ผู้เขียน หัวข้อ: อลังการ “ขบวนเรือพระราชพิธี” มรดกวัฒนธรรมล้ำค่าแห่งสยามประเทศ  (อ่าน 2228 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
อลังการ “ขบวนเรือพระราชพิธี” มรดกวัฒนธรรมล้ำค่าแห่งสยามประเทศ (+คลิป)
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135355-
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
5 พฤศจิกายน 2555 18:09 น.


ขบวนเรือพระราชพิธี มรดกวัฒนธรรมล้ำค่า

       เนื่องจากปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2554 ทำให้ “พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554” ที่จัดโดยกองทัพเรือจำเป็นต้องเลื่อนหมายกำหนดการมาเป็นในปี 2555 นี้
       
       สำหรับการเสด็จทางน้ำที่เรียกว่า“ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค” นั้นมีมายาวนานนับตั้งแต่สมัยสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยา จวบจนถึงปัจจุบัน โดยแม่น้ำลำคลองถือเป็นเส้นทางสัญจรหลัก อีกทั้งในเวลารบทัพจับศึกก็จะใช้กระบวนทัพเรือเป็นสำคัญ เมื่อบ้านเมืองปราศจากสงครามก็จะมีการฝึกซ้อมกระบวนยุทธทางเรือกันในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเป็นช่วงที่ราษฎรว่างจากการทำนา ประจวบกับเป็นช่วงของประเพณีการทอดกฐิน พระเจ้าแผ่นดินจึงเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนเรือเพื่อให้ไพร่พลได้รื่นเริงในการกุศล


เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์งามล้ำเหนือแม่น้ำเจ้าพระยา

       ไม่เพียงประเพณีถวายผ้าพระกฐินเท่านั้น ขบวนพยุหยาตราชลมารคในอดีตยังจัดขึ้นในคราวที่พระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินไปในการต่างๆ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการรอยพระพุทธบาท การอัญเชิญ พระพุทธรูปที่สำคัญจากหัวเมืองเข้าประดิษฐานในเมืองหลวง การต้อนรับทูตต่างประเทศ เป็นต้น
       
       ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคที่ถือเป็นต้นแบบมาจนปัจจุบัน คือขบวนพยุหยาตราฯ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยเรียกขบวนเรือว่า “ขบวนเพชรพวง” ซึ่งเป็นริ้วกระบวนยิ่งใหญ่ 4 สาย พร้อมริ้วเรือพระที่นั่งตรงกลางอีก 1 สาย มีเรือทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 100 ลำ นับเป็นขบวนพยุหยาตราทางชลมารคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และนับเป็นต้นแบบสำคัญของขบวนพยุหยาตราฯ ในสมัยต่อมา


ริ้วขบวนเรือลอยลำในเจ้าพระยา

       ความงดงามของขบวนเรือในสมัยนั้นได้ถูกบันทึกไว้โดย นิโคลาส แชแวร์ หนึ่งในคณะทูตฝรั่งเศสซึ่งเดินทางเข้ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ว่า
       
       “...ไม่สามารถเทียบความงามกับขบวนเรืออื่นใดได้ เป็นขบวนเรือที่มโหฬาร มีเรือกว่า 200 ลำ โดยมีเรือพระที่นั่งพายเป็นคู่ๆไปข้างหน้า เรือพระที่นั่งนั้น ใช้ฝีพายของพวกแขนแดงที่ได้รับการฝึกพายมาจนชำนาญ ทุกคนสวมหมวก เสื้อ ปลอกเข่า ปลอกแขน มีทองคำประกอบ เวลาพายพร้อมกับเป็นจังหวะจะโคน พายนั้นก็เป็นทอง เสียงพายกระทบเป็นเสียงประสานไปกับทำนองเพลงยอพระเกียรติของพระเจ้าแผ่นดิน...”


