อริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมอันดี > มาลาบูชาครู
รวม พระธรรมเทศนา พระอาจารย์ชยสาโร
ฐิตา:
การรักษาศีลเป็นบุญ เพราะเป็นการมีส่วนร่วมในการสร้างชุมชนที่ดีงามที่สันติสุข เป็นการหลุดพ้นจากความไม่เคารพนับถือตัวเอง เป็นการหลุดพ้นจากการกระทำที่เป็นบาปกรรม ที่สร้างความทุกข์ความเดือดร้อนแก่เพื่อนมนุษย์ แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย และเป็นการหลุดพ้นจากสิ่งเศร้าหมองที่อยู่ในใจบางสิ่งบางอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงธรรมะในชั้นสูง โดยเฉพาะความรู้สึกว่าตัวเองไม่ดี
- พระอาจารย์ชยสาโร
จากหนังสือ นักเพ่งคุณ นักจับถูก โดย มูลนิธิปัญญาประทีป และโรงเรียนทอสี
**************************
"ความฉลาด ความดี และความสุข" มาพร้อมกัน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แยกออกจากกันไม่ได้...
เพราะถ้าเราฉลาดจริงๆแล้วจะไม่มีทางทำความชั่วได้เลย
และเมื่อไม่ทำความชั่วจิตใจก็เป็นกุศลเป็นสุข
********************
ธรรมะไม่ใช่ของหนัก สำหรับผู้ออกกำลังใจทุกวัน
- พระอาจารย์ชยสาโร
*****************************
พลังน้ำที่น้อมต่ำ พลังธรรมที่ถ่อมตัว
Just as water’s strength can be seen
when it falls from a great height
so is humility
the measure of a man’s integrity.
*******************
ชีวิตอิสระ
โดดเดี่ยว ในป่า ฟ้ากว้าง
เคว้งคว้าง บนหน ทางใหญ่
ล้มบ้าง ลุกบ้าง เป็นไร
ปีกฝัน ยังใฝ่ โบยบิน
ไม่ต้อง ให้เก่ง เหนือใคร
ทำดี ที่ใคร ตัดสิน
แบกกลด แบกบาตร เดินดิน
ชีวิต พอกิน ประทัง
ไม่หยุด ก้าวไป เรื่อยๆ
แม้เหนื่อย ไม่ท้อ ถอยหลัง
มีธรรม น้ำใจ พลัง
สองขา คงยัง ก้าวเดินฯ
....................................
Wandering Free
Alone in the looming forest
rootless on the road,
I may slip or even fall
but my aspiration won’t waiver.
What’s the use of competition?
Who can judge my life?
With this alms bowl and robe
I’ll get by.
Though exhausted I’ll not give in —
forward I’ll go!
With the Dhamma as my companion,
these two legs will take me far.
ในสมัยปัจจุบันความเจริญทางวัตถุเพิ่มความอ่อนแอของมนุษย์มากขึ้นทุกที กลายเป็นว่าเราใช้สิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันโดยไม่เข้าใจสิ่งเหล่านั้น หมายถึงว่ามันเสียแล้วเราไม่มีปัญญาซ่อมไม่มีปัญญาแก้ เราก็น้อมสิ่งเหล่านี้มาสู่ชีวิตจนกระทั่งขาดสิ่งเหล่านี้แล้วงงแทบทำอะไรไม่ถูก สะดวกสบายไหมก็สะดวกสบาย เป็นประโยชน์ไหมก็เป็นประโยชน์ ไม่ได้คัดค้านในจุดนี้ แต่ในขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าถ้าวิถีชีวิตเราหรือคุณภาพชีวิตเราขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอกซึ่งเราควบคุมไม่ได้ หรือควบคุมบางส่วนได้บางระดับได้ เราก็อยู่ในภาวะที่ล่อแหลมต่ออันตราย
