ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง

<< < (46/48) > >>

sithiphong:
ต้องจับให้หมดทุกคน  สำหรับพวกเด็กระยำที่อยู่ที่เกิดเหตุ

ที่ดีที่สุด ต้องจับตายให้หมด

พวกนี้  อยู่ไปรกแผ่นดิน


แถม ครอบครัว วงศ์ตระกูล  ไม่ได้อบรมสั่งสอนอีก


----------------------------------------------

รวบคนร้ายรุมกระทืบตำรวจได้แล้ว แม่อาสาพาไปจับเอง

-http://hilight.kapook.com/view/118920-


 รวบคนร้ายรุมกระทืบตำรวจได้แล้ว แม่อาสาพาไปจับเอง เหตุกลัวว่าลูกถูกจับตาย หลังหลบหนีมาที่ปราจีนบุรี

              เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2558 มีรายงานว่า พล.ต.ต. ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยตำรวจจาก สภ.พนมสารคาม  ได้ร่วมกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมัน รุ่งพิทักษ์ หลังจากที่เกิดเหตุเด็กวัยรุ่นรุมทำร้าย พ.ต.ท. กฤษณ์ บุญเรืองคณาภรณ์ สวป.พนมสารคาม  จนได้รับบาดเจ็บสาหัส





ทั้งนี้ พ.ต.ท. กฤษณ์ บุญเรืองคณาภรณ์ ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวไปตรวจที่บ้านพักของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ จากนั้นเจอกลุ่มเด็กแว้นรวมตัวกันที่ปั๊มน้ำมันเพื่อนำรถไปแข่ง พ.ต.ท. กฤษณ์ จึงเข้าไปคุยกับเด็กแว้นได้ระยะหนึ่ง และจะเข้ายึดรถจักรยานยนต์ 2 คันของเด็กแว้น จนทำให้มีวัยรุ่นชายร่างสูงใหญ่ ผมยาว สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ อ้อมมาด้านหลัง พ.ต.ท. กฤษณ์ จากนั้นจึงชกเข้ากกหู แล้วก็จับ พ.ต.ท. กฤษณ์ กดลงกับพื้นแล้วใช้เท้ารุมเตะเข้าใบหน้า จน พ.ต.ท. กฤษณ์ สลบคาที่ ก่อนที่กลุ่มเด็กแว้นจะเอารถจักรยานยนต์ที่ยึดไว้ ขับรถหนีไปตาม ถนนทางหลวงสาย 304 มุ่งหน้า ขาเข้าจาก อ.กบินทบุรี เข้าฉะเชิงเทรา

             ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2558 พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาเพื่อเยี่ยม พันตำรวจโทกฤษณ์ บุญเรืองคณาภรณ์ สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่โรงพยาบาลตำรวจ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ห้อง 606 หลังจากที่ พ.ต.ท. กฤษณ์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ใบหน้าด้านขวายังบวม กระดูกเบ้าตา กระดูกโหนกแก้มขวาแตก เอกซเรย์สมองไม่มีเลือดคั่ง แต่ยังต้องมีการเช็กประสาทตาอีกครั้ง

             ด้านพลตำรวจเอกสมยศ ได้มอบกระเช้าดอกไม้ เงินกองทุนสวัสดิการตำรวจ และเงินสดส่วนตัวให้กับ พันตำรวจโท กฤษณ์  พร้อมระบุว่า ตำรวจรู้ตัวกลุ่มผู้ต้องหาแล้ว พบว่ามีประวัติยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มวัยรุ่นน่าจะซ่อนยาเสพติดและอาวุธเอาไว้ในรถจักรยานยนต์ ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ขอให้ผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุ นำบุตรหลานมามอบตัวกับตำรวจ หากมั่นใจว่าบุตรหลานของท่านไม่ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่

             นอกจากนี้ พันตำรวจโทกฤษณ์ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้รับแจ้งว่าจะมีวัยรุ่นมารวมตัวกันแข่งรถจักรยานยนต์ประมาณ 100 คัน ตนจึงมาตรวจสอบและยึดรถได้ 2 คัน และได้ประสานขอกำลังเสริม แต่กลับมีวัยรุ่นมาทำร้ายตนจากด้านหลัง

             ล่าสุด ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.อ. อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. เปิดเผยว่า สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว ทราบชื่อคือ นายคมสัน จันทร์ศรี วัย 28 ปี

             ต่อมา พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช. เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของมารดา โดยตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านหลังนี้ไปแล้ว แต่ไม่พบตัว ส่วนทางมารดาเกรงว่า บุตรชายจะถูกจับตาย จึงอาสานำตำรวจไปจับกุมตัวที่ป่าละเมาะใกล้เคียง จนจับกุมตัวได้ในที่สุด








https://www.youtube.com/watch?v=WgaWfHnQlZY
-https://www.youtube.com/watch?v=WgaWfHnQlZY-


