ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง
sithiphong:
ตำรวจใช้ ตุ๊กตุ๊ก ปิดล้อมเด็กแว้นบนถนนราชวิถี รวบได้ 21 คน
-http://hilight.kapook.com/view/88571-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ตำรวจ สน.พญาไทย ใช้ตุ๊กตุ๊ก ปิดล้อมจับแก๊งเด็กแว้นออกซิ่งบนถนนราชวิถี ได้ 21 คน พร้อมตั้งข้อหาแข่งรถโดยไม่ได้รับอนุญาตและขับขี่โดยประมาท
เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (14 กรกฎาคม 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.พญาไท ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกลุ่มเด็กแว้นที่ออกมารวมตัวเพื่อซิ่งแข่งกันบริเวณแยกตึกชัย ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี โดยใช้รถสามล้อเครื่อง จอดปิดบริเวณแยกทั้ง 4 ด้าน รวมทั้งหมด 8 จุด จนสามารถจับกุมเด็กแว้นได้ทั้งหมด 21 คน โดยแบ่งเป็นชาย 18 คน และหญิง 3 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 8 คน พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ของกลางได้ 47 คัน
โดย พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รอง ผกก.จร.สน.พญาไท เผยว่า ช่วงกลางดึกวันเสาร์ถึงเช้ามืดวันอาทิตย์ มักจะมีกลุ่มเด็กแว้นออกมาปิดถนนบริเวณแยกตึกชัย เพื่อซิ่งรถจักรยานยนต์แข่งกันบนถนนราชวิถีเป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญของประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน จึงทำการวางแผนจับกุมด้วยการนำกำลังมาดักซุ่มตามจุดที่วางแผนไว้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนเศษ
กระทั่งช่วงเวลา 04.00 น. กลุ่มเด็กแว้นก็ขับขี่จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิใช้ถนนราชวิถีมุ่งหน้ามาที่แยกตึกชัย จึงประสานให้รถสามล้อเครื่องทั้งหมดไปจอดปิดทั้ง 4 ด้าน รวมทั้งหมด 8 จุด เมื่อทั้งหมดทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต่างพากันแตกฮือ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมกลุ่มเด็กแว้นเอาไว้ได้ 21 คน ขณะที่บางส่วนทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้และหลบหนีไปได้
ทั้ง เบื้องต้นกลุ่มเด็กแว้นทั้งหมดจะถูกตั้งข้อหาแข่งรถหรือสนับสนุนให้มีการแข่งรถบนถนนหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต และขับขี่รถโดยประมาทโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจปัสสาวะของเด็กแว้นทุกคน หากพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง จะแจ้งข้อหาเสพสารเสพติดและขับรถขณะมึนเมาสารเสพติดเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปลงบันทึกประจำวันและทำประวัติเอาไว้ จากนั้นจะนำตัวส่งฟ้องศาลอาญารัชดา ส่วนกลุ่มเด็กแว้นที่เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปีนั้นจะนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางต่อไป
ปิดกล่องจับเด็กแว้น
คลิป จับเด็กแว้น ราชวิถี โพสต์โดย คุณ Wichai Yuangkeaw สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ปิดกล่องจับเด็กแว้น
-http://www.youtube.com/watch?v=KceCP9azXdM&feature=player_embedded-
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.dailynews.co.th/crime/218950-
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373769755&grpid=03&catid=03&utm_source=MatichonOnline&utm_medium=MatichonOnline-
.
ปิดแยกตึกชัย "ตุ๊กตุ๊ก" ล้อมจับ "เด็กแว้น"
วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2556 เวลา 08:41 น.
