ผู้เขียน หัวข้อ: การพัฒนาจิต :หลวงพ่อพุธ ฐานิโย  (อ่าน 2466 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
การพัฒนาจิต :หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2012, 04:50:41 pm »




การพัฒนาจิต :หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับการพัฒนาจิตในแง่มุมที่กว้างขวางกว่าที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันว่า

ถ้าใครยังคิดว่าสมาธิ ต้องนั่งขัดสมาธิหลับตาภาวนา คนนั้นยังโง่อยู่ ถ้าผู้ใดเข้าใจว่าสมาธิเราทำได้ตลอดเวลาทุกลมหายใจ ผู้นั้นเข้าใจถูก สมาธิ คือ การกำหนดสติรู้อยู่ในชีวิตประจำวัน ในปัจจุบันตลอดเวล

ท่านได้ให้นิยามของคำว่า “สมาธิ” ไว้ว่า “การทำสมาธิ คือ การทำจิตให้มีสิ่งรู้ ทำสติให้มีสิ่งระลึก หมายความว่า เมื่อจิตของเรานึกถึงสิ่งใด ให้มีสติสำทับไปที่ตรงนั้น

ดังนั้นสมาธิจึงไม่ใช่กิริยาของกาย แต่เป็นกิริยาของจิตที่มีสติสัมปชัญญะรู้พร้อมอยู่กับปัจจุบัน การปฏิบัติสมาธิภาวนา คือ งานดูกาย ดูจิตของตนเอง เป็นวิธีเตือนตน สั่งสอนตน ตรวจตราดูความบกพร่องของตนว่าควรแก้ไขจุดใดบ้าง

การพัฒนาจิตให้มีพลังสติสัมปชัญญะเพิ่มพูนขึ้น จะเป็นบ่อเกิดของปัญญา พลังสติสัมปชัญญะจะมีความสัมพันธ์กับระดับของปัญญา กล่าวคือถ้าพลังสติสัมปชัญญะมีมาก ปัญญาก็มาก หากพลังสติสัมปชัญญะมีน้อย ปัญญาก็ย่อมน้อยลงด้วย

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย จำแนกการทำสมาธิเป็น 2 รูปแบบคือ
สมาธิในวิธีการ หมายถึง การปฏิบัติสมาธิที่มีรูปแบบ มีวิธีการที่เป็นกิจลักษณะ เช่น การนั่งสมาธิภาวนากำหนดลมหายใจหรือบริกรรมภาวนา การเดินจงกรม การเพ่งกสิณ การสวดมนต์ เป็นต้น

สมาธิในชีวิตประจำวันหรือสมาธิสาธารณะ เป็นการปฏิบัติสมาธิในชีวิตประจำวัน ด้วยการมีสติรู้อยู่กับงานในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด ตลอดจนการงานต่างๆ

โครงการอบรมพัฒนาจิต ณ วัดวะภูแก้ว ก่อกำเนิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะช่วยแก้ปัญหาสังคมโดยเฉพาะพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนของวัยรุ่นยุคใหม่ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาคือ ไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) เป็นแนวทางในการดำเนินการ โดยมีพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวันและประธานสงฆ์วัดวะภูแก้ว เป็นผู้อุปถัมภ์โครงการ



โครงการอบรมพัฒนาจิต ณ วัดวะภูแก้ว