ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีบูชาพระให้ถูกต้อง  (อ่าน 1090 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
วิธีบูชาพระให้ถูกต้อง
« เมื่อ: ตุลาคม 01, 2013, 08:12:24 pm »

                       
 
วิธีบูชาพระให้ถูกต้อง

     สำหรับเรื่องการบูชาพระพุทธรูปประจำบ้าน หรือร้านค้า ที่ทำงาน
กับคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธนั้น ถือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากที่สุดเรื่องหนึ่ง หลายครอบครัวใหม่ เมื่อสร้างบ้านหรือทำบุญฉลองบ้านใหม่ เปิดออฟฟิศ เปิดร้านค้า ก็มักจะได้ของขวัญเป็นพระพุทธรูป องค์เทพต่าง ๆ หรือพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ต่าง ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลนั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทั้งสิ้น

     แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจในการจัดหิ้งพระในบ้านที่ต้องมีความเหมาะสมทึี่ควรจะถูกภูมิธรรม ซึ่งถือว่าเป็นแสดงความเคารพนับถืออย่างสูง ซึ่งจะขออนุญาตแนะนำถึงการจัดพระตามลำดับ ตามแนวของครูบาอาจารย์ให้ทราบกัน การจัดเรียงพระพุทธรูปบูชาในบ้านเรือนหรือในสถานที่ใดก็ตาม จะต้องวางให้ถูกต้องเหมาะสม ควรไล่เรียงไปตามชั้นบุญบารมีและภูมิธรรมของท่านด้วย กล่าวคือ

     ในชั้นที่สูงที่สุด : จะต้องวางพระพุทธรูปอันเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าเป็นประธานในที่แห่งนั้น และต้องหันหน้าพระพุทธรูปไปทางทิศตะวันออก เรื่องนี้สำคัญมากและห้ามวางพระประธานต่ำกว่าพระองค์อื่น ๆ ถ้ามีพระพุทธรูปหลายองค์ก็ให้เลือกยกพระพุทธรูปองค์หนึ่งขึ้นเป็นพระประธาน และควรเลือกพระพุทธรูปองค์ที่หน้าตักใหญ่ที่สุดด้วย ส่วนพระพุทธรูปที่เหลือหรือพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ สามารถวางในชั้นนี้ได้แต่ต้องต่ำกว่าพระพุทธรูปที่เป็นพระประธาน

    ในชั้นที่สอง : วางรูปปั้น รูปจำลอง รูปภาพของพระอรหันต์ที่เราทราบที่เราเคารพ เช่น พระสีวลี พระอุปคุต เป็นต้น

     ในชั้นที่สาม : วางรูปปั้น รูปถ่ายของครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ หรือพระเครื่องต่าง ๆ สำหรับพระเครื่องควรหาจานหรือถาดเล็ก ๆ วางไว้รวมกัน และห้ามวางเครื่องลางของขลังในชั้นนี้เป็นอันขาด พวกเขี้ยวเสือ ตระกรุด กุมารทอง รัก-ยม หรืออะไรก็ตามที่เป็นเครื่องรางของขลัง ให้แยกไปไว้ที่อื่นหรือชั้นล่างสุด ไสยศาสตร์นั้นอย่าเอามาวางปะปนกับพระสงฆ์ผู้มีศีล

     ในชั้นที่สี่ : วางรูปพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์
     ในชั้นต่อมา :  วางรูปครูบาอาจารย์ที่เป็นฆราวาส บรรพบุรุษที่เราเคารพ หรือเถ้ากระดูกของท่าน เป็นต้น

     ในชั้นที่ 4 และชั้นที่ 5  ที่อยากแนะนำว่าให้วางต่ำกว่าพระสงฆ์นั้นเพราะว่าพระสงฆ์มีศีลมากกว่าคนปกติ แม้แต่สามเณรที่ถือศีลน้อยกว่าพระสงฆ์ แม้จะเพิ่งบวชเพียงวันเดียว พระมหากษัตริย์เสด็จมาก็ยังต้องกราบ