-http://www.dailynews.co.th/crime/218950-
140756
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=LKMdrnuyXTk-
สน.พญาไท ใช้รถตุ๊กตุ๊ก 50 คัน ล้อมจับ "เด็กแว้น" แข่ง จยย.ซิ่ง บนถนนราชวิถี ไล่จับเด็กแว้น-สาวสก๊อย ได้กว่า 20 คน และยึดรถของกลางได้อีก 47 คน
วันที่ 14 ก.ค. เวลา 04.00 น. พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รอง ผกก.จร.สน.พญาไท พ.ต.ท.เฉลิมพล เกรียท่าทราย สว.จร.สน.พญาไท พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.พญาไท 30 นาย เข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มเด็กแว้นที่ออกมารวมตัวเพื่อซิ่งแข่งกันบริเวณแยกตึกชัย ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี โดยใช้รถสามล้อเครื่องจำนวน 50 คัน จอดปิดบริเวณแยกทั้ง 4 ด้าน รวมทั้งหมด 8 จุด ผลปรากฏว่าสามารถจับกุมเด็กแว้นได้ทั้งหมด 21 คน แบ่งเป็นชาย 18 คน หญิง 3 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 8 คน สามารถยึดรถจักรยานยนต์ของกลางได้ 47 คัน
พ.ต.ท.จุมพล เปิดเผยว่า ในระยะหลังของช่วงกลางดึกวันเสาร์ต่อเนื่องเช้ามืดวันอาทิตย์ กลุ่มเด็กแว้นจะนำรถจักรยานยนต์ออกมาซิ่งแข่งกันบนถนนราชวิถี มีการปิดถนนบริเวณแยกตึกชัย ซึ่งเป็นท้องที่ของ สน.พญาไท เป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญของประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน จึงทำการวางแผนจับกุมด้วยการใช้กำลังตำรวจจราจรของ สน.พญาไท ดักซุ่มตามจุดที่วางแผนไว้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนเศษกระทั่งช่วงเวลา 04.00 น. กลุ่มเด็กแว้นก็ขับขี่จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิใช้ถนนราชวิถีมุ่งหน้ามาที่แยกตึกชัย จึงประสานให้รถสามล้อเครื่องจำนวน 30 คัน ไปจอดปิดทั้ง 4 ด้าน รวมทั้งหมด 8 จุด เมื่อทั้งหมดทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต่างพากันแตกฮือ เร่งเครื่องขับรถหลบหนีกันอย่างชุลมุน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มเด็กแว้นเอาไว้ได้ 21 คน โดยมีบางส่วนที่ทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้แล้วสามารถหลบหนีไปได้
พ.ต.ท.จุมพล กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาแข่งรถหรือสนับสนุนให้มีการแข่งรถบนถนนหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต และขับขี่รถโดยประมาทและโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นกับกลุ่มเด็กแว้นทั้งหมด นอกจากนี้จะทำการตรวจปัสสาวะของเด็กแว้นทุกคน หากพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง จะแจ้งข้อหาเสพสารเสพติดและขับรถขณะมึนเมาสารเสพติดเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปลงบันทึกประจำวันและทำประวัติเอาไว้ จากนั้นจะนำตัวส่งฟ้องศาลอาญารัชดา ส่วนกลุ่มเด็กแว้นที่เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปีนั้นจะนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางต่อไป
ตร.ใช้แผนตุ๊กๆพิฆาตจับเด็กเแว้น21คนยึดจยย.50คันซิ่งอนุสาวรีย์ชัยฯ
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373769755&grpid=03&catid=03&utm_source=MatichonOnline&utm_medium=MatichonOnline-
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รอง ผกก.จร.สน.พญาไท พ.ต.ท.เฉลิมพล เกรียท่าทราย สว.จร.สน.พญาไท พร้อมตำรวจฝ่ายจราจรและฝ่ายสืบสวน สน.พญาไทกว่า 50 นาย และรถตุ๊กๆประมาณ 50 คัน ทำการปิดล้อมจับกุมกลุ่มเด็กแว๊นแข่งจักรยายนต์บนท้องถนน
โดยทำการปิดล้อมบริเวณถนนแยกตึกชัย หน้าโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ไปจนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ สามารถจับกุมรถจักรยานยนต์ได้ 50 คัน และจับกุมเด็กแว๊นได้ 21 คน แบ่งเป็นชาย 18 คน หญิง 3 คน โดยในจำนวนนั้นเป็นเยาวชน 8 ราย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาและรถจยย.ของกลางมาที่ สน.พญาไท
พ.ต.ท.จุมพล กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนจับกุม โดยใช้แผนตุ๊กๆพิฆาต วางกำลังโดยใช้รถตุ๊กๆกว่า 50 คัน กระจายกำลังซุ่มตามแยกตึกชัย และอนุสาวรีย์ตั่งแต่ 00.00 น. กระทั่งเมื่อเวลา 04.00 น.พบกลุ่มเด็กแว้นขี่จักรยานยนต์รวมตัวกันมาประมาณ 80 คัน วิ่งจากย่านดินแดง ผ่านอนุสาวรีย์ชัย มุ่งหน้าแยกตึกชัย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวใช้รถตุ๊กๆปิดหัวปิดท้ายถนน กลุ่มผู้ต้องหาบางส่วนขับหนีไปได้ บางส่วนทิ้งรถไว้และปีนรั้วโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าและซอยใกล้เคียงหลบหนีไปได้
sithiphong:
แอร์ฯสาววัย 23 ปี ถูกไฟช็อตเสียชีวิต ขณะคุยมือถือ iPhone5 ระหว่างชาร์ตแบตฯโทรศัพท์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กรกฎาคม 2556 21:34 น.
