อิ่มกาย อิ่มใจ > กองทัพเดินด้วยท้อง
ว่าด้วยเรื่อง "ไข่"
sithiphong:
บัวลอยไข่หวาน ขนมไทยในดวงใจ อร่อยไม่รู้ลืม
-http://cooking.kapook.com/view91793.html-
เรียบเรียงข้อมูลดดยกระปุกดอทคอม
จะมีใครสักกี่คนที่ไม่เคยกินขนมบัวลอยบ้างไหมน้า ขนมไทยเนื้อเหนียวนุ่มกินคู่กับน้ำกะทิหวาน ๆ หอม ๆ ตักกินร้อน ๆ อร่อยนักแล วันนี้ กระปุกดอทคอม ก็เลยขอนำสูตรบัวลอยไข่หวานมาฝากเสียเลย เม็ดบัวลอยหลากสีสันน่ากิน เสิร์ฟเคียงคู่มากับไข่หวาน เข้ากันดีสุด ๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยเลยสิคะ
หมายเหตุ : บัวลอย 1 ถ้วย ให้พลังงานโดยประมาณ 223 กิโลแคลอรี่
สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
น้ำ 1/4 ถ้วย
เผือกนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง)
ฟักทองนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารเหลือง)
น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว)
น้ำกะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ไข่ไก่
วิธีทำ
แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 นวดผสมแป้งกับน้ำและเผือกนึ่งสุก ส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำและฟักทองนึ่งสุก ส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย นวดผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปคลุกแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้
ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟ พอเดือด รีบปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้
ต้มน้ำในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว่ใส่ลงไป
ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักขึ้นใส่ลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ
บัวลอยไข่หวานพร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า สีสันน่ากินไหมล่ะคะ อิอิ ถ้าใครอยากลองทำกินเองดู ก็ลุยกันเลยจ้า เปลี่ยนสีกันได้ตามใจชอบ
sithiphong:
ชวนมาลองทำไข่กระทะ เมนูอาหารเช้าง่ายๆแต่ดูดีเวอร์
-http://women.sanook.com/blog/18543/%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B0-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9/-
สวัสดีค่ะสาวๆและหนุ่มๆชาวสนุกทุกคน วันนี้นิชามีเมนูอาหารเช้าง่ายๆมาฝากค่ะ
รับรองว่าถ้าทำให้คนพิเศษทานคงจะฟินไม่น้อย เพราะว่าทำง่ายมาก แถมออกมาดูดีเวอร์
โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเราๆแต่งหน้าแต่งตัวสวยแล้วถ้าทำอาหารเป็นยิ่งเลิศเข้าไปใหญ่
ทำอาหารยากๆไม่เป็นไม่เป็นไรค่ะ อาศัยหลักการเดียวกับนิชา ง่ายๆ แต่ดูดี เรื่องรสชาติค่อยว่ากัน
เอ้ย..ไม่นะ อร่อยด้วยแหละ ฮ่าๆๆ พูดเยอะไปแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเมนูนี้เราต้องเตรียมอะไรบ้าง
เ ค รื่ อ ง ป รุ ง
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กุ้งตัวโตๆ 2 ตัว
แฮมหั่น
ชีสแผ่น
ปลาทูน่ากระป๋อง
ต้นหอมซอย
เนยเค็ม
ซอสปรุงรส
พริกไทย
ง่ายๆค่ะ แค่อยากทานอะไรก็ใส่ลงไป หรือว่าค้นตู้เย็นเจออะไรก็ใส่ลงไปเลย
วิ ธี ทำ
ถ้าใช้เป็นของสดเราต้องมาทำให้สุกกันก่อนนะคะ อย่างกุ้งก็ไปรวนให้กุ้งสุกก่อนแกะเปลือกออกค่ะ
ตั้งไฟอ่อนๆให้กระทะพอร้อนใส่เนยเล็กน้อย ตอกไข่ใส่ลงไป 2 ฟอง นิชาใช้กระทะเล็กๆขนาด 17 cm
ค่ะ หาซื้อได้ที่ร้าน Daizo ที่เลือกเพราะว่าขนาดกำลังพอดีเหมาะแก่การเสริ์ฟ 1 คนพอดีเลย
ให้ใช้ไฟอ่อนๆที่สุดเลยนะคะ ถ้าแรงไข่ขาวจะไหม้ก่อนไข่แดงสุกค่ะ นิชาใช้ฝาปิดเอาไว้ไข่แดงจะได้สุกเร็วขึ้น
