ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 09:00:43 am »เข้าสู่อาณาจักรจีน
果然,几天之后,吕光的部下梁谦、彭晁率部叛变,但由于吕光有所防范和准备,及时派兵镇压,没费多大力气就将叛乱平定了,并活捉了判军将领。这一事件后,吕光对罗什格外尊重和信任,罗什被迫留在凉州,当了后凉政权的国师。จริง ดังว่า ไม่กี่วันจากนั้น เหลียงบเซียนและเผิงเฉา ซึ่งเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของกษัตริย์หลวี่กวางได้ก่อการกบฏ แต่เพราะกษัตริย์หลวี่กวางได้เตรียมป้องกันอยู่แล้ว จึงจัดส่งทหารไปปราบให้สงบได้ทันเวลา โดยไม่ต้องใข้กำลังมากก็กำราบลงได้ และกบฏก็ถูกจับเป็นด้วย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ กษัตริย์หลวีกวางเคารพเชื่อถือท่านกุมารชีพมากขึ้น ได้บังคับให้ท่านพำนักอยู่เมืองเหลียงโจวและแต่งตั้งให้เป็นราชครูในรัชสมัย ปลายเหลียง
龙飞二年(379年),据守在张掖、临松、卢水一带的沮渠男成和他的堂弟沮渠蒙逊等人起来造反,他们把建康太守段业推为盟主,以壮声势。吕光派儿子秦州 刺史太原公吕纂率领五万大军前去讨伐。原以为段业一伙不过是乌合之众,吕纂战功显赫,定能得胜,却不料劳保纂全军覆没,只带了几个小卒狼狈而归。吕光一气 之下卧病不起,传位太子吕绍,不久便死了。หลง เฟยปีที่สอง (ปีค.ศ.397) ทหารชื่อจวีฉวีหนันเฉิง กับญาติพี่น้องชื่อจวีฉวีเหมิงชวิ่น และพรรคพวกที่ปกครองเมืองจังเอี้ย หลิงซงและหลูสุ่ย ได้ร่วมกันก่อกบฏขึ้น ทั้งหมดเห็นพ้องกันยกให้ต้วนเอี้ย ผู้ว่าราชการจังหวัดที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นประมุขเพื่อเสริมสร้างฐานอำนาจ กษัตริย์หลวี่กวางมีรับสั่งให้พระโอรสหลวี่จ่วนซึ่งเป็นข้าหลวงประจำจังหวัด ของฉินโจวยกทัพห้าหมื่นไปปราบปราม โดยคิดว่าพรรคพวกของผู้ว่าราชการจังหวัดต้วนเอี้ยนั้น เป็นเพียงนกน้อยรวมฝูงกันเท่านั้น ส่วนหลวี่จ่วนซึ่งมีความเก่งกล้าเลื่องลือในการรบ ต้องได้รับชัยชนะเป็นแน่ แต่ปรากฏว่าทหารทั้งกองทัพของหลวี่จ่วนปราชัยยับเยิน เหลือทหารกลับมาไม่กี่คน กษัตริย์หลวี่กวางทั้งกริ้วและเสียพระทัยอย่างยิ่งจนล้มป่วย จึงทรงแต่งตั้งให้พระโอรสหลวี่เซ่าขึ้นเป็นรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ ต่อมาไม่นานกษัตริย์หลวี่กวางก็สิ้นพระชนม์
吕绍继位后,在吕纂的逼迫下自杀。绿纂自立为王,改年号为咸宁。绿纂称王之后,包括他的弟弟的几个儿子,个个心里不服,虎视耽耽,寻机下手。吕纂却浑然不知。咸宁三年(401年),吕纂被堂兄吕超杀死。吕超拥护自己的哥哥吕隆做了后凉国的新国王。 หลังจากที่พระโอรสหลวี่เซ่าขึ้นครองราชย์ไม่นาน ก็ถูกหลวี่จ่วนบีบคั้นจนทำอัตวินิบาตกรรม แล้วหลวี่จ่วนก็สถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์ เปลี่ยนรัชสมัยเป็น เสียนหนิง เมื่อขึ้นครองราชย์แล้วกลับไม่เหลียวแลใส่ใจราชการบ้านเมือง ใช่จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หมกหมุ่นแต่สุรานารี โอรสหลายองค์ของกษัตริย์หลวี่กวาง รวมทั้งอีกหลายองค์ของกษัตริย์หลวี่เซ่า ต่างก็ไม่มีใจรักภักดี ทุกองค์ต่างเฝ้ามองเสมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อคอยจ้องหาโอกาสกันตลอดเวลา แต่กษัตริย์หลวี่จ่วนไม่ทรงทราบเรื่องราวแม้แต่น้อย เสียนหนิงปีที่ 3 กษัตริย์หลวี่จ่วนถูกลูกพี่ลูกน้องนามว่าหลวี่เชาปลงพระชนม์ หลวี่เชาสนับสนุนพี่ชายของตนชื่อหลวี่หลง ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ ในรัชสมัยปลายเหลียง
虽然从吕光到吕隆,都给予罗什相当的信任,但他们都不信佛教,不支持罗什的译经弘法活动,罗什除了每天读经之外,就把大量时间用在学习汉文上,为将来在中国弘法做准备。他学会了一口流利的汉话,对汉文也能熟练掌握运用自如。 ถึงแม้ว่ากษัตริย์หลวี่กวางจนถึงกษัตริย์หลวี่หลง จะให้ความเคารพนับถือท่านกุมารชีพแต่ทุกพระองค์ไม่ทรงมีศรัทธาต่อพุทธศาสนา ไม่สนับสนุนการเผยแพร่พระธรรมหรือส่งเสริมการบำเพ็ญธรรม ท่านกุมารชีพพำนักอยู่ในเมืองเหลียงโจวเป็นเวลา 16 ปีไม่มีโอกาสเผยแพร่พระธรรมตามเจตจำนงเลย แม้จะอยู่ในสภาพการณ์เช่นนี้ทุกๆวัน ท่านกุมารชีพจะอ่านตำรับตำราและใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาภาษาจีน เพื่อเตรียมพื้นฐานในการเผยแพร่พระธรรมสู่ประเทศจีนในอนาคต ท่านศึกษาภาษาจีนจนพูดคุยสนทนาได้ช่ำชองแม้อักษรจีนก็สามารถใช้ได้อย่าง คล่องแคล่วดุจภาษาแม่
