่าอันไหนใช้ได้ อันไหนเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย
Aaa
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000147049
sithiphong:
รับไม่ได้
แบบนี้ไม่น่าเก็บไว้ จับตายให้จบไป
------------------------------------------------
ตำรวจคุมตัวลูกทรพี รัวกระสุนใส่พ่อแม่ ทำแผน ชาวบ้านรุมประณาม
-http://hilight.kapook.com/view/94171-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
คุมตัวลูกทรพี ฆ่าพ่อแม่ก่อนหมกศพในบ้านไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว อ้างที่ทำไปเพราะโดนด่า และพ่อก็เอาปืนมาจ่อศีรษะ
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.อัครวินต์ สุคนธวิท รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง ได้จับกุมนายกานต์พิสิฐ เนียมทอง หรือเอ้ อายุ 26 ปี หลังจากที่ก่อคดีสะเทือนขวัญ ใช้ปืนยิงพ่อและแม่จนเสียชีวิต และยัดศพเอาไว้ใต้เตียง โดยพบของกลางคือ ปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุน 10 นัด รถยนต์เชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน กค 9061 กำแพงเพชร และของอื่น ๆ รวมอีก 7 รายการ ด้านตำรวจได้แจ้งข้อหาคือ ฆ่าบุพการีถึงแก่ความตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ นายกานต์พิสิฐ ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายอินทรีย์ เนียมทอง อายุ 61 ปี ข้าราชการครูเกษียณ มีฐานะเป็นพ่อ และหมกศพเอาไว้ในห้องใต้บันไดที่บ้านของตัวเอง จนกระทั่งมาพบศพเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 อีกทั้งยังได้ฆ่านางศิริพร เนียมทอง อายุ 56 ปี มารดา ครูโรงเรียนไตรตรึงษ์ แล้วนำศพเอาไว้ที่ใต้เตียง จนพบศพอีกทีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ก่อนที่นายกานต์พิสิฐจะได้หลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
ด้านกานต์พิสิฐ กล่าวว่า สาเหตุที่ฆ่าบุพการีนั้น เนื่องจากถูกพ่อแม่ดุด่าเป็นประจำ และพ่อเองก็ข่มขู่โดยเอาปืนมาจ่อที่ศีรษะ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายกานต์พิสิฐ เคยเรียนอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
กานต์พิสิฐ เนียมทอง
กานต์พิสิฐ เนียมทอง
กานต์พิสิฐ เนียมทอง
กานต์พิสิฐ เนียมทอง
จากนั้น ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 พ.ต.อ.ธนารักษ์ ปาระมีสา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร พร้อมกำลังหลายสิบนาย ได้ควบคุมตัวนายกานต์พิสิฐไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีญาติพี่น้องและประชาชนมายืนดูจำนวนมาก พร้อมกับส่งเสียงด่าทอสาปแช่ง
ทั้งนี้ นายกานต์พิสิฐ ได้ชี้จุดที่อ้างว่าถูกพ่อดุด่าและใช้ปืนจี้ โดยมีแม่ยืนอยู่ข้าง ๆ แต่ไม่ได้ห้ามปราม พร้อมกับรับสารภาพว่า หลังจากที่ตนแย่งปืนจากพ่อได้แล้ว ก็กระหน่ำยิงใส่ทั้ง 2 คน จนหมดแม็ก จากนั้นก็พาไปชี้จุดที่ลากศพแม่ขึ้นไปบนชั้น 2 ยัดไว้ใต้เตียง แล้วลงมาลากศพพ่อไปยัดไว้ในห้องเก็บของใต้บันได โดยในขณะทำแผน น้องชายของผู้ต้องหาและญาติ ได้ตะโกนถามว่าทำกี่คน เพราะไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะทำคนเดียว แต่ผู้ต้องหาก็ยืนยันว่าทำคนเดียว เพราะโมโหพ่อ และยืนยันว่าไม่ได้ติดยาเสพติด
โดยหลังจากทำแผนแล้วตำรวจได้รีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับทันที ซึ่งก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ไอเอ็นเอ็น และ มติชน-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1385716181&grpid=&catid=19&subcatid=1905-
sithiphong:
โคตรคนกลโกงในงานวัด : รู้ไว้ใช่ว่า/ไก่ อำนาจ
โดย อำนาจ เกิดเทพ 6 ธันวาคม 2556 13:35 น.