ฉะนั้นในการดำเนินชีวิตท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกที่เราไม่คิดจะปฏิเสธ ในขณะเดียวกันยอมรับว่าเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมในบางส่วนของชีวิตเราได้ การปลีกวิเวกเป็นครั้งคราวอย่างน้อยปีละครั้งปีละสองครั้ง วางสิ่งเหล่านี้ไว้ชั่วคราวมาดูใจมาเรียนรู้ว่าขาดสิ่งเหล่านี้มันเป็นอย่างไรไหม พออยู่ได้ไหม
อาจจะมีบางท่านบอกว่าดีเหมือนกัน ปิดคอมพิวเตอร์ ปิดไอแพด ไม่ติดต่อเฟสบุ๊ก ไม่ดูโทรศัพท์มือถือนี้ดี ดีมากสำหรับคนอื่น แต่สำหรับตัวเองนี้ก็คงต้องดูบ้างเหมือนกันเพราะว่ามีเรื่องสำคัญ เราเป็นคนสำคัญเราก็มีเรื่องสำคัญ ถ้ามีใครคิดอย่างนั้นก็ขอให้ทบทวนอีกทีว่าจำเป็นจริงๆไหม มันสำคัญจริงๆไหม ถ้าหากว่าเราวางไว้โดยสิ้นเชิงมันจะเป็นอย่างไรไหม อานิสสงค์ของการเข้ารีทรีตอย่างนี้ บางคนอาจจะไม่เห็นว่าเป็นอานิสสงค์หรือไม่ใช่สิ่งที่น่าชื่นใจเท่าไหร่ ก็คือการสำนึกว่าเราไม่สำคัญเหมือนที่เราคิด
จากธรรมเทศนาเรื่อง เรื่อง ตายชั่วคราว
โดยพระอาจารย์ชยสาโร วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๕
ในการปฏิบัติธรรมบ้านพอ ปี ๒๕๕๕ ณ บ้านพอ แม่ริม เชียงใหม่
***************************
ฐิตา:
ถ้าต้องการให้โลกไม่มีปัญหาเหมือนกับต้องการให้มหาสมุทรไม่มีคลื่น มันเป็นธรรมชาติของมัน… เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยของมัน เรียกว่ามันถูกต้อง มันถูกต้องของมัน บางทีที่ไม่ถูกต้องคือความคิดของเราที่อยากให้มันเป็นอย่างอื่น
จากธรรมเทศนาเรื่อง เรื่อง อ่านใจ วันที่ 30 มกราคม ๒๕๕๖
ในการปฏิบัติธรรมบ้านพอ ปี ๒๕๕๖ ณ บ้านพอ แม่ริม เชียงใหม่
***************************
การพัฒนาสิ่งดีงามในชีวิตต้องพัฒนาทั่งกาย ทั้งวาจา ทั้งจิต ทั้งปัญญา พร้อมๆกัน ศีลในระดับละเอียดนั้นท่านแปลว่าปกติ เราสำรวมกาย วาจา สำรวมใจ ได้สำนึกได้สังเกตความไม่ปกติของตัวเอง เมื่อเราพยายามอยู่กับลมหายใจ จิตใจดิ้นรน ไม่ค่อยยอม นั่นก็เป็นกำไรทางปัญญา ถึงจะไม่ได้กำไรทางความสงบของจิตใจ ปัญญาที่รู้ว่าภาวะจิตของเราทุกวันนี้มันเป็นอย่างนี้ เราสังเกตว่าจิตมันชอบคิดเรื่องอะไรบ้างเวลาจะอยู่กับลมหายใจ แต่ว่ามันหนีไป มันโดดเรียน โดดเรียนแล้วมันหนีไปอยู่ที่ไหน มันไปหาความบันเทิงที่ไหน
เวลาเราคิดต้องสังเกตว่าอาการของจิตใจที่เผลอที่กำลังคิดอยู่ เราจะมองในกรณีของเนื้อหาที่คิดก็ได้ ก็จะได้ปัญญาตรงนี้ด้วยว่าจิตใจสนใจเรื่องอะไรบ้าง