姚苌知道苻坚攻打龟兹国,为的就是鸠摩罗什。他攻下长安后,曾派使者去凉州请罗什去长安。可是罗什足智多谋,对如此大智慧的人,吕光怎会拱手让人而对自己不利呢?姚苌去世后,姚兴即位,姚兴又派使者去凉州交涉,也碰了钉子,但姚兴并未就此罢休,他在等待时机。กล่าว ถึงกษัตริย์เอี๋ยวฉัง ทรงทราบข่าวที่กษัตริย์ฝูเจียนยกทัพตีแคว้นกุฉาเพื่อประสงค์ท่านกุมารชีพ ยามนี้พระองค์ได้ครองนครฉางอานแล้ว เคยมีรับสั่งให้ไปนิมนต์ท่านกุมารชีพมานครฉางอาน แต่อัจฉริยะบุคคลไหวพริบดีและมีปัญญาความสามารถเยี่ยงกุมารชีพนั้นมีหรือที่ กษัตริย์หลวี่กวางจะยอมยกให้ ซึ่จะทำให้ตนเสียเปรียบได้อย่างไร เมื่อกษัตริย์ เมื่อกษัตริย์เอี๋ยวฉังสิ้นพระชนม์ กษัตริย์เอี๋ยวซิงขึ้นครองราชย์แทนก็ส่งทูตไปเหลียงโจว เพื่อเจรจานิมนต์ท่านกุมารชีพอีกก็ถูกปฏิเสธ แต่กษัตริย์เอี๋ยวซิงไม่ทรงเลิกล้มความพยายาม ทรงรอคอยโอกาสที่จะอำนายในภายหน้า
后秦弘始三年(401年)三月,庙庭中生出一棵连理树,逍遥园里的葱也变成了香草,大家都联想到会有高僧鸠摩罗什到达,纷纷上表启奏,要求发兵攻打后凉,迎接鸠摩罗什。 ในรัชสมัยปลายฉิน ปี ค.ศ.401 เดือน 3 ที่บริเวณศาลบูชาในพระราชตำหนักเกิดมีต้นไม้ที่มีลำต้น 2 ลำงอกมาบรรจบกันเป็นต้นเดียว และต้นหอมในอุทยานเซียวเอี๋ยว ก็กลายเป็นหญ้าหอม ทำให้ทุกคนคิดโยงไปว่าจะมีการมาเยือนของท่านกุมารชีพธรรมาจารย์ผู้มีชื่อ เสียงโด่งดัง จึงทำหนังสือกราบบังคมทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงขอให้ยกทัพโจมตีปกลายเหลียงเพื่อ อัญเชิญท่านกุมารชีพมาสู่เมืองของตน
五月姚兴派遣陇西公姚硕德西伐凉州。后凉因王室连年自相残杀,臣下不断谋反,已经没有实力抵挡,几仗下来便被打得大败。吕隆走投无路,只得上表请降。他亲自陪同姚硕德与鸠摩罗什相见。不久,姚硕德即偕同鸠摩罗什返回长安。 เมื่อถึงเดือน 5 กษัตริย์เอี๋ยวซิงมีกระแสรับสั่งให้หลงซีกงเอี๋ยวซั่วเต๋อยกทัพไปโจมตีเหลี ยงโจวทางทิศตะวันตก เหตุการณ์ในรัชสมัยปลายเหลียงนั้น เชื้อพระวงศ์ในพระราชสำนักมีการเข่นฆ่าสังหารกันตลอดมาไม่หยุดหย่อน ขุนนางก็ก่อกบฏอยู่บ่อยครั้งทำให้ไม่มีกำลังพอจะสู้รบป้องกันข้าศึก เพียงรบกันไม่ทันไรก็พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง กษัตริย์หลงวี่หลงหมดทางสู้ ทรงทำหนังสือยอมสวามิภักดิ์ พระองค์เสด็จมาพร้อมท่านเอี๋ยวซั่ว เข้าพบท่านกุมารชีพ ต่อมาไม่นาน ท่านเอี๋ยวชั่วเต๋อก็นำทัพกลับนครฉางอานโดยมีท่านกุมารชีพมาด้วย
十二月二十日,鸠摩罗什到达长安。姚兴亲率文武百官出城迎接。他为鸠摩罗什接风洗尘,真诚热情地说:“大师降临,真是长安百姓之福。”鸠摩罗什在与姚兴的谈论中,发现他读过不少经书,表示赞赏。
วันที่ 20 เดือน 12ท่านกุมารชีพเดินทางถึงนครฉางอาน กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงนำข้าราชการทั้งบุ๋นและบู๊ ออกจากเมืองมาต้อนรับการมาของท่านกุมารชีพด้วยพระองค์เองรับสั่งด้วยคามจริง ใจว่า “พระเถระมาเยือนถึงที่นี่ เป็นบุญวาสนาของบพสกนิกรชาวนาครฉางอาน” จากการสนทนาธรรมระหว่างท่านกุมารชีพกับกษัตริย์เอี๋ยวซิง ท่านกุมารชีพพบว่า กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงมีความรู้ความเข้าใจคัมภีร์ทางพุทธศาสนาไม่น้อยทีเดียว จึงได้แสดงความสรรเสริญชมเชยพระองค์
姚兴尊鸠摩罗什为国师,将他安置在逍遥园逍遥宫居住。姚兴是十六国时期有为的君主,他目光远大,注意修学,在京城聚集了大量的儒生和佛教信徒。他深知 倡导佛教将有利于稳固他的统治,十分信任的对罗什说:“从今以后,长安的百姓就由大师多加教化了。”กษัตริย์ เอี๋ยวซิงทรงยกย่องท่านกุมารชีพเป็นราชครู นิมนต์ให้ท่านพำนักอยู่ในอุทยานเซียวเอี๋ยวในราชวังเซียวเอี๋ยว กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาของช่วงสมัยสิบหกแคว้น ทรงมีสายพระเนตรยาวไกลและสนพระทัยเกี่ยวกับการศึกษา ทำให้เมืองหลวงกลายเป็นศูนย์รวมที่นักปราชญ์และพุทธศาสนิกชนทั้งหลายมาพบปะ กัน พระองค์ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมพุทธศาสนา สามารถใช้เป็นกุศโลบายชักนำที่มีประโยชน์ต่อความมั่นคงในการปกครองประเทศ พระองค์ทรงมีความเชื่อมั่นต่อท่านกุมารชีพเป็นอย่างยิ่งและตรัสว่า “นับแต่นี้ไป ขอให้พระเถระช่วยเป็นผู้สั่งสอนชี้แนะพสกนิกรของนครฉางอาน”
