.
.
.
เรื่องในโลกเสมือนจริง หรือ โลกอินเตอร์เน็ต
มีหลายเรื่องที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง
เพื่อหาผลประโยชน์ให้กับพวกของตัวเอง
มีบางประเทศที่มีเจตนาในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
มีกลุ่มคนในประเทศบางกลุ่มที่มีเจตนาในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
เพราะ เมื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ได้แล้ว
กลุ่มคนเหล่านี้จะเข้าไปปล้นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้อย่างสะดวก
.
.
ส่วนตัว ผมและหมู่คณะ เคยไปกราบพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ผมเคยบอกกับท่านว่า เมื่อก่อนนี้ ผมเกลียดพระเจ้าเอกทัศน์มาก
เพราะ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กรุงศรีอยุธยาเสียทีกับพม่า
และ ในครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ความรู้สึกของผมในขณะที่ขับรถไปนั้น คือ มีความรู้สึกว่า กำลังกลับบ้าน
แต่ปัจจุบันนี้ (ในปีที่ผมไปกราบและสนทนากับท่าน คือ ปี 2564)
ผมมีความเกลียดพระเจ้าเอกทัศน์น้อยลง
เนื่องจาก หากไม่มีพระเจ้าเอกทัศน์ ก็คงไม่น่าจะมี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ที่ได้กอบกู้แผ่นดินจากพม่า และ รวบรวมแผ่นดินไทยให้ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์ชาติไทย
พระภิกษุสงฆ์รูปนี้ ท่านบอกกับผมว่า คนเราในเรื่องส่วนตัว มีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดีของตนเอง
หากในส่วนที่ดีมีมาก ก็ให้มองข้ามในส่วนที่ไม่ดีไปบ้าง
และ หากมีการกระทำที่ดีต่อแผ่นดิน เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องที่ต้องเชิดชูบุคคลที่กระทำความดีต่อแผ่นดิน
อย่าไป #เนรคุณ
.
.
เพราะฉะนั้น ................................
ให้ระมัดระวังความคิดและการกระทำของตนเอง
ไม่ว่าทั้ง กาย , วาจา และ ใจ
#อย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนเหล่านั้น
#คิด #วิเคราะห์ #แยกแยะ
#คิดวิเคราะห์แยกแยะ
#อย่าตกเป็นเหยื่อ
.
.
.*****************************.
.
.
พระราชประวัติ ในหลวงรัชกาลที่ 10 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่ 3 ของไทย และเมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดประชุมร่วมกันในวาระพิเศษเรื่อง การมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ และมีมติแจ้งไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้อัญเชิญองค์พระรัชทายาท (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) ขึ้นครองราชสมบัติ สืบเป็นรัชกาลที่ 10
พระราชประวัติ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระนามเมื่อแรกประสูติว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรงสุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร” เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17:45 น.
ซึ่งพระนาม “วชิราลงกรณ” นั้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ทรงตั้งถวาย มาจาก “วชิรญาณ” พระนามฉายาขณะผนวชในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ผนวกกับ �”อลงกรณ์”� จากพระนามในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
พี่น้อง
มีพระเชษฐภคินี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระขนิษฐภคินี 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ระดับอนุบาล รร.จิตรลดา
ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นในระดับอนุบาล รุ่นที่ 2 จากโรงเรียนจิตรลดา แล้วจึงเสด็จฯ ไปทรงศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนคิงส์มีด แคว้นซัสเซกส์ และศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลฟิลด์ แคว้นซอมเมอร์เซทประเทศอังกฤษ หลังจากนั้น ทรงศึกษาต่อวิชาทหารที่โรงเรียนคิงส์สกูล ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เสร็จแล้ว ทรงการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีสาขาอักษรศาสตร์ (ด้านการทหาร) จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ พ.ศ. 2519
โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 46
นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 46 เมื่อปี พ.ศ. 2520 ทรงเข้าศึกษาในสาขาวิชานิติศาสตร์ รุ่นที่ 2 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ พ.ศ.2525 ทรงสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) และปี พ.ศ. 2533 ทรงได้รับการศึกษา ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรแห่งสหราชอาณาจักร
พระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย
สมเด็จพระยุพราช
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ให้ดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร� ตามโบราณขัตติยราชประเพณี เพื่อรับราชสมบัติปกครองราชอาณาจักรสืบสนองพระองค์ โดยมีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สิริกิติยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศยุพราชวิสุทธ สยามมกุฎราชกุมาร
พระโอรส-พระธิดา
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
หม่อมเจ้าจุฑาวัชร มหิดล หรือ จุฑาวัชร วิวัชรวงศ์
หม่อมเจ้าวัชรเรศร มหิดล หรือ วัชรเรศร วิวัชรวงศ์
หม่อมเจ้าจักรีวัชร มหิดล หรือ จักรีวัชร วิวัชรวงศ์
หม่อมเจ้าวัชรวีร์ มหิดล หรือ วัชรวีร์ วิวัชรวงศ์
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
พระราชกรณียกิจ
1. ด้านการบิน
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทรงปฏิบัติหน้าที่ครูการบินเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-5 อี/เอฟ และพ.ศ. 2552 ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ 1 เครื่องบินโบอิ้ง 737 – 400 ในเที่ยวบินสายใยรักแห่งครอบครัว ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์ สำหรับโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (เที่ยวบินที่ ทีจี 8870 กรุงเทพมหานครถึงจังหวัดเชียงใหม่ และเที่ยวบินที่ ทีจี 8871 จังหวัดเชียงใหม่ถึงกรุงเทพมหานคร)
2. ด้านการทหาร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมที่ตั้งกองทหารหน่วยต่างๆ อยู่เสมอ จากการที่ได้ทรงศึกษาด้านวิชาทหารมานาน ทรงมีความรู้เชี่ยวชาญอย่างมาก และได้พระราชทานความรู้เหล่านั้นให้แก่ทหาร 3 เหล่าทัพ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างแก่นายทหาร เอาพระทัยใส่ในความเป็นอยู่ทุกข์สุขของทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างทั่วถึง รวมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนการศึกษาแก่บุตรของทหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเทิดทูนและความจงรักภักดีแก่เหล่าทหารเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งในปัจจุบันทรงดำรงพระยศทางทหารของ 3 เหล่าทัพ ได้แก่ พลเอก พลเรือเอก และพลอากาศเอก ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการทหาร และทรงเข้าร่วมปฏิบัติการรบในการต่อต้านการก่อการร้ายในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย รวมทั้งการคุ้มกันพื้นที่ในบริเวณรอบค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชา ที่เขาล้าน จังหวัดตราด อีกด้วย
3. ด้านการศึกษา
พระองค์พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้อาคารของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอนุบาลชื่อว่า โรงเรียนอนุบาลทหารมหาดเล็กราชวัลลภ โดยในระยะแรกได้จัดการเรียนการสอนเฉพาะชั้นอนุบาล ต่อมาโรงเรียนได้ย้ายไปที่จังหวัดนนทบุรี และได้รับพระราชทานชื่อใหม่ว่า “โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์”
นอกจากนี้ ยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลคมนาคมไม่สะดวก กระทรวงศึกษาธิการได้สนองพระราชประสงค์ด้วยการน้อมเกล้าฯ ถวายโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาจำนวน 6 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ ได้แก่
โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา อ.ปลาปาก จ.นครพนม (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 1)
โรงเรียนมัธยมจุฑาวัชร อ.ลานกระลือ จ.กำแพงเพชร (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2)
โรงเรียนมัธยมวัชเรศร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3)
โรงเรียนมัธยมจักรีวัชร อ.รัตนภูมิ จ.สงขลา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 2)