ดังนั้นคนเราเข้าข้างตัวเองเป็นประจำ อาจจะมองตัวเองในแง่ที่ดีเกินไปเสียส่วนใหญ่ สลับกับมองตัวเองในแง่ร้ายแต่จะตรงกับความเป็นจริงน้อยมาก ส่วนมากถ้าไม่ดีเกินความจริง มันก็ร้ายกว่าความจริง แต่เมื่อเราพยายามอยู่กับลมหายใจ จิตไปที่ไหนเราโกหกตัวเองไมได้ นี่คือสิ่งที่จิตเรายินดี นี่คือสิ่งที่จิตใจเราสนใจ เป็นการเปิดเผยว่าจิตใจของเรากำลังยึดติดในเรื่องอะไรบ้าง
จากธรรมเทศนาเรื่อง ภาวนาคิอเรียนรู้
ณ บ้านพอ วันที่ 22 มกราคม 2555 แม่ริม เชียงใหม่
*********************
เราทำสมาธิเพื่อหาทางสายกลาง คือ จุดที่ไม่คิดแต่ไม่หลับ
ถาม: ช่วงแรกของการนั่งสมาธิจะมีอาการง่วงมาก แต่พอฝืนใจตนเองไปสักนิด อาการง่วงหายไปเป็นปลิดทิ้ง มีคนกล่าวว่าถ้าอาหารง่วงหาย เป็นเพราะมีสมาธิ แต่ทำไมดิฉันยังคิดมากฟุ้งซ่านอยู่ถ้าดิฉันมีสมาธิจริงๆ
ตอบ: การที่ความง่วงหายนั้น ก็อาจจะเป็นเพราะมีสมาธิก็ได้ หรืออาจจะเป็นเพราะมีความฟุ้งซ่านก็ได้ เป็นแค่การเปลี่ยนตัวนิวรณ์ใหม่ คืออาจจะเป็นสมาธิสักพัก แต่สมาธิไม่มั่นคง แล้วก็เลยกลายเป็นความฟุ้งซ่านต่อ นี่ก็เป็นไปได้ ส่วนมากจิตใจของคนเราก็เหมือนเด็กเล็ก เคยสังเกตเด็กไหม คือมันรู้จักแต่วิ่งกับหลับ วิ่งไปวิ่งมาเหนื่อยก็หลับไปเลย ส่วนมากโตแล้วเราก็ยังเป็นอย่างนั้น จิตรู้แต่ฟุ้งซ่านกับง่วง ฟุ้งซ่านคิดไปคิดมา พอความคิดลดน้อยลงๆ ก็ง่วง เราจึงรู้จักแต่คิดกับหลับ ไม่คิดก็หลับ ไม่หลับก็คิด ทีนี้เราทำสมาธิเพื่อหาทางสายกลาง คือ จุดที่ไม่คิดแต่ไม่หลับ สมาธิมันอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องใช้เวลาเหมือนกัน
จากหนังสือ ชีวิตคือความท้าทาย
จัดทำโดย มูลนิธิปัญญาประทีป และโรงเรียนทอสี
********************
...ความคิดก็เป็นผู้สร้างโลก เราสร้างโลกที่เราอยู่อาศัยด้วยความคิด ด้วยสัญญา นี่ไม่ได้หมายถึงโลกที่เป็นวัตถุแต่หมายถึงโลกแห่งความหมาย โลกของแค่ละคนคือสิ่งที่เราเลือกสำคัญมั่นหมาย สิ่งที่เราให้น้ำหนัก สิ่งที่เราถือว่าสำคัญ นั่นคือโลกที่เราอยู่
ถ้าเราไม่ศึกษากระแสอารมณ์ ไม่ศึกษากระแสความคิด เราจะไม่รู้สึกตัวในเรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นคอมม่อนเซนส์ เป็นเรื่องที่ชัดเจนแล้ว ทุกๆคนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างนี้ แต่พอเราหยุดเมื่อไหร่ โลกที่เราสร้างขึ้นมาและสร้างอยู่ทุกวันทุกเวลานาทีนั้นก็วินาศ วันนี้มีพยากรณ์ว่าปีนี้ปลายปีนี้โลกจะวินาศ โลกมันก็วินาศอยู่ตลอดเวลา โลกวินาศมันก็ดีเหมือนกัน ถ้าเป็นโลกแห่งความคิด โลกมายาที่แต่ละคนสร้างขึ้นมาและเครียดในการรักษาไว้
ที่พระพุทธองค์และครูบาอาจารย์ต้องการให้เราพิจารณาถึงความไม่เที่ยง ความไม่แน่นอนเป็นประจำก็คือ สัญชาตญาณของผู้ลอยตามกระแสคือการมองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของแน่นอน การฝึกมองการระลึกสำนึกอยู่ในความไม่แน่นอนก็เป็นการทวนกระแสของตัณหาเหมือนกัน...
