ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: สิงหาคม 19, 2010, 11:15:27 pm »

 :20: อิจฉาจังเลย ร้อนรุ่มๆ อยากมีลูกสาวน่ารักๆ เหมือนพี่อั๋น
ข้อความโดย: aun63
« เมื่อ: สิงหาคม 19, 2010, 06:38:21 pm »

 :44:การดูแลลูกเป็นเรื่องที่มีความสุขนะ หลายๆคนจะมองว่าเหนื่อย อันนี้ก็ไม่ได้เถียง แต่ในเหนื่อยมันมีสัมผัสของความรู้สึกที่เบาเสมอหละ เคยอยู่กะเด็กๆแล้วสัมผัสถึงความรู้สึกที่เบาๆสบายๆไม่คิดรัยยิ้มและหัวเราะไปในกิจกรรมของเค้า นั้นเป็นการหวนคืนความรู้สึกของเราเองเมื่อครั้งยังเด็กๆที่บางครั้งเราอาจจะจำไม่ได้แต่นั้นคือจิตเดียวกันกับเรา เราไม่จำเป็นต้องมีลูกถึงจะสามารถเข้าถึงในภาวะความรู้สึกนั้นได้นะ เพียงแค่เราได้ใกล้เด็กๆมีกิจกรรมไปตามธรรมชาติความรู้สึกนั้นกับเค้าเราก็สามารถจะจำได้เช่นกันหละ :47: เด็กรอบๆตัวเราเค้าก็คือลูกหลานเรานะเค้าคือครอบครัวเดียวกะเรา ด้วยสัญญาเค้าจะต้องการให้ทุกคนเห็นค่าในตัวเค้าเสมอ ถ้าเราเข้าใจในธรรมชาติในสัญญา หรือความจำของตัวเอง เราจะรู้ว่าเค้าเองก็เหมือนเรา เพียงแต่ตอนนี้อาจจะต่างกันที่ประสบการณ์ อย่านะอย่ายัดเยียดประสบการณ์เราที่เราเคยผ่านให้เค้า เพราะบางครั้งอาจจะเป็นการปิดกั้นในประสบการณ์ที่เค้าต้องได้รู้จักด้วยตัวเองก็ได้ ประสบการณ์เรามีเพียงเพื่อทางเลือกของเค้าเท่านั้น แต่ต้องให้ตัดสินใจในสิ่งนั้นๆด้วยตัวเอง เพราะนั้นแหละคือสิ่งที่ดีสำหรับทั้งเค้าและเราจิงๆนะ ถ้าเรายอมรับสิ่งนั้นๆได้เท่ากับเราได้ผ่านบางสิ่งที่เรียกว่าห่วง ที่พ่อและแม่กลัวนั้นเอง การที่เราก้าวผ่านความกลัวนั้นคือการที่เราได้ก้าวสู่ความกล้าหาญในพร้อมกัน :47:
ข้อความโดย: Pure+
« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2010, 05:49:32 pm »

ลูกไม้ของผลต้นน่ารัก หล่นไปไม่ไกลต้น.. :13:
ข้อความโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ
« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2010, 04:43:09 pm »

ชอบมุขคิดตี้อะ

พ่อคิดตี แต่ลูกคิตตี้ (เอาตัวรอดเก่งจริงนะ ตัวแค่เนี๊ยะ 555+)


 :12: .. โน๊ะๆ น่ารักดีค่ะ หรือ พูดอีกที คุณพ่อคิดด้วน! ส่วนคุณลูกคิดได้...(น่ารัก คัก คัก ค่ะ อิอิ..^^)
ข้อความโดย: (〃ˆ ∇ ˆ〃)
« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2010, 11:29:33 am »

ชอบมุขคิดตี้อะ

พ่อคิดตี แต่ลูกคิตตี้ (เอาตัวรอดเก่งจริงนะ ตัวแค่เนี๊ยะ 555+)
ข้อความโดย: ดอกโศก
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2010, 07:17:58 pm »

