ผู้เขียน หัวข้อ: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง  (อ่าน 10191 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด


ฮยากุโจและหมาป่า
โกอาน


  เมื่อใดที่ท่านฮยากุโจไขปริศนาเซน จะมีชายชราร่วมฟังอยู่ในหมู่สงฆ์ด้วย และจะกลับพร้อมกับเหล่าพระสงฆ์  แต่วันหนึ่ง เขายังรออยู่ ท่านอาจารย์จึงถามว่า “เธอเป็นใคร?” ชายชราจึงตอบว่า  “กระผมไม่ใช่มนุษย์ ในอดีตสมัยของกัสสปพุทธเจ้า กระผมเป็นประธานสงฆ์ของวัดนี้

ครั้งหนึ่งมีพระองค์หนึ่งถามว่า “ผู้ตรัสรู้แล้วตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผลหรือไม่?”  กระผมตอบว่า “ไม่
เพราะคำตอบนี้ กระผมต้องกลายเป็นหมาป่าอยู่ ๕๐๐ ชาติ ได้โปรดช่วยกระผมด้วย โปรดพูดแก้ชะตาของกระผม
ช่วยกระผมให้พ้นจากร่างหมาป่าด้วยเถิด” แล้วชายชราจึงพูดกับท่านฮยากุโจว่า

“ผู้ตรัสรู้แล้ว ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผลหรือไม่?”
ท่านอาจารย์ตอบ “พวกเขาไม่ละเลยกฎ” เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็รู้แจ้งทันที


ทำความเคารพท่านฮยากุโจแล้วพูดว่า “กระผมเป็นอิสระจากร่างของหมาป่าแล้ว ซึ่งอยู่หลังเขาลูกนี้  ขอความกรุณาท่านช่วยฝังสรีระอย่างสรีระพระภิกษุรูปหนึ่งด้วยเถิด” ท่านจึงประกาศต่อพระภิกษุว่า จะมีการฝังสรีระพระภิกษุหลังอาหารเพล  เหล่าพระภิกษุพากันสงสัย จึงพากันถามว่า “พวกเราทุกคนสบายดี ไม่มีใครอาพาธ นี่มันเรื่องอะไรกัน ?”

            ภายหลังอาหารเพล ท่านจึงนำพระไปที่ก้อนหินหลังเขา ค้นหาซากหมาป่า แล้วก็ฝัง

ตอนเย็นท่านจึงขึ้นนั่งในที่สูงแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้พระฟัง  โอบากุจึงถามว่า “ท่านพูดว่า ท่านผู้เฒ่าตอบผิดและต้องกลายเป็นหมาป่าถึงห้าร้อยชาติ ทีนี้หากแต่ละครั้งท่านเกิดตอบไม่ผิด ท่านจะเป็นอย่างไร?” ท่านอาจารย์ตอบ “เข้ามาใกล้ๆฉัน แล้วฉันจะตอบเธอ”  โอบากุจึงเข้าไปใกล้ๆ และตบหน้าอาจารย์หนึ่งครั้ง ท่านอาจารย์หัวเราะเสียงดัง ปรบมือ แล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าเคราของชาวต่างชาติมีสีแดง  แต่เป็นชาวต่างชาติ(๑) พร้อมเคราสีแดง”




คำวิจารณ์ของมูมอน
“ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล”  ทำไมถึงต้องกลายเป็นหมาป่า ?
ไม่ละเลยกฎ” ทำไมถึงคืนจากร่างของหมาป่า ?
ถ้าเธอมีดวงตาที่เห็นแจ้งแทงตลอดเรื่องนี้ เธอจะรู้ว่า ประธานสงฆ์องค์ก่อนของวัดนี้
มีชีวิตที่เปี่ยมสุขแม้ในร่างหมาห้าร้อยปี