-http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000086164-
ภาพแอร์โฮสเตสสาววัย 23 ปี ที่ถูกไฟช็อตเสียชีวิต ขณะที่เธอคุยมือถือiPhone 5 ระหว่างที่ชาร์ตแบตฯโทรศัพท์อยู่ ภาพชุดนี้ได้ถูกเผยแพร่ราวไฟไหม้ป่าบนสื่อสังคมออนไลน์จีนเมื่อวานนี้(13 ก.ค.2556) (ภาพจากเว็บไซต์แอร์โฮสเตส)
สำนักข่าวซินหวารายงานวันนี้(13 ก.ค.)ว่า มีผู้โพสต์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ (คล้ายทวิตเตอร์) ยอดนิยมของจีน ระบุว่า แอร์โฮสเตสสาววัย 23 ปี ถูกไฟช็อตเสียชีวิตขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์มือถือ iPhone 5 ที่เสียบปลั๊กชาร์ตแบตเตอรี่อยู่ บริษัทแอปเปิล (Apple) ประเทศจีน ได้ออกมาแสดงความเศร้าสลดใจอย่างสุดซึ้งต่อเรื่องนี้ และกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
ในเช้าตรู่ของวานนี้( 12 ก.ค.) ชาวเน็ตจีนใช้นามแฝงว่า “ M เสี่ยวจิ้ง 1128” (M小静1128)ได้โพสต์ข้อความในเวยปั๋ว “ แอร์โฮสเตสสาว โดนไฟช็อต เสียชีวิต ขณะที่กำลังชาร์ตแบตเตอรี่ โทรศัพท์มือถือของแอปเปิล” ข้อความนี้ ดึงดูดชาวเน็ตแห่เข้าอ่านและส่งต่อกันมาก
เว่ยปั๋วของเว็บไซต์ทางการของกลุ่มแอร์โฮสเตสผู้เคราะห์ร้ายได้ยืนยันแล้วว่า มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง
“คุยโทรศัพท์มือถือ iPhone5 ขณะที่กำลังชาร์ตแบตเตอรี่ ถึงตายได้หรือนี่?” โปรยข้อความของ “ M เสี่ยวจิ้ง 1128” ได้กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าบนเว็บไซต์จีน แต่ก็มีกลุ่มชาวเน็ตที่ตั้งข้อสงสัย เช่น แม้ว่าเกิดไฟฟ้ารั่วที่โทรศัพท์ ส่วนใหญ่ก็เพียงทำให้มือชาๆไปเท่านั้น ไม่น่าจะรั่วมาถึงฝาครอบโทรศัพท์
เมื่อวานนี้ “ M เสี่ยวจิ้ง 1128” ได้โพสต์ข้อความโต้ตอบเพื่อนชาวเน็ตที่แสดงความสงสัย “ผมเข้าใจกลุ่มที่สงสัยว่ามีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นจริงหรือ! และก็หวังเช่นกันว่าเพื่อนๆชาวเน็ตจะไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้เกินเหตุและตื่นตระหนก! เหตุแอร์โฮสเตสสาวถูกไฟช็อตเสียชีวิตขณะที่รับโทรศัพท์ตอนที่กำลังชาร์ตแบตฯอยู่ ได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลแล้ว! และที่ผมนำเรื่องนี้มาเผยแพร่บนเวยปั๋ว เพราะต้องการเตือนผู้คนอย่าคุยโทรศัพท์ในขณะที่กำลังชาร์ตแบตฯโทรศัพท์อยู่! “
ในบ่ายวันนี้ (14 ก.ค.) บริษัทแอปเปิล ประเทศจีน แถลง “พวกเราเสียใจย่างสุดซึ้งต่อเรื่องนี้ ขอแสดงความเสียแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน”
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000086164
sithiphong:
ลูกเมาเหล้า-เมายาบ้า คว้าขวานจามใส่พ่อ โดนยิงสวนดับ
-http://hilight.kapook.com/view/88617-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
พ่อยิงลูกดับ หลังลูกเมายาบ้า แล้วจะเอาขวานจามใส่พ่อ โดยหลังยิงเสร็จ พ่อก็ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ
วันนี้ (15 กรกฎาคม 2556) เวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้นำตัว นายเสรี ภารพิบูรณ์ วัย 60 ปี ชาว อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังจากที่ยิง นายสมไชย ภารพิบูรณ์ บุตรชายวัย 36 ปี เสียชีวิตหน้ากระท่อมปลายนา
