ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง

<< < (15/48) > >>

sithiphong:
4 สารพิษในบ้าน อย่ามองข้าม...อันตรายใกล้ตัว (สุดๆ)

-http://campus.sanook.com/1369789/4-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1...%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%86/-

ไม่เฉพาะอันตรายจากสารพิษ สารเคมี และสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม (นอกบ้าน) เท่านั้น แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในบ้านอันแสนอบอุ่นของคุณนั่นแหละ ที่มีภัยเงียบจากสารเคมีนานาชนิดตกค้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ ในบ้าน ฝุ่นละออง ฯลฯ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ เพราะองค์การอนามัยโลก ถึงขนาดได้ออกมาประเมินว่า ในประเทศด้อยพัฒนา มลพิษจากอากาศภายในอาคารและบ้านเรือนริมถนน เป็นต้นเหตุสำคัญของโรคทางเดินหายใจ โรคปอด และโรคมะเร็ง ที่ทำให้คนตายรวมกันไม่น้อยกว่าปีละ 2 ล้านคนเลยทีเดียว (เสียวฝุดๆ)

มีอะไรบ้างล่ะที่เสี่ยง!

1) ฟอร์มัลดีไฮด์ นอกจากสารพิษชนิดที่ดมแล้วได้กลิ่น อย่างสารปนเปื้อนคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่ระเหยจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิง กลิ่นใหม่ๆ จากของใช้ในบ้านแล้ว ยังมี "กลิ่นฉุน" ที่แฝงตัวอยู่อย่างเงียบเชียบ นั่นก็คือเจ้าฟอร์มัลดีไฮด์ สารร้ายในบ้านนั่นเอง

เจ้าสารชนิดนี้ เป็นแก๊สไม่มีสี แต่มีกลิ่นฉุน เป็นสารประกอบของฟอร์มาลินที่ใช้ฉีดและดองศพ ถ้ามีสารนี้ เราจะสังเกตง่ายๆ ก็คือ เราจะรู้สึกแสบตา มึนหัว หายใจอึดอัด ภายในบ้านเราจะพบได้ในเฟอร์นิเจอร์ที่มีส่วนประกอบของไม้อัด สารต้านเชื้อราในกาวลาเท็กซ์ที่ใช้ประกอบเครื่องเรือน แล็กเกอร์เคลือบไม้ พรมปูพื้น สีทาบ้าน วอลล์เปเปอร์ ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ผ้าหุ้มเบาะโซฝา และเสื้อผ้าประเภทยับยาก ฟอร์มัลดีไฮด์ ทังหมดนี้ ล้วนเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งคนในบ้านเสี่ยงเมื่อสัมผัส

2) น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาทำความสะอาดเครื่องครัวบางชนิดมีโซดาไฟ เป็นส่วนประกอบซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนเนื้อเยื่อ เป็นพิษต่อร่างกาย ต่อมาคือสารเคมีที่ใช้ในการขจัดสิ่งอุดตันในท่อน้ำทิ้งมักเป็นสารอันตรายที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง รวมทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงการสูดกลิ่นเหล่านี้ เพราะมีอันตรายรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีน้ำยาทำความสะอาดพื้นบ้าน ที่ปัจจุบันนี้ บ้านไหนก็ต้องมี ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นคือสารกลุ่มอัลคิล ฟีนอล อีธอกไซเลต ที่มีรายงานความเป็นพิษแบบเฉียบพลันของสาร NPE หากทาน สูดดม หรือสัมผัสในปริมาณความเข้มข้นสูงจะทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ตา และผิวหนังอย่างรุนแรง

3) มันมากับความหอม ใครๆ ก็ชอบใช่มั้ยล่ะความหอม ด้วยเหตุนี้ ในบ้านจึงมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้สิ่งต่างๆ หอมดั่งเนรมิต แต่เจ้าความหอมที่ว่า มักมีอันตรายแฝงมาเสมอ เริ่มจากสบู่เหลวกลิ่นต่างๆ ใครจะรู้ว่าภายใต้ความหอมละมุนในช่วงอาบน้ำนั้นจะเต็มไปด้วยสารเคมีสังเคราะห์ที่ใช้ผสมลงไปจนกลายเป็น "สบู่เหลวเทียม" ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่าย จนถึงขั้นเสี่ยงต่อมะเร็งในระยะยาว ในบางประเทศเขาห้ามหรือประกาศเตือนกันแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ในบ้านเรายังมีการใช้สาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) และPEG (polyethylene Glycol) กันหรือเปล่า