จากธรรมเทศนาเรื่อง ภาวนาคิอเรียนรู้
ณ บ้านพอ วันที่ 22 มกราคม 2555 แม่ริม เชียงใหม่
**************************
จิตใจปล่อยวางความเพลินอยู่ในความจำ ความเพลินอยู่ในความคิด สามารถอยู่อย่างสันโดษ มักน้อย อยู่ในปัจจุบัน ไม่หิวโหย ไม่แสวงหาสิ่งใดเป็นเครื่องบันเทิงของจิตใจ แล้วเรื่องแปลกคือพอเราหยุดการแสวงหาความสุข ความสุขก็ปรากฏทันที
คือสามัญสำนึก อวิชชาบอกว่าเราต้องการความสุข เราก็ต้องแสวงหา แล้วยิ่งในสมัยปัจจุบันนี้ ก็จะเข้าใจว่าความสุขเกิดจากการบริโภค เกิดจากการจ่ายเงิน เกิดจากการตอบสนองความต้องการของ ตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือเป็นเรื่องของกาม แต่เรื่องนี้เราไม่ต้องไปเถียงกับใคร ขอให้เราได้ศึกษาความจริงของชีวิต โดยไม่ต้องผ่านหนังสือ ไม่ต้องผ่านผู้รู้ ไม่ต้องผ่านอะไรก็ได้ เราแต่ละคนทุกคน มีศักยภาพที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเองได้ อันนี้เป็นบุญของการเกิดเป็นมนุษย์
จากธรรมเทศนาเรื่อง โอฆะสี่ น้ำท่วมใจ
ณ บ้านบุญ วันที่อาทิตย์ 2 ตุลาคม 2554 ปากช่อง นครราชสีมา
:https://www.facebook.com/jayasaro.panyaprateep.org
ฐิตา:
ในศาสนาพุทธ เราถือว่าสมาธิคือเครื่องระงับอารมณ์
มีแต่ปัญญาเท่านั้นที่สามารถระงับกิเลสได้
แต่ปัญญาจะทำหน้าที่ขจัดกิเลสได้ก็เมื่อจิตมีความสงบ
ความมั่นคง ความผ่องใส และพลังของสมาธิ
พระอาจารย์ชยสาโร
:mohandas karimpanackal
G+ NaiChang Boon สนทนาธรรมตามกาล
ฐิตา:
...ผู้ที่มีสติกำหนดรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง จะเป็นผู้ที่รู้สึกสดใส
และเป็นผู้ไม่กระสับกระส่าย กระวนกระวาย
ที่จะแสวงหาความสุขและความมั่นคงจากภายนอก
ไม่ว่าจะเป็นลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
หรือจะเป็นความรักความเคารพจากคนอื่น
ทีนี้ เราไม่มีความรู้สึกว่าเราขาดอะไร
ไม่ต้องการอะไรจากใครในโลก
เราไม่มีความรู้สึกว่าเรามีอะไรเกิน
จะมีแต่ความรู้สึกว่ามันพอดี ตรงนี้แหละจิตเป็นธรรม...