鸠摩罗什开始思考如何有效地将大乘佛法在中国广泛传播的问题。他发现以往的汉译佛经不足之处甚多 ,对此,有必要重译:而其他许多重要的佛经更有待于翻译成汉文后讲解。姚兴政事处理完以后,常来逍遥园与罗什谈佛法,精研佛经,讲到玄妙处,便发出赞叹。 一次,罗什将自己想要系统地翻译佛经的宏愿告诉姚兴,姚兴当即赞同:“朕请你从现在起就开始这项工作吧。” ท่านกุมารชีพคิดหาวิธีว่าทำอย่างไร จึงจะถ่ายทอดนิกายมหายานให้แผ่ไพศาลในประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ท่านพบว่าคัมภีร์ที่แปลเป็นภาษาจีน ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกต้องเท่าที่ควรจำเป็นต้องแปลใหม่ให้ถูกต้อง และยังมีคัมภีร์สำคัญอีกมากมายที่ต้องแปลเป็นภาษาจีนให้เสร็จสิ้นก่อนจะ เทศนาในภายหลัง กษัตริย์เอี๋ยวซิงเมื่อเสร็จจากราชกิจแล้วมักจะเสด็จมาอุทยานเซียวเอี๋ยน สนทนาธรรมกับท่านกุมารชีพเพื่อศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์ต่างๆบางครั้งพูดเลยไป ถึงเรื่องอัศจรรย์ลี้ลับ ก็เห็นพ้องกันว่าเป็นเช่นนั้นจริง วันหนึ่งท่านกุมารชีพกราบทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงถึงปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะจัด แปลคัมภีร์ให้เป็นระบบ พระองค์ทรงเห็นชอบด้วยทันทีและกล่าวว่า “นับจากวันนี้ไป เชิญท่านเริ่มงานชิ้นนี้ได้เลย”
在姚兴的大力支持下,一场中国历史上首次大规模的译经活动开始了。天下博学认识纷至沓来,长安成为当时长江以北佛教人才的中心。 ภายใต้พระอุปถัมภ์และการสนับสนุนเต็มที่ของกษัตริย์เอี๋ยวซิง กิจกรรมแปลคัมภีร์ก็เริ่มจัดทำเป็นระบบขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน บรรดานักปราชญ์ผู้ทรงความรู้และมีชื่อเสียง ต่างหลั่งไหลมาพบปะกันบ่อยครั้ง นครฉางอานในเวลานั้นจึงกลายเป็นศูนย์รวมของปัญญาชนทางพุทธศาสนาทางดินแดน ฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซี
姚兴见如此众多的精英会聚长安,非常高兴。他召集学问卓著的僧俗五百多人协助罗什工作。逍遥园中的噌玄堂就成了译经场所。 กษัตรยิ์เอี๋ยวซิงมีความโสมนัสปลาบปลื้มยิ่งนัก ที่นครฉางอานเป็นศูนย์รวมของผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ยังได้รับสั่งให้นิมนต์บรรพชิตและเชื้อเชิญฆราวาสทั่วไปที่มีความสามารถร่วม ห้าร้อยคนมาช่วยเหลืองานของท่านกุมารชีพ ทำให้ห้องเฉินเสวียนถังในอุทยานเซียวเอี๋ยวกลายเป็นสถานที่ ใช้ในการแปลคัมภีร์โดยเฉพาะ
译经时,鸠摩罗什拿着梵文本用汉文讲解,与会大众对着旧译本校对,凡新译与旧译不同的地方,就提出来讨论。大家发现旧译本远不如新译义理圆通,而且新译文字简洁流畅,所以对罗什非常信服赞叹。鸠摩罗什白天在澄玄堂讲经,晚上则校对弟子们整理好的经文,常常通宵达旦。ระหว่าง ที่แปลคัมภีร์อยู่นั้น ท่านกุมารชีพจะใช้คัมภีร์ต้นฉบับสันสกฤตและอธิบายเป็นภาษาจีน เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของคัมภีร์ฉบับเดิมกับผู้ร่วมงานไม่ว่า คัมภีร์ที่แปลใหม่กับคัมภีร์ฉบับเดิมมีความผิดแผกกันที่ใด ก็จะนำมาหารือกันผลปรากฏว่าความหมายของคัมภีร์ฉบับเดิม ไม่ทัดเทียมกับคัมภีร์แปลใหม่ที่มีความหมายสมบูรณ์กว่า ภาษาที่ใช้ก็ง่ายๆ กระชับ เข้าใจง่าย ด้วยเหตุนี้ท่านกุมารชีพจึงได้รับความเคารพยกย่องในอัจฉริยภาพ กลางวันท่านกุมารชีพจะแสดงธรรมที่ห้องเฉิงเสวียนถัง พอตกเย็นท่านก็จะตรวจสอบคัมภีร์ที่ลูกศิษย์ได้แก้ไขอีกครั้งตลอดคืนถึงรุ่ง สางอยู่เสมอ
译经之前,鸠摩罗什总要反复研究,仔细推敲,选择最准确恰当、优美简洁的词句。他非常注意发挥众人的智慧,如僧睿建议将《正法华经》中“天见人,人见 天”改译为“人天交接,两相见得”时,罗什就当即赞扬他:“你表达得很正确。”在鸠摩罗什的主持下,译经进行得既严谨又隆重,姚兴也曾亲临译场,躬与译 经。ก่อน ที่จะแปลคัมภีร์ ท่านกุมารชีพมักจะตรวจทานครั้งแล้วครั้งเล่า ชัดเกลาสำนวนอย่างละเอียด คัดเลือกถ้อยคำที่ถูกต้องเข้าใจง่ายและชัดเจนที่สุด ท่านเล็งเห็นถึงสติปัญญาความรู้ของผู้ร่วมงานทุกท่าน โดยให้แสดงความสามารถออกมาเต็มที่ เช่น พระเจิงยุ่ย เสนอประโยคของคัมภีร์ในสัทธรรมปุณฑริกสูตร (ฉบับแปลครั้งแรก) ว่า “ฟ้าเห็นคน คนเห็นฟ้า” ได้เปลี่ยนใหม่เป็น “คนและฟ้าเชื่อมร้อยได้เห็นกันและกัน” ก็ได้รับคำชมเชยจากท่านกุมารชีพในทันทีว่า”ท่านเปลได้ตรงความหมายจริงๆ” การเป็นประธานในการแปลคัมภีร์ของท่านกุมารชีพ ดำเนินไปเข้มข้นและยิ่งใหญ่ กษัตริย์เอี๋ยวซิงก็เคยเสด็จมายังสถานที่แห่งนี้และอุทิศพระองค์เข้าร่วมงาน แปลเช่นกัน
