ประชาสัมพันธ์ > ประชาสัมพันธ์ทางธรรม

ชมรมพระวังหน้า เพื่อพระวังหน้าและงานบุญต่างๆ

<< < (111/114) > >>

sithiphong:
.
.
หลวงพ่อกวย ท่านเปลี่ยนเส้นทางใน Google Map ในโทรศัพท์ผม
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2562
.
.
ผมและคณะ ได้เดินทางขึ้นไปที่ อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 16 มีนาคม 2562
เพื่อไปกราบ หลวงพ่อสนอง อตตทโม  (พระครูนครบุราณานุรักษ์)  วัดนครไทยวราราม หรือวัดหัวร้อง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
.
ระหว่างการเดินทาง ก็คุยกันไปว่า จะแวะไปกราบสรีระ หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงห์บุรี  เมื่อถึงวัดกลางชูศรีเจริญ ก็ได้เข้าไปกราบสรีระ หลวงปู่บุดดา ถาวโร  เมื่อกราบท่านเรียบร้อยแล้ว ผมก็ได้ตั้ง Google Map เพื่อมุ่งหน้าขึ้นไปกราบ พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
.
ผมเองก็ได้ขับรถตามเส้นทางที่ Google Map ได้บอกมา
.
ผมขับรถมาเรื่อยๆ  ปรากฎว่า ทางข้างหน้า มีป้ายวัดโฆสิตาราม ผมก็เลยบอกเพื่อนที่ร่วมเดินทางว่า เรามาถึงวัดโฆสิตารามแล้ว เราแวะเข้าไปกราบ หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท กัน
.
พอผมกราบท่านเสร็จเรียบร้อย ผมก็ตั้ง เส้นทางใน Google Map ใหม่ เพื่อเดินทางไปพิษณุโลก. ปรากฎว่า ....
เส้นทางใน Google Map ให้ผมขับรถย้อนกลับไปทางเดิม ครับ
.
พอขับมาตามเส้นทางเดิม(ที่ผมขับมาครั้งแรก)ได้สักพัก เส้นทางใน Google Map ให้ผมเลี้ยวขวา ผมขับตามเส้นทางใน Google Map มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงถนนพหลโยธิน ผมขับตามเส้นทางใน Google Map จนถึง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ไปกราบพระพุทธชินราช แล้วก็เดินทางต่อไปกราบ หลวงพ่อสนอง อตตทโม วัดนครไทยวราราม ครับ
.
หลวงพ่อกวย ชุตินธโร ท่านเปลี่ยนเส้นทางใน Google Map ให้ผมและคณะไปกราบท่านก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่พิษณุโลก ครับ
.
.
.
#หลวงพ่อสนองอตตทโม  (#พระครูนครบุราณานุรักษ์)  #วัดนครไทยวราราม หรือ #วัดหัวร้อง
#วัดนครไทยวรารามหรือวัดหัวร้อง
#หลวงปู่บุดดาถาวโร  #วัดกลางชูศรีเจริญสุข
#หลวงปู่บุดดาถาวโรวัดกลางชูศรีเจริญสุข
#หลวงพ่อกวยชุตินธโร #วัดโฆสิตาราม
#หลวงพ่อกวยชุตินธโรวัดโฆสิตาราม
#พระพุทธชินราช  #วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
#พระพุทธชินราชวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
.
.

sithiphong:
.
.
.
พระศรีอาริยเมตไตรย
.
.
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
.
.
[๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี เด็กหญิงมีอายุ ๕๐๐ ปี จึงจักสมควรมีสามีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ๘๐,๐๐๐ ปี จักเกิดมีอาพาธ ๓ อย่าง คือ ความอยากกิน ๑ ความไม่อยากกิน ๑ ความแก่ ๑
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี ชมพูทวีปนี้จักมั่งคั่งและรุ่งเรือง มีบ้านนิคมและราชธานีพอชั่วไก่บินตก
.
ดูกรภิกษุทั้งหลายในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี ชมพูทวีปนี้ประหนึ่งว่าอเวจีนรก จักยัดเยียดไปด้วยผู้คนทั้งหลาย เปรียบเหมือนป่าไม้อ้อ หรือป่าสาลพฤกษ์ฉะนั้น ฯ
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี เมืองพาราณสีนี้ จักเป็นราชธานีมีนามว่า เกตุมดี เป็นเมืองที่มั่งคั่งและรุ่งเรืองมีพลเมืองมาก มีผู้คนคับคั่ง และมีอาหารสมบูรณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปีในชมพูทวีปนี้จักมีเมือง ๘๔,๐๐๐ เมือง มีเกตุมดีราชธานีเป็นประมุข ฯ
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี จักมีพระเจ้าจักรพรรดิ์ทรงพระนามว่า พระเจ้าสังขะ ทรงอุบัติขึ้น ณ เกตุมดีราชธานี เป็นผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขตทรงชนะแล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือจักรแก้ว ๑ ช้างแก้ว ๑ ม้าแก้ว ๑ แก้วมณี ๑ นางแก้ว ๑ คฤหบดีแก้ว ๑ ปริณายกแก้วเป็นที่ ๗ พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชำนะโดยธรรมมิต้องใช้อาชญา มิต้องใช้ศัสตรา ครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นขอบเขต ฯ
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่าเมตไตรย์ จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถี ฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม เหมือนตถาคตอุบัติขึ้นแล้วในโลกในบัดนี้ เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ไปดีแล้ว รู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม
.