ไม่รู้ว่าตัวเองมัวไปทำอะไรถึงได้ไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะ
วันนี้ได้มีโอกาสอ่าน ก็อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ
ขอบคุณคุณพ่ออั๋น ที่นำเรื่องราวมาแบ่งปันให้อ่านค่ะ  ^_^

การเลี้ยงลูกเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ค่ะ
ไม่มีลูกและไม่เคยเลี้ยงลูก แต่เห็นจากพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่เป็นทั้งคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายเลี้ยงกันแล้ว
ต้องขอบอกว่าเห็นแล้วเหนื่อยแทน
ความเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นกันตลอดชีวิต จะสิ้นสุดก็เมื่อหมดลมหายใจเท่านั้น
ตัวเองไม่คิดเป็นแม่ใคร เพราะมั่นใจว่าเลี้ยงใครให้ดีไม่ได้แน่ๆ  :14:

ยังมีอีกหลายเรื่อง มากสิ่งที่คุณพ่ออั๋นจะได้เรียนรู้ค่ะ
เอาใจช่วยคุณพ่อและคุณลูกให้ได้เรียนรู้กันและกันค่ะ  :13:
ข้อความโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2010, 06:11:08 pm »

:44:หน้าที่คือสิ่งที่เริ่มจากสิ่งที่ได้รับและสิ่งที่เลือกจะเป็น เข้าใจในหน้าทีเราจะมีความสุขในหน้าทีโดยธรรมชาติ ผมได้เลือกหน้าที่ของความเป็นพ่อ วันนี้ผมภูมิใจในความกล้าหาญในสิ่งนี้555+ นี่คือการชื่นชมตัวเองด้วยความเข้าใจ ^ ^ ผมได้เข้าถึงภาวะของความเป็นพ่อได้ด้วยองค์รวม นั้นคือ...ลูก หนึงในปัจจัยและที่สุดในองค์รวมนั้น การเข้าถึงภาวะของลูกได้นั้นคือการเข้าถึงภาวะและความรู้สึกของตนเอง เพราะอดีตเรานั้นคือลูกผู้ที่ผ่านประสบการณ์ของภาวะนั้น การมีลูกนั้นเป็นเหตุที่ทำให้ผมกลับไปยังอดีตของตัวเองเมื่อครั้งหนึง ความรู้สึกในตอนนั้น(อดีต)ของผม ไม่ต่างจากความรู้สึกของลูกสาวผมในปัจจุบัน กระบวนการเข้าถึงภาวะและความรู้สึกของลูกจึงค่อยๆเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ การสังเกตุจึงเกิดขึ้นพร้อมการเอาใจใส่ใน ภาวะของอารมณ์นั้นๆของลูกสาว ความเข้าใจซึ่งกันและกันเกิดขึ้นทั้งเธอและผมอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนั้นคือหนึงในเหตุและปัจจัยในความเข้าใจใน อัตตา เมื่อเข้าใจในอัตตา คือตัวและตนของกันและกันความผูกพันธ์ จึงถูกแยกออกเป็นผูก......พันธ์ ผูกนั้นในความรู้สึกอย่างสามัญมันแก้และปลดได้ง่ายกว่า...พัน จิงปะ ^ ^ 1ในหลายๆเรื่องที่ลูกสาวมั๊กจะสอนผม...มีครั้งหนึงผมพยายามที่จะบอกให้ลูกซึ่งอายุแค่อนุบาล1เก็บหนังสือนิทานที่ผมได้เรียงและจัดเอาไว้ เธอลื้อและเอาออกมาเพื่อที่จะให้ผมอ่านอีกแล้วไม่ยอมเก็บตามที่ผมพยายามจะให้เธอรู้จักเก็บของให้เป็นที่ ผมกำลังออกอาการบ่นเธอ..ต้นข้าวพ่อสอนหนูว่ายังงัยว่าถ้าลื้อออกมาต้องเก็บให้เป็นที่ของมันหนูจะได้จำได้นะ เธอโต้กลับทันควันว่า.. พ่อชั่งหนูเถอะ หนูก็เป็นของหนูแบบนี้ ผมอึ้งพร้อมกับนิ่งแล้วเอ่ยพูดกะตัวเองว่า..อืมมันคิดได้งัย..ต้นข้าวได้ยินสิ่งที่ผมเอ่ย เธอจะพูดต่อว่า คิดตี้งัยพ่อ คิดตี้อ่ะ ผมหละฮาเลย เค้าพยายามจะบอกผมว่าจะมาเอารัยกะเด็กอ่ะพ่อ ผมชอบบอกรักกับลูกและถามลูกเสมอ ว่าพ่อรักต้นข้าวนะมากที่สุดในจักรวาลนี้เลย ต้นข้าวรักแม่เท่าไหน เค้าจะบอกผมว่า ต้นข้าวรักแม่เท่าฟ้า แล้วต้นข้าวรักพ่อเท่าไหน เธอจะบอกผมว่าต้นข้าวรักพ่อเท่าเดิม เธอทำให้ผมเข้าใจในบางอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งค้นในหัวใจยิ่งเจอในความรู้สึกนั้น ความรู้สึกของความเข้าใจในกันและกันจิงๆ