ภาพจาก คุณ kentaronobita สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, ทวิตเตอร์ @Nalinee_PLE

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://dailynews.co.th/Content/regional/314021/%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%9A+%E0%B8%9E.%E0%B8%95.%E0%B8%97.+%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA-

-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1428825766-

หมายเหตุ อัพเดทข้อมูลล่าสุด วันที่ 12 เมษายน 2558 เวลา 20.17 น.

sithiphong:
สายด่วนช่วยผู้ป่วย 1669 เซ็ง เจอเซ็กส์โฟนใส่เพียบ ชี้ตัดโอกาสช่วยเหลือผู้ป่วยวิกฤต

-http://hilight.kapook.com/view/118921-

   สายด่วนช่วยเหลือผู้ป่วย 1669 เจอเซ็กส์โฟนใส่เพียบ วอนเห็นใจอย่าโทรแกล้ง ชี้อาจตัดโอกาสนาทีชีวิตช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

             วันนี้ (12 เมษายน 2558) นายแพทย์สมศักดิ์  ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงสงกรานต์ทางทีมแพทย์เตรียมพร้อมให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจัดทีมหมุนเวียนวันละ 3 ทีม เพื่อรองรับเหตุด่วนที่ประชาชนจะโทรมาขอความช่วยเหลือผ่านฮอตไลน์ 1669
 
             นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า แต่มีประเด็นที่น่ากังวล 2 เรื่อง คือ มีการใช้สายด่วน 1669 ในทางที่ผิด โดยมีสายโทรมาก่อกวนมากถึงร้อยละ 50 ของสายที่โทรเข้าทั้งหมด ส่วนใหญ่คนโทรมักจะเป็นผู้ชาย โทรมาตอนกลางคืน และหากได้ยินเสียงผู้หญิงรับสาร ก็มักจะถูกลวนลามทางคำพูด หรือ เซ็กส์โฟน แถมยังโทรซ้ำ ๆ กันเฉลี่ยวันละ 5-6 ครั้งด้วย ส่วนตอนกลางวันจะเป็นเด็กโทรมาป่วน อาจะเป็นเพราะช่วงนี้เด็กปิดเทอม

             อย่างไรก็ตาม นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวเตือนว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เนื่องจากสายด่วนกู้ชีพนั้น มีไว้เพื่อให้ประชาชนโทรแจ้งขอความช่วยเหลือในยามคับขัน ถือว่าเป็นนาทีวิกฤตของชีวิตเลยก็ว่าได้ การที่โทรก่อกวนนั้น อาจจะทำให้ผู้จำเป็นต้องใช้จริง ๆ พลาดโอกาสการรอดชีวิต





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://dailynews.co.th/Content/regional/314026/%E0%B8%AA%E0%B8%98.%E0%B9%82%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99+1669-

sithiphong:



เซียนพระหนุ่ม เลือดร้อนทำร้ายคนแก่มอบตัวแล้ว

-http://hilight.kapook.com/view/118991-



จ๊อด ระยอง เซียนพระหนุ่ม เข้ามอบตัวแล้ว สารภาพเป็นหนุ่มเลือดร้อน ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายชายชราเมาสุราในคลิป

           จากกรณีที่มีการแห่แชร์คลิปวิดีโอที่มีชื่อว่า "นักเลงโต" เผยให้เห็นภาพชายหนุ่มเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยู ก่อเหตุทำร้ายร่างกายชายชราที่อยู่ในอาการมึนเมาเดินข้ามถนนล้มลง บริเวณตลาดสตาร์ จ.ระยอง ด้วยการเตะเข้าที่ใบหน้าซ้ำหลายครั้ง และจะลงมาเอาเรื่องต่อผู้ที่เข้าห้ามปราม จนถูกชาวเน็ตประณามการกระทำดังกล่าวอย่างหนักนั้น

           ล่าสุด วันที่ 14 เมษายน 2558 นายสิทธิชัย สาระธณะ หรือ จ๊อด ระยอง เซียนพระชื่อดัง ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและยอมรับว่าตนเองเป็นชายที่อยู่ในคลิปทำร้ายร่างกายชายชราเอง โดยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า วันเกิดเหตุชายชราอยู่ในอาการมึนเมาและยืนขวางหน้ารถ ตนจึงบีบแตรไล่แต่ชายคนดังกล่าวกลับทำท่าจะใช้มือทุบรถ จึงบันดาลโทสะลงไปทำร้ายร่างกายดังที่ปรากฎในคลิป อย่างไรก็ตามขอยอมรับผิดและขอโทษคู่กรณีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=O-dhfVfLqUE
-https://www.youtube.com/watch?v=O-dhfVfLqUE-

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.naewna.com/local/153752-



sithiphong:
ลูกค้าแฉ!! ร้านอาหารกระบี่ขายเกินราคา เตือนนักท่องเที่ยวอย่าได้หลงเข้าไปเด็ดขาด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

15 เมษายน 2558 15:51 น. (แก้ไขล่าสุด 15 เมษายน 2558 16:14 น.)