โดยนายเสรี ให้การว่า เมื่อกลางดึกวานนี้ (14 กรกฎาคม 2556) ขณะที่ตนกำลังดูแลสัตว์เลี้ยง บุตรชายได้ขับรถจักรยานยนต์มาที่กระท่อมปลายนา พร้อมตะโกนเสียงดังขับไล่ตนออกจากที่ และมีปากเสียงกัน ก่อนที่บุตรชายจะนำขวานที่อยู่ในกระท่อมปลายนาวิ่งเข้ามาหา อย่างไรก็ดี ตนสังเกตว่าบุตรชายมีอาการคล้ายกับเมายาและเมาสุราอย่างหนัก จึงบอกว่าให้บุตรชายหยุด เพราะตนมีปืน แต่ว่าบุตรชายไม่ฟัง กลับเดินต่อไม่ยอมหยุด ตนจึงยิงปืนไป 1 นัด ให้บุตรชายล้มลง ก่อนที่จะไปบอกชาวบ้านให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบร่างกายผู้ตาย พบว่าถูกกระสุนเจาะไปที่เหนือหูด้านขวา ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://news.springnewstv.tv/32409/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-
sithiphong:
ผู้บริโภคตรวจข้าวถุงพบ “โค-โค่” มีสารตกค้างเกินมาตรฐาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2556 16:39 น.
-http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000087114-
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงผลการตรวจข้าวถุง เมื่อวันที่ 16 ก.ค.
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคตรวจข้าวถุงไม่พบสารเคมีใดๆ ตกค้างเลย 12 ตัวอย่าง ตกค้างไม่เกินค่ามาตรฐาน 50 ppm จำนวน 33 ตัวอย่าง และเกินค่ามาตรฐาน 1 ตัวอย่างคือ “ข้าวโค-โค่” แนะรัฐเปิดเผยยี่ห้อข้าวที่พบการปนเปื้อนและปลอดภัย ย้ำเป็นสิทธิที่ผู้บริโภคต้องรู้ ชี้ใช้กำหนดทิศทางการส่งออกข้าวได้ เหตุบางยี่ห้อสารเคมีเกือบเกินมาตรฐานต้องเร่งแก้ไข เพราะไม่ผ่านมาตรฐานประเทศคู่ค้าสำคัญ
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวแถลง “ผลทดสอบข้าวสารถุงยี่ห้อไหนไม่มีสารเคมี?” ว่า การเปิดเผยข้อมูลการทดลองในครั้งนี้เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ และคุ้มครองผู้บริโภคในการรับข้อมูลข่าวสารที่เพียงพอต่อการบริโภค สิทธิในการเลือกซื้อสินค้า และสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการบริโภค ทั้งนี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ร่วมกับมูลนิธิชีววิถี และศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ ตรวจสารเคมีในข้าวสารบรรจุถุงจำนวน 46 ตัวอย่าง จากยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต และคาร์บาเมต ยากันรา และสารรมควันข้าวเมทิลโบรไมด์ พบว่า ข้าวสารจำนวน 12 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 26.1 ไม่พบสารตกค้างทุกกลุ่ม ได้แก่ ลายกนก-ข้าวหอมมะลิ ข้าวพันดี-ข้าวขาว ธรรมคัลเจอร์-ข้าวหอม รุ้งทิพย์-ข้าวเสาไห้ บัวทิพย์-ข้าวหอม ตราฉัตร-ข้าวขาว ข้าวมหานคร-ข้าวขาว สุพรรณหงส์-ข้าวหอมสุรินทร์ เอโร่-ข้าวขาว ข้าวแสนดี-ข้าวหอมทิพย์ โฮมเฟรชมาร์ท-จัสมิน และชามทอง-ข้าวหอมมะลิ
น.ส.สารี กล่าวอีกว่า ส่วนอีก 34 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 73.9 พบสารเมทิลโบรไมด์ ตั้งแต่ 0.9-67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (ppm) โดยแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ดังนี้ 1.ตกค้างน้อยมาก คือน้อยกว่า 0.9 ppm มี 7 ตัวอย่าง ได้แก่ ช้างเผือก-ข้าวเสาไห้ cooking for fun-ข้าวหอมมะลิ ข้าวเบญจรงค์-ข้าวหอมมะลิ แฮปปี้บาท-ข้าวขาว เทสโก ตราคุ้มค่า-ข้าวหอม และ อคส.-ข้าวหอมมะลิ 2.ตกค้างน้อย คือ ระหว่าง 0.9-5 ppm จำนวน 14 ตัวอย่าง ได้แก่ ข่าวอิ่มทิพย์-ข้าวขาว ชาวนาไทย-เสาไห้ ข้าวแสนดี-ข้าวขาว ท็อปส์-หอมมะลิ ตราเกษตร-ข้าวขาวหอม ฉัตรทอง-หอมมะลิ ติ๊กชีโร่-หอมมะลิ หงษ์ทอง-หอมมะลิ บิ๊กซี-หอมปทุม ตราฉัตร-หอมผสม โรงเรียน-หอมมะลิ ฉัตรอรุณ-หอมผสม ปทุมทอง-หอมมะลิ และไก่แจ้เขียว-หอมมะลิ