พระผู้มีพระภาคพระนามว่า เมตไตรย์พระองค์นั้น จักทรงทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลกพรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งด้วยพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณ พราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม เหมือนตถาคตในบัดนี้ ทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลกมารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตถาคตเองแล้ว สอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตามอยู่
.
พระผู้มีพระภาคพระนามว่า เมตไตรย์พระองค์นั้นจักทรงแสดงธรรม งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงเหมือนตถาคตในบัดนี้ แสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลางงามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง พระผู้มีพระภาคพระนามว่าเมตไตรย์พระองค์นั้น จักทรงบริหารภิกษุสงฆ์หลายพัน เหมือนตถาคตบริหารภิกษุสงฆ์หลายร้อย ในบัดนี้ฉะนั้น ฯ
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น พระเจ้าสังขะจักทรงให้ยกขึ้นซึ่งปราสาทที่พระเจ้ามหาปนาทะทรงสร้างไว้ แล้วประทับอยู่ แล้วจักทรงสละ จักทรงบำเพ็ญทาน แก่สมณพราหมณ์ คนกำพร้า คนเดินทาง วณิพก และยาจกทั้งหลาย จักทรงปลงพระเกศาและพระมัสสุ ทรงครองผ้ากาสาวพัสตร์ เสด็จออกจากเรือน ทรงผนวชเป็นบรรพชิต ในสำนักของพระผู้มีพระภาคพระนามว่า เมตไตรย์อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
.
ท้าวเธอทรงผนวชอย่างนี้แล้ว ทรงปลีกพระองค์อยู่แต่ผู้เดียวไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว ไม่ช้านักก็จักทรงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์อันยอดเยี่ยมที่กุลบุตรทั้งหลาย พากันออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ด้วยพระปัญญาอันยิ่งด้วยพระองค์เอง ในทิฐธรรมเทียว เข้าถึงอยู่ ฯ
.
.
.
รูป สงวนลิขสิทธิ์
.

sithiphong:
.
.
มหาเดช มหาบารมี มหาโภคทรัพย์
๒๘๘ ปีประสูติ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
.
https://www.facebook.com/100002065568979/videos/943128073550636
.
ที่มา พระอาจารย์ณริชธันร์ ศรีอิทธิมนต์
22 เมษายน 2566
.
จากงานสมโภช พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
และ พระบรมรูปปั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ในวันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2566
.
.

sithiphong:
.
.
วันนี้(วันที่ 6 พฤษภาคม 2566) ผมนำรูปพระวังหน้า นำมาให้ชมกัน
.
ท่านผู้อ่าน จะได้ทราบว่า พระวังหน้า เนื้อทองคำ และ พระวังหน้า เนื้อทองเหลือง
มีรูปแบบและลักษณะเป็นอย่างไร
จะได้ไปตกเป็นเหยื่อ ของกูรูเก๊ ได้
.
อย่างที่ผมบอกไป การเรียนรู้เรื่องของพระวังหน้า
ต้องเรียนรู้ทั้ง #รูป ( #เนื้อหาทรงพิมพ์ ) และ #นาม ( #พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต )
ต้องเรียนรู้กับผู้ที่รู้จริง สามารถดูได้ทั้ง รูป และ นาม
.
.
เรื่องของ รูป (เนื้อหาทรงพิมพ์)
เรื่องของพิมพ์(พระวังหน้า) จะมีอยู่ด้วยกันมากมาย หากดูองค์จริงจากพระวังหน้าที่เป็นเนื้อผง
ก็จะพอทราบได้ว่า พิมพ์ที่เป็นเนื้อทองคำ จะมีรูปร่างลักษณะเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องเนื้อทองคำ  ผมเองได้นำไปพิสูจน์เนื้อมาจากสถานที่หนึ่ง
เครื่องที่ตรวจเนื้อทองคำ เมื่อสมัยประมาณ 16 ปีที่ผ่านมา (ประมาณปี พ.ศ.2550)
มูลค่าของเครื่องตรวจโลหะ มีมูลค่าไม่น้อยกว่าเป็น 10 ล้านบาท และ เป็นเครื่องตรวจโลหะที่มีคุณภาพสูง
ผมขอไม่แจ้งเปอร์เซ็นของทองคำในองค์พระที่ผมนำมาลงในวันนี้
.
.
เรื่องของ นาม (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต)
ผมเองมีครูบาอาจารย์ที่เก่งมาก อีกทั้งรองประธานชมรมพระวังหน้า
มีความสามารถในเรื่องการดูพระพิมพ์ต่างๆ ทั้ง รูป และ นาม
และสามารถใช้จิตไปดูถึงงานพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า)
ผมนำเรื่องที่ผมเคยเขียนไว้ และ ที่เคยนำมาลงในเพจ.Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร&พระวังหน้า นำมาลงให้อ่านกันอีกครั้ง
ผมขอไม่แจ้งองค์ผู้อธิษฐานจิตของรูปพระที่ผมนำมาลงในวันนี้
.
.*************************************.
.*************************************.
.
เรื่องของ “นาม”  (การตรวจดูพลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต)
.
.
