อิ่มกาย อิ่มใจ > กองทัพเดินด้วยท้อง

ว่าด้วยเรื่อง "ไข่"

<< < (3/9) > >>

sithiphong:

ประโยชน์ 10 ประการของไข่

-http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C_10_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88/-


   ไข่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นอาหารหลักของคนทุกชนชั้นทุกชาติ จากประโยชน์ที่ไข่มอบให้กับร่างกายของคนเรานั่นเอง และต่อไปนี้คือ ประโยชน์ 10 ประการจากการบริโภคไข่ ซึ่งบางอย่างคุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

     1. ไข่เป็นอาหารที่ดีสำหรับดวงตา ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานไข่วันละฟองอาจจะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ทั้งนี้เนื่องมาจากสารคาโรทีนอยด์ที่อยู่ในไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบบริเวณตา โดยฉาบอยู่บนผิวของเรตินา เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารทั้งสองอย่างนี้โดยตรงจากไข่มากกว่าอาหารชนิดอื่น

     2. ไข่ทำให้เป็นต้อกระจกน้อยลง จากผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งนักวิจัยยังพบว่า คนที่กินไข่ทุกวันมีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อกระจกน้อยลง อันเนื่องมาจากลูทีนและซีแซนทีนในไข่ดังได้กล่าวมาแล้ว

     3. ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคุณภาพดี 6 กรัม และกรดอะมิโนสำคัญอีก 9 ชนิด

     4. ผลจากการทำวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างการบริโภคไข่กับการเกิดโรคหัวใจ แถมยังมีผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่า การบริโภคไข่เป็นประจำยังช่วยป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน เส้นเลือดอุดตันในสมอง และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

     5. ไข่เป็นแหล่งโคลีนที่ดี โดยโคลีนอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี จัดเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการควบคุมการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด โดยไข่ 1 ฟองจะมีโคลีนมากถึง 300 ไมโครกรัม

     6. ไขมันในไข่มีคุณภาพดี ไข่ 1 ฟองมีไขมันอยู่ 5 กรัม และมีเพียง 1.5 กรัมเท่านั้นที่เป็นไขมันชนิดอิ่มตัว

     7. แม้ว่าออกจะขัดแย้งกับความเชื่อเดิมๆ แต่งานวิจัยชิ้นใหม่กลับพบว่า การบริโภคไข่แต่พอสมควรจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อปริมาณคอเลสเตอรอล มิหนำซ้ำยังมีการศึกษาพบเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การบริโภคไข่วันละ 2 ฟองเป็นประจำวันไม่มีผลกระทบต่อระดับไขมันในร่างกาย มิหนำซ้ำอาจจะช่วยทำให้ไขมันดีขึ้น โดยผลการวิจัยกล่าวว่า ไขมันอิ่มตัวจะทำให้ระดับคอเรสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าคอเลสเตอรอลที่อยู่ในอาหาร

     8. กินไข่ได้วิตามินดี เพราะไข่เป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เป็นแหล่งวิตามินดีตามธรรมชาติ

     9. ไข่อาจจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานไข่ 6 ฟองต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมลงร้อยละ 44

     10. ไข่ทำให้เส้นผมและเล็บมีสุขภาพดี เพราะว่าไข่มีซัลเฟอร์สูง รวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด หลายคนจึงพบว่าผมยาวเร็วขึ้นหลังจากที่เพิ่มไข่เข้าไปในอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคยขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี12 มาก่อน

          การบริโภคไข่ให้เหมาะสม
          แม้ว่าไข่จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่หลายคนก็ยังกังวล ฉะนั้นการกินไข่ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี โดยคนแต่ละวัยสามารถบริโภคไข่ได้ดังนี้

          - เด็กอายุ 1 ปีจนถึงเด็กวัยเรียนสามารถบริโภคไข่ได้วันละ 1 ฟอง
          - ผู้ใหญ่ที่มีภาวะร่างกายปกติสามารถบริโภคไข่ได้ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
          - คนวัยทำงานสุขภาพดี สามารถบริโภคไข่ได้วันละ 1 ฟองทุกวัน ไม่เพิ่มคอเลสเตอรอลและไม่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
          - กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคที่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงสามารถบริโภคไข่เพียง 1 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์