 ...เพิ่งจะว่าง กลับมาอ่านต่อ (เป็นระยะๆค่ะ ไม่ว่ากันโน๊ะ^^" แหะ แหะ.. ) การให้ความรัก  ยอมรับ และ เข้าใจ แบบเงื่อนไร้ไข จึงจะเป็นการรักและเข้าใจทั้งลูก(ผู้อื่น) และ ตัวเราเอง อย่างแท้จริงค่ะ ..  :07: :19: อนุโมทนา+ขอบคุณ2พ่อลูกผู้น่ารัก & Family ...อีกครั้งนะคะ สำหรับการถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆน่ารักๆ ให้ข้อคิดเตือนสติ แถมเตะเจ้า "อัตตา" ที่มักมีมากมาย แบบมิรู้ตัวในทุกคน.. ให้กระเด็นหายย สลายไป.. มา ณ.ที่นี้ เพื่อให้พวกเราทุกคนได้เสมือนมีส่วนร่วม และ นำไปปรับใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันทั้งทางธรรม-ทางโลกได้จริงตรงนี้ด้วยค่ะ ^^ .... :13:



ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2010, 04:52:20 pm »


                    :13: :19: :13:

ยินดีกับคุณอั๋นกับน้องต้นข้าวสำหรับสิ่งดีๆที่มีร่วมกันด้วยนะคะ...


     
ข้อความโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2010, 04:32:28 pm »