เรื่องของการจับพลังพระพิมพ์(ผมเคยลงไว้เมื่อ 21 สิงหาคม 2549 ที่กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เว็บไซด์พลังจิต) นั้น  มีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่หลายประการ    อาทิเช่น
.
1.พระพิมพ์บางองค์  เวลาที่กดพระพิมพ์นั้น  อาจกดไปโดนฤกษ์ดอกลูกพิษ  ถ้าพระพิมพ์องค์ไหน  กดโดนฤกษ์ดอกลูกพิษ  ไม่ว่าพระองค์ไหน  ก็เสกไม่เข้าทั้งสิ้น  ฤกษ์ดอกลูกพิษนั้น  มีทุกวัน  แต่ว่ามีเป็นช่วงๆ  บางครั้งในหนึ่งวัน  มีช่วงเดียว  บางครั้งในหนึ่งวัน อาจมีหลายช่วงก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น
.
2.ในการจับพลังองค์พระพิมพ์นั้น  บางวัน พระผู้เสกท่านอาจปิดกระแสขององค์พระพิมพ์ก็เป็นได้  การปิดกระแสนั้น  พระผู้เสกย่อมทำได้เนื่องจากว่า ระดับของญาณหรืออภิญญาสูงกว่าผู้จับพลังองค์พระพิมพ์  มีเพื่อนผมคนหนึ่ง  สามารถจับพลังขององค์พระพิมพ์ได้  มีอยู่วันหนึ่ง  เพื่อนผมผู้นี้ได้นำพระพิมพ์องค์หนึ่ง  ไปให้อาจารย์ของเขาตรวจพลังให้  แต่ปรากฏว่า อาจารย์ของเขาได้บอกว่า  พระพิมพ์องค์นี้  ไม่มีพลัง  ไม่มีอะไรเลย  แต่เพื่อนผมได้นำพระพิมพ์องค์เดิมไปให้เพื่อนของเขาจับ  ปรากฎว่าเพื่อนของเขาจับพลังได้  และยังบอกอีกว่า พลังขององค์พระพิมพ์นั้น แรงมากด้วย  ในเรื่องนี้  ความคิดเห็นส่วนตัวผม ผมเห็นว่า  พระผู้เสกท่านอาจปิดกระแสไม่ให้อาจารย์ของเพื่อนตรวจพลัง  นะครับ
.
3.ในบางวัน  พระผู้เสก  ท่านอาจปิดกระแสขององค์พระพิมพ์ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
.
4.และในบางวัน  ผู้ที่ตรวจพลังของพระพิมพ์  เป็นวันที่เบื้องบนไม่ให้ตรวจพลังขององค์พระพิมพ์ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
.
5.พิมพ์ทุกองค์นั้น  เวลาที่ผ่านการปลุกเสกแล้ว  จะมีเทวดารักษาองค์พระพิมพ์ทุกองค์  บางครั้งเทวดาที่รักษาองค์พระพิมพ์อาจจะปิดกระแสก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน
.
6.ในบางครั้งพระปลอมก็มีพลังเช่นเดียวกัน  ถ้าผู้ทำพระปลอมได้นำพระไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก
.
7.หรือบางครั้งผู้ทำพระปลอมได้นำเศษพระแท้ผสมลงไป  ก็สามารถมีพลังได้เหมือนกัน เพียงแต่พลังอาจจะน้อยกว่าพระแท้ครับ
.
8.การนำพระแท้ไปไว้ในที่ไม่สมควร  เทวดาที่รักษาองค์พระพิมพ์  ท่านอาจจะไม่อยู่ครับ  และทำให้พลังขององค์พระพิมพ์นั้นเสื่อมได้ครับ  ตามหลัก มีเกิดได้ก็มีดับได้นะครับ
.
ในเรื่องของรังสีของคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรให้ฟังหลายครั้ง  อีกทั้งลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถมหลายท่าน  ก็สามารถตรวจสอบพลังขององค์พระพิมพ์ได้  เช่นการนั่งดูว่าใครเสก  ,การนั่งดูพิธีเสก  ,การจับพลังขององค์พระพิมพ์  เป็นต้นครับ
.
การตรวจสอบพลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์นั้น  ผมแนะนำให้ไปหาผู้ทรงฌานหรือผู้ทรงญาณ หลายๆท่าน(ควรไม่ต่ำว่า 3 ท่าน) นะครับ  และผลที่ตรวจได้นั้น  ต้องตรงกัน
.
บทความนี้ เขียนโดย sithiphong ชมรมพระวังหน้า หรือ NooMWangnA
.
สงวนลิขสิทธิ์
.
.
.
สำหรับท่านใดที่ต้องการจะเผยแพร่รูปพระวังหน้าที่ผมลง หรือเนื้อหาที่ผมแจ้งเรื่องการสงวนลิขสิทธิ์ ให้คนอื่นได้เห็น สามารถทำได้ แต่ต้องระบุที่มาของรูปและเนื้อหาทุกครั้ง และให้มาขออนุญาตใน"เฟส หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า" ด้วย เมื่อผมอนุญาตแล้ว ถึงนำไปลงได้และลงข้อความในโพสที่ลงรูปด้วยครับ
.
....."รูปที่ผมลงที่ผมแจ้งว่า เป็นรูปของผม หากจะนำไปลงในเว็บไซด์อื่นๆ หรือ เฟสบุ๊ค หรือสื่อออนไลน์ตามที่ต่างๆ ให้ลงท้ายรูปตามนี้ครับ
รูปของ Sithiphong ชมรมพระวังหน้า สงวนลิขสิทธิ์".....