-http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000150880-
ทุกครั้งที่เห็น "ชิงช้าสวรรค์" ที่ประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสีหมุนวนอยู่เมื่อไหร่ ผมเชื่อว่าหลายๆ คนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อายุ 30 ปีขึ้นไปคงจะฮัมท่อนฮุคของเพลงที่มีชื่อว่า "งานวัด" ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
...เพลิดเพลินเคยเดินด้วยกัน แทะไหมฝันดูรถไต่ถัง
หยอกเย้าบนชิงช้าสวรรค์ ถ่ายรูปคู่กันกินขนมจีนข้างทาง
เจาะรั้วปีนต้นไม้ แอบฟังลูกทุ่งวงดังดูหนังขายยา...
พร้อมๆ กันนั้นในจินตนาการก็ให้นึกไปถึงสถานที่ที่ตกแต่งด้วยธงราวสีสันสดใส, แสงไฟประดับประดาหลากสีหลายสัน และภาพบรรยากาศแห่งความสุขของผู้คนทั้งลูกเล็กเด็กแดง คนหนุ่มคนสาว ผู้เฒ่าผู้แก่ที่จูงมือกันไปสนุกกับกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชิงช้าสวรรค์, ม้าหมุน, สาวน้อยตกน้ำ, เมียงู, มอเตอร์ไซค์ไต่ถัง, ปาเป้า, ปาลูกโป่ง, ปืนลม, รถไฟเด็ก, รถบั๊มพ์, สไลเดอร์, บ้านลม, ตักปลา, ทาสีตุ๊กตา, โยนห่วง, ปากระป๋อง, กงล้อนำโชค, ตะกร้อลอดห่วง, ประกวดร้องเพลง, ชกมวย ฯ
ตลอดจนความบันเทิงจากหนังกลางแปลง, ลิเก, ลำตัด, อีแซว, โนราห์ ฯ รวมไปถึงความอร่อยเพลิดเพลินไปกับอาหารขนมผลไม้อีกเพียบ ทั้ง ก๋วยเตี๋ยว, ขนมจีน, หอยทอด, ข้าวโพดคั่ว, ขนมโป๊งเหน่ง (ลูกตุ้ม, ตุ้มเม้ง), น้ำตาลปั้นรูปร่างสารพัดสัตว์, ถั่วแระ, อ้อยควั่น, ข้าวเกรียบว่าว, ขนมปังที่เอามาร้อยเป็นสร้อยคอ, น้ำหวาน-น้ำผลไม้สีฉูดฉาดบาดตา, ถังแตก, บ้าบิ่น, ลูกชิ้นปิ้ง, ไส้กรอก ฯ
จะเรียกว่าเป็นเฟสติวัลแห่งความสุขในรูปแบบไทยๆ อย่างแท้จริงก็คงจะไม่ผิดมากนัก
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันรูปแบบของการจัดงานแบบที่เรียกกันว่างานวัดทั้งที่ในวัดเองหรือไม่ใช่ในบริเวณวัดจะยังคงมีให้เที่ยวกันอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นในต่างจังหวัดรวมถึงงานวัดใหญ่ๆ ที่ขึ้นชื่อในกรุงเทพ ทั้งที่ ภูเขาทอง, วัดอินทร์, วัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย ฯ แต่กระนั้นก็ดูเหมือนจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่พอสมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่การเข้ามาของบรรดานายหน้าเอเยนซี่รับจัดงานให้ทั้งหลาย
งานวัดหลายที่เน้นขายของกินของใช้กันเสียจนแทบจะแยกกันไม่ออกเลยทีเดียวว่าตกลงนี่มันงานวัดหรือว่า "ตลาดนัด" กันแน่
พอเข้าใจอยู่ครับในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง ที่ย่อมจะต้องเป็นไปตามสภาพของสังคมและกาลเวลาที่ผันแปร แต่กระนั้นที่รับไม่ได้ก็คือในระยะหลังๆ นั้นดูเหมือนว่าคำว่า "งานวัด" เองจะกลายเป็นพื้นที่และช่วงโอกาสทองที่พ่อค้า-แม่ค้าบางส่วนจะตั้งใจมาเอากำไรเอาเอาเปรียบคนมาเที่ยวงานไปแล้ว