ต่อไปคือผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นในห้องน้ำ ที่เมื่อสูดกลิ่นเข้าไปแล้วอันตรายอย่างแน่นอน แต่ที่มากกว่านั้นก็คือหากสัมผัสสารเหล่านี้บ่อยครั้งจะทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองต่อผิวหนัง คลื่นไส้ อาเจียน รวมทั้งยังเป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาซักแห้ง อโรมาเธอราปี ซึ่งบางคนอาจแพ้ ต้องรู้จักสังเกตและเลี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพ้ก่อนที่จะเกิดการสะสมพิษในระยะยาว

เพราะจริงๆ แล้วสารเคมีที่ให้กลิ่นหอมเหล่านั้น เคยมีการทดลองในสหรัฐฯ แล้วพบว่า ผลิตัณฑ์เหล่านี้ ปล่อยสารระเหยอินทรีย์ออกมามากกว่า 20 ชนิด และ 7 ชนิด จาก 20 ชนิดตามกฎหมายถือเป็นสารอันตรายหรือเป็นพิษ ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง กลิ่นระเหยของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ไม่ได้ทำให้อากาศในบ้านหอมขึ้น แต่จะไปกลบกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นอับอื่นๆ ที่เราไม่ชอบ การหลีกเลี่ยงด้วยการเปิดห้องให้อากาศถ่ายเทน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า

4) อันตรายจากเทคโนโลยี โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ไมโครเวฟ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ นับเป็นเทคโนโลยีที่มีสารอันตรายปะปนอยู่ด้วยเสมอ ได้แก่ ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ฯลฯ สารพิษนานาชนิดเหล่านี้ จะถูกปล่อยออกมาปะปนในอากษส โดยที่วัสดุสังเคราะห์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจะปล่อยสารเคมีหรือไอระเหยที่เป็นพิษนับร้อยชนิดสู่อากาศ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตามมา เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด ระคายเคือง ไซนัส อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดต้นคอ ปวดศีรษะ เป็นต้น

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้จำแนกสารอันตรายที่อยู่ในผลิตภัณฑ์อิล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เอาไว้ เช่น ตะกั่ว เป็นส่วนระกอบในการบัดกรีแผ่นวงจรพิมพ์ หลอดภาพรังสีแคโทด (CRT) เป็นต้น ผลกระทบจะทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ระบบโลหิต โดยเฉพาะเด็กจะมีผลกระทบต่อพัฒนาการสมองเนื่องจากเด็กสามารถดูดซึมตะกั่วได้มากกว่าผู้ใหญ่ 5 เท่า

แคดเมียม มักพบในแผ่นวงจรพิมพ์ ตัวต้านทาน แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ซึ่งสารเหล่านี้จะสะสมในร่างกาย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อไตและกระดูก ทำลายระบบประสาท ส่งผลต่อพัฒนาการและการมีบุตร ส่วน ปรอท มักพบในตัวตัดความร้อน สวิตซ์ และอุปกรณ์ให้แสงสว่างในจอภาพแบบแบน หากปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำจะสะสมต่อไปในห่วงโซ่อาหาร ส่งผลต่อสมอง ไต และอวัยวะต่างๆ และเป็นพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง

นอกจากนี้ ยังมีอันตรายจากสารพิษอื่นๆ ที่แฝงอยู่ในบ้าน จำเป็นที่เราต้องระมัดระวัง โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติให้มากขึ้น เพราะภัยอันตรายจากสารพิษเหล่านี้ ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน ที่สำคัญยังมองไม่เห็น การป้องกันก่อนเกิดจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด


ที่มา : บ้านปลอดพิษ ชีวิตปลอดภัย โดย ผศ.ดร.พูลสุข ปรัชญานุสรณ์ สำนักพิมพ์มติชน (หน้าพิเศษ Hospital Healthcare)

http://campus.sanook.com/1369789/4-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1...%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%86/

sithiphong:
4 สารพิษในบ้าน อันตรายใกล้ตัว (สุดๆ)
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1378179934&grpid=&catid=09&subcatid=0902-