:43:จากเหตุการวันนั้นที่ได้คุยกับภรรยา และต้นข้าวก็ได้นอนฟังอยู่ เพื่อนๆคับ ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่ต้นข้าวที่สัมผัสได้จากการสื่อสารจากเสียงและความรู้สึกที่พูดถึงตัวเธอ ( ต้นข้าว ) เด็กๆทุกคนหรือลูกของคุณเค้าเองจะรู้สึกเสมอที่พ่อแม่สื่อหรือพูดกับเค้าไม่ว่าจะสถาวะใดๆ ขอให้รู้ไว้ ว่าเด็กมีสัมผัสที่ไวเสมอกับทุกความรู้สึกและนั้นคือสิ่งที่จะไปตราตรึงใจของพวกเค้า ทำมัยจึงชื่อว่าลูกเตะอัตตา เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เบื้องต้น และตรงนี้ ผมเริ่มที่จะค้นหาความรู้สึกในตัวตน ของตนไปพร้อมกันกับลูก ถ้าเว้นตรงกลางของคำนั้นลูกผมก็คงค้นหาในตัวตนของเค้าและพ่อแม่เค้าไปพร้อมๆกันเช่นกัน จากคำที่ผมถามต้นข้าวเมื่อครั้งหนึ่งในช่วงเช้าที่สนามเด็กเล่นผมถามลูกว่าต้นข้าวชอบมั้ยจ๊ะลูก ต้นข้าวพูดที่ข้างหูของผมในขณะที่เธอขี่คอของผมคนที่เธอเรียกว่าพ่อจ๋า เสียงนั้นพูดที่ข้างหูของผมว่า....พ่อจ๋าวันนี้หนูมีความสุขมากที่สุดเลยพ่อพาหนูมาที่นี่อีกนะ เพื่อนๆคับผมรู้สึกสัมผัสความสุขที่มากมายของลูกจิงๆในวันนี้ :24: ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนั้นเพื่อที่จะถ่ายทอดออกมาให้เข้าถึงได้ยังงัยจิงๆ ถ้าคุณกำลังค้นใจตนเองเพื่อใครสักคนคุณจะเข้าใจในความรู้สึกนั้น นั้นคือความเข้าใจในความสุขของคนๆนั้น ต้นข้าวทำให้ผมเข้าใจในความรักที่มีตัวตน เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดๆจากผมที่เรียกตัวเองว่าพ่อ  แล้วพยายามที่จะทำให้ลูกเชื่อในสิ่งที่ผมมอบให้ว่านี่คือสิ่งดี และนี่คือสิ่งเลว เพื่อที่จะอยู่ในสังคมบนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข แต่สิ่งหนึงที่ต้นข้าวทำให้ผมเข้าใจนั้นคือความรู้สึกสัมผัสจากภายใน เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากภายนอก แต่เธอเกิดมาเพื่อแค่ต้องการความเข้าใจจากภายในของความรู้สึกของเธอมากกว่า ยิ่งผมเข้าใจในตัวเองยิ่งเข้าใจในตัวเธอและพร้อมกันเธอเข้าใจตัวพ่ออย่างผมและตัวตนของเธอเองนั้นคือการดำเนินความเข้าใจในตนเองอย่างธรรม (ธรรมชาติ) ยิ่งสัมผัสยิ่งเข้าถึง เธอทำให้ผมกระจ่างในจิตนี้ว่า คนเราเกิดมาเพื่อที่จะเข้าใจในจิตตนเพื่อที่จะเข้าใจในจิตผู้อื่น เราเกิดมาเพื่อแค่เข้าใจซึ่งกันและกัน ความเข้าใจคือจุดมุ่งหมายในทุกๆสิ่งบนโลกและจักรวาลนี้ เราจะละและวางได้เมื่อรัย ถ้าวันนี้เรายังไม่เข้าใจอัตตา  :45: ขอบใจนะคุณลูกสาว เธอไม่ใช่ต้นข้าวของพ่อ แต่เธอคือต้นข้าว พ่อรักต้นข้าวนะ ^^


   ... เยี่ยมมม!! ไปเล๊ยยย ค่ะ คุณพ่ออั๋น   .. ต้นข้าวโชคดีมากมายค่ะ ที่ได้เกิดมาเจอคุณพ่อที่รักเธอ เข้าใจเธอ มิใช่แค่เพียงเข้าใจถึงความรู้สึก/สัมผัสภายนอกเท่านั้น ...แต่ผู้รับบท เป็นคุณพ่ออั๋น มองเห็น ยอมรับ เข้าใจ  และ สัมผัสภายในสื่อได้ ถึง  "ธรรมะชาติ หรือ ความต้องการที่แท้จริง" ของผู้ รับบท เป็นลูกสาว ... และ น้องต้นข้าว  :46: ก็เยี่ยมมมากมายเช่นกันค่ะ ที่ สามารถช่วย "เตะ" อัตตา ของผู้รับบทเป็นคุณพ่อ และอาจรวมไปถึงอีกหลายๆท่านที่ได้อ่านกระทู้นี้ ...ให้กระเด็นน ออกไปด้วยเช่นกันค่ะ ...  :07:ขอบคุณมากมาย และ อนุโมทนา ทั้งกับคุณพ่ออั๋น และ น้องต้นข้าว และทุกคนที่มีส่วนร่วมในเรื่องราวตรงนี้ ด้วยใจจริง มา ณ.ที่นี้ด้วยนะคะ  สาธุ!!~ ค่ะ :13:


ข้อความโดย: aun63
« เมื่อ: สิงหาคม 14, 2010, 01:46:31 pm »