(พระอาจารย์ชยสาโร)
>>> F/B คติธรรมนำชีวิต
ในระดับตัวบุคคล สิ่งที่สร้างความทุกข์ความเดือดร้อนให้กับชีวิตเรามากที่สุด น่าจะเป็นความเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ความทุกข์กายไม่ใช่เรื่องของกายอย่างเดียว จิตใจมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่เสมอไม่มากก็น้อย เช่น ความเครียด ความซึมเศร้า ความกังวล อารมณ์เศร้าหมองทั้งหลายเหล่านี้ ย่อมมีผลกระทบต่อภูมิต้านทานโรค ทำให้ป่วยง่ายและหายช้า เป็นที่ยอมรับกันแล้วในวงการแพทย์ว่า ความโกรธเป็นปัจจัยสำคัญของโรคหัวใจ ส่วนความโลภอาจทำให้ติดยาเสพติดหรือเป็นกามโรคได้ อีกเรื่องหนึ่งที่กำลังเป็นที่วิตกกันมากคือนิสัยการกิน
คนจำนวนมากทีเดียวยอมกินอาหารที่เป็นพิษต่อร่างกายเพียงเพราะชอบรสชาติ คนสมัยนี้เป็นโรคเพราะวิถีชีวิตกันมาก โรคอ้วนเป็นตัวอย่างที่เด่นที่สุด สาเหตุสำคัญคือการกินมากเกินความต้องการของร่างกาย ในปัจจุบันนี้นักวิจัยบอกว่าคนอเมริกันตายเพราะโรคอ้วนปีละ ๓๐๐,๐๐๐ คน การรักษาโรคอ้วนใช้งบประมาณปีละ ๑,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ ยุคนี้คือยุคไขมันเจริญ การไม่ควบคุมอาหาร การไม่ยอมออกกำลังกาย เป็นปัญหาของพฤติกรรมก็จริง แต่เกิดจากมโนกรรมคือจิต ต้องแก้ที่จิตใจคนก่อน เพราะถ้าบริหารอารมณ์ได้ เรื่องปากมันจะเป็นเอง ไม่ต้องกินแก้กลุ้ม กินแก้เบื่อ กินแก้เหงา อีกต่อไป
การฝึกจิตทำให้รู้จักปล่อยวางความยึดถือยึดมั่นในอารมณ์ คนเรารู้จักบริหารอารมณ์ได้ดีก็ช่วยทางด้านสุขภาพกายได้ดีด้วย โรคที่เกิดเพราะกรรมยังคงมีอยู่จริง แต่โรคที่มีสาเหตุมาจากจิตจะลดน้อยลงมาก ยารักษาโรคที่กระทรวงสาธารณสุขต้องซื้อมาจากเมืองนอกในราคาแพงๆ จะลดลง สรุปว่าการนั่งหลับตาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ประหยัด แค่ราคายานอนหลับ ยากล่อมประสาท ก็ได้เงินมหาศาลแล้ว
หลวงพ่อชยสาโร
ธรรมรักษาผู้ประพฤติธรรมให้อยู่เป็นสุข โดยธรรมสุจริต "ตดเกิดตดดับ"..