ไม่เฉพาะอันตรายจากสารพิษ สารเคมี และสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม (นอกบ้าน) เท่านั้น แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในบ้านอันแสนอบอุ่นของคุณนั่นแหละ ที่มีภัยเงียบจากสารเคมีนานาชนิดตกค้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ ในบ้าน ฝุ่นละออง ฯลฯ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ เพราะองค์การอนามัยโลก ถึงขนาดได้ออกมาประเมินว่า ในประเทศด้อยพัฒนา มลพิษจากอากาศภายในอาคารและบ้านเรือนริมถนน เป็นต้นเหตุสำคัญของโรคทางเดินหายใจ โรคปอด และโรคมะเร็ง ที่ทำให้คนตายรวมกันไม่น้อยกว่าปีละ 2 ล้านคนเลยทีเดียว (เสียวฝุดๆ)

มีอะไรบ้างล่ะที่เสี่ยง!

 

มีอะไรบ้างล่ะที่เสี่ยง!

1) ฟอร์มัลดีไฮด์ นอกจากสารพิษชนิดที่ดมแล้วได้กลิ่น อย่างสารปนเปื้อนคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่ระเหยจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิง กลิ่นใหม่ๆ จากของใช้ในบ้านแล้ว ยังมี "กลิ่นฉุน" ที่แฝงตัวอยู่อย่างเงียบเชียบ นั่นก็คือเจ้าฟอร์มัลดีไฮด์ สารร้ายในบ้านนั่นเอง

เจ้าสารชนิดนี้ เป็นแก๊สไม่มีสี แต่มีกลิ่นฉุน เป็นสารประกอบของฟอร์มาลินที่ใช้ฉีดและดองศพ ถ้ามีสารนี้ เราจะสังเกตง่ายๆ ก็คือ เราจะรู้สึกแสบตา มึนหัว หายใจอึดอัด ภายในบ้านเราจะพบได้ในเฟอร์นิเจอร์ที่มีส่วนประกอบของไม้อัด สารต้านเชื้อราในกาวลาเท็กซ์ที่ใช้ประกอบเครื่องเรือน แล็กเกอร์เคลือบไม้ พรมปูพื้น สีทาบ้าน วอลล์เปเปอร์ ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ผ้าหุ้มเบาะโซฝา และเสื้อผ้าประเภทยับยาก ฟอร์มัลดีไฮด์ ทังหมดนี้ ล้วนเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งคนในบ้านเสี่ยงเมื่อสัมผัส

2) น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาทำความสะอาดเครื่องครัวบางชนิดมีโซดาไฟ เป็นส่วนประกอบซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนเนื้อเยื่อ เป็นพิษต่อร่างกาย ต่อมาคือสารเคมีที่ใช้ในการขจัดสิ่งอุดตันในท่อน้ำทิ้งมักเป็นสารอันตรายที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง รวมทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงการสูดกลิ่นเหล่านี้ เพราะมีอันตรายรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีน้ำยาทำความสะอาดพื้นบ้าน ที่ปัจจุบันนี้ บ้านไหนก็ต้องมี ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นคือสารกลุ่มอัลคิล ฟีนอล อีธอกไซเลต ที่มีรายงานความเป็นพิษแบบเฉียบพลันของสาร NPE หากทาน สูดดม หรือสัมผัสในปริมาณความเข้มข้นสูงจะทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ตา และผิวหนังอย่างรุนแรง

3) มันมากับความหอม ใครๆ ก็ชอบใช่มั้ยล่ะความหอม ด้วยเหตุนี้ ในบ้านจึงมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้สิ่งต่างๆ หอมดั่งเนรมิต แต่เจ้าความหอมที่ว่า มักมีอันตรายแฝงมาเสมอ เริ่มจากสบู่เหลวกลิ่นต่างๆ ใครจะรู้ว่าภายใต้ความหอมละมุนในช่วงอาบน้ำนั้นจะเต็มไปด้วยสารเคมีสังเคราะห์ที่ใช้ผสมลงไปจนกลายเป็น "สบู่เหลวเทียม" ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่าย จนถึงขั้นเสี่ยงต่อมะเร็งในระยะยาว ในบางประเทศเขาห้ามหรือประกาศเตือนกันแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ในบ้านเรายังมีการใช้สาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) และPEG (polyethylene Glycol) กันหรือเปล่า