แหล่งที่มา : -http://women.thaiza.com/ประโยชน์-10-ประการของไข่/209488/-

--------------------------------------------------------------------------



5 เรื่องน่ารู้ของไข่ไก่

-http://guru.slb1.sanook.com/pedia/pedia_layout.php?page_id=23742&c=1-

1. ทำไมไข่ทุกฟองไม่ฟักเป็นตัว
      ไข่ไก่ที่เรากินทุกวันนี้เป็นไข่ที่ไม่ผ่านกระบวนการปฏิสนธิ คือไม่มีการผสมกันระหว่างเชื้อของตัวผู้และไข่ของตัวเมีย แต่ในระบบสืบพันธุ์ของไก่ตัวเมียจะมีรังไข่และท่อรังไข่ รังไข่นี้มีหน้าที่ผลิตไข่ ไข่ที่ผลิตแต่ละฟองจะถูกปล่อยออกมาตามท่อรังไข่อย่างสม่ำเสมอ และแม่ไก่ก็พร้อมจะวางไข่ กระบวนการนี้จะดำเนินไปตลอด ไม่ว่าไข่จะมีการปฏิสนธิหรือไม่ก็ตาม นั่นคือเหตุผลที่ไข่ไก่ทุกฟองไม่ฟักเป็นตัว


2. ไข่สุก-ไข่ดิบ อะไรมีประโยชน์กว่ากัน
      เราไม่ควรกินไข่ดิบ เพราะในไข่ดิบอาจจะมีเชื้อโรค และไข่ขาวดิบยังย่อยยากอีกด้วย หากเรากินไข่ขาวดิบเข้าไป มันจะผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้ไปโดยไม่ได้ย่อย ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้ หากจะกินไข่ลวก ควรลวกให้ไข่ขาวสุกเสียก่อน

3. ช่องวางไข่ในตู้เย็น ทำอายุไข่สั้น
      เปลือกไข่มีลักษณะเป็นรูพรุนตลอดทั้งฟอง รูที่เปลือกมีขนาดเล็กมากเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผิวไข่ที่เราเห็นจึงดูเรียบเนียน และเพราะเปลือกมีรูพรุนทำให้ไข่สามารถดูดซึมกลิ่นต่าง ๆ ได้ง่าย จึงไม่นิยมเก็บไข่ไว้กับอาหารที่มีกลิ่นฉุน อย่างกะปิ น้ำปลา การเก็บไข่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นจะเหมาะกว่าเก็บที่อุณหภูมิปกติ และควรใส่ในภาชนะแล้ววางไว้บนชั้นวางธรรมดาดีกว่าใส่ในช่องวางไข่ที่ฝาผนังตู้เย็นซึ่งจะมีอุณหภูมิที่สูงทำให้ไข่เสียเร็วกว่าที่ควร

4. เก็บไข่ควรนำด้านแหลมลง
      การวางไข่โดยเอาด้านแหลมลงและให้ด้านป้านอยู่บน ไข่แดงที่มีน้ำหนักเบากว่าไข่ขาว แม้จะพยายามลอยตัวขึ้นบนแต่ก็จะปะทะกับโพรงอากาศที่อยู่ทางด้านป้านไม่ปะทะกับเปลือกไข่ ไข่แดงจึงอยู่กลางใบหากเราเปลี่ยนเอาทางด้านป้านลงไข่แดงจะลอยขึ้นไปติดที่เปลือกไข่ทำให้ไข่แดงแตกง่ายเวลาตอก การเก็บไข่จึงควรนำด้านแหลมลงทุกครั้ง

5. ไข่ไม่ได้เป็นแค่อาหาร
      - ไข่ขาว นำมาทำเป็นส่วนประกอบของยางบางชนิด ทำสีทาสิ่งของ ทำกาว ทำหมึกพิมพ์ ช่วยย้อมหนัง กำจัดสิวเสี้ยน
      - ไข่แดง ทำสบู่ สี แชมพู ตกแต่งหนังสัตว์ บำรุงผิว
      - เปลือกไข่ ทำอาหารสัตว์ ปุ๋ย และนำไปทำสิ่งประดิษฐ์ได้อีกหลายสิบอย่าง



-----------------------------------------------------------------------------



เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไข่

-http://guru.slb1.sanook.com/pedia/pedia_layout.php?page_id=19961&c=1-


     “ไข่” หนึ่งในอาหารยอดนิยมของคนทุกเพศทุกวัย นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารสูงแล้ว ยังราคาไม่แพง สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละอย่างก็ล้วนน่ารับประทานทั้งนั้นเลย แต่มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไข่อีกมากมายที่ยังไม่รู้ มาดูกัรว่ามีอะไรบ้าง

1. ทำไมไข่ทุกฟองจึงไม่ฟักเป็นตัว?