 :44:หน้าที่คือสิ่งที่เริ่มจากสิ่งที่ได้รับและสิ่งที่เลือกจะเป็น เข้าใจในหน้าทีเราจะมีความสุขในหน้าทีโดยธรรมชาติ ผมได้เลือกหน้าที่ของความเป็นพ่อ วันนี้ผมภูมิใจในความกล้าหาญในสิ่งนี้555+ นี่คือการชื่นชมตัวเองด้วยความเข้าใจ ^ ^ ผมได้เข้าถึงภาวะของความเป็นพ่อได้ด้วยองค์รวม นั้นคือ...ลูก หนึงในปัจจัยและที่สุดในองค์รวมนั้น การเข้าถึงภาวะของลูกได้นั้นคือการเข้าถึงภาวะและความรู้สึกของตนเอง เพราะอดีตเรานั้นคือลูกผู้ที่ผ่านประสบการณ์ของภาวะนั้น การมีลูกนั้นเป็นเหตุที่ทำให้ผมกลับไปยังอดีตของตัวเองเมื่อครั้งหนึง ความรู้สึกในตอนนั้น(อดีต)ของผม ไม่ต่างจากความรู้สึกของลูกสาวผมในปัจจุบัน กระบวนการเข้าถึงภาวะและความรู้สึกของลูกจึงค่อยๆเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ การสังเกตุจึงเกิดขึ้นพร้อมการเอาใจใส่ใน ภาวะของอารมณ์นั้นๆของลูกสาว ความเข้าใจซึ่งกันและกันเกิดขึ้นทั้งเธอและผมอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนั้นคือหนึงในเหตุและปัจจัยในความเข้าใจใน อัตตา เมื่อเข้าใจในอัตตา คือตัวและตนของกันและกันความผูกพันธ์ จึงถูกแยกออกเป็นผูก......พันธ์ ผูกนั้นในความรู้สึกอย่างสามัญมันแก้และปลดได้ง่ายกว่า...พัน จิงปะ ^ ^ 1ในหลายๆเรื่องที่ลูกสาวมั๊กจะสอนผม...มีครั้งหนึงผมพยายามที่จะบอกให้ลูกซึ่งอายุแค่อนุบาล1เก็บหนังสือนิทานที่ผมได้เรียงและจัดเอาไว้ เธอลื้อและเอาออกมาเพื่อที่จะให้ผมอ่านอีกแล้วไม่ยอมเก็บตามที่ผมพยายามจะให้เธอรู้จักเก็บของให้เป็นที่ ผมกำลังออกอาการบ่นเธอ..ต้นข้าวพ่อสอนหนูว่ายังงัยว่าถ้าลื้อออกมาต้องเก็บให้เป็นที่ของมันหนูจะได้จำได้นะ เธอโต้กลับทันควันว่า.. พ่อชั่งหนูเถอะ หนูก็เป็นของหนูแบบนี้ ผมอึ้งพร้อมกับนิ่งแล้วเอ่ยพูดกะตัวเองว่า..อืมมันคิดได้งัย..ต้นข้าวได้ยินสิ่งที่ผมเอ่ย เธอจะพูดต่อว่า คิดตี้งัยพ่อ คิดตี้อ่ะ ผมหละฮาเลย เค้าพยายามจะบอกผมว่าจะมาเอารัยกะเด็กอ่ะพ่อ ผมชอบบอกรักกับลูกและถามลูกเสมอ ว่าพ่อรักต้นข้าวนะมากที่สุดในจักรวาลนี้เลย ต้นข้าวรักแม่เท่าไหน เค้าจะบอกผมว่า ต้นข้าวรักแม่เท่าฟ้า แล้วต้นข้าวรักพ่อเท่าไหน เธอจะบอกผมว่าต้นข้าวรักพ่อเท่าเดิม เธอทำให้ผมเข้าใจในบางอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งค้นในหัวใจยิ่งเจอในความรู้สึกนั้น ความรู้สึกของความเข้าใจในกันและกันจิงๆ