บทความของ Sithiphong ชมรมพระวังหน้า สงวนลิขสิทธิ์".....
.
หากต้องการนำไปเผยแพร่ ให้มาแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรในเฟสฯหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า และลงตามที่ผมได้แจ้งไว้ด้านบนข้อความนี้
.
เรื่องของการสงวนลิขสิทธิ์
.
ผมขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่ผมสงวนลิขสิทธิ์รูปภาพ และเนื้อหาที่ผมนำมาลงในเรื่องราวของพระวังหน้า หรือ พระวังหลวง หรือ พระพิมพ์ต่างๆ ที่ผมเป็นผู้ที่เขียนขึ้นในเฟสฯหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า ในวันที่ 20 มกราคม 2561 เวลา 7.35 น.
.
ข้าพเจ้า ขอบรมพุทธานุญาต ขออาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ มาเป็นประธาน ขออาราธนาพระบารมีองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระมหาโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ , พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ มาเป็นรองประธาน ขออาราธนาองค์พยามัจจุราชเจ้าองค์ปัจจุบัน และองค์พยามัจจุราชเจ้าที่จะมาเป็นองค์พยามัจจุราชในอนาคตทุกๆองค์ , นายนิริยบาลองค์ปัจจุบัน และนายนิริยบาลที่จะมาเป็นนายนิริยบาลในอนาคตทุกองค์ , พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ทุกๆองค์ทั่วโลก และพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ทุกๆองค์ทั่วโลกที่จะมาเป็นพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ในอนาคตทุกๆองค์ทั่วโลก และเทพเทวาชั้น 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินทั่วโลก และองค์พระเยซูคริสต์ และองค์อัลลอฮ์ และองค์นบีมุฮัมมัด (หรือมุหัมมัด หรือพระมะหะหมัด) โปรดมาเป็นสักขีพยานในการอธิษฐานในครั้งนี้
.
ข้าพเจ้าขออธิษฐานว่า รูปภาพทุกรูปภาพที่ข้าพเจ้าถ่ายรูปเองหรือรูปที่ข้าพเจ้าแจ้งสงวนลิขสิทธิ์และทุกเนื้อหาที่ข้าพเจ้าอธิบายลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า และในสื่อออนไลน์ทุกประเภทที่มีอยู่ในปัจจุบัน และมี่ขึ้นในอนาคต ทุกประเภท
.
หากมีผู้หนึ่งผู้ใดที่นำรูปภาพหรือเนื้อหาดังกล่าว นำไปใช้ในสถานที่อื่นๆ หรือลงในสื่อออนไลน์ทุกประเภทในปัจจุบันและอนาคต โดยไม่แจ้งที่มา และ/หรือนำไปใช้ในเรื่องของพุทธพาณิชย์หรือการซื้อขายพระเครื่อง,พระพิมพ์และวัตถุมงคลต่างๆ รวมทั้งการปลอมแปลงพระวังหน้า หรือพระวังหลวงตามรูปและเนื้อหาที่ผมนำมาลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า ยกเว้นเพื่อการศึกษาหาความรู้และต้องแจ้งที่มาของรูปและเนื้อหาที่ผมลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า
.
ข้าพเจ้าคิดเป็นค่าเสียหายต่อครั้งต่อหนึ่งวันต่อหนึ่งรูปภาพและหรือต่อหนึ่งเรื่องราว เป็นวันละ 10,000,000 บาท(สิบล้านบาทถ้วน) (โดยคำนวนเป็นค่าเงินของประเทศไทยในวันปัจจุบันที่ลง ถึงแม้ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงค่าเงินต่างๆในประเทศต่างๆไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงในทุกลักษณะ) พร้อมด้วยดอกเบี้ยสูงสุดของประเทศนั้นๆ และเพิ่มขึ้นทุกปีในวันขึ้นปีใหม่(หรือวันในลักษณะที่เหมือนกับวันขึ้นปีใหม่)ของทุกประเทศและทุกลักษณะ โดยเป็นไปตามเรื่องของประเทศในเบื้องต้น โดยเพิ่มจำนวนเงินขึ้นปีละ 100,000,000 บาท(หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วย) โดยการคำนวณค่าเงินเป็นไปตามข้างต้น
.
ในการใช้หนี้ข้าพเจ้า ไม่ต้องนำมาให้ข้าพเจ้า แต่ให้นำไปใช้หนี้ข้าพเจ้าในลักษณะให้นำเงินทั้งหมดไปทำบุญดังนี้ ให้แบ่งยอดเงินทั้งหมดออกเป็นสี่ส่วนเท่าๆกัน ในสองส่วนแรกให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องของงานบุญในพระพุทธศาสนา(ไม่ว่าจะมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ไหนก็ตาม) ในส่วนที่สามให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องในงานบุญของศาสนาคริสต์ และในส่วนที่สี่ส่วนสุดท้ายให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องงานบุญของศาสนาอิสลาม ในการแจ้งที่มา ให้แจ้งตามข้อความในอัญประกาศดังนี้
.
“ที่มาของรูปและเนื้อหา รูปและเนื้อหาโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
หรือ
“ที่มาของรูป รูปโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
หรือ
“ที่มาของเนื้อหา เนื้อหาโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ
สาธุ สาธุ สาธุ
.