ไข่ไก่ที่เรารับประทานทุกวันนี้ เป็นไข่ที่ไม่ผ่านกระบวนการปฏิสนธิ คือ ไม่มีการผสมกันระหว่างเชื้อของตัวผู้และไข่ของตัวเมีย แต่ในระบบสืบพันธุ์ของไก่ตัวเมียจะมีรังไข่และท่อรังไข่ รังไข่นี้มีหน้าที่ผลิตไข่ ไข่ที่ผลิตแต่ละฟองจะถูกปล่อยออกมาตามท่อรังไข่อย่างสม่ำเสมอ และแม่ไก่ก็พร้อมจะวางไข่ กระบวนการนี้จะดำเนินไปตลอด ไม่ว่าไข่จะมีการปฏิสนธิหรือไม่ก็ตาม  ทำงานอยู่กับบ้าน ผ่าน net 100% รายได้ 5 หมื่น บ/ด ขั้นต่ำ ขอย้ำว่าขั้นต่ำ สมัครที่ http://offto.net/bigW/

2. ไข่สุก-ไข่ดิบ อะไรมีประโยชน์กว่ากัน?
     
เราไม่ควรรับประทานไข่ดิบ เพราะในไข่ดิบอาจจะมีเชื้อโรค และไข่ขาวดิบยังย่อยยากอีกด้วย หากเรารับประทานไข่ขาวดิบเข้าไป มันจะผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้ไปโดยไม่ได้ย่อย ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ หากจะรับประทานไข่ลวก ควรลวกให้ไข่ขาวสุกเสียก่อน นอกจากอร่อยกว่าแล้วยังปลอดภัยจากเชื้อโรคโดยเฉพาะไข้หวัดนกอีกด้วยนะจ๊ะ

3. ช่องวางไข่ในตู้เย็น ทำให้อายุไข่สั้น?
     
เปลือกไข่มีลักษณะเป็นรูพรุนตลอดทั้งฟอง รูที่เปลือกมีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ผิวไข่ที่เห็นจึงดูเรียบเนียน และเพราะเปลือกมีรูพรุนทำให้ไข่สามารถดูดซึมกลิ่นต่างๆ ได้ง่าย จึงไม่นิยมเก็บไข่ไว้กับอาหารที่มีกลิ่นฉุน อย่างกะปิ น้ำปลา การเก็บไข่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นจะเหมาะกว่าเก็บที่อุณหภูมิปกติ และควรใส่ในภาชนะแล้ววางไว้บนชั้นวางธรรมดาในตู้เย็น ดีกว่าใส่ในช่องวางไข่ที่ฝาผนังตู้เย็น ซึ่งจะมีอุณหภูมิสูงทำให้ไข่เสียเร็วกว่าที่ควร ทำงานอยู่กับบ้าน ผ่าน net 100% รายได้ 5 หมื่น บ/ด ขั้นต่ำ ขอย้ำว่าขั้นต่ำ สมัครที่ http://offto.net/newbiz/

4. เก็บไข่ควรนำด้านแหลมลง?
     
การวางไข่โดยเอาด้านแหลมลง และให้ด้านป้านอยู่บนไข่แดงที่มีน้ำหนักเบากว่าไข่ขาว แม้จะพยายามลอยตัวขึ้นบน แต่ก็จะปะทะกับโพรงอากาศที่อยู่ทางด้านป้าน ไม่ปะทะกับเปลือกไข่ ไข่แดงจึงอยู่กลางใบ หากเราเปลี่ยนเอาทางด้านป้านลง ไข่แดงจะลอยขึ้นไปติดที่เปลือกไข่ ทำให้ไข่แดงแตกง่ายเวลาตอก การเก็บไข่จึงควรนำด้านแหลมลงทุกครั้ง

5. ไข่ไม่ได้เป็นแค่อาหาร
  - ไข่ขาว นำมาทำเป็นส่วนประกอบของยาบางชนิด ทำสีทาสิ่งของ ทำกาว ทำหมึกพิมพ์ ช่วยย้อมหนัง กำจัดสิวเสี้ยน
  - ไข่แดง ทำสบู่ สี แชมพู ตกแต่งหนังสัตว์ บำรุงผิว
  - เปลือกไข่ ทำอาหารสัตว์ ปุ๋ย และนำไปทำสิ่งประดิษฐ์ได้อีกหลายสิบอย่าง