ขนมจีนกระดาษทิชชู่ (อันนี้่เคยเจอกับตัว), อาหารที่เติมผงชูรสชนิดที่ว่ากินเข้าไปแล้วปากเจ่อ, ขนมสีฉูดฉาดที่ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้สีที่เป็นอันตรายหรือไม่ แถมบางเจ้าก็อัดสารกันบูด-กันเน่าเข้าไปเพราะหวังจะให้ของอยู่นานๆ อีกต่างหาก
รวมไปถึงกิจกรรมการละเล่นต่างๆ ที่สังเกตให้ดีนะครับว่าไม่ว่าจะงานวัดไหนพวกนี้ก็จะซ้ำหน้าและคล้ายๆ กันตลอด
จริงๆ การที่หลายคนที่ไปเที่ยวงานวัดแล้วเข้าไปเล่นกิจกรรมในส่วนต่างๆ อย่างพวกที่โฆษณาว่าเป็นเมียงูครับเมียงู, บ้านผี, สัตว์แปลกๆ หาดูยาก พวกนี้ต่างก็รู้อยู่แล้วว่าเข้าไปแล้วจะเจอะเจอกับอะไร หรือจะเป็นเกมที่ของรางวัลล่อตาใจ ทั้ง ตุ๊กตา นาฬิกา เหล้า ฯ นั้นต่างก็ไม่ได้หมายหมั้นปั้นมือถึงขนาดที่ว่าจะไปตามล่าเอาของรางวัลนั้นๆ แบบเอาจริง เอาจังอะไรหรอกครับ
ส่วนมากที่เห็นก็เพราะนึกสนุก ได้ไม่ได้ก็ช่างมัน
เช่น ปาลูกโป่ง แม่ค้าพ่อค้าก็จะใช้เทคนิก ทำลูกดอกแบบพิเศษ แบบไม่มีน้ำหนักบ้าง, ตูดหนักกว่าด้านปลายแหลม ขณะที่ลูกโป่งก็อัดลมไม่ให้ตึง การปาให้แตกนั้นจะยากอยู่พอสมควร (กรณีนี้ถ้าใครอยากปาได้ของรางวัลแนะนำว่าให้เลือกลูกดอกดีๆ หรือจะลงทุนพกเอาลูกดอกไปเองก็ได้ถ้าร้านเขาอนุญาตนะ 555)
กิจกรรมทื่ต้องใช้ "ปืน" ชนิดต่างๆ เป็นอุปกรณ์ อันนี้ส่วนใหญ่ทางร้านจะมีการปรับแต่งความแรงของมันไว้แล้ว หรือถ้าต้องยิงตัวตุ๊กตา ตัวตุ๊กตาเองจะมีการถ่วงน้ำหนักเอาไว้ไม่ก็วางจนเบียดกัน ต่อให้ยิงโดนมันก็จะไม่ตก
เช่นเดียวกับการปาลูกเทนนิสใส่กระป๋องที่ก็จะมีการถ่วงน้ำหนักบางกระป๋องเอาไว้ ถึงปาตกมันก็ยังตั้งอยู่ได้
โยนห่วงคล้องคอขวด คล้องซองบุหรี่ โยนบอลชิ่งผนัง ฯ พวกนี้นอกจากจะต้องสู้กับเทคนิกของอุปกรณ์แล้ว ฝีมือกับดวงก็มีส่วนพอสมควร
ส่วนประเภทที่เป็นการเสี่ยงโชคที่นับวันต้องบอกว่าจะดูโจ๋งครึ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งทำให้งานวัดไม่ต่างอะไรไปจากบ่อนหรือคาสิโนเคลื่อนที่ไปแล้ว ทั้ง บิงโก, หนูลงรู, ทายเลขจากการหมุนเหรียญ 3 - 8 , วัดดวงจากการหมุนวงล้อ, แทงสูง - ต่ำ, น้ำเต้า-ปู-ปลา, ปั่นแปะ ฯ พวกนี้ขอแนะนำว่าอย่าเข้าไปยุ่งเป็นอันขาดครับ เพราะนอกจากจะมีวิธีการโกงที่แยบยลแล้ว พวกนี้ยังมี "หน้าม้า" ที่พร้อมจะกลายเป็นนักเลงหิ้วเราออกมาได้ตลอดเวลา
แต่รู้ทั้งรู้ว่ากระนั้นหลายคนก็เล่นนะครับ เพราะอย่างที่บอกครับคือเอาสนุก เอาบรรยากาศ และที่สำคัญแต่ละเกมค่าใช้จ่ายไม่ได้สูงอะไรมากมาย
5 บาทมั้ง 10 บาทมั่ง 20 บาทมั่ง
ทว่ากับล่าสุดที่เจอมาด้วยตนเองในงานวัดหน้าซอยวัดดาวฯ เชิงสะพานพระปิ่นเกล้าฯ ที่จะมีในวันที่ 3 - 4 - 5 ธันวาคม ของทุกๆ ปีนั้นต้องบอกว่าเกินไป
เกมที่ว่าก็คือยิงหนังสติ๊กให้ซองสี(บางร้านอาจจะเป็นซองบุหรี่)ที่ตั้งอยู่บนกระป๋องตกโดยที่กระป๋องไม่ล้ม ซึ่งบนป้ายภายในร้านนั้นเขียนระบุรายละเอียดแบบบรรทัดต่อบรรทัดว่า...