เรือทุกลำ คนทุกคนต่างเป็นส่วนสำคัญในขบวนเรือพระราชพิธี

       เมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาทำลายเรือจนหมดสิ้น จนในแผ่นดินรัตนโกสินทร์ เมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ได้ทรงสร้างเรือขึ้นมาใหม่อีก 67 ลำ ทั้งเรือพระที่นั่ง เรือกระบวนปิดทอง เรือพิฆาต และเรือแซง ซึ่งเป็นเรือที่สำคัญๆ เป็นที่รู้จักมาจนทุกวันนี้ อีกทั้งในรัชกาลต่อๆ มาก็ยังมีการสร้างเรือเพิ่มขึ้นอีก บางลำได้ตกทอดมาถึงปัจจุบันและยังได้นำมาใช้ในพระราชพิธีต่างๆ เช่น เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชกาลที่ 4 และมาสร้างขึ้นแทนลำเดิมอีกในรัชกาลที่ 6 เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 และ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 6


เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9

       ส่วนในรัชกาลปัจจุบัน ได้มีการสร้างเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 ขึ้นเมื่อปี 2537 ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี 2539 โดยใช้ต้นแบบลำเดิมของเรือพระที่นั่งมงคลสุบรรณที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเดิมโขนเรือเป็นรูปครุฑยุดนาค จนมาถึงสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงมีพระราชดำริให้เพิ่มรูปพระนารายณ์ประทับยืนบนหลังครุฑ แล้วโปรดเกล้าฯ ให้ขนานนามเรือลำใหม่นี้ว่านารายณ์ทรงสุบรรณ


เรือประกอบขบวนลำอื่นๆ

       พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินนั้น เป็นพระราชพิธีที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่ได้สูญหายไปในช่วงต้นรัตนโกสินทร์นานจวบจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ฟื้นฟูประเพณีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคใหญ่ โดยทรงเสด็จทอดผ้าพระกฐินที่วัดอรุณราชวรารามฯ ตั้งแต่ปี 2502 เป็นต้นมา
       
       เหตุที่มีพระราชประสงค์ในการฟื้นฟู ก็ด้วยเสด็จยังโรงเก็บเรือพระราชพิธีที่คลองบางกอกน้อย ทอดพระเนตรเห็นเรืออยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม จึงมีพระราชดำริว่า ถ้ามีการฟื้นฟูการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารคขึ้นคงไม่สิ้นเปลืองอะไรมากนัก เพราะกำลังคนสามารถใช้คนของทหารเรือ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายทำขึ้นครั้งเดียวก็สามารถใช้ได้แรมปี ส่วนประโยชน์ที่ได้รับนั้นมีมากมายหลายประการ เช่น เรือพระราชพิธีต่างๆ อันสวยงามและทรงคุณค่าในทางศิลปะเหล่านี้ จะได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ


เรือประกอบขบวนลำอื่นๆ

       อนึ่งขบวนพยุหยาตราในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 16 ในรัชกาลปัจจุบัน โดยขบวนเรือพระราชพิธีสองครั้งก่อนหน้านี้ก็คือขบวนเรือพระราชพิธี ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2549 และขบวนพยุหยาตราชลมารค ในการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2550
       
       ในครั้งนี้เป็นการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคใหญ่ 5 ริ้ว ใช้เรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง จำนวน 4 ลำ คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือรูปสัตว์ จำนวน 8 ลำ ได้แก่ เรืออสุรวายุภักษ์ เรืออสุรปักษี เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือครุฑเหินเห็จ และเรือครุฑเตร็จไตรจักร เรือดั้ง 22 ลำ


ประชาชนมาเฝ้ารอชมขบวนเรือ ริม 2 ฝั่งน้ำเจ้าพระยา

       นอกจากนี้ยังมีเรืออื่นๆ อีก 18 ลำ รวมความยาวของขบวนเรือจากหัวขบวนถึงท้ายขบวน 1,280 เมตร และความกว้างขบวน 110 เมตร ใช้กำลังพลประจำเรือพระราชพิธี ทั้งสิ้นกว่า 2,200 นาย
       
       ทั้งนี้ใน วันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00-17.00 น. ทางกองทัพเรือได้ทำการซ้อมใหญ่เสมือนจริงการฝึกซ้อมริ้วขบวนเรือพระราชพิธี ท่ามกลางความสนใจของประชาชนจำนวนมาก โดยกองทัพเรือจะทำการซ้อมใหญ่เสมือนจริงอีกครั้งในวันที่ 6 พ.ย. 2555 ในช่วงเวลาเดิม


ทำพิธีก่อนออกพายเรือ

       จากนั้นในวันที่ 9 พ.ย. 2555 ช่วงเวลาประมาณ 15.00-17.00 น. จะเป็นวันงานพระราชพิธี โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราชลมารค โดยริ้วขบวนเรือพระราชพิธีจะเริ่มจากท่าวาสุกรี ไปสิ้นสุดที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งรัฐบาลได้ขอเชิญชวนหน่วยงานราชการ ร้านค้า และประชาชนที่อยู่บริเวณขบวนเรือผ่านทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งโต๊ะหมู่บูชา เครื่องราชสักการะพร้อมประดับธง ภปร. และธงชาติไทย ตามอาคารบ้านเรือนโดยพร้อมเพรียงกัน
       