น.ส.สารี กล่าวด้วยว่า 3.ตกค้างสูง คือระหว่าง 5-25 ppm จำนวน 7 ตัวอย่าง ได้แก่ พนมรุ้ง-ข้าวขาว ท็อปส์-หอมปทุม คุ้มค่า-เสาไห้ เอโณ่-ข้าวหอม มาบุญครอง-ข้าวขาว ดอกบัว-ข้าวหอมมะลิ และปิ่นเงิน-ข้าวหอม 4.ตกค้างสูง คือระหว่าง 25-50 ppm จำนวน 5 ตัวอย่าง ได้แก่ ถูกใจ-ข้าวขาว สุรินทิพย์-หอมมะลิ ดอกบัว-ขาวตาแห้ง ตราดอกบัว-เสาไห้ และข้าวแสนดี-ข้าวหอม และ 5.ตกค้างเกินมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (CODEX) ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 50 ppm จำนวน 1 ตัวอย่าง คือข้าวยี่ห้อ “โค-โค่-ข้าวขาวพิมพา” โดยตกค้างอยู่ที่ 67.4 ppm ส่วนการตรวจสารพิษจากเชื้อรา และคุณภาพข้าวถุงนั้นยังไม่แล้วเสร็จ
“การเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการดิสเครดิตธุรกิจใด หรือต้องการโจมตีรัฐบาล แต่ต้องการคุ้มครองผู้บริโภค โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจะส่งผลการตรวจนี้ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมกับขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐ ทั้ง อย. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยรายละเอียดชื่อยี่ห้อข้าวที่พบการปนเปื้อน หรือตัวอย่างยี่ห้อที่ตรวจแล้วปลอดภัยไม่พบการปนเปื้อน เพราะผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อการกำหนดทิศทางการผลิตสินค้าและการบริโภคของประเทศในอนาคต และการตรวจสอบของหน่วยงานรัฐครั้งต่อๆ ไป ควรมีองค์กรผู้บริโภคร่วมด้วย” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวและว่า การส่งตรวจในครั้งนี้ ได้ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่น่าเชื่อถือทั้งภาครัฐและเอกชนด้วยงบประมาณ 7 แสนบาท
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวว่า การตรวจข้าวบรรจุถุงครั้งนี้ พบผลที่แตกต่างจากของรัฐบาล คือเราพบข้าวถุงที่มีสารตกค้างเกินค่ามาตรฐาน 50 ppm ที่สำคัญการตรวจของรัฐบาลไม่มีการจำแนกระดับของสารตกค้างให้ผู้บริโภคทราบ สำหรับเกณฑ์การกำหนดระดับสารตกค้างเมทิลโบรไมด์นั้น ได้ใช้ค่ามาตรฐานของประเทศคู่ค้าข้าวรายสำคัญของไทย ซึ่งมีค่ามาตรฐานที่ต่ำกว่า 50 ppm เป็นเกณฑ์คือ อินเดียที่กำหนดไว้ไม่เกิน 25 ppm และประเทศจีนที่กำหนดไว้ไม่เกิน 5 ppm ซึ่งการแบ่งเกณฑ์ดังนี้จะสะท้อนข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบว่ามีข้าวยี่ห้อใด บริษัทใด มาจากโรงสีใด ที่อาจมีผลกระทบต่อการส่งออก เพราะมีสารตกค้างอยู่ในระดับที่เกินกว่าประเทศคู่ค้ากำหนด ซึ่งต้องรีบแก้ไขเพราะอาจทำให้ไทยสูญเสียตลาดค้าข้าวที่สำคัญ อย่างจีนเมื่อก่อนนำเข้าข้าวจากไทยประมาณ 5 แสนตันต่อปี ปัจจุบันเหลือเพียง 1 แสนตันต่อปีเท่านั้น โดยหันไปนำเข้าข้าวจากประเทศอื่นมากขึ้น
น.ส.ทัศนีย์ แน่นอุดร หัวหน้าศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้บริโภคร้องเรียนมายังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคให้หาข้อเท็จจริง จากกระแสข่าวเรื่องความไม่ปลอดภัยของข้าวสารบรรจุถุงทางสื่อต่างๆ เพราะมีผู้บริโภคบางส่วนยังไม่เชื่อข้อมูลจากภาครัฐ จึงอยากให้มีข้อมูลการตรวจสอบจากภาคประชาชนด้วย ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อจึงร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ไทยแพน) และมูลนิธิชีววิถี เก็บตัวอย่างข้าวถุงที่มีการจำหน่าย ระหว่างวันที่ 19-27 มิ.