ผู้เขียน หัวข้อ: คำสอนลับแห่งพุทธะ (๓): อำนาจแปรเปลี่ยนภายใน (โดย กาลู รินโปเช)  (อ่าน 1095 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



เมื่อได้พิจารณาแล้วว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุถีงการรู้แจ้งโดยซุกซ่อนด้านมืดของสิ่งที่ตนเป็นไว้ วัชรยานนำเสนอระบบการฝึกใจซึ่งทำให้เราสามารถแปรเปลี่ยนด้านมืดให้กลายเป็นความสว่าง

- กาย กลายเป็นกายบริสุทธิ์ของ ยิดัม การแสดงตนอันไม่แยกขาดจากความว่าง
- วาจา กลายเป็น มนตรา ถ้อยคำบริสุทธิ์ ซุ่มเสียงอันไม่แยกขาดจากความว่าง
- จิต กลายเป็น ปัญญาญาณทั้งห้า จิตอันบริสุทธิ์ ปัญญาอันไม่แยกขาดจากความว่าง

ปรากฏการณ์ทั้งปวงคือผลผลิตของจิต นั่นคือสาเหตุที่ทำไม หากผู้ปฏิบัติรู้แจ้งในจิตใจตน ปรากฏการณ์ทั้งปวงก็สามารถถูกแปรเปลี่ยนได้ วัชรยานใช้อำนาจแห่งการแปรเปลี่ยนภายใน บนการเดินทางจากความไม่บริสุทธิ์สู่ความบริสุทธิ์ ดังตัวอย่างสองเรื่องเล่าดังต่อไปนี้

มือนับไม่ถ้วน

โยคีคนหนึ่งแนะให้ศิษย์เข้าฝึกเดี่ยวหลังจากได้สอนวิธีภาวนาใน ยิดัมเหวัชระ ผู้ซึ่งมีมือทั้งหมด 16 มือด้วยกัน ศิษย์คนหนึ่งฝึกฝนอย่างหนักในการสร้างนิมิตว่าตัวเขาอยู่ในรูปเหวัชระ การภาวนาไปได้สวย ไม่นานเขาก็สามารถแสดงตนเป็นเหวัชระที่มี 16 แขน เขารู้สึกภูมิใจในความสำเร็จของตนเองมาก แม้ครูจะอยู่ไกล แต่ก็รู้ถึงความอหังการของศิษย์ ด้วยความที่อยากให้ศิษย์ก้าวหน้าต่อ ครูจึงเดินทางไปเยี่ยม

"ฉันเดินทางมาเสียไกล เหนื่อยไม่น้อย แกไปเอาน้ำมาให้ฉันทานหน่อย แล้วช่วยล้างเท้าให้ฉันด้วยได้ไหม?"

ศิษย์ได้ยินก็กุลีกุจอไปเอาน้ำมาล้างเท้าให้ครูของเขา เขาหาเท้าครูไม่เจอเมื่อครูแสดงตนเป็นสี่เท้า เห็นดังนั้นศิษย์ก็เลยแสดงตนเป็นสี่มือบ้าง จากนั้นครูจึงแสดงตนเป็นแปดเท้า ศิษย์ก็แสดงตนเป็นแปดมือด้วย สิบหกเท้า? สิบหกมือ สามสิบสองเท้า? ศิษย์ไม่สามารถไปพ้นจุดนี้ได้ เพราะศิษย์คุ้นเคยอยู่แต่กับการสร้างนิมิตสิบหกมือเท่านั้น โดยไม่เคยตระหนักว่าธรรมชาติอันแท้จริงของจิตนั้นมีการสร้างสรรค์อันไม่มีขีดจำกัด  ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถแสดงตนเป็นสามสิบสองมือได้ ครูจึงชี้แนะ แล้วศิษย์ก็สามารถแสดงตนได้อย่างไม่มีจำนวนจำกัด

หญิงแก่ผู้กลายเป็นเสือ

บางส่วนของแคว้นพาราณสีนั้นปกคลุมไปด้วยป่าทึบซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเสือเร่ร่อน ตรงชายป่า มีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านอาศัยอยู่อย่างหวาดกลัวอันตรายจากเสือ มีหญิงแก่คนหนึ่งซึ่งมักถูกเด็กในหมู่บ้านแกล้งอยู่เสมอๆ พวกเขาจะหลอกเธอ กัดเธอ ขว้างหินใส่เธอ หรือแกล้งเธอต่างๆ นานา หญิงแก่ก็ไม่รู้จะทำยังไงที่จะไล่เด็กพวกนี้ไปให้พ้นๆ วันหนึ่งเธอไปฟังครูคนหนึ่งและจำคำของครูได้ว่า "ปราฏกการณ์ทั้งปวงเป็นผลผลิตของจิต และเป็นไปได้ที่เราจะแปรเปลี่ยนมันหากเราฝึกใจเราให้กล้าแกร่งพอ"

"ดีล่ะ" หญิงแก่บอกตัวเอง "เพื่อที่จะไล่เด็กพวกนี้ไปให้พ้น ฉันต้องเป็นเสือ!" เธอเริ่มต้นและมีสมาธิแน่วแน่กับความคิดนี้ "ฉันเป็นเสือ ฉันเป็นเสือ" แล้วเธอก็ประสบความสำเร็จในการปรากฏกายเป็นเสือ ชาวบ้านหวาดกลัวมากจนเผ่นหนีออกจากหมู่บ้านและไม่หวนกลับมากันอีก หมู่บ้านจึงถูกทิ้งร้าง

จริงๆ แล้ว การแสดงตนเป็น ยิดัม นั้นง่ายกว่าการแสดงตนเป็นเสือมาก เพราะเสือไม่มีอำนาจแปรเปลี่ยนในตัวมันเอง ต่างจาก ยิดัม ที่เปี่ยมด้วยพลังอันสง่างามและความกรุณาอันแผ่ซ่าน

จาก https://www.facebook.com/tilopahouse
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...