       สำหรับประชาชนชาวไทยผู้สนใจสามารถร่วมรับชมความงดงามของริ้วขบวนเรือพระราชพิธีอย่างใกล้ชิดที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทั้งในวันซ้อมใหญ่ 6 พ.ย. และในวันพระราชพิธี(วันจริง) 9 พ.ย. ซึ่งนี่นับเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของสยามประเทศอันล้ำค่ายิ่


http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135355

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ซักซ้อม “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคฯ”
-http://mgr.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135245-
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
5 พฤศจิกายน 2555 18:12 น.

คลิป ตามลิงค์
http://mgr.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000135245

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
พระราชพิธีฯ ถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
-http://hilight.kapook.com/view/77960-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3, เฟซบุ๊ก ชมรมคนรักในหลวง

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

หลังจากเลขาธิการพระราชวัง รับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม สั่งว่า นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ได้กราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เลื่อนการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม วันที่ 22 ตุลาคม 2554 ออกไปในพุทธศักราช 2555 เนื่องจากปัญหาอุทกภัยนั้น

ล่าสุด ในเทศกาลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2555 มีรายงานว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ดังรายการต่อไปนี้

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2555 สำนักพระราชวัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ จัดตกแต่งฉนวนน้ำท่าวาสุกรี ท่าวัดอรุณราชวราราม ท่าราชวรดิษฐ์ และบริเวณท้องน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นทางเสด็จพระราชดำเนิน ขบวนพยุหยาตรทางชลมารค และกำลังพลเข้าเตรียมไว้พร้อมทุกตำแหน่งหน้าที่ ทั้งนี้ ขบวนพยุหยาตรทางชลมารค โดยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เทียบสะพานฉนวนท่าวาสุกรี เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เทียบที่ท่าสะพานถัดไป และเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ เป็นเรือพระที่นั่งรอง เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เป็นเรือทรงผ้าพระกฐิน พร้อมด้วยเรือรูปสัตว์แสนยากร ตามราชประเพณี

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายผ้าพระกฐิน และประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ในการนี้

โดยในเวลา 15.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงท่าวาสุกรี ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เสด็จพระราชดำเนินไปยังสะพานฉนวนน้ำท่าวาสุกรี

จากนั้นผู้บัญชาการขบวนพยุหยาตรา เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และกำลังพล เสด็จพระราชดำเนินไปประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้บัญชาการขบวนเรือพยุหยาตรา เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ออกจากท่าวาสุกรี ไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา ขณะนั้นทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี แตร สังข์ มโหระทึก กลองชนะ ประจำเรือพระราชพิธี ประโคมขึ้นพร้อมกัน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เคลื่อนไปตามลำดับราชประเพณี

เมื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ถึงวัดอรุณราชวราราม เทียบเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ที่สะพานท่าหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญผ้าพระกฐินจากบุษบกไปยังพระอุโบสถ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ จะเทียบ ณ สะพานฉนวนน้ำประจำท่าวัดอรุณราชวราราม หน้าพระอุโบสถ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เทียบ ณ สะพานฉนวนน้ำ หน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม

จากนั้น ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เสด็จขึ้นจากเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถ ทรงรับผ้าพระกฐินจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ณ ที่ชุมชนสงฆ์ ตามพิธีกรรมราชประเพณี เมื่อแล้วเสร็จ เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

สำหรับขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคนั้น จะประกอบไปด้วย 5 ริ้วขบวน จำนวน 52 ลำ เป็นเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นเรือรูปสัตว์ 8 ลำ ได้แก่ เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรือครุฑเหินเห็จ เรือครุฑเตร็จไตรจักร เรืออสุรวายุภักษ์ เรืออสุรปักษี เป็นเรือดั้ง 22 ลำ และเรืออื่น ๆ อีก 18 ลำ ใช้กำลังพลและฝีพายจากกองทัพเรือ และกำลังพลในส่วนอื่น ๆ กว่า 2,300 นาย

