ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2012, 06:12:43 am »พักงาน ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือฯ จี้สอบกรณีควายบุญมา ภายใน 3 วัน
-http://hilight.kapook.com/view/75522-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณใบมอส สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สภา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เร่งประชุมด่วนถกปัญหาควายเผือกบุญมา พร้อมยืนยันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ด้านครูสาวเดินหน้าตามหา พร้อมตั้งรางวัล 100,000 บาท
หลังจากที่ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ ออกมาเรียกร้องตามหา เจ้าบุญมา ควายเผือกที่ตนเองนำไปบริจาคให้กับ ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เนื่องจากพบว่าควายบุญมาได้หายตัวไป และมีการออกตามหาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่มีผู้พบเห็น แต่ก็ยังไม่พบควายเผือกบุญมานั้น
ล่าสุด สภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ มีการแจ้งประชุมด่วนในวันนี้ (28 สิงหาคม) โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายกสภามหาวิทยาลัย คณะกรรมการสภา อธิการบดี ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ปฏิบัติการภายในมหาวิทยาลัย รวมถึง นายวิรัตน์ จำนงรัตนพัน ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย ด้วย
โดย นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เปิดเผยความคืบหน้าในการสอบข้อเท็จจริงหลังมีการชี้แจงจากผู้ที่มีส่วน เกี่ยวข้องว่า ฝ่ายกฎหมายระบุว่า การแลกควายเผือกบุญมาหลังจากได้รับบริจาคมานั้นถือว่าไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากควายเป็นทรัพย์สินของสถาบันที่ได้รับบริจาคและศูนย์อนุรักษ์กระบือ ไทยได้รับมอบอำนาจมาจากอธิการบดีมหาวิทยาลัย หลังจากนี้งานของศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยก็ยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากยังมีควายที่ต้องเลี้ยงอีกกว่า 40 ตัว ส่วนกรณีเรียกร้องให้มีการปิดศูนย์อนุรักษ์นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการทำงานทุกอย่างก็ต้องมีปัญหาและต้องแก้ไข สถาบันไม่ได้นำควายไปเชือดอย่างที่คิด อีกทั้งทางสถาบันไม่เคยกีดกันหากจะมีการตรวจสอบ
ขณะที่ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา ผู้บริจาคควายเผือกบุญมา นั้น ไม่ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมประชุมกับสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์แต่ อย่างใด โดย น.ส.นันทวรรณ ยังคงมีความหวังที่จะได้เจอควายเผือกบุญมา และเชื่อว่าเจ้าบุญมายังมีชีวิตอยู่ จึงวอนผู้ที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส และยินดีซื้อควายบุญมาคืนในราคา 100,000 บาท
ส่วน การประชุมด่วนกรรมการสภา มรภ.อุตรดิตถ์ 24 คน ในช่วงเช้า โดยได้มีการเชิญ นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ ให้ปากคำนานกว่า 30 นาที โดย การประชุมดังกล่าวกินเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงมีการแถลง โดยทางกรรมการสภาพได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาต่อสภา 7 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1.สั่งการให้ นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ หยุดปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ดูแลโครงการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ
2.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน หากมีมูลความผิด จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
3.แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาควายเผือกบุญมา โดยมี น.ส.นันทวรรณ เป็นคณะกรรมการด้วย และคณะกรรมการที่แต่งตั้งจะเป็นบุคคลที่ น.ส.นันทวรรณ เสนอมาก็ได้ และจะอำนวยความสะดวกในการสืบหาควายเผือกบุญมา
4.ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอความร่วมมือในการสืบหาควายเผือกบุญมาร่วมกับคณะกรรมการที่ น.ส.นันทวรรณ เสนอแต่งตั้งขึ้น
5.หากผลการสืบหาควายบุญมาประสบความสำเร็จ และมีความประสงค์จะซื้อคืน อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยเงินส่วนตัว
6.ปรับปรุงระบบการบริหารงานของโครงการอนุรักษ์กระบือไทย ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.ในการดำเนินการข้างต้น อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ จะรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรให้คณะกรรมการสภาทราบทุกระยะ
อย่างไรก็ดี ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และละเอียดอ่อนมาก เนื่องจากมีผลกระทบต่อจิตใจของคนทั่วไป และยอมรับว่า อาจารย์รุ่นใหม่ของ มรภ.อุตรดิตถ์ มักจะไม่ค่อยศึกษาระเบียบในการปฏิบัติสักเท่าไร จึงทำให้เกิดความผิดพลาดมากมายขึ้น อย่างไรก็ตาม ต่อไปตนจะกำชับให้ศึกษากฏหมายและระเบียบให้มากขึ้น พร้อมกับหวังว่า เรื่องควายบุญมาจะเป็นเรื่องผิดพลาดครั้งสุดท้าย และจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องนี้จะกระทบต่อการทำงานของ น.ส.นันทวรรณหรือไม่นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่กระทบแน่นอน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346140418&grpid=00&catid=&subcatid=-
--http://www.komchadluek.net/detail/20120828/138716/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AF%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A0.%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%96%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99!%E0%B8%96%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%A1%E0%B8%B2.html#.UD1SWKPiHx--