อ่านก่อนยิง 20 บาท
1 ลูกยิงซอง
สีให้ตกจากกระป๋อง
กระป๋องห้ามตก
ตก 1 ซองรับทันที
ตุ๊กตา 2 ตัว
หรือเหล้า 1 กลม
พัดลม หม้อหุงข้าว
เครื่องใช้ไฟฟ้า...
ขณะที่หน้าร้านมีถาดเล็กๆ ใส่ลูกกระสุนไว้ถาดละ 5 ลูกพร้อมหนังสติ๊กวางเรียงรายกันอยู่เป็นชุดๆ
อันที่จริงๆ ก็รู้อยู่แหละครับว่าโอกาสที่จะเล่นตามกติกาเพื่อให้ได้มารางวัลนั้นเป็นไปได้ยากหรือเแทบจะป็นไปไม่ได้เลย เนื่องเพราะซองสีนั้นมีการถ่วงน้ำหนักเอาไว้ให้มีน้ำหนักที่มากกว่าน้ำหนักกระป๋อง ต่อให้มีฝีมือหรือว่าฟลุคยิงถูกเฉพาะซองบุหรี่กระป๋องก็จะล้มอยู่ดี
แต่ด้วยความที่เด็กๆ เคยเข้าใจว่าตัวเองก็เซียนหนังกะติ๊กคนหนึ่งผมก็เลยอยากลองเล่นขำๆ
"ชุดละ 20 บาทนะเจ๊ๆ" ผมถามย้ำเพราะกลัวว่าจะมีการหมกเม็ดซ่อนเงื่อนเล่นคำระหว่างบรรทัดบนป้ายที่เขียนไว้หรือไม่?
"ค่ะ กติกาตามป้ายเลยค่ะ"
เพื่อความชัวร์ผมก็เลยควักเงินจ่ายไปก่อนเลย 20 บาท ยิงไปลูกแรก คว้าลูกที่ 2 ขึ้นมายิงก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะว่าอะไร ก็เลยยิงไปจนหมดถาด โดยมีน้องที่ไปด้วยนึกสนุกขอลองเล่นบ้าง
ยิงเสร็จน้องคนที่ว่าก็ควักแบงค์ 20 จ่ายให้ไป พร้อมกำลังจะเดินออก เสียงพนักงานก็บอกว่า ยังขาดอีก 160 บาท
...เอาแล้วไง... ผมนึกใจใน
"ลูกละ 20 บาทถาดละ 100" คราวนี้พนักงานบอกชัดถ้อยชัดคำ พร้อมกับบอกว่าป้ายก็เขียนบอกไว้แล้ว
จริงครับ จริงตามที่พนักงานบอก ป้ายเขียนระบุบอกไว้จริงๆ ด้วยว่า "1 ลูก 20 บาท 1 ถาด 100"
แต่ไอ้บรรทัดสุดท้ายนั้นนอกจากตัวจะเล็กกว่าชาวบ้านแล้วมันยังมีของวางอยู่เต็มไปหมดเลย จะเห็นบรรทัดสุดท้ายจริงๆ ก็ต้องเอาของออกหรือไม่ก็ต้องเดินอ้อมไปดูข้างๆ ตามภาพที่ถ่ายมาให้ดูกัน (ส่วนป้ายที่ติดหน้าร้านบรรทัดสุดท้ายก็มองไม่เห็นเช่นกัน)
นอกจากจะไม่บอกให้ชัดๆ ในร้านยังมีหน้าม้าคอยทำให้เราเขวอีก
"ยิงเลยน้อย 20 เอง...เสียดายอะไร....มาเที่ยวทั้งที...เนี่ยพี่ได้มาแล้ว 2 ขวด" หน้าม้าที่เป็นคนว่าพลางคว้าหนังสติ๊กยิงอย่างเพลิดเพลิน แถมยังยิงตกให้เราเห็นเสียอีก (ซึ่งก็คงจะเป็นอีกหนึ่งเทคนิกในการล่อลูกค้าอีกนั่นแหละ)
สังเกตดูมีคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อเกือบจะทุกคนเลยครับ แล้วแต่ละคนนั้นต่างก็โดนกันไม่ใช่น้อยๆ 300 บ้าง 400 บ้าง 500 บ้าง
บางคนอาจจะมองว่าไม่ได้เยอะอะไร ก็ต้องเข้าใจนะครับว่าสำหรับคนที่มาเที่ยวงานวัดนั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไปหาใช่เศรษฐีมีเงินถุงเงินถังซะที่ไหน
ที่สำคัญยิ่งกว่าพวกพ่อค้าแม่ค้าเห็นแก่ได้หากินที่นึงเสร็จก็ย้ายไปอีกที่หนึ่งพวกนี้แหละครับนับวันดูเหมือนจะยิ่งระบาดและทำลายความสนุกสนานความรื่นเริงของบรรยากาศแบบงานวัดมากยิ่งขึ้นไปทุกทีๆ
คงเป็นเรื่องยากครับที่จะเอาผิดหรือจะหวังว่าอาจจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสักหน่วยงานนึงเข้ามาดูแลตรวจสอบพวกที่ทำมาหากินแบบนี้
เอาเป็นว่า ถ้าใครเจอร้านนี้ที่ไหน ช่วยทำหนังสติ๊กสะบัดลูกกระสุนใส่พวกมันสักคนละลูกสองลูกก็จะขอบพระคุณอย่างยิ่งเลยครับ
แค้นนะเฟ้ย...สาดดดดด
ใครจะไปมองเห็น
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000150880
sithiphong:
ความปลอดภัยของลูกค้าในการใช้บริการที่เทสโก้โลตัส
