มุมกาแฟ คิดแบบ"เซ็น" 4/1/18
ความว่าง ในแนวปรัชญาธรรมะ มีสอง คือ
1.ว่างจากการปรุงแต่ง
ความคิด อารมณ์อย่างขาดสติปัญญากำกับ
ทำให้ชีวิตสงบร่มเย็น
ไม่เป็นทาสอารมณ์ทุกข์ไล่ สุขมาล่อให้วิ่ง
2.ว่างแบบอันธพาล
คือยึดติดในลัทธิวัตถุนิยมโบราญ
คือ มีมีบาป มีบุญทำ กรรมแต่ง
ทุกสิ่งเป็นเรื่องบังเอิญ
เป็นแค่ปฏิกริยาของธาตุ
อำนาจคือของจริง
ว่างแบบนี้ถ้าผิดกฎหมาย
ก็มี ห้องกง รออยู่ ....
หรือใช้ชีวิต เป็น กระสือ กระหัง ไปจนตาย
55555+
ขอบคุณเจ้าของภาพ
และธรรมสนาทนา กับ หลวงพ่ออ.พุทธทาสภิกขุ
..
..
มุมกาแฟ วันใหม่ 4/1/18
ชีวิตมนุษย์เป็น"สังขารธรรม"
คือขบวนการปรุงแต่งของธรรมชาติ
แต่มนุษย์พิเศษ คือ บางเรื่อง
สามารถ เลือก กฎ เหตุ ปัจจัย ที่ให้คุณ มาปรุงแต่งชีวิต
เว้นสิ่งให้โทษ
และ ฝึกฝน ยับยั้งชั่งใจ
เคารพกฎ กติกา มารยาท ของสังคมที่เราอยู่ร่วม
เพราะ ไม่มีชีวิตไหน อยู่ได้ด้วย
โดย ไม่ มีปฏิสัมพันธ์ กับ ธรรมชาติอื่นๆ
การเคารพ ความแตกต่างระหว่างบุคคล
จึงเป็นมารยาทสากล ที่วิญญูชนเห็นว่าดี
ยกเว้นพาลชน
ขอบคุณเจ้าของภาพ และผู้จุดประกาย ผู้อ่าน
..
..
มุมกาแฟเช้า 3......4/1/18
กรรม กฎแห่งกรรม
คือ ชีวิตเป็นไปตามเจตนาสี่
1.เจตนาจากการเลี้ยงดูจาก บุพการี
2.เจตนาของกรรมพันธุ์
3.เจตนาของสิ่งแวดล้อม
4.เจตนาจากความคิด
และสร้างตัวตนเทียมในตนเอง.....
เจตนาที่สี่สำคัญ
เพราะ เจตนาทั้งสามอาจไม่ส่งเสรีมให้ดี
แต่เจตนาที่เราคิด ตัดสินใจ
ให้เราเลือกวิถีชีวิตเราได้ ตามอัตภาพ
เพราะเราไม่ใช่ผู้สร้างกฎ และธรรมชาติ
แต่เราเลือกบทที่เราเล่นได้
โดย เคารพการมีอยู่อยู่ของชีวิตอื่น
ที่เราต้องอยู่ร่วม อยู่รอดด้วย
ขอบคุณเจ้าของภาพ ข้อธรรมที่ถอดระหัส ผู้อ่าน
สาธุ
..
..
มุมกาแฟ เช้าต่อ.....4/1/18
ความคิด
เป็นจุดเริ่มต้นของการ สร้างบุคลิกภาพ
เพื่อปรับตัว เข้ากับสิ่งแวดล้อม
แต่เหนือ ความคิด คือ
สติปัญญา ที่
"เห็น"
กฎ เหตุปัจจัยที่มาปรุงแต่ง
ว่า ถ้าปรุงอย่างนี้ เกิด อารมณ์ทุกข์ สุข สงบ เย็น...
"เว้น"
ไม่ทำในสิ่งที่ให้ทุกข์ โทษแก่ ตน ท่าน สาธุ
"เจริญ"
เจริญในสิ่งที่ควรเจริญ คือ กุศลด้วย วาจา ใจ
"วาง"
วางในสิ่งที่ควรวาง
คือ วางอุปาทาน ที่ยึดติด ทำให้เกิดทุกข์โทษ
"ว่าง"
ว่างจากการปรุงแต่ง แบบหดหู่ ฟังซ่าน และอกุศล
"เย็น"
ไม่เป็นทาส ทุกข์ สุข
แต่ สงบ ร่มเย็น เบิกบาน มั่นคงในทางสว่าง
..