     ถ้าในบ้านเรานั้น มีหิ้งพระอยู่หิ้งเดียวหรือมีอยู่ชั้นเดียว ก็ขอแนะนำให้ทำเล่นระดับต่าง ๆ เพื่อให้แตกต่างกันในการวาง การทำระดับชั้นนั้นทำได้ง่าย ๆ คือ หาฐานไม้หรือหนังสือหนา ๆ หรือใช้โต๊ะหมู่บูชาที่มีขนาดต่างกันมาวางไล่เรียงแทนชั้นได้

     สำหรับเทพเจ้าทั้งในศาสนาพราหมณ์หรือลัทธิอื่น ๆ เช่น พระพิฆเนศ พระพรหม เทพเจ้ากวนอู ฯลฯ ขอแนะนำว่าควรให้แยกชั้นเสีย อย่าเอาท่านมาวางปะปนกัน และการวางต้องดูด้วยว่า เทพท่านใดมีอายุมากกว่าก็ให้วางไว้สูงกว่าท่านอื่น ๆ เช่น เทพทางฮินดูนั้นส่วนมากจะมีอายุมากกว่าทางจีน บางเทพนั้นมาพร้อม ๆ กับการสร้างโลก จึงขอให้ดูให้ดี ๆ ในเรื่องการจัดวางด้วย

     การจัดวางหิ้งพระให้ถูกต้องเหมาะสมนั้น ถือว่าเป็นการเคารพบูชาท่านด้วยการกระทำ ด้วยปัญญาอย่างหนึ่ง ไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะเอามาวางปนเปกันหมด ดังเอาคนที่เรียนชั้นอนุบาลมาเรียนปนกับปริญญาเอก ซึ่งนอกจากไม่ให้เกียรติแล้วยังจะลบหลู่ด้วย หลายครอบครัวเมื่อมีการจัดวางหิ้งพระที่ถูกต้อง จะมีเรื่องดี ๆ เรื่องมงคลเข้ามาในชีวิตเสมอ เพราะถ้าเราทำถูกต้อง เทพเทวา เจ้าที่เจ้าทาง ดวงวิญญาณที่ดูแลบ้าน ร้านค้า หรือที่ทำงาน ท่านเหล่านั้นก็จะ
สักการะกราบไหว้ด้วยเช่นกัน ทำให้ท่านมีฤทธิ์ มีบุญมากขึ้น และจะช่วยเราได้มากขึ้นตามลำดับ

     โปรดอย่าทำหิ้งบูชาพระในห้องนอน เพราะคนเรานั้นอาจจะมีกิจกรรมทางเพศ หรือการอันใดที่เป็นการไม่สมควร ควรจะหาที่อื่นจัดวางและดูให้เหมาะสม อย่าวางใต้บันไดที่เดินขึ้นและลงตลอดเวลา หน้าห้องน้ำ หรือผนังที่สกปรก ควรพึงระลึกไว้เสมอว่า การปฏิบัติบูชาด้วยการสร้างกรรมดี สร้างบุญกุศล ละเว้นความชั่วทั้งปวง เป็นการบูชาที่ดีที่สุดและเกิดผลมากที่สุด

     อามิสบูชาหรือการบูชาด้วยสิ่งของนั้น ควรใช้ปัญญาในการบูชา ดอกไม้ เครื่องหอม และน้ำสะอาดนั้น เราสามารถบูชาท่านได้ และพึงเตือนใจในทุกวันนี้ที่ได้ถวายว่า เราจะกระทำกาย วาจา และใจ ให้สะอาดและหอมดังอามิสบชาที่เราน้อมถวายนั้น
     ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า ดอกไม้เพื่อไหว้พระสงฆ์ สำหรับเทียนเพื่อไหว้พระธรรม เป็นแสงสว่างนำทางที่ถูกที่ควร ธูป 3 ดอก ที่เราจุดไหว้พระพุทธรูปนั้น หมายถึง การบูชาพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ

     การกราบพระพุทธรูปไม่ว่าจะเป็นที่ใด ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งสอนเอาไว้ว่า ก่อนกราบขอพึงสงบจิตใจให้นิ่งสงบ เวลากราบให้มีสติระลึกไว้ว่า
     กราบครั้งที่ 1 ระลึกในพระคุณของพระพุทธเจ้า (นึกถึงภาพของพระพุทธเจ้า หรือพระพุทธรูปที่เราเคารพ)
     กราบครั้งที่ 2 ระลึกในพระคุณของพระธรรม ที่ช่วยให้คนพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง (นึกถึงว่ามีดอกไม้ร่วงจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า หรือพระพุทธรูปที่เราเคารพ)
     กราบครั้งที่ 3 ระลึกในพระคุณของพระสงฆ์ ผู้สืบทอดพระศาสนา (นึกถึงภาพพระสงฆ์ที่เราเคารพนับถือ เช่น หลวงปู่มั่น  หลวงปู่ทวด สมเด็จโตวัดระฆัง ครูบาศรีวิชัย หลวงพ่อสด หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่ศุข  หลวงปู่ปานวัดบางนมโค ฯลฯ
     หากใครกราบได้แบบนี้ทุกคน จะเกิดความเป็นสิริมงคล เกิดปัญญาที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้

     ทุกครั้งที่เรากราบบูชาพระพุทธรูป ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ให้เชื่อมบุญกับท่านทุกครั้ง โดยให้กล่าวเชื่อมบุญ ดังนี้:-
     "บุญกุศลใดที่ข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อของตนทั้งชื่อจริงดั้งเดิม หรือชื่อใหม่ที่ไปเปลี่ยนมา) ได้เคยเพียรทำมาตั้งแต่ในอดีตชาติ ชาติปัจจุบัน และที่จะมีต่อไปยังอนาคต ขอน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม และทุกพระองค์ จนถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอรหันตเจ้า พระโพธิสัตว์ .........
(ต่อไปให้เอ่ยชื่อของพระพุทธรูปที่เรากำลังกราบไหว้ เช่น หลวงพ่อพระพุทธชินราช หลวงพ่อโสธร พระเจ้าเก้าตื้อ หลวงพ่อทันใจ ฯลฯ)
พรหมเทพเทวดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตและดูแลพระพุทธรูปองค์นี้รวมถึงผู้สร้าง ผู้ร่วมสร้างทั้งหลาย
     ขอเมตตารวมบุญทั้งหมดของข้าพเจ้า ให้เป็นพลวปัจจัยให้ชีวิตจงพบกับความสุข ความเจริญ คำว่าขัดข้องและคำว่าไม่มี ขอจงอย่าบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอความสำเร็จที่ถูกธรรมจงหลั่งไหลเข้ามาสู่ชีวิตของข้าพเจ้า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

     การเชื่อมบุญนี้จะเป็นการเพิ่มบุญอีกทางหนึ่ง ถ้าท่านเหล่านั้นมาร่วมอนุโมทนารับบุญไป และนับต่อจากนี้ไป เราก็จะเป็นที่เมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นขอให้นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง ทุกข์เภทภัยใด ๆ ก็จะมลายหายไปหมดสิ้น

     - ควรหมั่นเปลี่ยนและทำความสะอาดหิ้งพระอย่าให้สกปรก ถือว่าเป็นการกระทำบูชาท่านที่สมควร
     - เมื่อกราบไหว้พระ ควรจะถือโอกาสสวดพุทธมมนต์ไปด้วยความเคารพ และทำสมาธิต่อหลังจากสวดมนต์ และอุทิศบุญ เชื่อมบุญ ตามหลักการที่กล่าวมาแล้วทุกครั้ง
     เรื่องเหล่านี้เป็นเคล็ดวิชาที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ท่านทั้งหลายพบกับความเป็นสิริมงคลในชีวิตเร็วมากยิ่งขึ้นอีกทางหนึ่ง

ข้อมูลจาก +sakchai kongmaneepran
อมรา เส้นทางสู่ธรรม