-http://www.tairomdham.net/index.php/topic,7659.0.html-
ความปลอดภัยของลูกค้าในการใช้บริการที่เทสโก้โลตัส
-http://board.palungjit.com/f179/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้-22445-2561.html-
เนื่องด้วยในวันที่ 13 เมษายน 2555 ผมได้ไปซื้อของที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขาบางปะกอก ผมซื้อสินค้าไปหลายอย่าง พอกลับมาถึงบ้าน ก็ได้ช่วยกันนำของที่ซื้อมา ไปใส่ไว้ในตู้เก็บสินค้า(ที่ซื้อมา) ในระหว่างนั้น ภรรยาผมได้หิ้วถุงที่ทางห้างเทสโก้โลตัส ใส่ขวดน้ำปลา 2 ขวด และ ขวดน้ำมันพืชอีก 1 ขวด จากที่จอดรถในบ้าน ไปที่ในครัว ปรากฎว่า ถุงที่ใส่ขวดน้ำปลา 2 ขวด และ ขวดน้ำมันพืชอีก 1 ขวด เกิดขาด ทำให้ขวดน้ำปลาหล่นใส่เท้าภรรยา ทำให้ภรรยาผมปวดมาก ผมก็พาภรรยาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบางกอก 9ฯ คุณหมอก็ได้ยามาทานที่บ้าน พร้อมทั้งทำแผลให้
ขวดน้ำปลาที่ตกใส่เท้า เป็นรอยร้าวที่ก้นขวด ทุกวันนี้ผมยังเก็บขวดน้ำปลาขวดนั้นไว้ เผื่อไว้ในการตรวจสอบว่า การหล่นลงที่เท้านั้น ขนาดทำให้ขวดน้ำปลาร้าวได้ จะทำให้ภรรยาผมปวดได้มากขนาดไหน
ในวันที่ 17 เมษายน 2555 ผมได้มีจดหมายไปถึง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) แจ้งเรื่องความปลอดภัยของลูกค้า และแนะนำในเรื่องของถุงบรรจุสินค้า และ การอบรมพนักงานในเรื่องความสามารถในการรับน้ำหนักของถุงในการบรรจุสินค้า โดยให้ทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) แจ้งในเรื่องดังกล่าวกลับมาให้ผมทราบเป็นรายลักอักษรภายใน 45 วัน
ปรากฎว่า ทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) มิได้ตอบกลับมา ทางผมจึงได้แจ้งไปที่ สคบ.(สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) โดยใช้บันทึกคำร้องทุกข์ของสคบ. แบบ สคบ.(คร.)01 ในวันที่ 18 มิถุนายน 2555
ทางสคบ.ได้มีจดหมายมาถึงผม จดหมายลงวันที่ 26 มิถุนายน 2555 แจ้งให้ทราบว่า ทางสคบ.ได้แจ้งให้ทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) ชี้แจงข้อเท็จจริง เมื่อได้ผลเป็นประการใด จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
หลังจากนั้นผมได้รับแจ้งจากทางสคบ.โดยมีจดหมายมาหาผม จดหมายลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 ว่า ทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) ได้ชี้แจงมาให้ทางสคบ.ทราบในข้อเท็จจริงแล้ว และทางสคบ.ให้แจ้งผลว่า ผมจะมีข้อโต้แย้งหรือไม่ หากมีข้อโต้แย้ง ให้โต้แย้งภายใน 15 วัน นับแต่ได้รับหนังสือฉบับนี้
รายละเอียดที่ทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) แจ้งมาก็คือ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) ดังนี้
1.ทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) ได้แจ้งว่า มีนโยบายในการรับผิดชอบต่อลูกค้าและให้ความช่วยเหลือลูกค้าในกรณีได้รับอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับบริษัทฯ และทางเทสโก้โลตัสได้ส่งหนังสือแสดงความห่วงใยไปยังผู้ร้อง(คือผม) แล้วเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555
