Zootopia : โลกนี้มิใช่ยูโทเปียDirector: Byron Howard, Rich Moore, Jared Bush
Region: USA
Genre: Animation / Action / Adventure
Zootopia เป็นแอนิเมชันเรื่องล่าสุดจากดิสนีย์ ค่ายที่ผู้ใหญ่หลายคนให้คำจำกัดความว่าโลกสวย (เมื่อเทียบกับแอนิเมชันฝั่งตะวันออกบางค่าย) แต่สำหรับเรา Zootopia ถือว่าเป็นการ์ตูนดิสนีย์ที่สนุกเรื่องหนึ่ง มันกล้าขยับมาพูดเรื่องที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่ขึ้น อย่างความขัดแย้งของคนที่อยู่ร่วมสังคมซึ่งเป็นปัญหาสากลโลก
ในโลกสมมติของหนัง มนุษย์ไม่เคยเกิดขึ้น สัตว์ทุกตัวได้วิวัฒนาการตัวเองจนใช้ชีวิตอย่างมีอารยะ (เยี่ยงมนุษย์) เป็นมิตรต่อกัน หมดยุคสัตว์ผู้ล่าทำร้ายสัตว์ที่เป็นเหยื่อ สัตว์แต่ละประเภทจะอยู่ในเมืองของตัวเอง แต่ซูโทเปียซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวง คืออาณาจักรที่สัตว์ทั้งหลายมาอยู่ร่วมกัน ทำธุรกิจ คบค้าสมาคม ฯลฯ มีสโลแกนสวยๆ ว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรมาก่อน คุณก็จะเป็นทุกสิ่งที่อยากเป็นได้ในซูโทเปีย
เนื้อเรื่องโดยย่อคือกระต่ายน้อยตัวหนึ่งชื่อ จูดี้ ฮอปส์ ตามฝันเข้ามาทำงานเป็นตำรวจในซูโทเปียและพบว่าที่นี่ไม่ได้สวยงามอย่างที่เธอคิด ก่อนจะจับพลัดจับผลูไปรู้จักจิ้งจอก 18 มงกุฎชื่อ นิค ไวลด์ แล้วทั้งคู่ก็เข้าไปพัวพันในคดีสัตว์หายของเมืองจนเกิดเป็นการผจญภัย
ระหว่างเรื่องดำเนินไปอย่างน่าตื่นเต้น เราสัมผัสได้ว่าสัตว์ในเรื่องคือตัวแทนมนุษย์ดีๆ นี่เอง การใช้ตัวละครทุกตัวเป็นสัตว์จึงเป็นสัญลักษณ์แสบๆ คันๆ เล็กน้อย ในซูโทเปียที่จั่วหัวว่าเปิดกว้างสำหรับทุกคนและมีคนหลากหลายอยู่ด้วยกัน (คุ้นๆ เหมือนเมืองใหญ่แถวๆ อเมริกาไหม) ตัวละครยังเจอการดูถูกและกดขี่ผ่านแนวคิด Stereotype ที่ฝังหัว เช่น คนเชื่อว่าเกิดเป็นจิ้งจอกต้องขี้โกง เกิดเป็นกระต่ายต้องอ่อนแอ เก่งแค่ทำลูก และสมควรเป็นแค่ชาวสวน
ลองนึกเปรียบเทียบง่ายๆ ถึงมหานครใหญ่ที่มีผู้คนหลากเชื้อชาติ (หรือที่ใดก็ตาม) ปฏิเสธได้หรือว่าเราอยู่ร่วมกันโดยไม่มีใครเผลอตัดสินใครก่อนเพราะคำจำกัดความที่ถูก ‘เล่าซ้ำ’ ต่อๆ กันมา ไม่ว่าจะผ่านข่าวสาร ผ่านปากของผู้คน ยังไม่นับเรื่องการนำแนวคิดเหล่านี้มาใช้ทำร้ายกลุ่มคนที่เราไม่ชอบด้วยวิธีการต่างๆ เช่นปลุกปั่นด้วยความกลัว และแม้เราจะเป็นมนุษย์ แต่เรากำลังมองตัวเองเป็นผู้ล่า และมองใครเป็นเหยื่ออยู่หรือไม่?
หนังย่อย ‘สาร’ ที่เป็นเรื่องใหญ่และพูดยากออกมาได้ค่อนข้างสวยงาม เพราะมันยังทำหน้าที่เป็นการ์ตูนสำหรับเด็กที่ดี ในแง่ความน่ารัก ความบันเทิง เดาตอนจบไม่ยากว่าโลกดิสนีย์ไม่โหดร้ายเท่าโลกจริง แต่สำหรับผู้ใหญ่ quote ในหนังหลายอันคงสะกิดใจได้ไม่ยาก ยังไม่นับรายละเอียดล้อเลียนโลกมนุษย์ และประเด็นเรื่อง ‘ความเป็นสัตว์’ ที่ชวนเก็บมาคิดมากๆ
โลกนี้ไม่ใช่โลกยูโทเปีย ชีวิตไม่ควรดำเนินไปโดยคาดหวังว่าทุกคนจะดีกับเรา แต่เราแค่หวังว่าจะได้เจอจิ้งจอกสักตัวที่เป็นเพื่อนกับกระต่ายอย่างเราได้, เท่านั้นก็คงพอ
ป.ล. รายละเอียดขนนุ่มสลวยน่ากอดของสัตว์ทุกตัวควรได้รับรางวัล / เพลงธีมหลักของเรื่องได้ Shakira มาร้องให้ ในเรื่องเธอเป็นละมั่งหุ่นเซ็กซี่ / มุขตลกแพรวพราว ที่สำคัญคือมุขตัวสล็อตมันดีงามมากอ้ะ!
<![CDATA[<a href="https://www.youtube.com/v/RXePpaSOTiE" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/RXePpaSOTiE</a>]]> จาก
http://www.adaymagazine.com/recommends/movie-ep2