-http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000043379-




กระบี่ - โผล่อีกแล้ว!! ลูกค้าแฉในเว็บไซต์ดังเตือนนักท่องเที่ยว หลังร้านอาหารชื่อดังเมืองกระบี่ เอาเปรียบลูกค้าอย่างหนัก ขายอาหารแพงเกินกว่าราคาที่แจ้งในเมนูทุกรายการ ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างแพร่หลาย ไม่เว้นแม้แต่อดีต ส.ส.ชื่อดังจังหวัดกระบี่ ขณะที่เจ้าของร้านอ้างเป็นราคาเก่ามีการปรับแก้ใหม่แล้วแต่มีคนมาดึงออก ด้านพาณิชย์จังหวัด เตรียมตรวจสอบ หากพบว่าเจตนาเอาเปรียบลูกค้าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
       
       วันนี้ (15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม หลังมีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งโพสต์ภาพร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ พร้อมบิลค่าอาหาร และข้อความในลักษณะเตือนให้นักท่องเที่ยวให้ระมัดระวัง หลังถูกร้านอาหารดังกล่าวคิดค่าอาหารแพงเกินกว่าที่ระบุในเมนู สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เจ้าของกระทู้ระบุว่า “เจอจังจังกับตัวเองเลยครับมื้อกลางวันทาน 6 คน เช็กบิลมา 2,990 บาท ในเมนู ปู ราคา 690 บาท บิลมา 960 บาท หอยแครง 90 บาท บิลมา 200 บาท น้ำแข็งบิลมา 5 ถัง แต่สั่งน้ำอัดลมขวดเล็ก 5 ขวด น้ำเปล่า 1 ขวด (แล้วต้องใช้น้ำแข็งถึง 5 ถังเลยหรอ) แล้วทุกอย่างที่บิลมา 120 บาท ในเมนู 90 บาทครับ
       
       เจ้าของกระทู้รายเดิมระบุอีกว่า เดินไปที่เคาน์เตอร์ไล่ถามตั้งแต่ราคาปู ทางร้านบอก 1.4 โล 5 ตัว (เล็กมาก) แม่เจ้าของเดินมาบอกเดี๋ยวลดให้เป็น 1 โล พี่ผมเลยบอกคุณไม่ต้องลดให้ผม ผมคนมหาชัยปู 1 โล ผมดูเป็น ให้คุณเอาปูไซส์เดิม 5 ตัวไปชั่งกิโลดูได้เท่าไหร่ผมจ่ายเท่านั้น ทีนี้เจ้าของร้านไม่ยอมชั่งแต่แก้บิลให้เลย กุ้งในเมนูเป็นกุ้งแม่น้ำ ออกมาเป็นกุ้งแชบ๊วย คะน้าหมูกรอบ 120 บาท พอถามบอกอันนี้มีหมูกรอบ 120 บาท ถ้าไม่มีเป็นคะน้าผัด 90 บาท ตามเมนู ผมเลยหยิบเมนูมา ในเมนูเขียนว่าคะน้าหมูกรอบผัดน้ำมันหอย 90 บาท เจ้าของร้านเลยบอกว่าอันนี้ราคาเก่า เมนูนี้แปะราคาใหม่ 120 บาทแล้ว แต่มีคนมาดึงออก (ยังแถอยู่) ผมเลยบอกว่าก็คุณเองที่ส่งเมนูนี้ให้ผมสั่ง ทำไมไม่บอกก่อนสั่ง บวกบิลเกินเมนูทุกอย่างเห็นผมเป็นนักท่องเที่ยวใช่มะ สุดท้ายทางร้างลดให้ประมาณ 500 บาท แล้วจะเก็บบิลไปแต่พี่ชายดึงบิลออกมาต้องการโพสต์เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวหลวมตัวเข้าไปเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก (พร้อมระบุชื่อที่ตั้งร้านด้วย)
       
       นอกจากนี้กระทู้ดังกล่าวยังถูกแชร์ต่อไปยังเฟซบุ๊ก จนเกิดกระแสวิจารณ์กันอย่างแพร่หลายทั้งประณาม และมีการแชร์ประสบการณ์กันจำนวนมาก เพื่อต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง เพราะเกรงจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดในภาพรวม เช่น กระบี่เป็นจังหวัดที่อาหารแพงที่สุดในประเทศไทยจริงหรือ? ทำให้นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ส.กระบี่ หลายสมัยต้องเข้ามาตอบคำถามข้างต้นว่า “ที่ถาม...ไม่จริงครับ เฉพาะบางร้านที่เห็นแก่ตัว”
       