เห็นไหมล่ะว่า ไข่ฟองเล็กๆ ที่คุ้นเคยกันดี มีความน่าสนใจมากขนาดไหน ทีนี้ เรามาดูว่าไข่มีคุณค่าทางอาหารอะไรบ้าง

  - โปรตีนจากไข่ เป็นโปรตีนคุณภาพดีที่มีความสำคัญต่อการสร้างเนื้อเยื่อให้กับร่างกาย
  - ธาตุเหล็ก มีมากในไข่แดง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและนำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย
  - แคโรทีนอยด์ (carotenoids) ในไข่แดงช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อเสื่อม และปัญหาสายตาในผู้สูงอายุ
  - โคลิน (choline) ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ในเรื่องความจำและการเรียนรู้
  - กรดโฟลิค (folic acid) วีตามินบี 6 บี12 ช่วยลดระดับโฮโมซิสเทอีน (homocysteine) ซึ่งถ้ามีมากจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  - สังกะสี มีบทบาทสำคัญกับการเจริญเติบโต ช่วยสร้างเอ็นไซม์ ซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  - ซัลเฟอร์ ช่วยลดการอักเสบ และขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
  - แมกนีเซียม ช่วยในการเจริญเติบโต และบำรุงรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังช่วยในการทำงานของเอนไซม์ในร่างกายด้วย
  - แคลเซียม วิตามินเอ ดี อี เค ไนอะซิน โพแทสเซียม โซเดียม และไขมัน ซึ่งล้วนจำเป็นต่อร่างกาย

มื้อต่อไปลองหาไข่มาทานซักฟองนะค๊ะ ....







กระตุกหางแมว:
มื้อต่อไปลองหาไข่มาทานซักฟองนะค๊ะ ....

ผมขำตรงนี้ มันเยอะมากตอนก็อปมาพี่หนุ่มอาจลืมดู อิอิ  :45: :17: :13:

sithiphong:
ครัวคุณต๋อย 16 ส.ค. 56 (1/2) ทอดไข่ ยังไงให้ฟู

ครัวคุณต๋อย 16 ส.ค. 56 (1/2) ทอดไข่ ยังไงให้ฟู

-http://www.youtube.com/watch?v=oO-NQSQfMGQ-



ไข่ม้วนแฮมชีส Ham Cheese Omelet

ไข่ม้วนแฮมชีส Ham Cheese Omelet

-http://www.youtube.com/watch?v=zd9czXZYBsA-



ไข่กระทะดับเบิ้ลชีส Pan Omelet Double Cheese

ไข่กระทะดับเบิ้ลชีส Pan Omelet Double Cheese

-http://www.youtube.com/watch?v=xQEir_imFx4-



ไข่ยัดไส้

ไข่ยัดไส้

-http://www.youtube.com/watch?v=0mjjfTK_P4c-



.

sithiphong:
สารพัด'ไข่'อิ่มล้ำหนำใจ
สารพัด'ไข่'อิ่มล้ำหนำใจ : คอลัมน์ชวนชิม

-http://www.komchadluek.net/detail/20140316/180863.html#.UyUCZIXPuZQ-


 
                      บางครั้งเมื่อต่อมรับรสอาหารอยากทำงาน ต่อมความอยากรู้ก็ด้อยประสิทธิภาพลงในคราวเดียวกัน เช่น หนนี้พอได้รู้ว่าที่ห้องอาหารนานาชาติ ซิตี้ บิสโทร โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส หอบสารพัดไข่ มารังสรรค์กลายเป็นอาหารคาวหวานหลากเมนู มีทั้งแบบคุ้นหน้าคุ้นตา และแบบหากินที่ไหนไม่ได้ ไว้เอาใจนักชิมให้อิ่มหนำสำราญกระเพาะ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย จึงพุ่งความสนใจไปว่า เหตุใดถึงหยิบไข่มาบรรจุไว้ในรายการโปรโมชั่นประจำเดือนมีนาคม
 
                      เชฟบุญสม กลิ่นศรีสุข เล่าวันในหนึ่งสัปดาห์จะมีเมนูไข่ให้บริการ 5 วันวันละ 4 รายการ ยังไม่นับของหวานอีกวันละ 2 อย่างให้เลือกตามความชอบ เช่นวันนี้มี "ไข่แฟนซี" เป็นจานทานเล่น เชฟเลือกใช้ไข่นกกระทาต้มสุกคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงถึง 8 รสด้วยกัน ได้แก่ ต้มยำ ลาบ สาหร่าย ถั่ว งา กุ้ง และชีส ลำพังแค่สีสันก็เย้ายวนชวนหยิบเข้าปากพออยู่แล้ว ยิ่งพอได้ลิ้มรสเข้าไปทำได้แค่สะกิดเตือนผู้มีปัญหาเรื่องคอลเรสเตอรอล ว่าควรพึงระวังไว้สักนิด เพราะเห็นไข่ใบกระจิ๊ดแค่นั้น แต่ให้พลังงานล้นเหลือ
 