ย.2556 ทุกยี่ห้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างโมเดิร์นเทรด ทั้งค้าปลีกและค้าส่ง 6 แห่ง ได้แก่ เทสโก้โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต โฮมเฟรชมาร์ท และร้านสะดวกซื้อ 1 แห่งคือ เซเวนอีเลฟเวน ได้ข้าวถุงรวม 36 ยี่ห้อ จำนวน 46 ตัวอย่าง แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 100% จำนวน 15 ตัวอย่าง และข้าวขาวกับข้าวหอมอื่นๆ อีก 31 ตัวอย่าง โดยส่งตรวจคุณภาพข้าวสารถุงที่จำหน่ายในท้องตลาดใน 5 ด้านคือ 1.การตรวจคุณภาพข้าวสารถุง ตามมาตรฐานข้าวสาร กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ 2.สารเคมีทางการเกษตร ยาฆ่าแมลง 2 กลุ่ม ได้แก่ ออร์กาโนฟอสเฟตและคาร์บาเมต 3.ยากันรา 4.สารรมควันข้าวเมทิลโบรไมด์ และ 5.สารพิษจากเชื้อรา อะฟลาทอกซิน
ภาพจากเว็บไซต์ฉลาดซื้อ http://www.chaladsue.com/index.php/component/content/article/96-PR/1577-rice.html
ภาพจากเว็บไซต์ฉลาดซื้อ http://www.chaladsue.com/index.php/component/content/article/96-PR/1577-rice.html
ภาพจากเว็บไซต์ฉลาดซื้อ http://www.chaladsue.com/index.php/component/content/article/96-PR/1577-rice.html
ภาพจากเว็บไซต์ฉลาดซื้อ http://www.chaladsue.com/index.php/component/content/article/96-PR/1577-rice.html
sithiphong:
2 มูลนิธิคอนเฟิร์ม ผลทดสอบข้าว พบ 34 ยี่ห้อมีสารตกค้าง
-http://hilight.kapook.com/view/88662-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thaipan.org
2 มูลนิธิคอนเฟิร์มผลทดสอบข้าว พบ 34 ยี่ห้อ มีสารตกค้าง จากการสุ่มตรวจ 46 ยี่ห้อ ขัดกับข้อมูล อย.-กรมวิทยาศาสตร์ฯ ชี้แถลงข่าวเพื่อความปลอดภัยผู้บริโภค
วันนี้ (16 กรกฎาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ร่วมกับมูลนิธิชีววิถี แถลงผลการเก็บตัวอย่างข้าวถุงจากการสุ่มตรวจเพื่อดูมาตรฐาน จากการเก็บตัวอย่างทั้งหมด 46 ยี่ห้อ พบว่ามี 12 ยี่ห้อ หรือคิดเป็นร้อยละ 26.1 ไม่พบการตกค้างของสารทุกกลุ่มประเภท ขณะที่มีข้าวถุงมากถึง 34 ยี่ห้อ หรือคิดเป็นร้อยละ 73.9 มีการตกค้างของสารเมทิลโบรไมด์ ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการรมควันข้าว โดยมีค่าในหลายระดับตั้งแต่ระดับน้อยที่สุดจนถึงเกินค่ามาตรฐานระหว่างประเทศ คือ 0.9-67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งในจำนวนนี้พบว่า ข้าวสารยี่ห้อ โค-โค่-ข้าวขาวพิมพา มีระดับสารตกค้าง 67.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และยังพบอีกว่ามีเพียง 5 ตัวอย่าง ที่ไม่มีสารตกค้างเกินค่ามาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ เพราะพบสารตกค้างสูงกว่า 25 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ได้แก่
1. ข้าวแสนดี ข้าวหอม พบสารตกค้าง 41 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
2. ข้าวตราดอกบัว ข้าวเสาไห้ พบสารตกค้าง 29.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
3. ข้าวตราดอกบัว ข้าวตาแห้ง พบสารตกค้าง 28.9 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
4. ข้าวสุรินทิพย์ ข้าวหอมมะลิ พบสารตกค้าง 27.6 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
5. ข้าวถูกใจ ข้าวขาว พบสารตกค้าง 27.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
สำหรับข้าวถุงจำนวน 12 ตัวอย่างที่ไม่พบการตกค้างของสารเคมีทางการเกษตรชนิดใด ๆ ได้แก่
1. ลายกนก ข้าวหอมมะลิแท้ 100%
2. ข้าวพันดี ข้าวขาว 100% ชั้นดีพิเศษ
3. ธรรมคัลเจอร์ ข้าวหอมคุณภาพคัดพิเศษ
4. รุ้งทิพย์ ข้าวขาวเสาไห้
5. บัวทิพย์ ข้าวหอม
6. ตราฉัตร ข้าวขาว 15%
7. ข้าวมหานคร ข้าวขาวคัดพิเศษ
