ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: กันยายน 01, 2014, 12:09:20 pm »มาดูกับมาดาม: 'Looper' เวียนว่ายแต่ไม่เวียนวน
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน สัปดาห์นี้ยังอยู่กับหนังใหม่ฮอตฮิตเกาะกระแส วันนี้มาดามจะมาชวนดูภาพยนตร์แอ็กชั่นไซไฟชื่อแปลก (หูคนไทย) อย่าง “Looper” หรือชื่อไทยว่า “ทะลุเวลา อึดล่าอึด” ถ้าใครเป็นแฟนหนังอย่าง Inception (2012) ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้นะคะ ขอบอกว่าเท่ไม่แพ้กันเลยล่ะ
มาที่ชื่อเรื่องกันก่อน ทำไมต้องชื่อ “Looper” คำนี้ออกเสียงว่า “ลูปเปอร์” ความหมายตามพจนานุกรมแปลว่า ห่วง การทำให้เป็นห่วง หรือวังวนที่เชื่อมต่อกันไปไม่จบสิ้น นับว่าตั้งชื่อได้เก๋ไก๋เข้ากับเรื่องดีค่ะ เพราะเนื้อเรื่องหลักเป็นการวนเวียนไม่จบสิ้นของตัวละคร ย้อนเวลากลับไปมาจนน่าเวียนหัว (ถ้าไม่ตั้งใจดู) แต่ขอบอกว่าดูไม่ยากค่ะ เพราะผู้สร้างลำดับการเล่าเรื่องออกมาได้ดี ถ้าใครยังมึนๆ ตอนที่ดู Inception เรื่องนี้น่าจะเป็นคำตอบสำหรับคุณได้เพราะตามเรื่องได้ง่ายกว่า ไม่งงแน่ๆ ถ้าไม่เผลอหลับหรือแชตในโรงหนังนะคะ...
Looper กำกับและเขียนบทโดย รีอาน จอห์นสัน (Rian Johnson) เรื่องราวเกี่ยวกับอนาคต เมื่อโลกมีการคิดค้นการเดินทางข้ามเวลา โจ (รับบทโดย โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์) เป็นสมาชิกองค์กรลับ รับจ้างเป็น ‘มือปืนลูปเปอร์’ มีหน้าที่ฆ่าเป้าหมายที่ถูกส่งมาจากอนาคตด้วยเครื่องมือข้ามเวลา..
เรื่องราวของโจเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งงานและเงิน จนกระทั่งองค์กรลับอยากจะหยุดวงจรของโจหรือที่ในเรื่องเรียกว่า ‘close the loop’ จึงจับตัวเขาในอีกสามสิบปีข้างหน้า (รับบทโดย บรูซ วิลลิส) มาให้เขาฆ่า...จุดเปลี่ยนของเรื่องมันก็อยู่ตรงนี้แหละค่ะ ว่าโจจะเลือกยิงตัวเองและรับบำนาญชีวิตอยู่ไปอีกสามสิบปี หรือว่าจะเลือกไม่ฆ่าและถูกตามฆ่าตั้งแต่ยังหนุ่มแทน?...เป็นคุณผู้อ่านจะเลือกทางไหนดีคะ? เป็นคำถามที่น่าคิดไม่น้อย ทางเลือกของโจจะเป็นอย่างไรนั้น ลองเข้าไปชมกันดูค่ะ รับรองว่าไม่โหลแน่ๆ
อ่านเนื้อเรื่องคร่าวๆ แล้วงงดีไหมล่ะคะ? แต่ก็อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกค่ะ...ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เล่าแบบวกวนเหมือนชื่อเรื่อง แต่เป็นการเล่าเรื่องแบบกลับไปกลับมาได้อย่างน่าติดตามมากค่ะ มีจุดเล็กจุดน้อยมากมายที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องได้ง่ายขึ้น ถ้าช่างสังเกตและช่างจินตนาการสักนิดจะได้อรรถรสมากขึ้น นับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเรื่อง
เล่ามาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะร้องยี้ ไม่อยากดูเพราะกลัวจะตามไม่ทัน...ไม่ว่ากันค่ะ บางคนก็ไม่ชอบดูหนังที่ต้องคิดเยอะๆ เรื่องนี้ก็เข้าข่ายไม่ใช่เล่นเพราะก็มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่ต้องจำ เพื่อเข้าใจแนวคิดและจุดสำคัญของเรื่อง...แต่ถึงไม่ใช่คอหนังไซไฟก็ลองเข้าไปชมได้ค่ะ เพราะก็ใช่ว่าเรื่องนี้จะไม่มีข้อคิดดีๆ
