คลังธรรมปัญญา > ระบาย พรรณาด้วย ฉันทลักษณ์ กาพย์กลอน (อิสระ)
หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
ฐิตา:
๏ ถ้าแม้นว่าข้าศึกมันโจมจับ
จะรบรับสารพัดให้ขัดสน
เอาปี่เป่าเล้าโลมน้ำใจคน
ด้วยเล่ห์กลโลกาห้าประการ
คือรูปรสกลิ่นเสียงเคียงสัมผัส
เกิดกำหนัดลุ่มหลงในสงสาร
ให้ใจอ่อนนอนหลับดังวายปราณ
จึงคิดอ่านเอาไชยเหมือนใจจง ๚
“ถึงการเล่นเป็นที่ประโลมโลก ได้ดับโศกสูญหายทั้งชายหญิง”
“แล้วพาไปยอดเขาให้เป่าปี่ ที่อย่างดีสิ่งใดก็ได้สิ้น
แต่เสือช้างกลางไพรถ้าได้ยิน ก็ลืมกินน้ำหญ้าเข้ามาฟัง”
“อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป ย่อมใช้ได้ดั่งจินดาค่าบุรินทร์
ถึงมนุษย์ครุฑาเทวราช จตุบาทกลางป่า พนาสิน
แม้ปี่เราเป่าไปให้ได้ยิน ก็สุดสิ้นโทโสที่โกรธา
ให้ใจอ่อนนอนหลับลืมสติ อันลัทธิดนตรีดีหนักหนา
ซึ่งสงสัยไม่สิ้นในวิญญาณ์ จงนิทราเถิดจะเป่าให้เจ้าฟัง”
ขอบคุณ น้องwondermay นะคะ..
ฐิตา:
สัมผัสจินต์
ปลายนิ้ว สัมผัสจิต สนิทแล้ว ซึ่งมิตรแท้
กิ่งธรรรมชูก้านเชิด ผลิใบ รับแสงแห่งความดี
ธรรมะศรัทธาพร้อม น้อมเกล้ารับ ผ่องใสดั่งแก้วเก้า
โยนิโสมนสิการ จริตค้อม วางแล้ว ซึ่งใจความ...
รจนาโดย.. บอลคุง
~กาลใด กาลนั้น นิรันดร์หา
กาลจิต กัลยา นิรันดร์หมาย
กาลมั่น การเหมาะ นิรันดร์กาย
กาลเฉพาะ การธรรม นิรันดร~
บอลคุง
พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
: กฤษณาสอนน้องคำฉันท์)
¸.••.¸ღ¸☆.¸.••.¸.••.¸ღ¸☆°°•••°°°°▪°•°
***นึกถึง......ความตาย....สบายนัก
มักหักรัก.....หักหลง.....ในสงสาร
บรรเทามืด..โมหันธ์......อันธการ
ทำให้หาญ..หายสะดุ้ง..ไม่ยุ่งใจ.....
***บุญเป็น........ที่พึ่ง......ถึงชาติหน้า
บุญนำพา......เป็นสุข.....ทุกสถาน
บุญเป็นหลัก..ถึงมรรค...ผลนิพพาน
บุญบันดาล....สารพัด....สวัสดี
***เช้าเห็นหน้ากันอยู่....สายตาย
สายยังอยู่สบาย........บ่ายม้วย
บ่ายยังรื่นเริงกาย.......เย็นดับ ชีพนา
เย็นยังหยอกลูกด้วย..ค่ำม้วย มรณา
ผู้ทรงความดี
***เหมือนโลก...ความอบอุ่น...ถูกหมุนกลับ
แสงเทียนดับ...วูบแล้ว.......แววไสว
มืดไม่มี............แสงสว่าง...ฉายทางใด
มีเพียงใจ.........ช้ำช้ำ.........กับน้ำตา......
***เมื่อท่านอยู่.....อยู่อย่าง....ผู้สร้างเสริม
จากจึงเพิ่ม......โศกให้......อาลัยหา
สิ้นท่านแล้ว.....สิ้นแสง.....แห่งดารา
เราต่างมา........น้อมไหว้...ไม่เสื่อมคลาย.....
***อันดีชั่ว.........ตัวตาย..........เมื่อภายหลัง
ชื่อก็ยัง..............คงอยู่...........มิรู้หาย
เหมือนดวงตรา...ตอกประทับ...ติดกับกาย
เป็นเครื่องหมาย..บอกทั่ว.....ทุกตัวคน.....
***ส่วนความดี.......ที่ท่านทำ.....ประจำชีพ
ดังประทีป........ส่องสว่าง...กลางเวหน
ท่านทำดี.........ดีสนอง.......เป็นของตน
ถึงวายชนม์......ชื่ออยู่.........คู่โลกา........
Thepthat Wanpean G+
Shared publicly - Mar 23, 2015
¸.••.¸ღ¸☆.¸.••.¸.••.¸ღ¸☆°°••***..¸.••.*°
ฐิตา:
~ ยาก.. " ไร้ ".. จริงหนอ...