ลายมือของท่านกุมารชีพ ในการแปลคัมภีร์และพระสูตร
เริ่มแปลพระสูตร
姚兴将学习佛经和在澄玄堂所听罗什将经的体会,写成一部《通三世论》,说明善恶因果的道理,要人们多多行善。写成之后,命人将书稿送到逍遥园请罗什过目。罗什读了《通三世论》,十分欢喜,立即上书赞美。กษัตริย์ เอี๋ยวซิงทรงศึกษาคัมภีร์ด้วยพระองค์เองอย่างลึกซึ้ง จากที่ได้ทรงฟังการแสดงธรรมของท่านกุมารชีพ ณ ห้องเติ้งเสวียนถัง จึงได้ทรงนิพนธ์หนังสือขึ้นเล่มหนึ่งชื่อ “การเชื่อมโยงทะลุกันได้ของสามชาติ” ทรงแจกแจงถึงคติธรรมของเหตุและผล ดีกับชั่วและปรารถนาให้สาธุชนกระทำแต่ความดีให้มาก เมื่อนิพนธ์เสร็จก็รับสั่งให้นำบทความนี้ไปยังอุทยานเซียวเอี๋ยนให้ท่าน กุมารชีพอ่านดูหลังจากอ่านเสร็จท่านกุมารชีพรู้สึกชื่นชมในพระปรีชาของ กษัตริย์เอี๋ยวซิง จึงได้กราบทูลสดุดีต่อพระองค์
鸠摩罗什的译经弘法活动,盛况空前。参译者不断增加,到翻译《法华经》时,竟有两千多人。而经常追随罗什的弟子有三千。人们把鸠摩罗什门下最优秀的弟子 誉为“什门四圣”、“八俊”、“十哲”等等,长安逍遥园则成了中国北方学术地位最高的佛学翻译和研究机构。当时,后秦内上自王公贵族,下至黎民百姓,无不 信佛,佛法昌盛到了极点。ภารกิจ ด้านการแปลคัมภีร์เผยแพร่ธรรมเช่นที่ท่านกุมารชีพกระทำนั้น หาเคยมีมาก่อนไม่ โดยเฉพาะผู้เข้าร่วมงานแปลคัมภีร์นับวันก็ยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้น ช่วงเวลาที่แปลคัมภีร์สัทธรรมปุณฑริกสูตรอยู่นั้น มีผู้เข้าร่วมแปลกว่าสองพันคน ส่วนลูกศิษย์ที่ติดตามท่านกุมารชีพก็ร่วมสามพันกว่าคน ผู้คนสดุดียกย่องศิษย์ที่โดดเด่นเป็นเลิศของท่านกุมารชีพเป็น “สี่อริยะแห่งเสอ” “แปดอัจฉริยะ” “สิบปรัชญาเมธี” ฯลฯ บัดนี้อุทยานเซียวเอี๋ยวของนครฉางอาน จึงเป็นแหล่งวิทยาการชั้นเลิศทางตอนเหนือของจีนในด้านการแปลพุทธศาสตร์ ในเวลานั้นเป็นรัชสมัยปลายฉิน ภายในพระราชวังนับแต่ราชนิกูลขุนนางผู้ใหญ่จนถึงทวยราษฎร์ล้วนนับถือพุทธ ศาสนา นับว่าพุทธศาสนาในยุคนั้นเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด
弟子们对鸠摩罗什无比崇敬,唯独不能明白老师为什么会有妻室。一次,译经结束时,一位弟子忍不住问道:“老师的学问,像大海一样深;老师的道德,像天一样高。弟子只是不明白,出家人理当辞俗避世,斩断六情,老师却为何娶有妻室,身处尘俗呢?” สานุศิษย์ ทั้งหลายล้วนเคารพท่านกุมารชีพมาก ว่าเป็นเลิศหาผู้ใดปาน แต่มีความกังขาเพียงเรื่องเดียวคือ เหตุใดอาจารย์จึงต้องมีครอบครัว ครั้งหนึ่งหลังเสร็จสิ้นการแปลคัมภีร์ศิษย์คนหนึ่งอดรนทนไม่ได้ จึงถามออกมาว่า”ความรู้ของอาจารย์ลึกล้ำดุจมหรรณพ ศีลธรรมจรรยาของอาจารย์กว้างใหญ่ไพศาลดุจห้วงนภา แต่ศิษย์ไม่เข้าใจว่าผู้ออกบวชจำต้องถอนตัวจากโลก หลีกเร้นโลกียวัตร ตัดขาดอารมณ์ทั้งปวง เหตุใดท่านยังมีภรรยาและใช้ชีวิตเยี่ยงปุถุชนทั่วไป”
鸠摩罗什原原本本地向弟子们叙述了娶妻的前因后果,弟子们这才明白了老师的苦楚。原来老师为了弘扬佛法,为了把大乘法传播到中国来,才不得不忍辱负重 啊!对于个别心存妄念之人,罗什则施展早年学的吞针术,将一碗缝衣针和水吞下,然后吸一口气,将吞下的针悉数由皮肤标出,说:“吞得针,娶得亲。”吓得那 些人目瞪口呆。从此无人敢放肆妄为。 ท่าน กุมารชีพจึงเล่าถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมดให้ศิษย์ทุกคนฟัง เหล่าศิษย์จึงเข้าใจถึงความระทมขมขื่นลึกๆของอาจารย์ เพื่อจะเผยแพร่พุทธธรรมให้กว้างไกลและมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดนิกายมหายานให้ ถึงประเทศจีน จึงจำใจต้องทนอัปยศเพื่อสานต่อภารกิจนี้ให้ลุล่วง สำหรับผู้ที่คิดในเชิงอกุศลนั้น ท่านกุมารชีพได้แสดงวิชาที่ร่ำเรียนมาเมื่อครั้งเยาว์วัยให้เห็นคือวิชากลืน เข็มเข้าท้อง โดยกลืนเข็มหนึ่งชามพร้อมดื่มน้ำตามลงด้วย เพียงอึดใจเดียวก็คายเข็มที่กลืนลงไปออกทางผิวหนัง เท่ากับจำนวนที่กลืนเข้าไป ท่านกุมารชีพพูดว่า “สามารถกลืนเข็มลงไปได้ ก็สามารถแต่งงานได้” ทำให้ทุกคนตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง นับจากนั้นก็ไม่มีใครกล่าววาจาจาบจ้วงลบหลู่ในทางอกุศลอีก