ต่อไปคือผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นในห้องน้ำ ที่เมื่อสูดกลิ่นเข้าไปแล้วอันตรายอย่างแน่นอน แต่ที่มากกว่านั้นก็คือหากสัมผัสสารเหล่านี้บ่อยครั้งจะทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองต่อผิวหนัง คลื่นไส้ อาเจียน รวมทั้งยังเป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาซักแห้ง อโรมาเธอราปี ซึ่งบางคนอาจแพ้ ต้องรู้จักสังเกตและเลี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพ้ก่อนที่จะเกิดการสะสมพิษในระยะยาว

เพราะจริงๆ แล้วสารเคมีที่ให้กลิ่นหอมเหล่านั้น เคยมีการทดลองในสหรัฐฯ แล้วพบว่า ผลิตัณฑ์เหล่านี้ ปล่อยสารระเหยอินทรีย์ออกมามากกว่า 20 ชนิด และ 7 ชนิด จาก 20 ชนิดตามกฎหมายถือเป็นสารอันตรายหรือเป็นพิษ ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง กลิ่นระเหยของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ไม่ได้ทำให้อากาศในบ้านหอมขึ้น แต่จะไปกลบกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นอับอื่นๆ ที่เราไม่ชอบ การหลีกเลี่ยงด้วยการเปิดห้องให้อากาศถ่ายเทน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า

4) อันตรายจากเทคโนโลยี โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ไมโครเวฟ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ นับเป็นเทคโนโลยีที่มีสารอันตรายปะปนอยู่ด้วยเสมอ ได้แก่ ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ฯลฯ สารพิษนานาชนิดเหล่านี้ จะถูกปล่อยออกมาปะปนในอากษส โดยที่วัสดุสังเคราะห์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจะปล่อยสารเคมีหรือไอระเหยที่เป็นพิษนับร้อยชนิดสู่อากาศ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตามมา เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด ระคายเคือง ไซนัส อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดต้นคอ ปวดศีรษะ เป็นต้น

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้จำแนกสารอันตรายที่อยู่ในผลิตภัณฑ์อิล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เอาไว้ เช่น ตะกั่ว เป็นส่วนระกอบในการบัดกรีแผ่นวงจรพิมพ์ หลอดภาพรังสีแคโทด (CRT) เป็นต้น ผลกระทบจะทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ระบบโลหิต โดยเฉพาะเด็กจะมีผลกระทบต่อพัฒนาการสมองเนื่องจากเด็กสามารถดูดซึมตะกั่วได้มากกว่าผู้ใหญ่ 5 เท่า

แคดเมียม มักพบในแผ่นวงจรพิมพ์ ตัวต้านทาน แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ซึ่งสารเหล่านี้จะสะสมในร่างกาย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อไตและกระดูก ทำลายระบบประสาท ส่งผลต่อพัฒนาการและการมีบุตร ส่วน ปรอท มักพบในตัวตัดความร้อน สวิตซ์ และอุปกรณ์ให้แสงสว่างในจอภาพแบบแบน หากปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำจะสะสมต่อไปในห่วงโซ่อาหาร ส่งผลต่อสมอง ไต และอวัยวะต่างๆ และเป็นพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง

นอกจากนี้ ยังมีอันตรายจากสารพิษอื่นๆ ที่แฝงอยู่ในบ้าน จำเป็นที่เราต้องระมัดระวัง โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติให้มากขึ้น เพราะภัยอันตรายจากสารพิษเหล่านี้ ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน ที่สำคัญยังมองไม่เห็น การป้องกันก่อนเกิดจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด



ที่มา : บ้านปลอดพิษ ชีวิตปลอดภัย โดย ผศ.ดร.พูลสุข ปรัชญานุสรณ์ สำนักพิมพ์มติชน (หน้าพิเศษ Hospital Healthcare)

 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1378179934&grpid=&catid=09&subcatid=0902



sithiphong:
ชาวเน็ตสวดยับ! หนุ่มกะบะ ต่อยลุงสิบล้อคว่ำ
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=--sdUb-WdTo-

ชาวเน็ตสวดยับ! หนุ่มกะบะ ต่อยลุงสิบล้อคว่ำ

ชาวเน็ตสวดยับ! หนุ่มกะบะ ต่อยลุงสิบล้อคว่ำ

ชาวเน็ตสวดยับ! หนุ่มกะบะ ต่อยลุงสิบล้อคว่ำ

sithiphong:
ยาย"ไขแสง เศรษฐีใจบุญ"ถูกลูกแสบโกงเงิน30ล้าน
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 เวลา 16:58 น.
-http://www.dailynews.co.th/crime/234294-