..
มุมกาแฟ เช้า 2.....4/1/18
สมองคน เป็นศูนย์บัญชาการ ชีวิต
ที่มีการวิวัฒนาการ มีตั้งแต่
1.ส่วนที่เป็นปฏิกริยา
รักษาสมดุลย์ชีวิต
ที่อยู่ที่ไขสันหลัง
2.สมองแบบปลา ที่มีสติ ตื่น
รับมือกับภัย อาหารภายนอก
3.สมองเป็นชีวิตเลื้อยคลาน
ที่ต้องการจุดยืน พื้นที่ แย่งชิง อำนาจ
4.สมองชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนม
จะมีความผูกพัน แบบครอบครัว
5.สมองแบบลิง ทั้งมีหางไม่มีหาง
คือ ความสามารถแยกแยะ
เรียนรู้ปรับตัว และจัดลำดับในสังคม
6.สมองใหม่ในมนุษย์
ที่มีความสามารถ คิดค้น
สร้างสรร สร้างนวัตกรรม
และเรียนรู้ เข้าใจ มีมโนสำนึก
//- เราใช้สมองส่วนไหนมาก
ก็จะทำให้สมองส่วนนั้นแข็งแรง
และมีอำนาจเหนือส่วนอื่น
บุคลิกภาพ ก็แปรไปตามนั้น
จึงมี
1.มนุษย์แบบอบายภูมิ
-เปรต เป็นทาส ความโลภ อิจฉา บ้าอำนาจฉลาดโกง
-เดียรัจฉาน เอาอารมณ์สัญชาติญาณดิบ นำทางชีวิต
-อสุรกาย ขลาด กลัว ชอบทำร้ายผู้อ่อนแอกว่า
-สัตว์นรก เป็นทาง ความหดหู่ ฟุ้งซ่าน ร้อน ทุกข์ โศก
ย้ำคิด ย้ำทำย้ำแค้น
2.มนุษย์ที่ดีจนไหว้ตนเองได้
หรรษา ภาคภูมิใจ สมใจ สะใจ เย็นใจ
ในสิ่งที่ วาจา ใจกาย ตนทำสิ่งดีๆ
ต่อตน ครอบครัว สังคม สิ่งแวดล้อม
3.มนุษย์ที่เป็นอิสระ จาก อุปาทาน
เลิกเอาตนเอง ปรัชญาที่ตนชอบเชื่อ วิถีชีวิตตตนเอง
ของรักของชอบ มาเป็นนายตนเอง
ให้ สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด ปรีชาญาณฉลาดเลือกที่ตื่น
มาปรุงแต่งชีวิต ให้ สงบ เย็น อยู่กับ
ความจริง ดี งาม สุข สงบ แบบวิญญูชนสากล
สาธุ
ขอบคุณเจ้าของภาพ และความรู้ที่เก็บมาฝาก ผู้อ่าน
..
..
https://www.dailymotion.com/video/xvi14xในมิติแห่งชีวิต มนุษย์คือ
มนุษย์สนใจอภิปรัชญา
คือปัญญา ที่มาจากเหตุผล และจินตนาการ
ที่ดิ่งความคิดไปที่ อดีต อนาคต และ ชีวิต
แต่มักละเลย....ทาสอารมณ์ทุกข์ในปัจจุบัน
อันเกิดจากจิตปรุงแต่งของเรา
ปรุงแต่ง ความคิด อารมณ์บุคลิกภาพชั่วคราว
และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง สรีระกาย กายสังขาร
แต่เราขาด สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด
ปรีชาญาณรู้แจ้ง.....สังเกตุ
เห็นเหตุปัจจัยปรุงแต่ง
แลก และคัดสิ่งที่ ปลอดทุกข์ เย็น มีจิตเอื้อเฟื้อ
มาปกครองชีวิตตนเอง
ใครฝึกปลุก ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่นมาล้างขยะปรุงแต่งจิต
ทั้งติดชั่วติดดีชีวิตก็อิสระจาก
อารมณ์ ทุกข์ สุข ความสมใจ สะใจ
จะได้ โบนัสคือ ปัญญารู้แจ้ง...
จะตื่น รู้ เบิกบาน และเย็น ยั่งยืน
พ้นจากความร้อนจากไฟ ในใจ
-ไฟราคะ
-ไฟโทสะ
-ไฟโมหะ
-ไฟทิฐิ
-ไฟมานะ
-ไฟ อภิสังขาร การคิดปรุงแต่ง แบบหดหู่ ฟุ่งซ่าน
เพราะขาด สติ ปัญญา ปรีชาญาณฉลาดเลือกกำกับ
.............................................