       ด้านนายอรุณ ไม้ทิพย์ พาณิชย์จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเข้ามาร้องเรียนต่อทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่หลังจากทราบเรื่องก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างแน่นอน หากพบว่ามีการเจตนาเอาเปรียบผู้บริโภคก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ไม่มีการยกเว้น
       
       ด้านนางนงเยาว์ แซ่แหว อายุ 50 ปี เจ้าของร้านเรือนแพ ได้ชี้แจงว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งกรณีของปูนั้น ลูกค้าได้สั่ง 1 กก. แต่บุตรสาวที่ดูแลร้านได้นำปูมานึ่ง 1.4 กก.ซึ่งมากกว่าที่สั่งก็ได้ลดราคาให้ ส่วนหอยแครง ลูกค้าสั่งมา 2 เมนู แต่ในบิลมี 1 เมนู จึงได้คิดรวมกัน และได้ลดให้เพิ่มเติม ส่วนกรณีที่ราคามากกว่าที่มีในเมนูนั้น เนื่องจากเป็นเมนูเก่า และทางร้านได้ติดราคาใหม่ มีลูกค้าแกะราคาออกทำให้เห็นเมนูเก่า ซึ่งได้แก้ปัญหาสั่งเมนูใหม่ไปก่อนหน้านี้ แต่ติดช่วงสงกรานต์จึงยังไม่ได้เมนูมา อย่างไรก็ตาม ทางร้านก็รับผิดชอบโดยลดราคาให้ และร้านเปิดมานาน 30 ปี ก็ต้องย่อมซื่อสัตย์ต่อลูกค้าจึงขอให้สบายใจได้




sithiphong:
ชาวต่างชาติโพสต์ประจานร้านอาหารไทย เช็กบิล 8 พัน ทิป 800 อายเขาไหม

-http://hilight.kapook.com/view/120471-






  น่าอับอาย ! ร้านอาหารไทยขูดรีดนักท่องเที่ยว จนเขาต้องโพสต์ประจานในเน็ต ไปนั่งกิน 4 คน โดนฟันไปกว่า 8 พัน เจอภาษี 17% แถมบวกค่าทิปอีก 800

            มีเรื่องทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยในชาวเน็ตได้วิจารณ์กันอีกแล้ว เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 คุณ GROSS สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้ตั้งกระทู้ "น่าอับอายในการขายอาหารเกินจริงกับชาวต่างชาติจนเค้าต้องเอามาประจานทางเฟซบุ๊ก" พร้อมแคปข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Connie Ha" ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่โพสต์ประจานร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งใน กทม. หลังคิดค่าอาหารไปกว่า 8 พันบาท

 โดยนักท่องเที่ยวระบุว่า มาทานอาหารที่ร้านนี้กับเพื่อนรวม 4 คน โดยมีคนขับแท็กซี่แนะนำมา บอกว่าอาหารอร่อย เห็นแท็กซี่ท่าทางซื่อ ๆ เลยตัดสินใจมาลองทานอาหารดู และสั่งปู 1 ตัว กุ้งลายเสือ 4 ตัว ปลากระพง 1 ตัว หมึกไข่เค็ม 1 จาน ผักบุ้ง 1 จาน และน้ำชา 1 กา ทั้งหมดนี้ถูกเรียกเก็บเงินในราคา 8,840 บาท

            นอกจากนี้ยังได้มีการโพสต์บิลเงินสดให้ดูเป็นหลักฐานด้วย ซึ่งน่าตกใจที่ราคาอาหารหลายอย่างดูแพงเกินจริงมาก อย่างเช่น ปลากระพง จานละ 1,800 บาท ปู จานละ 1,600 บาท หมึกไข่เค็มจานละ 960 บาท กุ้งลายเสือ จานละ 1,750 บาท ข้าวโถละ 150 แถมยังมีการคิดภาษี 17% รวมค่าอาหารเป็นเงิน 8,039 บาท ยังไม่รวมค่าทิปอีก 800 บาท รวมแล้วนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จ่ายเงินให้กับค่าอาหารมื้อนี้แพงถึง 8,840 บาท

            งานนี้ชาวเน็ตก็เข้ามาคอมเม้นท์กันมากมาย โดยมองว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรจัดการกับร้านอาหารที่ขูดรีดนักท่องเที่ยวแบบนี้เสียที เพราะคิดค่าอาหารเกินจริง รวมทั้งมีการเรียกเก็บภาษีถึง 17% เท่ากับตั้งใจจะโกงนักท่องเที่ยวแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก คุณ GROSS สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version