เศรษฐีนีวัย 84 โร่แจ้งตำรวจ ร้องถูกลูกบุญธรรมที่เลี้ยงเอ็นดูตั้งแต่กระเตาะ หลอกให้เซ็นชื่อเบิกเงิน-ขโมยทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 30 ล้าน หายจ้อย สะอื้นเผย ทำไมถึงเลี้ยงไม่เชื่อง

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายสมบัติ  กำเนิดมี  อายุ 66 ปี  นำนางไขแสง  กำเนิดมี  อายุ 84 ปี  พี่สาว อยู่บ้านเลขที่ 387 หมู่ 2 ต.บางเขน  อ.เมือง จ.นนทบุรี  เข้าแจ้งความร.ต.ท.ฉัตรชัย ก้าวแก้ว  ร้อยเวร สภ.เมืองนนทบุรี  เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายวิศวกร  (สงวนนามสกุล)อายุ 48 ปี ลูกบุญธรรมที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด หลังหลอกลวงให้นางไขแสง เซ็นชื่อแล้วนำไปเบิกเงินธนาคาร ธกส. ของนางแสงไข รวมทั้งยังขโมยเอาทองและทรัพย์สินจำนวนมากในตู้เซฟมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท  พอทวงถามก็บ่ายเบี่ยง ก่อนจะหนีหายออกจากบ้านไป

โดยนางไขแสง  เล่าว่า เมื่อนานมาแล้ว ตนได้ขอลูกชายจากคนรับใช้ในสมัยนั้นมาเลี้ยงตั้งแต่ยังแบเบาะ เพราะไม่มีทายาทสืบสกุล ทำหน้าที่เสมือนแม่แท้ๆมาตลอด จากนั้นพอเริ่มโตเป็นหนุ่ม ได้มอบหน้าที่ให้ลูกชายบุญธรรมเป็นคนเก็บค่าเช่าห้องและค่าเช่าที่ เดือนละกว่า 2 แสนบาท ต่อมานายสมบัติ และเครือญาติได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนตามประสา ก่อนจะช่วยตรวจบัญชีรายรับรายจ่ายให้ จนพบว่าตั้งแต่ปี 51 ไม่เคยมีเงินเข้ามาในบัญชีเลย

ล่าสุดยังเอาใบอะไรสักอย่างมาให้ตนเซ็นชื่อด้วย อ้างว่า จะไปเบิกเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน  มาทราบอีกทีก็พบว่าลูกเนรคุณรายนี้เอาลายเซ็นตนไปเบิกเงิน และปลอมแปลงลายเซ็นไปหลายครั้ง เพื่อทำธุรกรรมเบิกเงินที่ธนาคารจนสูญเงินไปอีกหลายล้านบาท ขโมยทรัพย์สินในตู้เซฟที่เก็บหอมรอมริบไปอีกจำนวนมาก รวมทั้งสิ้นกว่า 30 ล้านบาท

“พอรู้อย่างนั้นแล้ว ยายแทบลมจับ ทั้งโมโห ทั้งเสียใจ ไมเขาไม่เห็นความรักที่ยายมอบให้ จากนั้นน้องชายได้รีบย้ายเงินส่วนที่เหลืออีก 19 ล้านบาท ไปไว้ที่ธนาคารอีกแห่งหนึ่ง แล้วบอกให้ผู้เช่าโอนเงินรายเดือนให้ยายโดยตรง ไม่อยากเชื่อว่าจะเลี้ยงไม่เชื่องอย่างนี้” นางไขแสง เผยด้วยน้ำเสียงสะอื้น

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งไว้ ซึ่งจะเรียกตัว นายวิศวกร มาสอบปากคำว่ากระทำจริงหรือไม่ แต่ถ้ายังเงียบก็จะดำเนินการออกหมายเรียกและหมายจับต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นางไขแสง นั้น ถือเป็นเศรษฐีใหญ่ใจบุญ เป็นที่รู้จักกันดีของชาวจ.นนทบุรี โดยมีที่ดินในจังหวัดและต่างจังหวัดกว่าพันไร่ ก่อนหน้านี้เคยบริจาคที่ดินให้กับทางราชการจำนวนมากภายในซอยไขแสงใกล้ห้างพันทิพย์ สาขางามวงศ์วาน  เพื่อสร้างอนามัยชื่อ "อนามัยไขแสง" ไว้สำหรับ รักษาคนในชุมชนยามเจ็บป่วย จนเป็นที่ชื่นชมของคนในพื้นที่ และเป็นที่นับหน้าถือตาว่า เป็นคนใจบุญชอบสร้างกุศล.