 
                      ผลผลิตจากไข่นกกระทาอีกหนึ่งจานนามว่า "ไข่ซอสมะขาม" ทว่าต่างกันตรงที่ต้องทานคู่กับข้าวสวย ทั้งส่วนผสมและขั้นตอนการปรุง ดูกี่ทีกี่ทีก็ละม้าย "ไข่ลูกเขย" ยิ่งตักใส่ปากเคี้ยวยิ่งชัดเจน ได้ความเปรี้ยวจากมะขามเปียกเคี่ยวกับน้ำตาลปิ๊บและน้ำปลาแอบแทรกรสเผ็ดเล็กๆ ลงไป ส่วนทคนิคความอร่อยสำหรับจานนี้ มีอยู่แค่ต้องทานขณะยังร้อนๆ มิเช่นนั้นน้ำซอสจะเหนียวเกินพอดี
 
                      ส่วน "ไข่ระเบิด" เชฟบุญสมบอกว่าได้แรงบันดาลใจจาก "ภูเขาไฟฟูจิ" โน่น ทว่ามี "ไข่เยี่ยวม้า" เป็นตัวชูโรงแล้วเพิ่มรสชาติความอินเตอร์ของดินแดนอาทิตย์ลงไปด้วยการหมักไข่เข้ากับเครื่องเทศของญี่ปุ่น ใบมิ้นท์ และผักชี ก่อนจะตีไข่ไก่โดยใช้แต่ขาวให้ขึ้นฟูแล้วเหยาะเกลือลงไป จากนั้นจึงนำมาห่อไข่เยี่ยวม้าที่หมักสมุนไพร เสร็จสรรพก็จับเอาเข้าเครื่องอบกระทั่งไข่ขาวสุก และแน่นอนว่าจะต้องมีลักษณะแตกจนเห็นเนื้อใน มาถึงขั้นตอนการตักใส่ปากจะกินเพียวๆ คงไร้รสชาติไปนิด ว่าแล้วเชฟก็ประดิดน้ำซอสสาหร่ายไว้กินคู่กัน...เมื่อความมันของไข่ผสมกับซอสเข้าไป เชื่อว่าจานนี้จะทำให้ลืม "ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ" ไปหมดสิ้น
 
 




 
                      มาถึงอีกหนึ่งเมนูไข่ที่แอบเอาใจคนไทยนิยมรสแซ่บ นั่นคือ "ไข่ตุ๋นวุ้นเส้นทรงเครื่อง" เพราะแอบมีน้ำจิ้มซีฟู้ดเป็นของทานคู่ แต่สำหรับนักชิมต่างบ้าน ซึ่งสู้ความแซ่บไม่ไหว เชฟจึงแนะนำให้ปรับไปทานคู่กับซอสสาหร่ายซึ่งก็ได้รสชาติไปอีกแบบ ย้อนกลับมาถึงพูดถึงไข่ตุ๋นนั้นประกอบด้วย ครีม วุ้นเส้น ปูอัด ที่ขาดไม่ได้คือ ไข่ไก่ และเหตุที่ควรเป็นไข่ไก่มากกว่าไข่เป็ด นั่นเพราะ ในไข่ไก่มีน้ำเยอะตุ๋นออกมาแล้วเนื้อไม่กระด้าง ที่สำคัญมีกลิ่นคาวน้อยกว่าไข่เป็ด
 