#สงวนลิขสิทธิ์
#การสงวนลิขสิทธิ์
#นำรูปไปใช้ไม่แจ้งที่มา
#ลักทรัพย์
#พยามัจจุราช
#พระแม่ธรณี
#พระแม่คงคา
#พระแม่โพสพ
#พระวังหน้า
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
#Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร&พระวังหน้า
.
.
#พระเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
#เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
#พระเก๊จี๊ดจ๊าด
#เก๊จี๊ดจ๊าด
#ต่อตีนโจร
.
การเรียนรู้ ต้องมี สุ(ฟัง) จิ(คิด) ปุ(ถาม) ลิ(เขียน)
.
พาหุสัจจะ แปลว่า ความเป็นผู้ได้สดับมาก
หนังสือบางฉบับเรียกว่า หัวใจนักปราชญ์
.
สุ ย่อมาจาก สุตะ แปลว่า ฟัง
จิ ย่อมาจาก จินตะ แปลว่า คิด
ปุ ย่อมาจาก ปุจฉา แปลว่า ถาม
ลิ ย่อมาจาก ลิขิต แปลว่า จด
.
#อย่าไปเรียนกับกลุ่มเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
.
#เรียนรู้ของเก๊จี๊ดจ๊าดแทนของแท้   #เก็บสะสมของเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้าแทนของแท้
.
#หลงทางหลงป่าเข้าพงลงเหว จาก #กลุ่มกูรูเก๊
.
ระวังให้มากสำหรับ เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า และ เก๊จี๊ดจ๊าด กัน
.
 #อย่าไปเข้าป่าเข้าพงลงเหว #ไม่หลงทิศหลงทางลงนรก #อย่าตกเป็นเหยื่อ
.
ในเรื่อง #มุสาวาท และ #ปรามาสผู้มีธรรม จากกลุ่ม #กูรูเก๊
.
#โง่จริงแบบว่าไม่โง่จริงทำไม่ได้
.
รูปสงวนลิขสิทธิ์
.
.
.----------------------------------.
.
.
สองคน ยลตามช่อง คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม คนหนึ่ง ตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
บทกวีของท่านเช็คสเปียร์  "Two folks look through same hole, one sees mud, one sees star.
ถอดเป็นภาษาไทยโดยท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งอัสสัมชัญ
.
“สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย”
แปลโดยเจษฏาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ (F. Hilaire)
สุภาษิตนี้แปลมาจากภาษาอังกฤษ
Two men look out through the same bars; One sees the mud, and one the stars
โดย Frederick Longbridge
.
.

                "สองคน ยลตามช่อง

                คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม

                คนหนึ่ง ตาแหลมคม

                มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว"

.
.....ต่อมาเมื่อได้ค้นคว้าเพิ่มเติมก็ได้ทราบว่าต้นแบบเป็นบทกวีของท่านเช็คสเปียร์ ที่ว่า "Two folks look through same hole, one sees mud, one sees star." ถอดเป็นภาษาไทยโดยท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งอัสสัมชัญ เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว (ข้อมูลจาก ไทยโพสต์ 25 พ.ย. 2547 โดยคุณสุวรรณ) ความหมายก็คือมุมมองของคนหลายคนในเรื่องเดียว อาจมีความแตกต่างกันได้ ไม่จำเป็นว่าคนหนึ่งต้องมองว่าบวกอีกคนต้องมองว่าลบเสมอไป อาจจะมองทางบวกทั้งคู่ หรือลบทั้งคู่ก็ได้ ถ้าแตกต่างกันในความคิดเห็นก็จัดว่าเป็นสองคนยลตามช่องได้ทั้งสิ้น
.
#สองคนยลตามช่อคนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
#คนหนึ่งตาแหลมคมมองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
.
.
ที่มา https://www.facebook.com/100081560750868/posts/221059333956090/?mibextid=Nif5oz
.
.

sithiphong:
.
.
.
เรื่องในโลกเสมือนจริง หรือ โลกอินเตอร์เน็ต
มีหลายเรื่องที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง
เพื่อหาผลประโยชน์ให้กับพวกของตัวเอง
มีบางประเทศที่มีเจตนาในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
มีกลุ่มคนในประเทศบางกลุ่มที่มีเจตนาในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
เพราะ เมื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ได้แล้ว
กลุ่มคนเหล่านี้จะเข้าไปปล้นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้อย่างสะดวก
.
.
ส่วนตัว ผมและหมู่คณะ เคยไปกราบพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ผมเคยบอกกับท่านว่า เมื่อก่อนนี้ ผมเกลียดพระเจ้าเอกทัศน์มาก
เพราะ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กรุงศรีอยุธยาเสียทีกับพม่า
และ ในครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ความรู้สึกของผมในขณะที่ขับรถไปนั้น คือ มีความรู้สึกว่า กำลังกลับบ้าน
แต่ปัจจุบันนี้ (ในปีที่ผมไปกราบและสนทนากับท่าน คือ ปี 2564)
ผมมีความเกลียดพระเจ้าเอกทัศน์น้อยลง
เนื่องจาก หากไม่มีพระเจ้าเอกทัศน์ ก็คงไม่น่าจะมี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ที่ได้กอบกู้แผ่นดินจากพม่า และ รวบรวมแผ่นดินไทยให้ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์ชาติไทย
พระภิกษุสงฆ์รูปนี้ ท่านบอกกับผมว่า คนเราในเรื่องส่วนตัว มีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดีของตนเอง
หากในส่วนที่ดีมีมาก  ก็ให้มองข้ามในส่วนที่ไม่ดีไปบ้าง
และ หากมีการกระทำที่ดีต่อแผ่นดิน  เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องที่ต้องเชิดชูบุคคลที่กระทำความดีต่อแผ่นดิน
อย่าไป #เนรคุณ
.