ถ้าไฟร้อนไปเราใช้วิธียกกระทะลงจากเตาและเมื่อกระทะคลายความร้อนก็ยกขึ้นอีก ทำจนกว่าไข่จะสุกค่ะ
พอไข่สุกตามที่ใจต้องการแล้ว ก็ใส่เครื่องที่เราเตรียมไว้ลงไปค่ะ ของนิชามี ทูน่า แฮม ชีส กุ้งสด
โรยด้วยต้นหอมซอย ซอสปรุงรส และพริกไทย ก่อนเสริ์ฟ
ใสเนยลงไปนิดหน่อย
ทำตามสเตปเลยค่ะ 1-2-3-4
เห็นมั๊ยค่ะ แค่นี้ก็ได้อาหารเช้าแบบดูดีแล้วล่ะ
น่ากินใช่มั๊ยล่ะคะ ^^
รับประทานกับขนมปังปิ้งร้อนๆและนมสดก็พร้อมสำหรับวันใหม่แล้ว
เป็นอีกหนึ่งไอเดียให้เพื่อนๆนะคะ วันนี้ไปก่อนล่ะค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาชมน้า
sithiphong:
กิน "ไข่" ฟองเดียวรู้เรื่องไม่ต้องเสริมวิตามิน
-http://campus.sanook.com/1374251/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88-%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99/-
"วันไข่โลก" เอ้กบอร์ดแนะไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพและวิตามินมากมาย เตือนเลี่ยงไข่ดิบย่อยยาก ประโยชน์สูญ
คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ได้กำหนดให้วันศุกร์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมเป็น "วันไข่โลก" ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 10 ต.ค. เพื่อเป็นการรณรงค์และส่งเสริมการบริโภคไข่ เพราะไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูงและราคาถูก โดยไข่ไก่เพียง 1 ฟอง สามารถให้พลังงานได้ถึง 80 กิโลแคลอรี่ และมีโปรตีนถึง 7 กรัม มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน และยังเป็นแหล่งของแร่ธาตุ วิตามินอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 บี 6 วิตามินดี วิตามินอี โฟเลต เลซิธิน ลูทีน และซีแซนทีน
ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไข่ดิบ เพราะอาจเสี่ยงกับการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ และไข่ขาวไม่สุกอาจไปขัดขวางการดูดซึมของไบโอติน ทำให้ย่อยยากและไม่ได้รับประโยชน์จากไข่อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ "ไข่" ยังเป็นอาหารบำรุงร่างกายสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยเด็กทารกอายุ 6 เดือนเต็ม สามารถรับประทานไข่แดงต้มสุกครึ่งฟองผสมกับข้าวบด ค่อยๆ ให้ทีละน้อยและค่อยๆ เพิ่มขึ้น ส่วนเด็กอายุตั้งแต่ 7 เดือนขึ้นไปจนถึงวัยเรียนควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง และในผู้ใหญ่สามารถรับประทานไข่สัปดาห์ละ 3 -5 ฟอง ยกเว้นคนที่มีภาวะคอเลสเตอรอลสูง ควรลดปริมาณเหลือเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ฟอง หรือรับประทานแต่ไข่ขาว หรือรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับคอเลสเตอรอลสูงจนเกินไป
ด้านอธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกรับประทานไข่ทุกวันโดยไม่เบื่อ ก็ควรนำไข่ทำเป็นเมนูต่างๆ และควรนำผักใส่ลงไปด้วยเพื่อเป็นการจูงใจให้เด็กทานผัก ส่วนคนกลุ่มอื่นก็สามารถนำไข่มาทำเป็นเมนูต่างๆ เช่น ไข่พะโล้ ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ไข่เจียว หรือไข่ลูกเขย แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเยอะๆ ในการปรุงอาหาร
และในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องฟันไม่สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้ ก็ให้รับประทานไข่เพื่อทดแทนแหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ แต่ถ้าหากผู้สูงอายุมีปัญหาในเรื่องระดับไขมันในเลือดสูงก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไข่แดง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนควรกินไข่ควบคู่กับอาหารหลากหลายชนิดในแต่ละมื้อ โดยให้มีอาหารประเภท แป้ง ธัญพืช เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งกากใยอาหารที่ได้รับจากการกินผักและผลไม้จะช่วยดูดซับไขมันบางส่วนที่อยู่ในอาหารออกจากร่างกาย ทำให้ไม่เกิดการสะสมของไขมันที่อาจจะส่งผลทำให้เกิดโรคต่างๆ อาทิ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือดอีกด้วย
ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์
sithiphong:
ยำไข่เจียว เมนูไข่ที่ใครได้ลองจะลืมไม่ลง
-http://cooking.kapook.com/view101908.html-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เคยกินแต่ยำไข่ดาว ยำไข่ต้มมาจนเบื่อแล้ว วันนี้เรามีเมนูใหม่มานำเสนอคือ ยำไข่เจียว เผ็ดหวานเปรี้ยวรสเด็ดที่ใครก็ต้องลองแล้วจะลืมไม่ลง
เมนูไข่เด็ด ๆ ที่ท้าให้ลองในวันนี้ขอเสิร์ฟเป็นเมนูในตระกูลไข่เจียวแต่จะจับมายำแซ่บ ๆ ให้ได้อร่อยไปกับเนื้อไข่เจียวฟู ๆ นุ่ม ๆ เคล้ากับน้ำยำรสเด็ดเผ็ดแซ่บ เปรี้ยว-หวานลงตัว แถมวิธีทำก็ยังง่ายอีกตามเคย เป็นสูตรมาจาก นิตยสารแม่บ้าน ทำง่าย ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้นเอง แจ่มว้าวขนาดนี้จะรออะไรอยู่ล่ะคะ ลุยกันเลย
ส่วนผสม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กุ้งสดลวกสุกหั่นชิ้น 1/3 ถ้วยตวง
หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
มะนาวหั่นชิ้น 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมดองซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชำ
ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ตีให้เข้ากันดี
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำไข่ไก่ลงทอดจนฟูเหลืองทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นหั่นเป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้
3. ผสมน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากัน
4. ใส่กุ้งลวก หอมแดง มะนาว พริกขี้หนู กระเทียมดอง ตะไคร้ กุ้งแห้ง และไข่เจียวลงในน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. โรยผักชีฝรั่ง คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน จัดเสิร์ฟ
บอกแล้วไงคะว่า เมนูยำไข่เจียวจานนี้เด็ดอย่าบอกใคร เชื่อว่าใครลองแล้วจะต้องติดใจแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
-http://www.maeban.co.th/-
ปีที่ 39 ฉบับที่ 545 ตุลาคม 2557
sithiphong:
“ไข่” ใครว่าไม่ดี
-http://men.sanook.com/1496/-
เรือง: DR. Kris
คุณผู้ชายหลายท่านไม่ถูกกับการทานไข่ โดยเฉพาะคนที่มีไขมัน ความดัน หรือ คลอเรสเตอรอลสูง เพราะต่างก็เข้าใจว่า ไข่เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดปกติเหล่านั้น แต่ไฉนเลย ไม่ว่าจะสูตรลดน้ำหนักไหนๆ ที่ได้ยินมา ก็มักจะมีไข่อยู่ด้วยเสมอ แถมนักกีฬาหุ่นดี ล่ำบึ้ก ยังบอกว่าต้องทานไข่กันแทบทุกมื้อ แล้วมันยังไงกันแน่ ตกลงทานได้ทานไม่ได้ ทานแล้วจะอ้วนมั้ย วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ
ความเชื่อผิดๆ