มนุษย์ต้องมีความรู้สี่
1.รู้แบบ วิชาการ
อันได้แก่ ความรู้รอบตัว และเจาะลึก
2.รู้แบบวิชชา
รู้ เกิดจาก สติ ปัญญา ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
"รู้ทันจิตปรุงแต่งตนเอง"
และวางอุปทาน ลง พบเสรีภาพชีวาในชีวิตด้วยตนเอง
3.สติรู้ตัว
รู้จุดยืน หน้าที่ ที่ดีต่อตน สังคม สิ่งแวดล้อม
และเคารพกฎ กติกา มารยาท ธรรมชาติ ผู้สร้างจักรวาล
4.ปัญญารู้คิด
ทำหน้าที่ ที่ให้โชคดี หรือเป็นมงคลชีวิต
ไม่ประมาท ใน กรรม เวลา มัจจุราช
และภัยจาก มนุษย์ สิ่งแวดล้อม สาธุ
.......................................
..........................................
ขอบคุณผู้เป็นเจ้าของคลิป และผู้ชม
..
..
เทคนิคฝึกสมอง วัยเกษียร
เผยแพร่เมื่อ 6 ม.ค. 2018
เทคนิคเหล่านี้อนาคตจะเป็น Mega Trend ของ ประเทศไทยและทุกๆประเทศ
เพราะในปัจจุบัน คนสูงวัยอายุยืนขึ้น ถ้าเป็นนายญี่ปุ่นอายุขัยของผู้สูงอายุเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 80-85 ปี
ทำให้ประเทศที่มีผู้สูงอายุมากขึ้นเริ่มมาสนับสนุนกิจกรรมของผู้สูงอายุเพื่อทำให้ผู้สูงอายุแข็งแรงขึ้นและมีสมองที่สดชื่นแจ่มใสแล้วก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นเป็นภาระกับสังคมน้อยลง
ผมอยากจะแบ่งปันเทคนิคที่เป็นสากลและน่าจะช่วยให้สามารถฝึกสมองให้กับผู้สูงอายุได้
สำหรับคนที่ทำงานมานานๆสมองเริ่มล้าความจำไม่ดีก็สามารถนำไปใช้ได้นะครับ
1. บวกเลขราคาสินค้าเอง
2. สมุดวาดภาพระบายสี ( Trend ของญี่ปุ่น )
3. อ่านหนังสือที่เราไม่เคยรู้หรืออยากรู้
4. อาหารโปรตีนสูง และออกกำลังกายเป็นประจำ
.........................................
55555+
อีกไม่กี่วัน ก็จะเข้าสู่ยุค70 >>>>>55555+
ตั้งแต่เกิดมา ร่างกาย ยังไม่มีอายุมากขนาดนี้มาก่อน
"ความฉลาด เริ่มต้น จาก เอาอดีต มาถอดบทเรียน"
วันนี้จึงเอาอดีตของตน และเพื่อนๆ ที่รู้จัก และจากไป
และมาหาทฤษฎีที่เหมาะสม มาจะระเบียบพฤติกรรมใหม่
มาถอดบทเรียนว่า วัยยุค70 มักจะเจออะไรบ้าง
1.ความเครียดสะสม
อาการนี้ กำลังเป็นกันเยอะ
ยุคทำมาหากินแบบยังชีพ ไม่ค่อยมีปัญหา
แต่ใคร อยู่เพื่อ แข่งขัน แย่งมูลค่าส่วนเกิน
และกำไรชีวิตแบบ บริโภคนิยม
"ความไม่ได้ดั่งใจ"
จะเป็น ตัวสร้างความเครียดสะสม
มักที่จบด้วยการ สุขภาพ กาย จิตเสื่อมและมะเร็ง
2.ขาดสารอาหาร ถาวร
บางคนกลัวได้บุญน้อย เลยหันไปทาน เจ มังสะวิรัส
โดยขาดความรู้โภชนาการ เลยขาดสารอาหารถาวร
โรคภัยรุมเร้า ร่างกายคน ประกอบด้วยโปรตีน50%
โปรตีนก็มีกรดอมีโนตั้ง22ชนิด
ที่กระจายในอาหารหลายอย่าง
และมี9ชนิดที่จำเป็น ขาดไม่ได้
เอาบุญแต่เบียดเบียนร่างกายตนเอง อาจไม่ได้กุศล