龙光地方有位学问很高、著作也很多的和尚慕名前来向鸠摩罗什请教。他和罗什谈论大乘的空论,认为空论太玄了。罗什告诉他,空论是大乘的精髓,他已准备有 系统地翻译。他告诉这位和尚,继《大品》后,他还将翻译《大智度论》、《中论》、《百论》、《十二门论》。和尚敬佩地点头。 ที่ ตำบลหลงกวางมีพระสงฆ์รูปหนึ่งมีความรู้สูง มีผลงานการประพันธ์มากมายได้เดินทางมาขอคำชี้แนะจากท่านกุมารชีพ เพราะได้ยินชื่อเสียงและเสื่อมใสศรัทธามานานทั้งสองท่านได้สนทนาถึงความหมาย ของคำว่า “ว่างเปล่า” ของนิกายมหายาน ต่างยอมรับว่า คำว่า “ว่างเปล่า” นั้นมีความหมายลึกซึ้งจริงๆ ท่านกุมารชีพบอกกับพระสงฆ์รูปนั้นว่า “ว่างเปล่า” นี้เป็นสารัตถะของนิกายมหายาน ท่านเองได้เตรียมจะจัดแปลอย่างเป็นระบบพร้อมทั้งบอกกับพระรูปนี้ว่า เมื่อแปลคัมภีร์ “มหาปรัชญาปารมิตาสูตร”สำเร็จแล้วก็จะแปล “มหาปรัชญาปารมิตาศาสตร์” “มาธยมิกศาสตร์” “ศตศาสตร์” “ทวาทศนิกายศาสตร์” พระสงฆ์รูปนั้นได้ฟังก็ได้แต่พยักหน้าด้วนความนบนอบ
庐山的慧远法师在学界及政界均有很大影响。他看了鸠摩罗什的汉译佛经,赞叹不已,主动写信向罗什问好,赞美他的渊博学识和崇高精神。罗什与他书信来往,互表敬意,以慧远为中心的教团也日渐趋向大乘佛教了。ธร รมจารย์ฮุ่ยเหวี่ยนแห่งหลูซาน มีชื่อเสียงกิตติศัพท์ในวงการศึกษาและวงการเมืองมาก ท่านธรรมาจารย์ได้อ่านบทแปลคัมภีร์เป็นภาษาจีนของท่านกุมารชีพแล้วรู้สึก ชื่นชมเป็นที่ยิ่ง จึงเขียนจดหมายมาไต่ถามทุกข์สุข สรรเสริญยกย่องท่านกุมารชีพที่มีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวาง มีจิตวิญญาณการทำงานสูงส่ง ท่านกุมารชีพและธรรมาจารย์ฮุ่ยเหวียนมีจดหมายติดต่อกัน จิตบังเกิดความปิติเลื่อมใสต่อกัน แม้กระทั่งศูนย์สอนศาสนาของธรรมาจารย์ฮุ่ยเหวียนก็ค่อยๆหันมาศรัทธาเลื่อมใส นิกายมหายานมากขึ้น
转眼间,鸠摩罗什来长安已经七八年了。那时,他正在全力翻译《法华经》。一天,他对几位最喜爱的弟子表露心境:“我想译完《法华经》后,回天竺去。”弟 子们盛情挽留他。姚兴得知后,也忙到逍遥园探视。罗什考虑到中国译经事业的重任一时还得由他来担当,遂打消了去天竺的念头。他对姚兴说:“请陛下放心,我 要在有生之年译出更多的佛典。” ชั่วพริบตาท่านกุมารชีพก็พำนักอยู่นครฉางอานเป็นเวลานานถึง 7-8 ปี ในระหว่างนั้นท่านทุ่มเทกายใจแปลสัทธรรมปุณฑริกสูตรอย่างเต็มที่ วันหนึ่งกุมารชีพได้สนทนากับศิษย์ใกล้ชิดถึงความในใจว่า “เมื่อเปลสัทธรรมปุณฑริกสูตรเสร็จแล้วจะกลับชมพูทวี” เหล่าสานุศิษย์เหนี่ยวรั้งไว้ด้วยไมตรีไม่อยากให้จากไป กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงทราบเรื่องนี้ก็รีบเสด็จมาเยี่ยมเยียนที่อุทยานเซียว เอี๋ยวเช่นกัน ท่านกุมารชีพคำนึงถึงเรื่องแปลคัมภีร์ที่เประเทศจีนในยามนั้นว่ายังเป็น ภารกิจสำคัญที่ท่านต้องกระทำ จึงละความคิดที่จะไปชมพูทวีปไว้ก่อน ท่านกราบทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงว่า “ขอให้พระองค์ทรงวางพระทัย ข้าพเจ้าจะพยายามแปลคัมภีร์ให้มากที่สุดตราบที่ยังมีชีวิตอยู่”
姚兴笃信佛教,一心要为鸠摩罗什留下法种。他邀请罗什进宫观赏荷花,先试探性地跟他讲法统继承的事,见罗什没有领会他的意思,便直截了当地说:“我的意 思是说,法师如能留下一二麟儿,法师的盖世学识便可源源不断,传诸久远。我现在要挑选十名歌伎服侍你。”鸠摩罗什急忙推辞。 กษัตริย์ เอี๋ยวซิงมีความความศรัทธาเชื่อมั่นต่อพุทธศาสนามาก มีพระประสงค์จะให้ท่านกุมารชีพสืบทอด ดังนั้นพระองค์จึงนิมนต์ท่านกุมารชีพเข้าวังมาชมดอกบัว เริ่มแรกพระองค์ทรงลองทาบทามดูก่อน จึงตรัสถือเรื่องทายาทสืบสกุลตามประเพณี ครั้นเห็นท่านกุมารชีพไม่เข้าใจความหมายที่พระองค์ทรงรับสั่ง จึงตรัสอย่างตรงไปตรงมาว่า “ความหมายของข้าพเจ้าก็คือ หากท่านกุมารชีพมีทายาทสัก 1-2 คน ความรู้อันเป็นเลิศในปฐพีของท่าน ก็จะมีคนสืบทอดต่อไปชั่วกาลนาน ข้าพเจ้าได้คัดเลือกนางกำนัลสิบคนไว้คอยปรนิบัติรับใช้ท่านแล้ว” ท่านกุมารชีพปฏิเสธทันที