.
เพราะฉะนั้น ................................
ให้ระมัดระวังความคิดและการกระทำของตนเอง
ไม่ว่าทั้ง กาย , วาจา และ ใจ
#อย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนเหล่านั้น
#คิด #วิเคราะห์ #แยกแยะ
#คิดวิเคราะห์แยกแยะ
#อย่าตกเป็นเหยื่อ
.
.
.*****************************.
.
.
พระราชประวัติ ในหลวงรัชกาลที่ 10 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่ 3 ของไทย และเมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดประชุมร่วมกันในวาระพิเศษเรื่อง การมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ และมีมติแจ้งไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้อัญเชิญองค์พระรัชทายาท (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) ขึ้นครองราชสมบัติ สืบเป็นรัชกาลที่ 10
พระราชประวัติ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระนามเมื่อแรกประสูติว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรงสุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร” เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17:45 น.
ซึ่งพระนาม “วชิราลงกรณ” นั้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ทรงตั้งถวาย มาจาก “วชิรญาณ” พระนามฉายาขณะผนวชในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ผนวกกับ �”อลงกรณ์”� จากพระนามในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
พี่น้อง
มีพระเชษฐภคินี 1 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระขนิษฐภคินี 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ระดับอนุบาล รร.จิตรลดา
ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นในระดับอนุบาล รุ่นที่ 2 จากโรงเรียนจิตรลดา แล้วจึงเสด็จฯ ไปทรงศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนคิงส์มีด แคว้นซัสเซกส์ และศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลฟิลด์ แคว้นซอมเมอร์เซทประเทศอังกฤษ หลังจากนั้น ทรงศึกษาต่อวิชาทหารที่โรงเรียนคิงส์สกูล ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เสร็จแล้ว ทรงการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีสาขาอักษรศาสตร์ (ด้านการทหาร) จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ พ.ศ. 2519
โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 46
นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 46 เมื่อปี พ.ศ. 2520 ทรงเข้าศึกษาในสาขาวิชานิติศาสตร์ รุ่นที่ 2 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ พ.ศ.2525 ทรงสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2)  และปี พ.ศ. 2533 ทรงได้รับการศึกษา ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรแห่งสหราชอาณาจักร
พระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย
สมเด็จพระยุพราช
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ให้ดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร� ตามโบราณขัตติยราชประเพณี เพื่อรับราชสมบัติปกครองราชอาณาจักรสืบสนองพระองค์ โดยมีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สิริกิติยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศยุพราชวิสุทธ สยามมกุฎราชกุมาร
พระโอรส-พระธิดา
    พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
    หม่อมเจ้าจุฑาวัชร มหิดล หรือ จุฑาวัชร วิวัชรวงศ์
    หม่อมเจ้าวัชรเรศร มหิดล หรือ วัชรเรศร วิวัชรวงศ์
    หม่อมเจ้าจักรีวัชร มหิดล หรือ จักรีวัชร วิวัชรวงศ์
    หม่อมเจ้าวัชรวีร์ มหิดล หรือ วัชรวีร์ วิวัชรวงศ์
    พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์
    พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
พระราชกรณียกิจ
1. ด้านการบิน
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทรงปฏิบัติหน้าที่ครูการบินเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-5 อี/เอฟ และพ.ศ. 2552 ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ 1 เครื่องบินโบอิ้ง 737 – 400 ในเที่ยวบินสายใยรักแห่งครอบครัว ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์ สำหรับโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (เที่ยวบินที่ ทีจี 8870 กรุงเทพมหานครถึงจังหวัดเชียงใหม่ และเที่ยวบินที่ ทีจี 8871 จังหวัดเชียงใหม่ถึงกรุงเทพมหานคร)
2. ด้านการทหาร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมที่ตั้งกองทหารหน่วยต่างๆ อยู่เสมอ จากการที่ได้ทรงศึกษาด้านวิชาทหารมานาน ทรงมีความรู้เชี่ยวชาญอย่างมาก และได้พระราชทานความรู้เหล่านั้นให้แก่ทหาร 3 เหล่าทัพ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างแก่นายทหาร เอาพระทัยใส่ในความเป็นอยู่ทุกข์สุขของทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างทั่วถึง รวมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนการศึกษาแก่บุตรของทหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเทิดทูนและความจงรักภักดีแก่เหล่าทหารเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งในปัจจุบันทรงดำรงพระยศทางทหารของ 3 เหล่าทัพ ได้แก่ พลเอก พลเรือเอก และพลอากาศเอก ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการทหาร และทรงเข้าร่วมปฏิบัติการรบในการต่อต้านการก่อการร้ายในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย รวมทั้งการคุ้มกันพื้นที่ในบริเวณรอบค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชา ที่เขาล้าน จังหวัดตราด อีกด้วย