ในอดีต เชื่อกันว่า ไข่ เพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอลในกระแสเลือด ซึ่งเป็นหนึ่งในหนทางสู่โรคหัวใจ เพราะไข่แดงในไข่ 1 ฟอง มีปริมาณไขมันถึง 5 กรัม จึงไม่แปลกที่บรรดานักโภชนาการจะคิดไปว่าไขมันจำนวนดังกล่าวจะไปอุดตัดหลอดเลือด ซึ่งอันที่จริงแล้วใน 5 กรัมนั้นมีส่วนของไขมันดีรวมอยู่ด้วย และอันที่จริงแล้ว คลอเลสเตอรอล ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป ร่างกายคนเราต้องการคลอเลสเตอรอล เพื่อรักษาเซลล์ กระตุ้นการทำงานของเส้นใยประสาท และผลิตวิตามินดี ซึ่งไข่ประกอบด้วย คลอเลสเตอรอล 200 มิลลิกรัม ในแต่ละวัน ร่างกายต้องการคลอเรสเตอรอลจากอาหารวันละ 300 มิลลิกรัม ดังนั้นการกินไข่มีผลต่อระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดเพียงเล็กน้อย และบางครั้งการกินไข่ อาจไม่มีผลต่อระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดมากเท่ากับการกินเนื้อสัตว์ที่มีปริมาณไขมันชนิดอิ่มตัวสูงนะครับ
ประโยชน์จากไข่
ไข่ให้คุณค่าทางสารอาหาร ไม่ได้แค่มีไขมัน (ในไข่แดง) และโปรตีน (ในไข่ขาว) เท่านั้น แต่ยังประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ ดังนี้
วิตามิน A ดีกับผิวและการเจริญเตอบโตของร่างกาย
วิตามิน D สร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกด้วยการเพิ่มการดูดซึมแคลเซี่ยม
วิตามิน E ปกป้องเซลล์จากปฏิกริยาออกซิเดชัน
วิตามิน B1 ช่วยให้การปดปล่อยพลังงานจากคอร์โบไฮเดรตเป็นไปอย่างเหมาะสม
วิตามิน B2 ช่วยปลดปล่อยพลังงานจากโปรตีนและไขมัน
วิตามิน B6 ส่งเสริมกระบวนการเมตาบอลิซึ่มของโปรตีน
วิตามิน B12 วิตามินที่สำคัญในการสร้างตัวของเส้นใยประสาทและเซลล์เลือด
ธาตุเหล็ก จำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
สังกะสี ดีสำหรับการสร้างความเสถียรของเอนไซม์และการเติบโตทางเพศ
แคลเซี่ยม แร่ธาตุสำคัญในการสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
ไอโอดีน ควบคุมฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
ทานไข่อย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า เด็ก ๆ ควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง วัยหนุ่มสาวควรบริโภคไข่ไก่วันละ 2 ฟอง ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรบริโภคไข่ไก่ไม่เกิน วันละ 1 ฟอง แต่สำหรับชายวัยฉกรรจ์ ไข่ไก่มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะช่วยให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวย ช่วยให้พลังงานกับร่างกายอย่างเต็มที่ และไข่ไก่ยังช่วยทดแทนพลังงานที่ร่างกายสูญเสียไป ควรทานตามปริมาณที่แนะนำ ไม่ควรทานเกินกว่านี้ เพราะถึงแม้ว่าไขมันในไข่แดงจะไม่ได้ส่งผลกับคลอเรสเตอรอลในเลือดโดยตรง แต่อาจสร้างปัญหาอื่นๆได้ และด้วยภาวะในปัจจุบันนี้ ไม่แนะนำให้ทานไข่ดิบ เพราะ เชื้อโรคต่างๆในโลกเราน่ากลัวและรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะไข้หวัดนกสารพัดสายพันธุ์ที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นว่าเล่น ดังนั้นควรทานไข่สุก เพราะเชื่อโรคจะถูกกำจัดที่อุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส
ข้อควรระวัง
การบริโภคไข่ดิบ หรือไข่เน่าเสีย จะทำให้เกิดอาการ อาหารเป็นพิษได้ สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลา ดังนั้น ควรปฏิบัติกับไข่ที่จะนำมาบริโภคดังนี้
1. ควรเก็บไข่ไว้ในตู้เย็น เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์
2. ควรบริโภคไข่ให้หมดภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากซื้อ
3. ล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังสัมผัสไข่
4. เช็ดเปลือกไข่ที่สกปรกให้สะอาด
5. ไม่ควรบริโภคไข่ที่เปลือกไข่แตก บุบ ร้าว
6. ไม่บริโภคไข่ที่หมดอายุ หากไม่แน่ใจ ให้ทดสอบโดยนำไข่ไปลอยน้ำ หากไข่จมแสดงว่าไข่ยังสดอยู่ แต่ถ้าลอยหรือมีกลิ่นแสดงว่าไข่เน่าเสีย
เนื้อหาโดย ChicMinistry
http://men.sanook.com/1496/
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version