"คืออิ่มใจในการทำดี แต่ ไม่ฉลาดเพิ่ม"
3.ทรัพย์จาง
แม่สอนมาตั้งแต่เด็กๆ
เป็นเห็ดต้องมีขอน เป็นคนต้องมีหลัก
ก่อนจะเข้าสู่วัยสว.ต้องตรวจตรา หลักชีวิต
-หลักแหล่ง
-หลักฐาน
-หลักทรัพย์
-หลักรู้
-หลักคิด
-หลักปฏิบัติ
นึกถึงวลีขำๆ
"เสียดาย ตายแล้ว ยังใช้เงินไม่หมด
ยิ่งน่าสลด เงินหมดแล้วยังไม่ตาย"
4.ลงทุนผิดประเภท
บางคนไปลงทุนทำฟาร์มเลี้ยง หนูท้องขาวปากแดง
ไปเสี่ยงเอาเองเด้อ 55555+
5.อุบัติเหตุ ในบ้าน
สว. เสียชีวิตสูงสุด ในห้องน้ำ
เดินก็ต้องก้าวสั้น ย่อเข่า โก่งขานิด ไม่เท่ห์ แต่ ดีแน่นอน
6.ใช้สมอง
บางคน อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ประทับใจ
มองโลกด้วย อภิชฌา และโทมนัส
"มองโลกด้วยความอิจฉา น้อยเนื้อต่ำใจ"
ไม่คิดว่า ธรรมชาติ มี
กฎ ระบบ หน้าที่ ความดี ความงามความสุข
ซ่อนในทุกสรรพสิ่ง กลับมามองภายในจิตตนบ้าง
ล้างขยะปรุงแต่ง ความรู้ไร้สารลง วาง ว่างบ้าง
และหาความรู้ใหม่ ใส่เข้าไป
................................
ทุกวันนี้ยังเชื่อ สามสิ่ง ดีต่อชีวิต
1.ไม่เบื่อการหายใจ
2.ถนอมน้ำใจมิตร
3.สนุกกับการเรียนรู้ จากความรู้ใหม่
................................
ขอบคุณคลิป ภาพ และผู้อ่านครับ
https://youtu.be/mwz0VTp8G4w..
..
Astral body
.....................
กาย ในกาย
จิต ในจิต
ธรรม ในธรรม
......................
สังขารโลก
"ตถาคต ขอบัญญัติว่า
ร่างกาย กว้างศอก ยาววา
มีสัญญา ใจครอง
คือโลกโลกหนึ่ง"
...................................
กายมนุษย์ มีสามกาย
(บางท่านบอกว่า ยังมีกายทิพย์)
1.สรีระกาย
เป็นขันธุ์ห้า หรือ ชีวะยนต์
เป็นเครื่องยนต์มีชีวิต เป็น คอมพิวเตอร์ชีวภาพ อัศจรรย์
2.กายสังขาร
คือ สติกับลมหายใจ
ที่จะเปลี่ยนแปลง ตามการทำงานของ
สรีระกาย และ การเปลี่ยน บุคลิกภาพภายใน(กรัชกาย)
บางครั้งก็หายใจสั้น ลึก ยาว ตามอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง
3.กรัชกาย
เป็นบุคลิกภาพภายใน
ที่ปรุงแต่ง จาก ความคิด อารมณ์ ความทรงจำ ความอยาก
เป็นหลัก
บางครั้งก็เป็นบุคลิก ต่ำกว่ามาตราฐานมนุษย์
หรือ อบายภูมิสี่
บางครั้งก็เป็นมนุษย์ คนดี ที่ไหว้ตนเองได้
บางครั้งก็มีสุข หรรษา ภาคภูมิใจ สมใจ สะใจ แบบเทวดา
บางครั้งก็ สุขกับ สงบ สันโดษ สมถะเมตตา แบบพรหม
บางครั้ง ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น อยู่เหนือจิตปรุงแต่ง
พบทางสว่าง ในตนเอง
.....................................
กายสรีระ กับกรัชกาย มี กายสังขาร เป็นตัวเชื่อม
การจะพบประจักษ์ด้วยตนเองว่า
การเปลี่ยนแปลง ภายใน(กรัชกาย) มีผลกระทบต่อ สรีระกายอย่างไร
ต้องฝึก สังเกตุ การหายใจตนเอง ประจำ
.........................