3. ด้านการศึกษา
พระองค์พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้อาคารของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอนุบาลชื่อว่า โรงเรียนอนุบาลทหารมหาดเล็กราชวัลลภ โดยในระยะแรกได้จัดการเรียนการสอนเฉพาะชั้นอนุบาล ต่อมาโรงเรียนได้ย้ายไปที่จังหวัดนนทบุรี และได้รับพระราชทานชื่อใหม่ว่า “โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์”
นอกจากนี้ ยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลคมนาคมไม่สะดวก กระทรวงศึกษาธิการได้สนองพระราชประสงค์ด้วยการน้อมเกล้าฯ ถวายโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาจำนวน 6 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ ได้แก่
    โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา อ.ปลาปาก จ.นครพนม (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 1)
    โรงเรียนมัธยมจุฑาวัชร อ.ลานกระลือ จ.กำแพงเพชร (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2)
    โรงเรียนมัธยมวัชเรศร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3)
    โรงเรียนมัธยมจักรีวัชร อ.รัตนภูมิ จ.สงขลา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 2)
    โรงเรียนมัธยมวัชรวีร์ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 3)
    โรงเรียนมัธยมบุษย์น้ำเพชร อ.เมือง จ.อุดรธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 1)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยาวชนในตำบลต่างๆ ทรงสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เยาวชนตำบล รวมทั้งได้ทรงเป็นประธานงานวันเยาวชนแห่งชาติ วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี และทรงเป็นประธานในพิธีปฏิญาณตนและสวนสนามของลูกเสือและเนตรนารี และสมาชิกผู้ทำประโยชน์
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้อุปการะเด็กกำพร้า คือ จักรกฤษณ์ และอนุเดช ชูศรี ที่ครอบครัวเสียชีวิตจากภูเขาถล่มเมื่อปี พ.ศ. 2554 รวมทั้งครอบครัวของบูรฮาน และบุศรินทร์ หร่ายมณี ซึ่งบิดาถูกลอบสังหารจากเหตุความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะทรงอุปการะจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือจนกว่าจะมีอาชีพสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นต้น
4. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร  ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้น เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร พระองค์ทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช พระองค์มีพระราชปณิธานให้เอาใจใส่รักษาพยาบาลพสกนิกรของพระองค์ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้โดยทั่วหน้าเสมอกัน
5. ด้านศาสนา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ทรงประเคนผ้าไตร ประกาศนียบัตร และพัดยศ ในการตั้งภิกษุ และ สามเณรเปรียญ เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วิสาขบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรม มหาราชวัง พ.ศ. 2551
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชศรัทธาทรงผนวชในพระพุทธศาสนา โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดฯ ให้จัดการพระราชพิธีผนวช ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) ถวายอนุศาสน์ ได้รับถวายพระสมณนามว่า “วชิราลงฺกรโณ” และได้ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตลอดจนทรงลาสิกขาในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปปฏิบัติพระราชกิจทางพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอ เช่น เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤดูกาล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายผ้าพระกฐินหลวงตามวัดต่างๆ เป็นต้น
6. ด้านการเกษตร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวาและวัชพืชอื่นๆ เป็นปฐมฤกษ์ เพื่อพระราชทานแก่เกษตรกร สำหรับนำไปใช้ในการเพาะปลูกเป็นการเพิ่มผลผลิต ที่บ้านแหลมสะแก ต.เดิมบาง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2528
7. ด้านการต่างประเทศ
วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต นำผ้าห่มกันหนาว 20,000 ผืน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายกษิต ภิรมย์ เป็นผู้รับมอบ
ข้อมูล : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี และ thaigoodview
ภาพประกอบ : หนังสือ “๗๐ สัมพัจฉร์ฉลองรัชธรรมราชา” กวีนิพนธ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี พิมพ์ครั้งที่ 1 พุทธศักราช 2559 โดยกรมศิลปากร
ที่มา เว็บไซด์ lifestyle.campus-star
ที่มาของรูปที่ลง สำนักพระราชวัง และ ไทยรัฐออนไลน์
-------------------------------------------------
พระราชประวัติ ร.๑๐
https://www.youtube.com/watch?v=eEEhLBtHvSM
ที่มา ผอ.สันติรักษ์ ลุสีดา
เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ค. 2017
https://www.youtube.com/channel/UCSWUxpzYz_BplPccPeXlowQ
.-------------------------. .-------------------------.