โรงเรียนมัธยมวัชรวีร์ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 3)
โรงเรียนมัธยมบุษย์น้ำเพชร อ.เมือง จ.อุดรธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 1)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยาวชนในตำบลต่างๆ ทรงสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เยาวชนตำบล รวมทั้งได้ทรงเป็นประธานงานวันเยาวชนแห่งชาติ วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี และทรงเป็นประธานในพิธีปฏิญาณตนและสวนสนามของลูกเสือและเนตรนารี และสมาชิกผู้ทำประโยชน์
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้อุปการะเด็กกำพร้า คือ จักรกฤษณ์ และอนุเดช ชูศรี ที่ครอบครัวเสียชีวิตจากภูเขาถล่มเมื่อปี พ.ศ. 2554 รวมทั้งครอบครัวของบูรฮาน และบุศรินทร์ หร่ายมณี ซึ่งบิดาถูกลอบสังหารจากเหตุความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะทรงอุปการะจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือจนกว่าจะมีอาชีพสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นต้น
4. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้น เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร พระองค์ทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช พระองค์มีพระราชปณิธานให้เอาใจใส่รักษาพยาบาลพสกนิกรของพระองค์ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้โดยทั่วหน้าเสมอกัน
5. ด้านศาสนา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ทรงประเคนผ้าไตร ประกาศนียบัตร และพัดยศ ในการตั้งภิกษุ และ สามเณรเปรียญ เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วิสาขบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรม มหาราชวัง พ.ศ. 2551
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชศรัทธาทรงผนวชในพระพุทธศาสนา โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดฯ ให้จัดการพระราชพิธีผนวช ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) ถวายอนุศาสน์ ได้รับถวายพระสมณนามว่า “วชิราลงฺกรโณ” และได้ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตลอดจนทรงลาสิกขาในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปปฏิบัติพระราชกิจทางพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอ เช่น เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤดูกาล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายผ้าพระกฐินหลวงตามวัดต่างๆ เป็นต้น
6. ด้านการเกษตร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวาและวัชพืชอื่นๆ เป็นปฐมฤกษ์ เพื่อพระราชทานแก่เกษตรกร สำหรับนำไปใช้ในการเพาะปลูกเป็นการเพิ่มผลผลิต ที่บ้านแหลมสะแก ต.เดิมบาง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2528
7. ด้านการต่างประเทศ
วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต นำผ้าห่มกันหนาว 20,000 ผืน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายกษิต ภิรมย์ เป็นผู้รับมอบ
ข้อมูล : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี และ thaigoodview
ภาพประกอบ : หนังสือ “๗๐ สัมพัจฉร์ฉลองรัชธรรมราชา” กวีนิพนธ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี พิมพ์ครั้งที่ 1 พุทธศักราช 2559 โดยกรมศิลปากร
ที่มา เว็บไซด์ lifestyle.campus-star
ที่มาของรูปที่ลง สำนักพระราชวัง และ ไทยรัฐออนไลน์
-------------------------------------------------
พระราชประวัติ ร.๑๐
https://www.youtube.com/watch?v=eEEhLBtHvSMที่มา ผอ.สันติรักษ์ ลุสีดา
เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ค. 2017
https://www.youtube.com/channel/UCSWUxpzYz_BplPccPeXlowQ.-------------------------. .-------------------------.
พระราชประวัติ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” รัชกาล ที่ 10
https://www.youtube.com/watch?v=9pVmMRooPiwที่มา opt- tvnews
เผยแพร่เมื่อ 30 พ.ย. 2016
https://www.youtube.com/channel/UCYFmyycqdHKG97DRQVDh8LA-------------------------------------------------
เพลงสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