สำหรับมาดาม...เรื่องนี้มันยากตรงที่มีเรื่องของการข้ามเวลา เราไม่ได้เติบโตมากับสิ่งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงยากที่จะคาดเดา แต่ถึงจะแปลก...เรื่องนี้ก็ทิ้งข้อคิดดีๆ ไว้หลายเรื่อง แต่ที่มาดามเลือกจะหยิบมาแชร์กับคุณผู้อ่านวันนี้เป็นเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับการเลือกทางเดินของชีวิตค่ะ
คุณผู้อ่านเคยคิดย้อนเล่นๆ ไหมคะว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะเลือกทำหรือเปลี่ยนแปลงการกระทำไหนของเราบ้างหรือเปล่า?...มาดามก็เคยคิดค่ะ แต่ไม่ได้คิดอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรนะคะ เพราะมาดามเชื่อว่าทุกอย่างบนโลกนี้เกิดขึ้นมาอย่างมีที่มาที่ไป และโดยมากก็เกิดขึ้นจากความคิดและการกระทำของเราเอง สิ่งที่เราตัดสินใจจากเรื่องหนึ่งมักจะส่งผลต่ออีกเรื่องหนึ่ง...เวียนว่าย เป็นห่วงลูกโซ่ไปตลอดชีวิตของเรา
เราย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้...และเราก็ไม่สามารถล่วงรู้ถึงอนาคตของเราได้ เช่นกันค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเลือกและทำจะเป็นตัวกำหนดและหล่อหลอมภาพของเราในอนาคต ฉะนั้น...สิ่งสำคัญที่เราพอจะทำได้ก็คือเลือกจะทำวันนี้หรือปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด อย่าเวียนวนติดอยู่กับอดีตและอนาคตที่ยังมองไม่เห็น มีสติและมีความสุข (โดยไม่เดือดร้อนใคร) กับสิ่งที่เราเลือกวันนี้ให้มากที่สุด แล้วเราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าเราพลาดหรือทำอะไรผิดไป...จำไว้แต่ว่า ‘สิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ’ เพราะมันทำให้เราเรียนรู้ที่จะเลือกทางเดินที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ให้กับตัวเอง ไม่ให้ทำผิดซ้ำซาก!
“You can never make the same mistake twice, because the second time you make it, it’s not a mistake, it’s a choice.”
“คุณไม่สามารถทำพลาดได้บ่อยๆ เพราะครั้งต่อไปที่คุณทำ มันจะไม่ใช่ความผิด แต่มันเป็นเพราะคุณเลือกเอง”
จาก http://www.thairath.co.th/content/299495
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน สัปดาห์นี้ยังอยู่กับหนังใหม่ฮอตฮิตเกาะกระแส วันนี้มาดามจะมาชวนดูภาพยนตร์แอ็กชั่นไซไฟชื่อแปลก (หูคนไทย) อย่าง “Looper” หรือชื่อไทยว่า “ทะลุเวลา อึดล่าอึด” ถ้าใครเป็นแฟนหนังอย่าง Inception (2012) ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้นะคะ ขอบอกว่าเท่ไม่แพ้กันเลยล่ะ
มาที่ชื่อเรื่องกันก่อน ทำไมต้องชื่อ “Looper” คำนี้ออกเสียงว่า “ลูปเปอร์” ความหมายตามพจนานุกรมแปลว่า ห่วง การทำให้เป็นห่วง หรือวังวนที่เชื่อมต่อกันไปไม่จบสิ้น นับว่าตั้งชื่อได้เก๋ไก๋เข้ากับเรื่องดีค่ะ เพราะเนื้อเรื่องหลักเป็นการวนเวียนไม่จบสิ้นของตัวละคร ย้อนเวลากลับไปมาจนน่าเวียนหัว (ถ้าไม่ตั้งใจดู) แต่ขอบอกว่าดูไม่ยากค่ะ เพราะผู้สร้างลำดับการเล่าเรื่องออกมาได้ดี ถ้าใครยังมึนๆ ตอนที่ดู Inception เรื่องนี้น่าจะเป็นคำตอบสำหรับคุณได้เพราะตามเรื่องได้ง่ายกว่า ไม่งงแน่ๆ ถ้าไม่เผลอหลับหรือแชตในโรงหนังนะคะ...
Looper กำกับและเขียนบทโดย รีอาน จอห์นสัน (Rian Johnson) เรื่องราวเกี่ยวกับอนาคต เมื่อโลกมีการคิดค้นการเดินทางข้ามเวลา โจ (รับบทโดย โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์) เป็นสมาชิกองค์กรลับ รับจ้างเป็น ‘มือปืนลูปเปอร์’ มีหน้าที่ฆ่าเป้าหมายที่ถูกส่งมาจากอนาคตด้วยเครื่องมือข้ามเวลา..