พระราชประวัติ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” รัชกาล ที่ 10
https://www.youtube.com/watch?v=9pVmMRooPiw
ที่มา opt- tvnews
เผยแพร่เมื่อ 30 พ.ย. 2016
https://www.youtube.com/channel/UCYFmyycqdHKG97DRQVDh8LA
-------------------------------------------------
เพลงสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
https://www.youtube.com/watch?v=e2uE6YHgbp8
SFMusic Channel
เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ค. 2017
เพลงสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
คำร้อง ทำนอง ร้องนำ : วาณี จูฑังคะ คีตศิลปินทักษะพิเศษ
เรียบเรียงเสียงประสาน :  มานิตย์ บูชาชนก  ดุริยางคศิลปินอาวุโส
ผู้อำนวยเพลง : วานิช  โปตะวนิช ดุริยางคศิลปินอาวุโส ศิลปินศิลปาธร ปีพุทธศักราช ๒๕๕๗
บรรเลง ขับร้อง  : ดุริยางคศิลปิน/คีตศิลปิน   สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
บันทึกเสียง-ผลิตสื่อ : สุกฤตา  วาสกุล / ธีรยุทธ  ทับพรโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์
----------------------------------------------
สดุดีจอมราชา
https://www.youtube.com/watch?v=nmTWXUoUcxo
Sattahip Today
เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ค. 2018
เพลง สดุดีจอมราชา ใช้ทดแทนเพลงสดุดีมหาราชา สำหรับงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าหัว รัชกาลที่ 10  วันที่ 28 ก.ค.61
เพลงสดุดีจอมราชาในหลวง รัชกาลที่10
ผู้แต่ง : วิเชียร ตันติพิมลพันธ์
ทำนอง - เรียบเรียง : วิรัช อยู่ถาวร (ศิลปินแห่งชาติ)
วงดนตรี : เฉลิมราชย์
ห้องบันทึกเสียง : จาตุรงค์
นักร้อง : ภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทธ์
กตธิป อัครวิกรัย
ภัทรานิษฐ์ เพฑูริยาเวทย์
กนกวรรณ อินทรพัฒน์
เนื้อร้อง
"ถวายบังคมจอมราชา
พระบุญญาเกริกฟ้าไกล
ธ ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร
ศูนย์รวมใจชาวไทยสมัครสมาน
ถวายพระพรจอมราชัน
ธ อนันต์ปรีชาชาญ
ขอพระองค์ทรงเกษมสำราญ
งามตระการสมขัตติยะไทย
อุ่นไอรักจากฟ้าเรืองรอง
แสงทองส่องมา ไพร่ฟ้าต่างสดใส
มหาวชิราลงกรณ  มิ่งขวัญปวงชนชาวไทย
เทิดไท้พระภูวไนย ถวายใจสดุดี"
***หมายเหตุ  ในเนื้อร้องมีคำผิดที่ถูกต้องคือ "มหาวชิราลงกรณ"
----------------------------------------------
บทเพลงเทิดพระเกียรติ | เพลง รัชกาลที่ 10 ทรงพระเจริญ
https://www.youtube.com/watch?v=RY3Q4vBYylo
หนังลุง-โนรา วัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้
เผยแพร่เมื่อ 29 ต.ค. 2017
เพลง รัชกาลที่ ๑๐ ทรงพระเจริญ
ศิลปิน : เอกชัย ศรีวิชัย
คำร้อง ทำนอง : เจษฎา เรืองนาม
ดนตรี : อ.กิตติศักดิ์ สายน้ำทิพย์
เนื้อเพลง :
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนานมิ่งขวัญชาวไทย
พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่
เป็นศูนย์รวมใจของไทยทั่วหล้า
พระจักรีวงศ์ มั่นคงคู่ไทยนานมา
องค์พระสยามเทวา ปกปักรักษาชั่วกาลนิรันดร์
พระทัยหมายมั่น สืบปณิธานพระราชบิดา
ทศพิธราชธรรมนำหน้า
เพื่อปวงประชาชาติไทยเรานั่น
ทุกถิ่นใกล้ไกล พระทรงห่วงใยทั่วกัน
สยามมกุฎราชกุมาร
ถวายสัตย์ปฏิญาณ ครองราชย์โดยธรรม
 พระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ
บดินทร เทพยวรางกูร เป็นบุญไทยล้ำ
รัชกาลที่ 10 ประหนึ่งน้ำทิพย์ ผสมแสงธรรม
ขวานทองเมื่อมองแล้วงาม
ทั้งขวานและด้าม ด้วยน้ำพระทัย
 ทรงพระเจริญ คู่ฉัตรทองและผองปวงชน
เทวาอารักษ์เบื้องบน ต่างช่วยดล มนต์ทิพย์มาให้
เถลิงถวัลยราชสมบัตินานไกล
ปวงข้าถวายพรชัย ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ
พระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ
บดินทร เทพยวรางกูร เป็นบุญไทยล้ำ
รัชกาลที่ 10 ประหนึ่งน้ำทิพย์ ผสมแสงธรรม
ขวานทองเมื่อมองแล้วงาม
ทั้งขวานและด้าม ด้วยน้ำพระทัย
ทรงพระเจริญ คู่ฉัตรทองและผองปวงชน
เทวาอารักษ์เบื้องบน ต่างช่วยดล มนต์ทิพย์มาให้
เถลิงถวัลยราชสมบัตินานไกล
ปวงข้าถวายพรชัย ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ
----------------------------------------------
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
sithiphong
.
.
.*****************************.
.
.
ที่มา และ โพสโดย Dhamarich Thunyhaboarvorn
โพสลงกลุ่ม เรารักสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี
26 กรกฎาคม 2566
.
ทรงทำ
๐ ทรงทำตามกฎบัญญัติอยู่ทุกอย่าง
ไม่เคยอ้างเอานามความเป็นกษัตริย์
เพื่อแสวงผลกำไรในอานัติ
#ธรรมฤทธิ์
#ประชาสาส์น
#เรารักในหลวง
#เรารักพระเทพ
#เทิดทูนจักรีวงศ์
#เรารักพระราชินี
#เรารักราชวงศ์จักรี
#เรารักพระพันปีหลวง
.
.
.

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version