เล่าให้ทราบ ไม่ได้บอกให้เชื่อ
ใคร คิดแบบ
"เรื่องความชั่วนี้ ผมไม่ทันใครจริงๆ เพราะผมเป็นคนชั่วช้า"
และคิดว่า คิดอยู่คนเดียว ใครไม่รู้
แต่เมนเฟรมใหญ่จักรวาล รู้
และอาจ บิดลำไส้ ทำลายสุขภาพกายด้วยนะ
55555+
"""""""""""""""""""""""""""""""""""
ขอบคุณเจ้าของภาพ ระหัสธรรม ที่ถอดออกมา
และผู้อ่าน สมหวังในสิ่งประเสริฐนะครับ สาธุ
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=oSscJksXeNUผู้นำจีน สีจิ้นผิง เสนอวิสัยทัศน์ว่า
โลกจะใช้หลักสี่ทันสมัย ขับเคลื่อนโลก ไปอีก100ปี
1.สังคม ที่แก้ปัญหาด้วยนวัตกรรม
ดังนั้น เราต้องยอมรับชะตากรรม
ว่า"ความรู้ที่ว่าแน่ๆของเรา มันจะกลายเป็นของเก็บในโกดัง ความทรงจำ"
2.สังคมซื่อตรง
ดีต่อตน สังคม สิ่งแวดล้อม และเป็น วิญญูชนสากล
3.สังคมเครดิตออนไลน์
ที่จะมาคานอำนาจ การบริหารจัดการเงินโลก ของมหาอำนาจ
4.สังคมเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพชีวิตประชาชน
ด้วยสินค้า บริการ สถานที่ ที่เป็นมิตร กับมนุษยืและสิ่งแวดล้อม
เริ่มจาก ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ผ่าน การสื่อสารออนไลน์
.........................................
ถ้าไม่อยาก แก่เพราะกินข้าว
เฒ่าเพราะอยู่นาน
เป็นที่รำคาญ ของคนรอบข้าง
ในฐานะแก่แบบกะลาผุๆ
ย้ำคิด ย้ำทำ ย้ำแค้น พ่นไฟออกจากปาก
ตื่นมายกเครื่อง ตนเอง
เป็นแก่ลายครามนะครับ
คนที่ยังไม่แก่ ก็อย่าประมาท
มีวลีขำๆ
"พี่ๆ ทำไมแก่จัง"
"อ๋อ ตอนพี่อายุเท่าน้อง
โชคดี ไม่ล้มทับบาทาใครตายเสียก่อน"
55555+
"""""""""""""""""""""""""""""""""""
มาสร้างสรร นวัตกรรม
ทำตัวเป็นคนซื่อตรง
มีเครดิต ออนไลน์บ้าง
และเพิ่มประสิทธิ์ภาพ คุณภาพชีวิตตนเอง
ด้วยการ ปลุกปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
ล้างขยะปรุงแต่ง ความรู้เทียมๆทิ้ง
มีวิสัยทัศน์ ที่เห็น กฎ กติกา มารยาท ธรรมชาติ และสาธุ
และชื่นชม ตนเองว่า ทำดีมากกว่าชั่ว สาธุ
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=Y5Xz1vw-zoU....................................................
พลังงาน กฎ เวลา อวากาศ....และชีวิตเราเอง
ทุกสิ่ง เรามีมุมมองต่างกัน
อยู่ที่เรา ใช้สมองใหญ่ซีกไหนมากกว่ากัน
บางคนใช่สมองเหตุผล(แบบเข้าข้างตนเอง)
เลยไม่มีน้ำใจ แบ่งปันให้ใครๆ
ไม่สนใจ ความรู้สึกเจ็บปวด ของชีวิตอื่น
ไม่เชื่อเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม
และเห็นว่า การที่ผู้อื่นมีน้ำใจให้ตนนั้น
เพราะคนนั้น"โง่" เอง
ไม่ได้ว่าใครนะครับ เพียงแต่ ให้มองต่างมุม
.....................................................
เรามองเวลา แบบลูกศร ที่แล่นผ่านอากาศ
มีอดีต ปัจจุบัน อนาคต
แต่ ทฤษฎีสัมพันธภาพ ของไอสไตน์
เวลา เหมือน สายน้ำ
ที่เราอาจ ทวนน้ำ ตามน้ำ หรือ ไปวนในวังวนน้ำ สักแห่ง
เวลา ของวัตถุที่เคลื่อนไหว ยิ่งเร็วจะยิ่งช้า
..................................................
ขอบคุณเจ้าของคลิป ภาพ และผู้อ่าน
..
..
Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง
Suraphol KruasuwanOWNER