>>> F/B พอเพียง มาก กับ Kajitsai Sakuljittajarern
ฐิตา:
เอกลักษณ์ของศาสนาพุทธ คือการยกปัญญาเป็นคุณธรรมสูงสุด ชาวพุทธเราหากมีความจริงใจต่อพระศาสนา จึงต้องมุ่งมั่นให้เป็นผู้มีปัญญา พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่าสมาธิเป็นบาทฐานของปัญญาประเภทที่รู้เห็นตามความเป็นจริง จนสามารถทำลายกิเลสได้ ส่วนปัญญาที่เกิดจากความจดจำหรือคิดไตร่ตรอง เป็นประโยชน์มากในชีวิตประจำวัน แต่ได้ผลดีเฉพาะเวลาที่ทุกสิ่งทุกอย่างปกติ พอกิเลสเกิดขึ้น พอมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง มักจะลืมปัญญาระดับนี้เลย พออารมณ์ดับแล้ว เราจึงนึกได้ว่าอะไรเป็นอะไร ฉะนั้น ปัญญาแบบจำได้คิดได้ มีบทบาทจำกัดในการสร้างที่พึ่งภายใน เราจำเป็นต้องเสริมด้วยปัญญาที่สามารถยืนหยัดตลอดเวลา แม้ในยามวิกฤติ บัณฑิตผู้มีปัญญา เห็นเรื่องที่ควรคิด ควรพิจารณาก็คิดพิจารณาในเรื่องนั้น แต่บัณฑิตรู้จักกาละเทศะ เวลาไหนไม่ต้องคิดก็สามารถปล่อยวางได้ ท่านว่า สามารถอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ต้องการ ตามความต้องการคือสมาธิภาวนา จิตสงบแล้ว ถึงเวลาที่สมควรก็น้อมใจเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในหลักธรรม เหมือนแมงมุม ไม่มีแมลงก็อยู่เฉยๆ อย่างมีสติ พอแมลงติดหยากไย่ก็ออกไปจัดการ
ในสมัยปัจจุบันนี้ คนจำนวนมากเป็นทุกข์เพราะความคิดมากกว่าปัญหาในการเอาตัวรอดทางด้านวัตถุ แต่สังคมยังไม่ค่อยปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ ยังไม่มีค่านิยมในการบริหารความคิด ระบบการศึกษาสอนแต่ให้คนรู้จักคิด เราจึงคิด คิด คิด อยู่ตลอดเวลา แต่หยุดคิดไม่ค่อยเป็น นอกจากเวลานอนหลับเท่านั้น และทุกวันนี้คนเครียดมากเสียจนนอนไม่ค่อยหลับก็มีเยอะ หรือถึงจะนอนหลับก็ยังต้องฝันอีก หลับแล้วต้องฝันเพราะอะไร เพราะความคิดยังคั่งค้างอยู่ ไม่ยอมปล่อยวาง ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ไม่สดชื่นเพราะสมองแช่อยู่ในความอยาก ความกลัว ความกังวลอยู่ทั้งคืน จะจัดการกับความคิด ไม่ให้มันเป็นพิษเป็นภัยต่อชีวิตเรา อาตมาเชื่อว่าการฝึกจิตคือทางเดียวที่ได้ผล
การฝึกสมาธิภาวนาจะประสพความสำเร็จอย่างเต็มที่ ต้องประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ สิ่งที่ผู้ภาวนาจะขาดไม่ได้คือ ความเข้าใจในหลักสำคัญทางพระพุทธศาสนาเช่นกฎแห่งกรรม อริยสัจสี่ ไตรลักษณ์ เป็นต้น จำเป็นต้องรู้ความสัมพันธ์เนื่องอาศัยกันของศีล สมาธิ ปัญญา ต้องไม่เชื่ออะไรที่ขัดกับความจริงของธรรมชาติ เช่นไม่เชื่อว่ามีพระผู้เป็นเจ้าสร้างโลกคอยดลบันดาลชีวิตของมนุษย์ ไม่เชื่อว่านิพพานเป็นอัตตาเป็นต้น ถ้าอย่างนั้นผู้ที่นับถือศาสนาอื่นหรือลัทธิอื่นทำสมาธิได้ไหม ได้สิ และได้ผลคือความสงบสุขในระดับหนึ่งด้วย ที่ไม่ได้คือความตั้งใจมั่นซึ่งเป็นบาทฐานของวิปัสสนา อันเป็นอาวุธเดียวที่สามารถนำเราไปสู่ความเป็นอิสระจากกิเลสอย่างแท้จริง
ความเห็นผิด ไม่ใช่อุปสรรคเดียวที่ควรระวัง ความอยากผิดก็อันตรายเหมือนกัน หลวงพ่อชาท่านสอนลูกศิษย์ของท่านอยู่เสมอว่า อย่าปฏิบัติเพื่อเอาอะไร อย่าปฏิบัติเพื่อจะได้อะไร จงปฏิบัติเพื่อละ ปฏิบัติเพื่อปล่อย ถ้านั่งสมาธิคิดอยากได้นั่น อยากเห็นนี่ อยากมี อยากเป็น การทำสมาธิจะเศร้าหมอง แล้วจะไม่เป็นสมาธิพุทธ เพราะการทำสมาธิด้วยตัณหา ไม่ใช่แนวทางเพื่อพ้นทุกข์ ทั้งนี้ก็เพราะมันเป็นการกระทำที่ขัดแย้งในตัว คือถ้าเผื่อเราทำสมาธิเพื่อละตัณหาเป็นแรงบันดาลใจแล้วเราจะสำเร็จไหม เหมือนผู้นำประเทศเชิญเจ้าพ่อเป็นอธิบดีกรมตำรวจช่วยปราบคนพาล ครูบาอาจารย์ให้เราทำสมาธิด้วยฉันทะ คือความอยากไม่อยู่เกี่ยวกับกามหรืออัตตา เช่นต้องการให้จิตใจเรามีคุณธรรม ละกิเลสได้ เรานั่งหลับตาเพื่อทำให้จิตเราสงบจากกาม สงบจากอกุศลทั้งหลาย พอที่จะอำนวยความสะดวกแก่การทำงานของปัญญา