*ไร้ตนอัตตา
ไร้เสาะแสวงหา
ไร้มายาแฝง
ไร้ตัณหาเกาะ
ไร้รูปสำแดง
ไร้ยึดไร้แย้ง
ไร้กามผูกพัน
*~ ยาก.. " ไร้ ".. จริงหนอ...
เกิดก่อระย่อ
ท่าวทบดับพลัน
ตัดขาดตัณหา
มายาห่างหัน
ตาย - เป็น... สำคัญ ?
ฉะนั้นไฉน ?
โดย.. อักษราภรณ์
24 ก.ย. 2008
ดอกโมกเอยโมกขธรรมล้ำเลิศค่า.....ปรารถนาโมกข์หมายปลายทางถึง.....
อัฏฐังคิกมรรคไม่หย่อนตึง.....โมกน้อยดอกหนึ่งเริ่มแย้มบาน.....
โดย.. อักษราภรณ์
ฐิตา:
ใดใดในโลก ล้วน อนิจจัง
คงแต่บาปบุญ ยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัว ตรัง ตรึงแน่น
ตามแต่บาปบุญ แล ก่อเกื้อรักษา
ชีวิตเรา จะเอา อะไรแน่
ย่อมแปรผัน เปลี่ยนจิต และนิสัย
ชั่วอาจดี มีอาจจน วนเวียนไป
เอาอะไร ได้แน่ แก่ตัวตน
ชั่วดีดั่งเงา
อันดีชั่ว ย่อมติดตัว ดั่งเช่นเงา
จะหนักเบา หนาบาง ใครบ้างเห็น
คงเกาะกุม เหนียวแน่น ค่ำเช้าเย็น
เงาย่อมเป็น ส่วนหนึ่ง ซึ่งตัวตน
บ้างเกิดมา รูปงาม นามพร้อมสรรพ
อีกทั้งทรัพย์ สมบัติมี เสียมากล้น
สมฐานะ ที่ได้ เกิดเป็นคน
แต่ชอบกล หน้าตา ดีกว่าใจ
จะพูดจา วาจา ก็กระด้าง
ทั้งท่าทาง อวดอ้าง วางท่าใหญ่
จะทำ จะพูด ซึ่งสิ่งไร
เกิดจากใจ อกุศล ที่ตนมี
อันมนุษย์ ชั่วดี ใช่เพราะทรัพย์
รูปร่าง อัปลักษณ์ ก็ใช่ที่
กิริยา วาจา ท่าทางดี
ย่อมเป็นศรี บ่งบอก ช่วยบอกตน
จงสร้างเถอะ คุณงาม ความดี
จะเป็นศรี ติดตัว ไปทุกหน
อันชั่วดี ดั่งเงา ติดตัวตน
ดั่งคำคน ว่าไว้ แต่นานมา
Posted by.. ปรัชญาชนบท
เป็นผู้น้อย. คอยระวัง. อย่างผู้น้อย.
สำรวมถ้อย. กิริยา. อัชฌาศัย.
จะยืนเดิน. นั่งนอน. อ่อนตามวัย.
สมสมัย. พองาม. ตามแบบไทย.
เป็นผู้น้อย. ไม่ระวัง. อย่างผู้น้อย.
ทำเลิศลอย. เกินงาม. ล้ำสมัย.
การกินอยู่ หรูหรา. กล้าเกินวัย.
จะเป็นภัย. เดือดร้อน. ตอนแก่เอย.
ดอกบัว ปริ่มน้ำ - Google+
Shared publicly - Oct 15, 2015
๓๓. แต่เอ๋ยแต่นี้ เป็นหมดที่ใฝ่จิตริษยา
เป็นหมดที่อุปถัมภ์คิดนำพา เป็นนับว่า "อโหสิกรรม" กัน
เขาจะมีดีชั่วติดตัวไป เป็นวิสัยกรรมแต่งและแสร้งสรร
เรารู้ได้แต่ปวัตน์ปัจจุบัน ซึ่งทิ้งอยู่คู่กันกับนามเอย
>>กลอนดอกสร้อยรำพึงฯ
..
..
กลอนดอกสร้อยสุภาษิต
ร้องรำวิลันดาโอด
ตุ๊ดเอยตุ๊ดตู่ ในเรี่ยวในรูช่างอยู่ได้ ขี้เกียจหนักหนาระอาใจ มาเรียกให้กินหมากไม่อยากคบ ชาติขี้เกียจเบียดเบียฬแต่เพื่อนบ้าน การงานสักนิดก็คิดหลบ ตื่นเช้าเราจะหมั่นประชันพลบ ไม่ขอพบขี้เกียจเกลียดนักเอย ฯ
สายลมที่หวังดี:
ทั้งภาพทั้งบทความ เข้ามาแล้วเย็นตาเย็นใจ อยากพักอยู่ตรงนี้นานๆ ขอบคุณนะค่ะพี่แป๋ม :yoyo072:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version