เรื่องราวของโจเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งงานและเงิน จนกระทั่งองค์กรลับอยากจะหยุดวงจรของโจหรือที่ในเรื่องเรียกว่า ‘close the loop’ จึงจับตัวเขาในอีกสามสิบปีข้างหน้า (รับบทโดย บรูซ วิลลิส) มาให้เขาฆ่า...จุดเปลี่ยนของเรื่องมันก็อยู่ตรงนี้แหละค่ะ ว่าโจจะเลือกยิงตัวเองและรับบำนาญชีวิตอยู่ไปอีกสามสิบปี หรือว่าจะเลือกไม่ฆ่าและถูกตามฆ่าตั้งแต่ยังหนุ่มแทน?...เป็นคุณผู้อ่านจะเลือกทางไหนดีคะ? เป็นคำถามที่น่าคิดไม่น้อย ทางเลือกของโจจะเป็นอย่างไรนั้น ลองเข้าไปชมกันดูค่ะ รับรองว่าไม่โหลแน่ๆ
อ่านเนื้อเรื่องคร่าวๆ แล้วงงดีไหมล่ะคะ? แต่ก็อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกค่ะ...ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เล่าแบบวกวนเหมือนชื่อเรื่อง แต่เป็นการเล่าเรื่องแบบกลับไปกลับมาได้อย่างน่าติดตามมากค่ะ มีจุดเล็กจุดน้อยมากมายที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องได้ง่ายขึ้น ถ้าช่างสังเกตและช่างจินตนาการสักนิดจะได้อรรถรสมากขึ้น นับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเรื่อง
เล่ามาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะร้องยี้ ไม่อยากดูเพราะกลัวจะตามไม่ทัน...ไม่ว่ากันค่ะ บางคนก็ไม่ชอบดูหนังที่ต้องคิดเยอะๆ เรื่องนี้ก็เข้าข่ายไม่ใช่เล่นเพราะก็มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่ต้องจำ เพื่อเข้าใจแนวคิดและจุดสำคัญของเรื่อง...แต่ถึงไม่ใช่คอหนังไซไฟก็ลองเข้าไปชมได้ค่ะ เพราะก็ใช่ว่าเรื่องนี้จะไม่มีข้อคิดดีๆ
สำหรับมาดาม...เรื่องนี้มันยากตรงที่มีเรื่องของการข้ามเวลา เราไม่ได้เติบโตมากับสิ่งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงยากที่จะคาดเดา แต่ถึงจะแปลก...เรื่องนี้ก็ทิ้งข้อคิดดีๆ ไว้หลายเรื่อง แต่ที่มาดามเลือกจะหยิบมาแชร์กับคุณผู้อ่านวันนี้เป็นเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับการเลือกทางเดินของชีวิตค่ะ
คุณผู้อ่านเคยคิดย้อนเล่นๆ ไหมคะว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะเลือกทำหรือเปลี่ยนแปลงการกระทำไหนของเราบ้างหรือเปล่า?...มาดามก็เคยคิดค่ะ แต่ไม่ได้คิดอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรนะคะ เพราะมาดามเชื่อว่าทุกอย่างบนโลกนี้เกิดขึ้นมาอย่างมีที่มาที่ไป และโดยมากก็เกิดขึ้นจากความคิดและการกระทำของเราเอง สิ่งที่เราตัดสินใจจากเรื่องหนึ่งมักจะส่งผลต่ออีกเรื่องหนึ่ง...เวียนว่าย เป็นห่วงลูกโซ่ไปตลอดชีวิตของเรา
เราย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้...และเราก็ไม่สามารถล่วงรู้ถึงอนาคตของเราได้ เช่นกันค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเลือกและทำจะเป็นตัวกำหนดและหล่อหลอมภาพของเราในอนาคต ฉะนั้น...สิ่งสำคัญที่เราพอจะทำได้ก็คือเลือกจะทำวันนี้หรือปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด อย่าเวียนวนติดอยู่กับอดีตและอนาคตที่ยังมองไม่เห็น มีสติและมีความสุข (โดยไม่เดือดร้อนใคร) กับสิ่งที่เราเลือกวันนี้ให้มากที่สุด แล้วเราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าเราพลาดหรือทำอะไรผิดไป...จำไว้แต่ว่า ‘สิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ’ เพราะมันทำให้เราเรียนรู้ที่จะเลือกทางเดินที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ให้กับตัวเอง ไม่ให้ทำผิดซ้ำซาก!
“You can never make the same mistake twice, because the second time you make it, it’s not a mistake, it’s a choice.”
“คุณไม่สามารถทำพลาดได้บ่อยๆ เพราะครั้งต่อไปที่คุณทำ มันจะไม่ใช่ความผิด แต่มันเป็นเพราะคุณเลือกเอง”
จาก http://www.thairath.co.th/content/299495