The uniqueness of Buddhism Is to lift up the moral wisdom . If we are true to the Buddhist religion. It must strive to be wise . The Buddha said that mindfulness baht base of intellectual types accomplice after the fact . It can be frustrating Passion The intelligence that arises from the recognition or contemplated . Be very useful in everyday life. It is effective only when everything normal. Passion is happening I have severe traumatic . Intellectual level tend to forget this. The mood extinct We realized what was happening, so intelligent designer recalls thinking . Play a limited role in creating a refuge within. We need to supplement with wisdom that can stand all the time. Even in times of crisis Graduate spirituality Comments should think about Consideration should also think about that. Secretary is selectively I think it's time not to be able to let him be the one you want. According to the spiritual meditation to calm the mind should bow to achieve a deeper understanding of the principles do not like spiders, insects are dormant consciously stick insects cobweb enough to handle it .
In this present Many people are suffering because of the greater difficulty in inciting the object. But society has not adapted to the new situation . N values in management thinking. Education system , but to teach people to think we were thinking , thinking, thinking all the time , but rarely stop to think . It 's time to sleep And the stressful day, so much so that sleep a lot. I also need to sleep or to dream more. What sleep to dream I think the bottleneck Not released Waking up in the morning refreshed because the brain is not immersed in craving , fear, worry all night . To deal with the idea It's not a threat to life . The ego believes that a spiritual practice is the only way to be effective.
Practicing meditation will succeed fully. Sammādiṭṭhi approval must include what the prayer is indispensable . Understanding of the significance of the Four Noble Truths of Buddhism such as karma , Trinity , etc. need to know the relationship between the living precepts , meditation wisdom must not believe anything that is contrary to the truths of nature. God created the world , such as do not believe there are preordained life. Nirvana's ego will not believe . So those of other religions or cults like meditation to me , and the result is peace in the future. That was not intended, it is the base of introspection baht . As a weapon, one that can lead us to a truly free from passion .
Comments are not the only obstacle to be aware of . I want the same danger . Ajahn he always taught his devotees . Do not practice what Do not do anything to Give effect to the Practice to leave I meditate, I think that I see here, I have wanted to be a gloomy meditation . It is not a Buddhist meditation Because meditation with passion Aligned to suffering This is because it is an act of contradiction . If meditation is for us to be inspired by the passion , we will accomplish this . The Godfather -like leader is the chief of police to subdue a bully . Meditation teacher gave us a proxy . It is not erotic or ego. To my mind , such a moral passion and we ride our eyes to make the mental peace of Kam. Propagators are composed of Enough to facilitate the work of intelligence.
หลวงพ่อชยสาโร
ธรรมรักษาผู้ประพฤติธรรมให้อยู่เป็นสุข โดยธรรมสุจริต "ตดเกิดตดดับ"..
>>> F/B พอเพียง มาก กับ Kajitsai Sakuljittajarern
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version