ขณะเดียวกัน เพื่อให้สมพระเกียรติ ในพระราชพิธีครั้งนี้ ก็ได้มีการแต่งบทประพันธ์กาพย์เห่เรือขึ้นมาใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย ข้าราชการบำนาญ สังกัดกองทัพเรือ เป็นผู้ประพันธ์ "กาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554" ประกอบด้วย 3 บท คือ บทสรรเสริญพระบารมี บทชมเรือขบวน และบทชมเมือง โดยมี นาวาโทณัฐวัฎ อร่ามเกลื้อ เป็นพนักงานเห่

ทั้งนี้ พิธีดังกล่าวจะใช้เส้นทางตั้งแต่บริเวณสะพานพระราม 8 (ท่าวาสุกรี) เคลื่อนขบวนไปยังวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ระหว่างเวลา 15.00 -17.00 น. โดยจะมีการปิดการจราจรทางน้ำ เรือด่วนเจ้าพระยางดเดินเรือตั้งแต่เวลา 09.00-17.30 น. ส่วนเรือข้ามฟาก งดให้บริการเวลา 11.00-17.30 น.

สำหรับประชาชนที่สนใจชมความยิ่งใหญ่ของพระราชพิธีดังกล่าว สามารถเฝ้าชมได้จากทั้งสองฟากฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาใน 5 จุดหลัก ๆ ที่สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย

- สวนหลวงพระราม 8 (เชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี)

- สวนสันติชัยปราการ (ถนนพระอาทิตย์)

- สถานีรถไฟธนบุรี (เดิม)

- สวนนาคราภิรมย์ (ท่าเตียน)

- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)

อย่างไรก็ดี ล่าสุดมีรายงานว่า ขณะนี้ทางกองทัพเรือ ได้มีการเปิดหอประชุมกองทัพเรือให้ประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จ และชื่นชมความงดงามของขบวนเรือได้ที่ลานทัศนาภิรมย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ด้วย แต่ขอความร่วมมือให้ประชาชนแต่งกายสุภาพ




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

-http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=153121:-9&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524-

-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1352428734&grpid=03&catid=&subcatid=-


.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
พระราชพิธีฯ ถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
-http://hilight.kapook.com/view/77960-



















พระราชพิธีฯ ถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
-http://hilight.kapook.com/view/77960-























พระราชพิธีฯ ถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
-http://hilight.kapook.com/view/77960-





























.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สมเด็จพระบรมฯ เสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค พสกนิกรรอเฝ้าฯแน่น 2 ฝั่งเจ้าพระยา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
9 พฤศจิกายน 2555 17:11 น.

-http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000137222-

ในหลวงโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการ "พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน" โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม













 วันนี้ (9.พ.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
       
       ในเวลา 15.09 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากวังศุโขทัย ถึงยังท่าวาสุกรี เมื่อรถยนต์พระที่นั่งเทียบ กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
       
       จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังสะพานฉนวนประจำท่าเทียบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ มี พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการขบวนเรือพยุหยาตรา กราบบังคมทูลรายงานจำนวนเรือ และกำลังพล
       
       ต่อจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินไปประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ส่งเสด็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จไปทอดพระเนตรขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ ที่รับรองท่าเทียบเรือวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
       
       สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ออกจากท่าวาสุกรีไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา ขณะนั้นทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี แตร สังข์ มโหระทึก กลองชนะประจำเรือพระราชพิธีประโคมขึ้นพร้อมกัน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนไปตามลำดับราชประเพณี เมื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชถึงวัดอรุณราชวราราม เทียบเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชที่สะพานท่าหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญผ้าพระกฐินจากบุษบกไปยังพระอุโบสถ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เทียบ ณ สะพานฉนวนน้ำประจำท่าวัดอรุณราชวราราม หน้าพระอุโบสถ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เทียบ ณ สะพานฉนวนน้ำ หน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เสด็จขึ้นจากเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถทรงรับผ้าพระกฐินจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ณ ที่ชุมนุมสงฆ์ ตามพิธีกรรมราชประเพณี เสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
       
       โดยขบวนเรือพระราชพิธี เริ่มเคลื่อนตัวจากบริเวณท่าวาสุกรี เวลาประมาณ 15.19 น.มีพสกนิกรรอเฝ้าชื่นชมแน่น 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา











































คลิป ติดตามในกระทู้ สมเด็จพระบรมฯ เสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค พสกนิกรรอเฝ้าฯแน่น 2 ฝั่งเจ้าพระยา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000137222

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)