https://www.youtube.com/watch?v=e2uE6YHgbp8SFMusic Channel
เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ค. 2017
เพลงสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
คำร้อง ทำนอง ร้องนำ : วาณี จูฑังคะ คีตศิลปินทักษะพิเศษ
เรียบเรียงเสียงประสาน : มานิตย์ บูชาชนก ดุริยางคศิลปินอาวุโส
ผู้อำนวยเพลง : วานิช โปตะวนิช ดุริยางคศิลปินอาวุโส ศิลปินศิลปาธร ปีพุทธศักราช ๒๕๕๗
บรรเลง ขับร้อง : ดุริยางคศิลปิน/คีตศิลปิน สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
บันทึกเสียง-ผลิตสื่อ : สุกฤตา วาสกุล / ธีรยุทธ ทับพรโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์
----------------------------------------------
สดุดีจอมราชา
https://www.youtube.com/watch?v=nmTWXUoUcxoSattahip Today
เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ค. 2018
เพลง สดุดีจอมราชา ใช้ทดแทนเพลงสดุดีมหาราชา สำหรับงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าหัว รัชกาลที่ 10 วันที่ 28 ก.ค.61
เพลงสดุดีจอมราชาในหลวง รัชกาลที่10
ผู้แต่ง : วิเชียร ตันติพิมลพันธ์
ทำนอง - เรียบเรียง : วิรัช อยู่ถาวร (ศิลปินแห่งชาติ)
วงดนตรี : เฉลิมราชย์
ห้องบันทึกเสียง : จาตุรงค์
นักร้อง : ภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทธ์
กตธิป อัครวิกรัย
ภัทรานิษฐ์ เพฑูริยาเวทย์
กนกวรรณ อินทรพัฒน์
เนื้อร้อง
"ถวายบังคมจอมราชา
พระบุญญาเกริกฟ้าไกล
ธ ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร
ศูนย์รวมใจชาวไทยสมัครสมาน
ถวายพระพรจอมราชัน
ธ อนันต์ปรีชาชาญ
ขอพระองค์ทรงเกษมสำราญ
งามตระการสมขัตติยะไทย
อุ่นไอรักจากฟ้าเรืองรอง
แสงทองส่องมา ไพร่ฟ้าต่างสดใส
มหาวชิราลงกรณ มิ่งขวัญปวงชนชาวไทย
เทิดไท้พระภูวไนย ถวายใจสดุดี"
***หมายเหตุ ในเนื้อร้องมีคำผิดที่ถูกต้องคือ "มหาวชิราลงกรณ"
----------------------------------------------
บทเพลงเทิดพระเกียรติ | เพลง รัชกาลที่ 10 ทรงพระเจริญ
https://www.youtube.com/watch?v=RY3Q4vBYyloหนังลุง-โนรา วัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้
เผยแพร่เมื่อ 29 ต.ค. 2017
เพลง รัชกาลที่ ๑๐ ทรงพระเจริญ
ศิลปิน : เอกชัย ศรีวิชัย
คำร้อง ทำนอง : เจษฎา เรืองนาม
ดนตรี : อ.กิตติศักดิ์ สายน้ำทิพย์
เนื้อเพลง :
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนานมิ่งขวัญชาวไทย
พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่
เป็นศูนย์รวมใจของไทยทั่วหล้า
พระจักรีวงศ์ มั่นคงคู่ไทยนานมา
องค์พระสยามเทวา ปกปักรักษาชั่วกาลนิรันดร์
พระทัยหมายมั่น สืบปณิธานพระราชบิดา
ทศพิธราชธรรมนำหน้า
เพื่อปวงประชาชาติไทยเรานั่น
ทุกถิ่นใกล้ไกล พระทรงห่วงใยทั่วกัน
สยามมกุฎราชกุมาร
ถวายสัตย์ปฏิญาณ ครองราชย์โดยธรรม
พระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ
บดินทร เทพยวรางกูร เป็นบุญไทยล้ำ
รัชกาลที่ 10 ประหนึ่งน้ำทิพย์ ผสมแสงธรรม
ขวานทองเมื่อมองแล้วงาม
ทั้งขวานและด้าม ด้วยน้ำพระทัย
ทรงพระเจริญ คู่ฉัตรทองและผองปวงชน
เทวาอารักษ์เบื้องบน ต่างช่วยดล มนต์ทิพย์มาให้
เถลิงถวัลยราชสมบัตินานไกล
ปวงข้าถวายพรชัย ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ
พระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ
บดินทร เทพยวรางกูร เป็นบุญไทยล้ำ
รัชกาลที่ 10 ประหนึ่งน้ำทิพย์ ผสมแสงธรรม
ขวานทองเมื่อมองแล้วงาม
ทั้งขวานและด้าม ด้วยน้ำพระทัย
ทรงพระเจริญ คู่ฉัตรทองและผองปวงชน
เทวาอารักษ์เบื้องบน ต่างช่วยดล มนต์ทิพย์มาให้
เถลิงถวัลยราชสมบัตินานไกล
ปวงข้าถวายพรชัย ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ
----------------------------------------------
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
sithiphong
.
.
.*****************************.
.
.
ที่มา และ โพสโดย Dhamarich Thunyhaboarvorn
โพสลงกลุ่ม เรารักสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี
26 กรกฎาคม 2566
.
ทรงทำ
๐ ทรงทำตามกฎบัญญัติอยู่ทุกอย่าง
ไม่เคยอ้างเอานามความเป็นกษัตริย์
เพื่อแสวงผลกำไรในอานัติ
#ธรรมฤทธิ์
#ประชาสาส์น
#เรารักในหลวง
#เรารักพระเทพ
#เทิดทูนจักรีวงศ์
#เรารักพระราชินี
#เรารักราชวงศ์จักรี
#เรารักพระพันปีหลวง
.
.
.