sithiphong:
4 สารพิษในบ้าน อันตรายใกล้ตัว (สุดๆ)

-http://men.sanook.com/1363/4-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%86/-



ไม่เฉพาะอันตรายจากสารพิษ สารเคมี และสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม (นอกบ้าน) เท่านั้น แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในบ้านอันแสนอบอุ่นของคุณนั่นแหละ ที่มีภัยเงียบจากสารเคมีนานาชนิดตกค้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ ในบ้าน ฝุ่นละออง ฯลฯ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ เพราะองค์การอนามัยโลก ถึงขนาดได้ออกมาประเมินว่า ในประเทศด้อยพัฒนา มลพิษจากอากาศภายในอาคารและบ้านเรือนริมถนน เป็นต้นเหตุสำคัญของโรคทางเดินหายใจ โรคปอด และโรคมะเร็ง ที่ทำให้คนตายรวมกันไม่น้อยกว่าปีละ 2 ล้านคนเลยทีเดียว (เสียวฝุดๆ)

มีอะไรบ้างล่ะที่เสี่ยง

1) ฟอร์มัลดีไฮด์ นอกจากสารพิษชนิดที่ดมแล้วได้กลิ่น อย่างสารปนเปื้อนคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่ระเหยจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิง กลิ่นใหม่ๆ จากของใช้ในบ้านแล้ว ยังมี "กลิ่นฉุน" ที่แฝงตัวอยู่อย่างเงียบเชียบ นั่นก็คือเจ้าฟอร์มัลดีไฮด์ สารร้ายในบ้านนั่นเอง

เจ้าสารชนิดนี้ เป็นแก๊สไม่มีสี แต่มีกลิ่นฉุน เป็นสารประกอบของฟอร์มาลินที่ใช้ฉีดและดองศพ ถ้ามีสารนี้ เราจะสังเกตง่ายๆ ก็คือ เราจะรู้สึกแสบตา มึนหัว หายใจอึดอัด ภายในบ้านเราจะพบได้ในเฟอร์นิเจอร์ที่มีส่วนประกอบของไม้อัด สารต้านเชื้อราในกาวลาเท็กซ์ที่ใช้ประกอบเครื่องเรือน แล็กเกอร์เคลือบไม้ พรมปูพื้น สีทาบ้าน วอลล์เปเปอร์ ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ผ้าหุ้มเบาะโซฝา และเสื้อผ้าประเภทยับยาก ฟอร์มัลดีไฮด์ ทังหมดนี้ ล้วนเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งคนในบ้านเสี่ยงเมื่อสัมผัส

2) น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาทำความสะอาดเครื่องครัวบางชนิดมีโซดาไฟ เป็นส่วนประกอบซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนเนื้อเยื่อ เป็นพิษต่อร่างกาย ต่อมาคือสารเคมีที่ใช้ในการขจัดสิ่งอุดตันในท่อน้ำทิ้งมักเป็นสารอันตรายที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง รวมทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงการสูดกลิ่นเหล่านี้ เพราะมีอันตรายรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีน้ำยาทำความสะอาดพื้นบ้าน ที่ปัจจุบันนี้ บ้านไหนก็ต้องมี ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นคือสารกลุ่มอัลคิล ฟีนอล อีธอกไซเลต ที่มีรายงานความเป็นพิษแบบเฉียบพลันของสาร NPE หากทาน สูดดม หรือสัมผัสในปริมาณความเข้มข้นสูงจะทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ตา และผิวหนังอย่างรุนแรง