2.ได้มีการทำสอบคุณภาพของถงพลาสติคว่า สามารถใส่ของได้ 6 - 10 กิโลกรัม แต่ในทางปฎิบัติทางบริษัทฯ จะอบรมพนักงานให้ซ้อนถุง 2 ใบ หากพิจารณาเห็นว่า น้ำหนักและประเภทสินค้าทำให้ถุงฉีกขาดง่าย หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ของผู้ร้อง(คือผม) ทางบริษัทฯได้รับปรุงคุณภาพของถุงพลาสดิคขึ้นมาอีก 2 รุ่น และเริ่มใช้ในบางสาขาแล้ว
3.บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) แสดงความเสียใจในเหตุที่เกิดขึ้น
จากคำชี้แจงของบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด(เป็นสำนักงานใหญ่ของเทสโก้โลตัส) ทำให้ผมมีจดหมายไปที่ สคบ.อีกครั้งในวันที่ 18 มิถุนายน 2555 โดยแจ้งว่า
เดี๋ยวมาต่อตอนค่ำครับ
บัดนี้ข้าพเจ้า ยังมิได้รับเอกสารในการชี้แจงในเรื่องของความปลอดภัยของลูกค้า จากบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้โลตัส)เลย ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้โลตัส)มิได้ใส่ใจในเรื่องดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงขอให้ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวให้ด้วย เพื่อมิให้ผู้บริโภค(ลูกค้าของบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้โลตัส)ท่านอื่นๆ) ประสบกับอุบัติเหตุเช่นนี้
และทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้โลตัส) ควรมีความใส่ใจกับผู้บริโภคให้มากกว่านี้ เพราะหากว่า ผู้บริโภคท่านอื่นอาจจะมิได้มีการทำประกันอุบัติเหตุ ก็อาจจะต้องเสียเงินในการเดินทางและค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่ควรต้องเสียไป ที่สำคัญไม่ควรต้องเจ็บตัวในเหตุที่สามารถป้องกันได้หากบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้โลตัส) มีความรอบคอบ , มีความใส่ใจในการให้บริการมากกว่านี้ครับ พร้อมนี้ข้าพเจ้าส่งเอกสารต่างๆที่ข้าพเจ้าได้ส่งไปที่บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้โลตัส) โดยผู้จัดการของเทสโก้โลตัส สาขาบางปะกอก เป็นผู้ที่รับเรื่องไว้เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2555
ส่วนการบาดเจ็บของภรรยาของข้าพเจ้า ทางภรรยาของข้าพเจ้าและข้าพเจ้ามิได้ติดใจในการเรียกร้องในค่าเสียหายต่างๆจากทางบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้โลตัส) แต่ต้องการให้บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้โลตัส) มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคมในเรื่องของถุงบรรจุสินค้าให้มีความทนทานมากกว่านี้ และการจัดอบรมพนักงานในเรื่องของการรับน้ำหนักของถุงบรรจุสินค้าและอื่นๆที่เกี่ยวข้องครับ
sithiphong:
วิสัยทัศน์ พันธกิจของ สคบ.
วิสัยทัศน์ (VISION)
เป็นองค์กรกลางในการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างทั่วถึง เป็นธรรม สร้างความเข้มแข็งให้ผู้บริโภคอย่างยั่งยืน
พันธกิจ
1. บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค
2. พัฒนากฎหมายและนโยบายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้ทันต่อเหตุการณ์
3. สร้างเครือข่ายผู้บริโภคและประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
4. เผยแพร่ความรู้เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ผู้บริโภครู้จักปกป้องและรักษาสิทธิของตนเอง
ยุทธศาสตร์ การทำงานของ สคบ.