8. สุพรรณหงส์ ข้าวหอมสุรินทร์
9. เอโร่ ข้าวขาว 100%
10. ข้าวแสนดี ข้าวหอมทิพย์
11. โฮมเฟรชมาร์ท จัสมิน ข้าวหอมมะลิ 100%
12. ชามทอง ข้าวขาวหอมมะลิ 100%
ข้าวถุงที่มีสารตกค้างในจำนวนน้อยมาก ได้แก่
1. ช้างเผือก-ข้าวเสาไห้
2. cooking for fun-ข้าวหอมมะลิ
3. ข้าวเบญจรงค์-ข้าวหอมมะลิ
4. ข้าวหอมมะลิแปดริ้ว-ข้าวหอมมะลิ
5. แฮปปี้บาท-ข้าวขาว
6. เทสโก ตราคุ้มค่า-ข้าวหอม
7. อคส.-ข้าวหอมมะลิ
ส่วนข้าวถุงที่มีการตกค้างของสารเมทิลโบรไมด์ ได้แก่
1. โค-โค่-ข้าวขาวพิมพา ระดับสารตกค้าง 67.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
2. ข้าวแสนดี-ข้าวหอม ระดับสารตกค้าง 41 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
3. ตราดอกบัว-เสาไห้ ระดับสารตกค้าง 29.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
4. ดอกบัว-ขาวตาแห้ง ระดับสารตกค้าง 28.9 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
5. สุรินทิพย์-หอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 27.6 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
6. ถูกใจ-ข้าวขาว ระดับสารตกค้าง 27.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
7. ปิ่นเงิน-ข้าวหอม ระดับสารตกค้าง 21.9 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
8. ดอกบัว-ข้าวหอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 19.7 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
9. มาบุญครอง-ข้าวขาว ระดับสารตกค้าง 19.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
10. เอโร่-ข้าวหอม ระดับสารตกค้าง 10.6 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
11. คุ้มค่า-เสาไห้ ระดับสารตกค้าง 6.7 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
12. ท็อปส์-หอมปทุม ระดับสารตกค้าง 6.2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
13. พนมรุ้ง-ข้าวขาว ระดับสารตกค้าง 5.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
14. ไก่แจ้เขียว-หอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 4.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
15. ปทุมทอง-หอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 4.2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
16. ฉัตรอรุณ-หอมผสม ระดับสารตกค้าง 3.1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
17. โรงเรียน-หอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 2.7 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
18. ตราฉัตร-หอมผสม ระดับสารตกค้าง 2.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
19. บิ๊กซี-หอมปทุม ระดับสารตกค้าง 2.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
20. หงษ์ทอง-หอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 2.2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
21. ติ๊กชีโร่-หอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 1.7 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
22. ฉัตรทอง-หอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 1.6 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
23. ตราเกษตร-ข้าวขาวหอม ระดับสารตกค้าง 1.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
24. ท็อปส์-หอมมะลิ ระดับสารตกค้าง 1.3 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