                      พักเรื่อง (ของ) คาว เข้าสู่โหมดความหวานกันบ้าง เชฟผู้ชำนาญเรื่องไข่ให้ข้อมูลว่า อาหารคาวเปลี่ยนทุกวัน ของหวานก็ไม่ยอมน้อยหน้าขอเปลี่ยนทุกวันเช่นกัน แม้จะมีให้เลือก 2 รายการต่อวันก็ตาม และวันนี้ก็มี "สังขยาฟักทอง" มาต้อนรับ ฟังชื่ออาจดูธรรมดาหน้าตางามพอไปวัดไปวาได้ (ไม่ถึงกับวิจิตรตระการตา) แต่พอตักเข้าปากสำหรับคนที่ไม่ถนัดหวานมากนักอาจจะไม่อยากพักช้อนก็ได้ เพราะไม่หวานแหลมจัดจ้าน แถมยังมีข้าวเหนียวเนื้อนุ่มสอดไส้ยิ่งได้กินคู่กับฟักทองเนื้อแน่นเหนียวหนึบ นับว่าเป็นความพอดีที่ลงตัวจนต้องยกนิ้วให้ หรือหากไม่ถนัดขนมไทยๆ ทางร้านยังมี "ทาร์ตไข่" แป้งพายทำสดทุกวันให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก..ที่สุดแล้วหากอยากเบรกความหวานมันจากไข่ ทางร้านแนะนำเครื่องดื่มรสจี๊ดจาก "แพชชั่นฟรุต" ให้เลือกไม่ว่า แพชชั่น สแปช, ไวโอเลต แพชชั่น หรือ แฟชชั่นมาร์ตินี่
 

 
 
                      อย่าเพิ่งตกใจว่าที่ ซิตี้ บริโทร จะโหมเมนู "ไข่" ให้ชิมเพียงอย่าง เพราะยังเปิดครัวปิ้ง ย่าง ทอด ผัด อาหารทะเล อาหารไทย-เทศเหมือนเดิม เพียงแค่เดือนมีนาคมนี้ เน้นเสริมโปรตีนจาก "ไข่" ให้เป็นพิเศษเท่านั้น อยากรู้ว่าร้านเปิดตั้งแต่เวลาไหนถึงเมื่อไหร่ โทรศัพท์ถามได้ที่หมายเลข 0-2216-3700 ต่อ 20100
 
 
 
....................
 
(สารพัด'ไข่'อิ่มล้ำหนำใจ : คอลัมน์ชวนชิม)

sithiphong:
“ไข่กระทะ” มื้อเช้าง่ายๆ อิ่มอร่อยเพิ่มพลัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    9 พฤษภาคม 2557 15:11 น.

-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000051148-




 ใครๆ ก็รู้ว่ามื้อเช้าเป็นอาหารมื้อสำคัญของวัน เพราะว่าในเวลากลางคืนร่างกายไม่ได้รับอาหารมาหลายชั่วโมงแล้ว และวันอีกทั้งวันเรายังต้องใช้พลังงานในการทำงานอีก ฉะนั้น ก็ต้องมาเพิ่มพลังให้ร่างกายกับมื้อเช้าที่อิ่มอร่อย
       
       แต่บางคนก็บอกว่าไม่มีเวลาจะกินอาหารเช้าเพราะว่ารีบเร่ง ไม่มีเวลาจะมานั่งทำอาหารในตอนเช้า “ครัววันหยุด” เลยอยากจะแนะนำเมนูอาหารเช้าที่ทำได้ง่ายๆ ในเวลารีบเร่งแบบนี้ เพื่อให้ทุกคนได้กินอาหารเช้าเพิ่มพลังในแต่ละวัน กับเมนูที่ชื่อว่า “ไข่กระทะ”




 ส่วนผสม
       ไข่ไก่ 2 ฟอง
       กุนเชียง ปริมาณตามชอบ
       ไส้กรอก ปริมาณตามชอบ
       เนยจืด เล็กน้อย
       ผักชี+ต้นหอม สำหรับโรยหน้า
       พริกไทยป่น สำหรับโรยหน้า
       
       วิธีทำเริ่มจากนำกระทะสำหรับทำไข่กระทะตั้งไฟอ่อนๆ ใส่เนยจืดลงไปให้พอละลาย ตอกไข่ใส่ลงกระทะทั้ง 2 ฟอง แล้วเร่งไฟขึ้นมาอีกนิด ใส่กุนเชียงและไส้กรอกลงไปด้านบนไข่ไก่ ทอดไปเรื่อยๆ ให้ไข่ด้านล่างเหลืองกรอบ ด้านบนเริ่มหน้าไข่เริ่มแห้ง (ถ้าชอบไข่สุกก็ลดไฟลงเล็กน้อย ค่อยๆ ให้ด้านบนสุก) ปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วโรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี และพริกไทยป่น เสิร์ฟในกระทะร้อนๆ พร้อมกับซอสถั่วเหลือง ซอสมะเขือเทศและซอสพริก กินเป็นอาหารเช้าอร่อยๆ เติมพลังให้กับการทำงาน


ชมคลิปได้ที่  http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000051148

.

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version