-http://hilight.kapook.com/view/75522-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณใบมอส สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สภา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เร่งประชุมด่วนถกปัญหาควายเผือกบุญมา พร้อมยืนยันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ด้านครูสาวเดินหน้าตามหา พร้อมตั้งรางวัล 100,000 บาท
หลังจากที่ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ ออกมาเรียกร้องตามหา เจ้าบุญมา ควายเผือกที่ตนเองนำไปบริจาคให้กับ ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เนื่องจากพบว่าควายบุญมาได้หายตัวไป และมีการออกตามหาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่มีผู้พบเห็น แต่ก็ยังไม่พบควายเผือกบุญมานั้น
ล่าสุด สภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ มีการแจ้งประชุมด่วนในวันนี้ (28 สิงหาคม) โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายกสภามหาวิทยาลัย คณะกรรมการสภา อธิการบดี ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ปฏิบัติการภายในมหาวิทยาลัย รวมถึง นายวิรัตน์ จำนงรัตนพัน ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย ด้วย
โดย นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เปิดเผยความคืบหน้าในการสอบข้อเท็จจริงหลังมีการชี้แจงจากผู้ที่มีส่วน เกี่ยวข้องว่า ฝ่ายกฎหมายระบุว่า การแลกควายเผือกบุญมาหลังจากได้รับบริจาคมานั้นถือว่าไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากควายเป็นทรัพย์สินของสถาบันที่ได้รับบริจาคและศูนย์อนุรักษ์กระบือ ไทยได้รับมอบอำนาจมาจากอธิการบดีมหาวิทยาลัย หลังจากนี้งานของศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยก็ยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากยังมีควายที่ต้องเลี้ยงอีกกว่า 40 ตัว ส่วนกรณีเรียกร้องให้มีการปิดศูนย์อนุรักษ์นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการทำงานทุกอย่างก็ต้องมีปัญหาและต้องแก้ไข สถาบันไม่ได้นำควายไปเชือดอย่างที่คิด อีกทั้งทางสถาบันไม่เคยกีดกันหากจะมีการตรวจสอบ
ขณะที่ น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา ผู้บริจาคควายเผือกบุญมา นั้น ไม่ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมประชุมกับสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์แต่ อย่างใด โดย น.ส.นันทวรรณ ยังคงมีความหวังที่จะได้เจอควายเผือกบุญมา และเชื่อว่าเจ้าบุญมายังมีชีวิตอยู่ จึงวอนผู้ที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส และยินดีซื้อควายบุญมาคืนในราคา 100,000 บาท
ส่วน การประชุมด่วนกรรมการสภา มรภ.อุตรดิตถ์ 24 คน ในช่วงเช้า โดยได้มีการเชิญ นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ ให้ปากคำนานกว่า 30 นาที โดย การประชุมดังกล่าวกินเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงมีการแถลง โดยทางกรรมการสภาพได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาต่อสภา 7 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1.สั่งการให้ นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ หยุดปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ดูแลโครงการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ
2.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน หากมีมูลความผิด จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
3.แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาควายเผือกบุญมา โดยมี น.ส.นันทวรรณ เป็นคณะกรรมการด้วย และคณะกรรมการที่แต่งตั้งจะเป็นบุคคลที่ น.ส.นันทวรรณ เสนอมาก็ได้ และจะอำนวยความสะดวกในการสืบหาควายเผือกบุญมา
4.ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอความร่วมมือในการสืบหาควายเผือกบุญมาร่วมกับคณะกรรมการที่ น.ส.นันทวรรณ เสนอแต่งตั้งขึ้น
5.หากผลการสืบหาควายบุญมาประสบความสำเร็จ และมีความประสงค์จะซื้อคืน อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยเงินส่วนตัว
6.ปรับปรุงระบบการบริหารงานของโครงการอนุรักษ์กระบือไทย ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.ในการดำเนินการข้างต้น อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ จะรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรให้คณะกรรมการสภาทราบทุกระยะ
อย่างไรก็ดี ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และละเอียดอ่อนมาก เนื่องจากมีผลกระทบต่อจิตใจของคนทั่วไป และยอมรับว่า อาจารย์รุ่นใหม่ของ มรภ.อุตรดิตถ์ มักจะไม่ค่อยศึกษาระเบียบในการปฏิบัติสักเท่าไร จึงทำให้เกิดความผิดพลาดมากมายขึ้น อย่างไรก็ตาม ต่อไปตนจะกำชับให้ศึกษากฏหมายและระเบียบให้มากขึ้น พร้อมกับหวังว่า เรื่องควายบุญมาจะเป็นเรื่องผิดพลาดครั้งสุดท้าย และจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องนี้จะกระทบต่อการทำงานของ น.ส.นันทวรรณหรือไม่นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่กระทบแน่นอน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346140418&grpid=00&catid=&subcatid=-
--http://www.komchadluek.net/detail/20120828/138716/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AF%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A0.%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%96%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99!%E0%B8%96%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%A1%E0%B8%B2.html#.UD1SWKPiHx--