25. ข้าวแสนดี-ข้าวขาว ระดับสารตกค้าง 1.2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
26. ชาวนาไทย-เสาไห้ ระดับสารตกค้าง 0.98 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
27. ข้าวอิ่มทิพย์-ข้าวขาว ระดับสารตกค้าง 0.93 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
โดย น.ส.สารี ระบุว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดเผยข้อมูลผลการทดลองที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในการที่จะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เพียงพอในการบริโภค รวมถึงสิทธิในการเลือกซื้อสินค้า โดยเฉพาะในเรื่องของการตรวจสอบสารเคมีในข้าวสารบรรจุถุง ในกลุ่มยาฆ่าแมลงชนิดกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต และคาร์บาเมต รวมถึงสารที่เป็นยากันเชื้อรา และสารรมควันข้าวเมทิลโบรไมด์
ทั้งนี้ น.ส.สารี กล่าวย้ำด้วยว่า ก่อนหน้านี้แม้จะมีหน่วยงานของรัฐบาล อาทิ คณะกรรมการอาหารและยา รวมถึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ออกมาแถลงข่าวยืนยันในเรื่องของความปลอดภัยของข้าวสารถุงแล้ว แต่ขณะนี้จากการตรวจสอบของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่ร่วมกับมูลนิธิชีววิถี พบว่ายังมีข้อมูลที่แตกต่างกัน ฉะนั้นจึงต้องการย้ำชัดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
ขณะที่ทางด้าน นายวิฑูรณ์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี ได้กล่าวถึงเรื่องค่ามาตรฐานของ codex ว่า จากการตรวจสอบสารรมควันเมทิลโบร์ไมด์ พบว่า มีข้าวสารบรรจุถุง จำนวน 13 ตัวอย่างที่มีการตกค้างของเมทิลโบร์ไมด์ในข้าวเกิน 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของ codex ของประเทศจีน ที่กำหนดปริมาณการตกค้างของเมทิลโบร์ไมด์ในข้าวต้องไม่เกิน 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และถ้าหากยังไม่มีการปรับปรุงในเรื่องนี้ เชื่อได้ว่า อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของประเทศไทยได้ เพราะประเทศจีน คือ คู่ค้าข้าวรายสำคัญของประเทศไทย จึงอยากเสนอให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบโรงสี และผู้ประกอบการเพื่อหาสาเหตุของการตกค้างของสารรมควันข้าวเมทิลโบรไมด์ในข้าว ว่ามาจากสาเหตุใดกันแน่ พร้อมทั้ง กำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานการปนเปื้อนของสารเคมี เพื่อยกระดับคุณภาพของข้าวไทยให้มากขึ้น เพราะเรื่องนี้นอกจากจะกระทบเรื่องการส่งออกแล้ว ก็ยังอาจกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคอีกด้วย
นอกจากนี้ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ได้ยื่นขอเสนอแนะแก่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ขอให้รัฐบาลเร่งผลักดันให้มีองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้องค์การนี้เป็นตัวแทนของผู้บริโภคในการดำเนินการตรวจสอบสินค้า หรือบริการต่าง ๆ
2. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพข้าว เปิดเผยผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวให้ประชาชนได้รับทราบ
3. ขอให้มีการสร้างระบบตรวจสอบคุณภาพข้าวอย่างเป็นระบบ โดยระบบนี้ควรเกิดจากความส่วมมือของหลาย ๆ ภาคส่วน เพื่อให้ข้อมูลที่ได้ตรวจสอบครอบคลุมและครบถ้วนทุกด้าน นอกจากนี้ อยากให้ดำเนินการสุ่มตรวจตัวอย่างข้าวเป็นระยะ เพื่อให้เกิดการปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพข้าวไทย
.
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version