姚兴不等鸠摩罗什把话说完,就将这件事决定下来。罗什被迫搬进新的府邸,又被迫接受了姚兴给他的十名歌伎。姚兴希望罗什传下优秀的后代,因此歌伎们个 个貌若天仙,善解人意,而又多才多艺。姚兴为他们提供丰富的食物和全部生活用品。 กษัตริย์เอี๋ยวซิงไม่ทรงรอให้ท่านกุมารชีพพูดจบ ก็ตัดสินพระทัยให้ดำเนินตามที่รับสั่ง ท่านกุมารชีพถูกบังคับให้ย้ายไปพำนักที่ตำหนักแห่งใหม่ พร้อมให้ยอมรับสิบนางกำนัลมาอยู่ด้วย กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงตั้งความปรารถนาให้ท่านกุมารชีพมีทายาทที่ดีเยี่ยม มีความรู้ ความสามารถหลากหลาย กษัตริย์เอี่ยวซิงทรางเป็นองค์อุปถัมภ์ พระราชทานข้าวปลาอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครบถ้วน
罗什王命难违。面对这十位聪明美丽的女子,他决定教化她们,让她们屏弃俗念,皈依佛法,以免尘事生活的烦恼。于是,他每天在逍遥园讲经之后,便回到府第,向十位女子讲述佛经故事,灌输佛教思想。慢慢地,这十位女子自动改服素装,修习佛法。 ท่าน กุมารชีพไม่อาจฝืนพระบัญชาของกษัตริย์เอี๋ยวซิงได้ เมื่อเผชิญหน้ากับนางกำนัลที่ฉลาดและงดงาม ท่านกุมารชีพจึงตัดสินใจที่จะกล่อมเกลานางทั้งหลายให้มีศีลธรรมยกระดับจินใจ จากปุถุชนผู้มีกิเลสหันมาบำเพ็ญพุทธธรรม เมื่อหลีกเลี่ยงซึ่วิตอันทุกข์ทรมานทางโลก ดังนั้นทุกวันเมื่อกลับจากแสดงธรรมที่อุทยานเซียวเอี๋ยวแล้ว ก็จะไปยังตำหนักแห่งใหม่ เล่านิทานและสาธกเรื่องราวต่างๆทางพุทธศาสนาให้นางกำนัลทั้งสิบฟัง เพื่อให้เกิดพุทธิปัญญา ต่อมาไม่นานนางทั้งสิบก็ได้เปลี่ยนแปลงตนเองโดยนุ่งห่มอาภรณ์เรียบๆไม่ฉูด ฉาด เรื่องฝึกฝนบำเพ็ญพุทธธรรมโดยสมัครใจ
有一天,罗什跟她们讲最初的比丘尼是如何产生的:佛陀的姨母见佛陀不收女弟子,三次拒绝她们的请求,便与同族中五百多女子毅然各自剃去头发,披起袈裟, 后来,阿难尊者一再为她们说情,佛陀才允许他们的请求,开放了女子加入僧团的先例。十名女子听了这个故事,非常感动。在罗什的感化和调教下,他们成为罗什 门下忠心耿耿的弟子。 อยู่ มาวันหนึ่ง ท่านกุมารชีพได้เล่าถึงความเป็นมาที่มีภิกษุณีเกิดขึ้นครั้งแรกในพุทธศาสนา กล่าวคือพระมาตุจฉาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกปฏิเสธจากพระองค์ถึงสามค รั้ง ไม่อนุญาตให้สตรีเข้าบรรพชาในพุทธศาสนา ดังนั้นนางพร้อมด้วยกลุ่มสตรีประมาณห้าร้อยกว่าคน จึงตัดสินใจปลงผม นุ่งห่มจีวร ต่อมาพระอานนท์ได้เข้าเจรจาขอร้องแทนนางทั้งหลาย จนได้รับการอนุโลมจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอนุญาตรับเข้าบรรพชา ครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มแห่งการรับสตรีให้เข้าบรรพชาในพุทธศาสนา นางกำนัลทั้งสิบได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้น รู้ลึกซาบซึ้งภายใต้การสั่งสอนอบรมของท่านกุมารชีพ ทุกคนได้เปลี่ยนความคิดเห็นเดิม กลายเป็นศิษย์ที่มีจิตใจชื่อสัตย์ของสำนักหลัวเสอ
鸠摩罗什已经译完了《法华经》,正在翻译《诚实论》。此时,他开始构思撰写《实相论》,要将几十年来研究佛学的心得融铸其中,传播后世,发扬光大,他把 《实相论》的撰写放在每天的译经工作之后,经过一年多的时间,方才写成;又经过两年的修改增删,才算定稿。此书应是鸠摩罗什一辈子研究佛学的结晶,惜已亡 佚不存。 เมื่อกุมารชีพได้แปลคัมภีร์สัทธรรมปุณฑริกสูตรเสร็จสิ้น และกำลังแปลคัมภีร์สัตยสิทธิศาสตร์อยู่นั้น ท่านก็คิดจะประพันธ์เรื่อง สัตยลักษณศาสตร์ โดยคิดที่จะเขียนบรรยายข้อคิดที่ผ่านมาตลอดหลายสิบปีในการศึกษาค้นคว้าพุทธ ธรรม เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้ ท่านกุมารชีพจะเขียนบทประพันธ์ สัตยลักษณศาสตร์นี้ หลังเสร็จจากงานแปลประจำวัน ได้ใช้เวลาในการประพันธ์ราวปีกว่าและใช้เวลาขัดเกลาอีก 2 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ หนังสือเล่มนี้ถือได้ว่าเป็นผลงานตลอดชีวิตเกี่ยวกับการค้นคว้าพุทธธรรมของ ท่านกุมารชีพ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่หนังเล่มนี้ได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย
罗什住入姚兴为他新造的宅第后,认为自己业障太重,每次译经前,都要与弟子一起诵念“南无阿弥陀佛”,并对大众说:“我虽身落尘俗,我所说的法却是正确的。就如污泥中生着清香美丽的莲花,希望各位只采莲花,不要取污泥。”可谓用心良苦。 หลัง จากท่านกุมารชีพเข้าพำนักอยู่ในตำหนักใหม่ที่กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงสร้างให้ ท่านถือว่าเป็นกรรมอันใหญ่หลวงของท่านที่กีดขวางหนทางบำเพ็ญเพียร ดังนั้นทุกๆครั้งก่อนที่จะเริ่มแปลคัมภีร์ ท่านก็จะสวดมนต์ “นโมอมิตาภพุทธ” พร้อมๆกับศิษย์เสมอแล้วก็ประกาศให้ทุกคนทราบว่า “แม้ตัวของอาตมาใช้ชีวิตอยู่ทางโลก แต่พระธรรมที่เทศนานั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้เสมือนดอกบัวอันงดงามหอมกรุ่น งอกงามท่ามกลางโคลนตมหวังให้ทุกท่านเพียงเด็ดดอกบัว อย่าได้แปดเปื้อนโคลนตมโสโครก” นับได้ว่าท่านใช้คำสอน ที่ให้กำลังใจและมีเจตนาให้ข้อคิดอันลึกซึ้ง