3) มันมากับความหอม ใครๆ ก็ชอบใช่มั้ยล่ะความหอม ด้วยเหตุนี้ ในบ้านจึงมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้สิ่งต่างๆ หอมดั่งเนรมิต แต่เจ้าความหอมที่ว่า มักมีอันตรายแฝงมาเสมอ เริ่มจากสบู่เหลวกลิ่นต่างๆ ใครจะรู้ว่าภายใต้ความหอมละมุนในช่วงอาบน้ำนั้นจะเต็มไปด้วยสารเคมีสังเคราะห์ที่ใช้ผสมลงไปจนกลายเป็น "สบู่เหลวเทียม" ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่าย จนถึงขั้นเสี่ยงต่อมะเร็งในระยะยาว ในบางประเทศเขาห้ามหรือประกาศเตือนกันแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ในบ้านเรายังมีการใช้สาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) และPEG (polyethylene Glycol) กันหรือเปล่า

ต่อไปคือผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นในห้องน้ำ ที่เมื่อสูดกลิ่นเข้าไปแล้วอันตรายอย่างแน่นอน แต่ที่มากกว่านั้นก็คือหากสัมผัสสารเหล่านี้บ่อยครั้งจะทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองต่อผิวหนัง คลื่นไส้ อาเจียน รวมทั้งยังเป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาซักแห้ง อโรมาเธอราปี ซึ่งบางคนอาจแพ้ ต้องรู้จักสังเกตและเลี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพ้ก่อนที่จะเกิดการสะสมพิษในระยะยาว

เพราะจริงๆ แล้วสารเคมีที่ให้กลิ่นหอมเหล่านั้น เคยมีการทดลองในสหรัฐฯ แล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ปล่อยสารระเหยอินทรีย์ออกมามากกว่า 20 ชนิด และ 7 ชนิด จาก 20 ชนิดตามกฎหมายถือเป็นสารอันตรายหรือเป็นพิษ ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง กลิ่นระเหยของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ไม่ได้ทำให้อากาศในบ้านหอมขึ้น แต่จะไปกลบกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นอับอื่นๆ ที่เราไม่ชอบ การหลีกเลี่ยงด้วยการเปิดห้องให้อากาศถ่ายเทน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า

4) อันตรายจากเทคโนโลยี โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ไมโครเวฟ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ นับเป็นเทคโนโลยีที่มีสารอันตรายปะปนอยู่ด้วยเสมอ ได้แก่ ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ฯลฯ สารพิษนานาชนิดเหล่านี้ จะถูกปล่อยออกมาปะปนในอากษส โดยที่วัสดุสังเคราะห์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจะปล่อยสารเคมีหรือไอระเหยที่เป็นพิษนับร้อยชนิดสู่อากาศ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตามมา เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด ระคายเคือง ไซนัส อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดต้นคอ ปวดศีรษะ เป็นต้น

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้จำแนกสารอันตรายที่อยู่ในผลิตภัณฑ์อิล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เอาไว้ เช่น ตะกั่ว เป็นส่วนระกอบในการบัดกรีแผ่นวงจรพิมพ์ หลอดภาพรังสีแคโทด (CRT) เป็นต้น ผลกระทบจะทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ระบบโลหิต โดยเฉพาะเด็กจะมีผลกระทบต่อพัฒนาการสมองเนื่องจากเด็กสามารถดูดซึมตะกั่วได้มากกว่าผู้ใหญ่ 5 เท่า

แคดเมียม มักพบในแผ่นวงจรพิมพ์ ตัวต้านทาน แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ซึ่งสารเหล่านี้จะสะสมในร่างกาย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อไตและกระดูก ทำลายระบบประสาท ส่งผลต่อพัฒนาการและการมีบุตร ส่วน ปรอท มักพบในตัวตัดความร้อน สวิตซ์ และอุปกรณ์ให้แสงสว่างในจอภาพแบบแบน หากปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำจะสะสมต่อไปในห่วงโซ่อาหาร ส่งผลต่อสมอง ไต และอวัยวะต่างๆ และเป็นพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง

นอกจากนี้ ยังมีอันตรายจากสารพิษอื่นๆ ที่แฝงอยู่ในบ้าน จำเป็นที่เราต้องระมัดระวัง โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติให้มากขึ้น เพราะภัยอันตรายจากสารพิษเหล่านี้ ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน ที่สำคัญยังมองไม่เห็น การป้องกันก่อนเกิดจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

 

ที่มา : บ้านปลอดพิษ ชีวิตปลอดภัย โดย ผศ.ดร.พูลสุข ปรัชญานุสรณ์ สำนักพิมพ์มติชน (หน้าพิเศษ Hospital Healthcare)

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version