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1. การกำกับดูแลด้านนโยบายและการบริหารจัดการองค์กร
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2. การบูรณาการด้านการคุ้มครองผู้บริโภค
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3. การพัฒนาการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและคุณภาพการให้บริการ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4. การพัฒนาศักยภาพผู้บริโภคให้เกิดความตระหนักในการปกป้องสิทธิของตนเอง
เป้าประสงค์
1. กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงไปสู่แผนการปฏิบัติงานแบบมุ่งเน้นผลงาน
2. กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคมีประสิทธิภาพ
3. การบริหารจัดการองค์กรมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
4. เทคโนโลยีสารสนเทศด้านการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคมีความทันสมัย
5. บุคลากรมีความรู้ความสามารถทันต่อเหตุการณ์
6. เครือข่ายการคุ้มครองผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
7. กลไกการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคภายในกรอบอาเซียนมีประสิทธิภาพ
8. รูปแบบการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคและการติดตามประเมินผลมีประสิทธิภาพ
9. ประชาชนมีความพึงพอใจในคุณภาพการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ
10. ประชาชนสามารถรับทราบข่าวสาร และเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
11. มีองค์ความรู้และศึกษาวิจัยด้านการคุ้มครองผู้บริโภคที่หลากหลาย
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ปัจจุบัน
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ได้บัญญัติไว้ในมาตรา20 ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้บริโภค
มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
1. รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ
คุ้มครองผู้บริโภค
2. ติดตามและสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค และจัดให้มีการทดสอบหรือ
พิสูจน์สินค้าหรือบริการใดๆ ตามที่เห็นสมควรและจำเป็นเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค
3. สนับสนุนหรือทำการศึกษาและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการคุ้มครองของผู้บริโภคร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานอื่น
4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการศึกษาแก่ผู้บริโภคในทุกระดับการศึกษาที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและอันตรายที่อาจได้รับ จากสินค้าหรือบริการ
5. ดำเนินการเผยแพร่วิชาการ และให้ความรู้และการศึกษาแก่ผู้บริโภคเพื่อสร้างนิสัยในการบริโภคที่เป็นการส่งเสริมพลานามัย ประหยัดและใช้
ทรัพยากรของชาติให้เป็นประโยชน์มากที่สุด
6. ประสานกับส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมส่งเสริม หรือกำหนดมาตรฐานของสินค้าหรือบริการ
7. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือคณะกรรมการเฉพาะเรื่องมอบหมาย
ภารกิจและอำนาจหน้าที่ของ สคบ.
สคบ. ช่วยเหลือผู้บริโภคได้อย่างไร
รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค
ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาดำเนินการต่อไป ผู้บริโภคทุกท่านที่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือได้รับอันตรายจากสินค้าหรือบริการใด สามารถร้องเรียนมาที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง
ผู้บริโภค ทำเนียบรัฐบาล กทม.10300 โดยการเขียน จดหมาย ส่งตู้ ป.ณ. 99 กรุงเทพฯ 10300 หรือมาด้วยตนเอง หรือโทรศัพท์
สายด่วนร้องทุกข์โทร. 1166การร้องเรียน หรือการช่วยกันสอดส่องและแจ้งมายังสำนักงานฯ นั้นเป็นสิทธิที่ ผู้บริโภคพึง กระทำได้ นอกจากนั้นยังเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้ประกอบธุรกิจได้สำนึกและบรรเทาการเอารัดเอาเปรียบต่อผู้บริโภคได้บ้าง และประการสำคัญก็คือ เป็นการช่วย ให้สำนักงานฯ ทราบปัญหาของผู้บริโภคและดำเนินการช่วยเหลือได้เต็มที่ ซึ่งในการช่วยเหลือผู้บริโภคในด้านนี้ สำนักงานฯ มี สายงานที่รับผิดชอบอยู่โดยตรง คือ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลากและ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา โปรดระลึกอยู่เสมอว่าท่านไม่จำเป็นต้องอดทนต่อความไม่ปลอดภัยหรือการเอารัดเอาเปรียบ จากผู้ประกอบธุรกิจอีกต่อไป ผู้บริโภคทุกท่านมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครอง
ติดตาม และสอดส่องพฤติกรรม
พฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค และจัดให้มี การทดสอบหรือพิสูจน์สินค้า หรือบริการใดๆตามที่เห็นสมควรและจำเป็น เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค ทั้งนี้ เพราะในปัจจุบันมีการเสนอสินค้าหรือบริการต่างๆ ต่อผู้บริโภคเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้วิธีการและเทคนิคใหม่ๆ ในทางการตลาดและทางการโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขาย โดยทั่วไปผู้บริโภคไม่อาจทราบภาวะตลาดและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณภาพและราคา ของสินค้าหรือบริการนั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง สำนักงานฯ จึงต้องมีบทบาทในการติดตามและสอดส่อง พฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจ และดำเนินการทดสอบหรือพิสูจน์ในบางครั้ง เป็นการช่วยเหลือ ผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมตามสมควร
สนับสนุนหรือทำการศึกษาและวิจัยปัญหา
เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานอื่น เพื่อที่จะได้ดำเนินการช่วยเหลือ ผู้บริโภคได้ตรงกับปัญหาและความต้องการ ตัวอย่างในการดำเนินการในข้อที่ผ่านมาได้แก่ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาปราบศัตรูพืชและการสำรวจทัศนคติเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น
ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการศึกษาแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
ในทุกระดับการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและอันตรายที่อาจได้รับจากสินค้าหรือบริการผู้บริโภคควรจะได้ เรียนรู้และเข้าใจปัญหาตลอดจนวิธีการป้องกันหรือหลีกเลี่ยง เพื่อที่จะได้สามารถคุ้มครองตนเองในเบื้องต้นก่อนนอกเหนือจากความช่วยเหลือจากรัฐบาลการส่งเสริมและการสนับสนุนให้มีการศึกษาแก่ผู้บริโภคในทุกระดับจึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญ อันหนึ่งของสำนักงานฯ
ดำเนินการเผยแพร่วิชาการ
ให้ความรู้และการศึกษาแก่ผู้บริโภค เพื่อสร้างนิสัยในการบริโภคที่เป็นการส่งเสริมพลานามัย ประหยัด และใช้ทรัพยากร ของชาติให้เป็นประโยชน์มากที่สุด โดยสำนักงานฯ มีสายงานที่ทำหน้าที่รับผิดชอบงานด้านนี้โดยตรงคือ กองเผยแพร่และ ประชาสัมพันธ์ ดำเนินการเผยแพร่ความรู้ ทางวิชาการ
ในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ทั้งทางหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ อยู่เป็นประจำ นอกจากนั้นยังมีเอกสาร บทความ ข่าวสาร จากสำนักงานฯ แจกฟรีแก่ผู้สนใจอีกด้วยเป็นการส่งเสริม ให้ผู้บริโภคมีความรู้พื้นฐานในด้านต่างๆ อย่างกว้างๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวันการเผยแพร่ความรู้ของสำนักงานฯ นั้นส่วนใหญ่จะเสนอสาระประโยชน์ด้วยถ้อยคำและภาษาที่เข้าใจง่ายแต่แฝง ความรู้ทางวิชาการไว้
ประสานงานกับส่วนงานราชการ
หน่วยงานอื่นของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมส่งเสริม หรือกำหนดมาตรฐานของสินค้าหรือบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค สคบ. มีสายงานรับผิดชอบในด้านนี้คือ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลากและกองคุ้มครอง ผู้บริโภคด้านสัญญา ทำงานประสานงานกับส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย และเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าหรือบริการ ดังนี้
- สินค้าที่เป็นอันตราย เช่น อาหารผสมสีย้อมผ้า อาหารไม่บริสุทธิ์
- สินค้าที่ไม่ปลอดภัย เช่น พืชผลไม้ซึ่งมียาป้องกันกำจัดศัตรูพืชตกค้างอยู่ จะประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามที่เห็นสมควร
- สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน เช่น น้ำมันปลอมปน สินค้าเลียนแบบ
- สินค้าที่ไม่เป็นธรรม เช่น ขายสินค้าเกินราคา สินค้าที่มีปริมาณไม่ตรงตามมาตราชั่ง ตวง วัด จะประสานงานกับกรม การค้าภายในกรมทะเบียน
การค้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจออกดำเนินการตรวจสอบ จับกุมและดำเนินคดี
- บริการที่เอาเปรียบผู้บริโภค สินค้าหรือบริการที่โฆษณาเป็นเท็จหรือเกินความเป็นจริง สินค้าที่แสดงฉลาก หลอกลวงคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจะกำหนดมาตรการในการดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการเหล่านี้ด้วยและสำนักงานฯ ก็มีหน้าที่ติดตามสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจ เหล่านั้นอยู่เสมอ
ปฏิบัติงานอื่นๆตามที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการเฉพาะเรื่องมอบหมาย
ที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือการแจ้งหรือโฆษณาข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่อาจก่อให้เกิด ความเสียหายหรือเสื่อมเสียแก่สิทธิของผู้บริโภค โดยอาจระบุชื่อสินค้าหรือบริการหรือชื่อของผู้ประกอบธุรกิจด้วยก็ได้ นอกจากนั้นยังมีการประสานงานเร่งรัดพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการหรือ หน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ ให้ปฏิบัติการตามอำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด หรือกล่าวง่ายๆ คือ เป็นตัวแทนของผู้บริโภค คอยประสานงานเร่งรัดให้หน่วยงานซึ่งรับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ ดำเนินการ เพื่อคุ้มครองประโยชน์สุขของผู้บริโภค ประการสุดท้ายที่สำคัญคือสำนักงานฯ ยังมีกองนิติการซึ่งรับผิดชอบใน ด้านกฎหมายสามารถจะดำเนินการคดีเพ่งและคดีอาญาแก่ผู้กระทำการละเมิดสิทธิของ ผู้บริโภคในศาลตามที่คณะกรรมการ มอบหมายและฟ้องเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายให้แก่ผู้บริโภคที่ร้องขอได้ด้วย
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version