弘始十一年(1413年)八月十九日下午,鸠摩罗什正在校正《成实论》,突然感到心跳加快,身体不适。他用手紧按着胸口,坚持到看完最后一个字,才呼喊弟子。 รัชสมัยหงสื่อปี่ที่ 11 (ปี ค.ศ.413) เวลาบ่ายของวันที่ 19 เดือน 8 ขณะที่ท่านกุมารชีพกำลังตรวจสอบคัมภีร์สัตยสิทธิอยู่นั้น รู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ ร่างกายไม่สบายมาก ท่านเอามือกดทาบที่หน้าอกระงับความเจ็บปวด มีมานะอ่านตรวจทานคัมภีร์จนจบบทสุดท้ายจึงเรียกศิษย์เข้ามาช่วย
เจดีย์บรรจุอัฐิพระกุมารชีพ
弟子们忙奔了过来,把师父扶到床上。他们一刻不停地为师父念咒,祈求佛陀延长师父的寿命。谁知到了第二天,鸠摩罗什的病情更加严重,他知道自己的生命走到了尽头,忽然睁开眼睛,挣扎着坐起来,向大家告别。 ศิษย์ทุกคนรีบรุดเข้ามาอย่างเร่งด่วน พยุงท่านกุมารชีพขึ้นนอนบนเตียง ศิษย์ทุกคนไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่างอธิษฐานให้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดเมตตาช่วยชีวิตของอาจารย์ แต่เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น อาการเจ็บป่วยของท่านกุมารชีพกลับยิ่งรุนแรง ท่านกุมารชีพตระหนักดีว่าชีวิตของท่านได้มาถึงจุดสุดท้ายแล้ว ทันใดนั้นท่านก็ลืมตาขึ้นพยายามทรงตัวขึ้นมาเพื่อล่ำลาทุกคน
一位弟子忙上前扶住师父,让他靠在自己的身上。众弟子肃立在鸠摩罗什周围听着师父临终遗言。鸠摩罗什喘息着说:“罗什所译经纶,三百多卷,大部分是意译,保留了经纶的本意,希望将来可流传后世,发扬光大......。”ศิษย์ คนหนึ่งรีบเข้ามาประคองท่านอาจารย์กุมารชีพ แล้วให้เอนพิงบนตัวท่านสานุศิษย์ทั้งหลายยืนสงบเสงี่ยมข้างกายท่านอาจารย์ กุมารชีพ ฟังคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายที่ใกล้มอดดับของอาจารย์ ท่านกุมารชีพพูดด้วยเสียงหอบว่า “คัมภีร์สามร้อยกว่าเล่มที่ได้แปลไว้นั้นส่วนมากแปลตามความหมายเดิม เพื่อธำรงไว้ซึ่งเนื้อหาที่แท้จริงของบทคัมภีร์หวังว่าจะสามารถสืบทอดไปยัง อนุชนรุ่นหลัง มีโอกาสเผยแพร่ให้รุ่งเรืองไพศาล”
鸠摩罗什对弟子说了好些话,他的声音越来越微弱。他最后说:“罗什一生所译的经纶,如果没有错误的话,罗什火化之后,舌根不会烧焦烧烂!”弟子们含着眼泪,让鸠摩罗什躺下。在生命的最后时刻,鸠摩罗什的嘴唇还在微微颤动,似乎在喃喃地念着经文。 ท่าน กุมารชีพได้สนทนากับศิษย์ครู่หนึ่ง เสียงของท่านแผ่วลงทีละน้อย “พระคัมภีร์ที่แปลไว้ตลอดชีวิตของอาตมานั้น” มิได้มีข้อผิดพลาดอันใด หลังพิธีฌาปนกิจแล้วสิ้นของอาตมาจะไม่ถูกเผาไหม้เสื่อมสลาย”ศิษย์ทุกคนต่าง น้ำตาคลอ พยุงอาจารย์ให้เอนกายลง ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ริมฝีปากของท่านอาจารย์กุมารชีพยังคงสั่นเครือเล็กน้อย ราวกับว่าท่านยังพึมพำสวดมนต์อยู่
长公主与十位女弟子也满怀悲伤与崇敬,步向榻前,为鸠摩罗什助念佛号。鸠摩罗什在弟子们的哭泣和念佛声中,慢慢地合上了眼睛。他的面容是那样安详、宁静;他那样伟大的灵知觉性,正向不生不灭的涅?境界而去。องค์ หญิงจั่งและศิษย์หญิงทั้งสิบยืนอยู่หน้าเตียง ต่างช่วยกันอธิษฐานด้วยความเคารพและโศกเศร้าอาดูร ท่านกุมารชีพค่อยๆหลับตาลง ท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้และเสียงสวดมนต์ของศิษย์ทั้งหลาย ใบหน้าของท่านช่างสงบสุข โปร่งสบายอะไรเช่นนี้ จิตที่สูงส่งประเสริฐเลิศล้ำ กำลังมุ่งสู่นิพพานสถานอันอมตะไร้ซึ่งการเกิดและการดับสูญ
一代伟大的译经家鸠摩罗什与世长辞,终年七十岁。鸠摩罗什的逝世,出乎人们的意料之外,从他感到身体不适到圆寂,竟不到一昼夜!这都是因为他日夜不停地讲经译经,疲劳过度,积劳成疾所致呀!鸠摩罗什的遗体火化后,舌根却没有焦烂,就像活着时一样红润。ท่าน กุมารชีพ นักแปลผู้ยิ่งใหญ่ละสังขารจากโลกนี้ไปชั่วกาลนานในวัย 70 พรรษาการจากไปของท่านเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายไม่คาดคิด กล่าวคือ เริ่มแต่ท่านรู้สึกไม่สบายจนถึงมรณภาพกินเวลาเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้เนื่องเพราะท่านตรากตรำแสดงธรรมและแปลคัมภีร์ สั่งสมความเหน็ดเหนื่อยมากเกินไปจนแปรเป็นโรคภัยไข้เจ็บ สังขารของท่านหลังฌาปณกิจแล้ว ปรากฏว่าลิ้นของท่านยังเป็นสีแดงสดเหมือนขณะยังมีชีวิตอยู่ไม่ถูกเผาจนไหม้ เกรียมสูญสลายแต่อย่างใด
前来送行的弟子及长安百姓不计其数。大家见此,苦得更悲痛了。僧肇擦着满脸泪水,朗诵他流泪撰写的祭文《鸠摩罗什法师诔》。然后,弟子们小心地收起灵骨,恭迎回逍遥园。สานุศิษย์ และชาวเมืองฉางอานที่มาปลงศพในครั้งนี้มากมายเหลือคณานับ ทุกคนเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ยิ่งสลดใจมากขึ้น พระเจิงจ้าวน้ำตานองหน้าขณะอ่านบทความไว้อาลัยสดุดีต่ออาจารย์กุมารชีพ คือ “บทสดุดีความดีความชอบของท่านกุมารชีพ” เสร็จแล้วลูกศิษย์ทั้งหลายก็เก็บสรีระธาตุของท่านอย่างระมัดระวัง นำกลับไปยังอุทยานเซียวเอี๋ยวด้วยความเคารพ
鸠摩罗什在长安二十年,译出佛经七十四部三百八十四卷,其中重要的有《妙法莲华经》、《阿弥陀经》、《十住毗婆沙论》、《中论》、《百论》,《十二门 论》、《金刚般若波罗蜜经》、《梵网经》、《摩诃般若波罗蜜经》、《成实论》、《弥勒成佛经》、《坐禅三昧经》、《维摩诘所说经》、《大智度论》等。ท่าน กุมารชีพพำนักอยู่นครฉางอานเป็นเวลา 12 ปี ได้แปลพระคัมภีร์รวม 714 หมวด 384 เล่ม มีพระสูตรสำคัญ อาทิ “สัทธรรมปุณฑริกสูตร” “อมิตยุสูตร” “ทศภูมิวิภาษาสูตร” “มาธยมิกศาสตร์” “ศตศาสตร์” “ทวาทศะนิกายศาสตร์” “วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร” “พรหมชาลสูตร” “มหาปรัชญาปารมิตาสูตร” “สัตยสิทธิศาสตร์” “ไมตรียพุทธ-สัมปทาสูตร” สมาธินสัชชาสูตร” “วิมลกีรตินิทเทศสูตร” และ “มหาปรัชญาปารมิตาศาสตร์”
在鸠摩罗什所译的佛经中,论部多于经部。他的汉译佛经,为中国的佛教哲学奠定了坚实的理论基础。在鸠摩罗什到长安之前,中国主要奉行小乘佛教,对大乘佛教知之甚少,是鸠摩罗什把大乘佛教传播到中国,使之在中国发扬光大。 ใน งานแปลพระสูตรทั้งหลายของท่านกุมารชีพนั้น ภาคที่ว่าด้วยศาสตร์จะมีมากกว่าพระสูตร พระสูตรที่แปลเป็นภาษาจีนของท่านได้วางรากฐานอันเข็งแกร่งให้กับพุทธปรัชญา ในประเทศจีน เพราะก่อนที่ท่านกุมารชีพจะมาอยู่นครฉางอาน ประเทศจีนยังนับถือนิกายหินยานเป็นหลัก ส่วนนิกายมหายานเป็นที่รู้จักน้อยมาก นิกายมหายานถ่ายทอดถึงประเทศจีนได้ก็เพราะท่านกุมารชีพเป็นผู้เผยแพร่ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศจีน
鸠摩罗什门下人才辈出,最杰出的被称为“关中四圣”或“什门四杰”,也有被称为“八俊”或“十哲”的他们是:道生、僧肇、道融、僧?、道恒、慧观、慧 严、僧影、昙影、僧契、道标。他们后来各自教化一方,著作也很丰富,如道生的《二谛论》、《法华经疏》,僧肇的《肇论》等。 สำนักของท่านกุมารชีพ มีปัญญาชนที่มีความรู้ ความสามารถเป็นเลิศจนเป็นที่เลื่องลือได้รับการยกย่องเป็น “สี่สุดยอดแห่งสำนัก” หรือ “สี่อัจฉริยะแห่งสำนักเสอ” รวมทั้งได้รับการยกย่องเป็น “แปดสง่างามล้ำเลิศ” หรือสิบปรัชญาเมธี” ท่านเหล่านี้ คือ เต้าเซิง เจิงจ้าว เต้าหยง เจิงยุ่ย เต้าเหิง ฮุ่ยกวาน ฮุยเอี๋ยน เจิงอิ่ง เซียนอิ่ง เจิงซี่ และเต้าเปี่ยว ต่อมาภายหลัง แต่ละท่านได้นำคำสอนออกเผยแพร่ไปทั่วทุกแห่งหน บทประพันธ์ก็มีมากมาย เช่น บทประพันธ์ “ทวิสัตยศาสตร์” “สัทธรรมปุณฑรีกสูตรฎีกา” ของเต้าเซิง “อภิเษกศาสตร์” ของเจิงจ้าวเป็นต้น
鸠摩罗什把一生都献给了佛教事业。他自七岁随母出家后,既游学各国,孜孜不倦地学习佛法,传播佛学。在长安的十二年中,致力于汉译佛经的伟大工程,为中土培养了大批的佛教人才,为佛教在中国的发展,作出了巨大贡献;中国的佛教思想,也因此而源远流长。ตลอด ชีวิตของท่านกุมารชีพ มีปณิธานที่จะอุทิศกำลังกายใจและสติปัญญาเพื่อภารกิจแห่งพุทธศาสนา เมื่ออายุ 7 ปี ก็ติดตามพระมารดาออกบวช และจารึกไปยังแว่นแคว้นต่างๆ มุ่งมั่นไม่ท้อถอยในการศึกษาพระคัมภีร์และเผยแพร่พุทธศาสนา ช่วงเวลา 12 ปีที่อยู่นครฉางอาน ก็ได้ทุ่มเทแรงกายมหาศาลในการแปลคัมภีร์ของพุทธศาสนา และฟูมฟักส่งเสริมปัญญาชนมากมายให้แก่ประเทศจีน เพื่อให้พุทธศาสนาได้แผ่ขยายรุ่งเรืองต่อไป ในประเทศจีน ท่านได้อุทิศผลงานอันล้ำค่า คือการสร้างทัศนคติเกี่ยวกับพุทธศาสนานิกายมหายานให้เกิดศรัทธาขึ้นในประเทศ จีน และยั่งยืนสถาวรสืบมา
จาก http://www.gonghoog.com/main/index.php/2012-11-10-06-57-06