บทร้อยกรองของมูมอน
ไม่อยู่ภายใต้, ไม่ละเลย   คู่และคี่ อยู่ที่ลูกเต๋าเดียวกัน
ไม่ละเลย, ไม่อยู่ภายใต้   นับร้อยพันความเสียใจ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2017, 10:21:49 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2011, 06:46:29 am »

ไขปริศนา  โกอาน 

โกอานนี้เรียกว่า นันโตะโกอาน ใช้ขัดเกลาสติปัญญาแห่งเซนของเหล่าศิษย์หลังรู้แจ้งแล้ว ให้แหลมคมยิ่งขึ้น ขณะที่ไม่มีความแตกต่างระหว่างโกอานยากและง่าย อาจารย์อาจใช้โกอานเดิมด้วยจุดประสงค์อื่นๆ เพื่อชี้แนะลูกศิษย์ อย่างเช่น บางโกอานใช้เพื่อเน้น เอกภาพ(๒), บางโกอานใช้แสดงแง่มุมที่แตกต่างของ เอกภาพ ,บางโกอานใช้แสดงว่า เอกภาพคือ สหภาพ  และสหภาพคือ เอกภาพ ในโกอานนี้ ทั้งสัจจะแท้และการแสดงของมัน ถักทอแน่นหนากระทั่งผู้ที่ดวงตาเห็น เซน เปิดชัดแจ้งแล้วเท่านั้นจึงจะเข้าใจความหมายได้ ในนันโตะโกอานนี้ บุรุษเซนที่แท้จึงจะเข้าใจเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดตามกฏแห่งกรรมได้  การเกิดตายเป็นความเชื่อมีมาแต่อินเดียแล้ว ประเด็นหลักของโกอานคือ ให้ศิษย์เซนเห็นแจ้งว่า ความหลุดพ้นที่แท้นั้นเป็นอย่างไร และเรื่องผีสางก็แค่ใช้เพื่อแสดงเรื่องนี้ เราจึงไม่ควรหลงประเด็น

ชาวอินเดียแต่โบราณเชื่อว่า หากมีอวิชชาก็คงวนเวียนเกิดตายแล้วแต่บุญบาป พุทธศาสนานำมาใช้โดยมีพื้นฐานที่กฏแห่งเหตุและผล และสอนต่อไปว่า เราควรปฏิบัติตามคำสอนเพื่อตื่นสู่สัจจะ นี่เป็นทางเดียวที่จะลุถึงศานตินิรันดรได้

             

ความจริงแห่งเหตุและผลช่างกระจ่างแจ้งจนยากปฏิเสธ  ไม่มีสิ่งใดในโลกจะอยู่นอกกฏแห่งเหตุและผล ทุกขณะทุก”สิ่ง”ก็เป็นเหตุด้วย นอกจาก”สิ่ง” นี้ก็ไม่มีฉันและโลก ประเด็นอยู่ที่นี่ บุรุษผู้บรรลุอิสรภาพที่แท้ย่อมอยู่อย่างสงบในทุกเหตุและผลที่เกิดขึ้น  ไม่ว่าสถานการณ์จะน่าพึงใจหรือไม่ก็ตาม เขาอยู่อย่างที่ทั้งตัวตนของตนเองก็เป็นสถานการณ์หนึ่งด้วย เป็นเหตุแห่งผลด้วย  ไม่แบ่งแยกสถานการณ์แบบทวิลักษณ์ จิตใจไม่หวั่นไหวไปกับสถานการณ์ภายนอก เมื่อเขาอยู่อย่างนี้ เขาก็เป็นนายแห่งเหตุและผล และทุกสิ่งล้วนดีงามตามที่เป็น ศานตินิรันดร เกิดขึ้นอย่างนี้ นี่เป็นปิติสุขเต็มเปี่ยมที่เกินกว่าถ้อยคำใดๆจะบรรยายได้ ที่บุรุษแห่งเซนได้ส้องเสพ เราพูดได้ คล้ายกับอาจารย์แต่โบราณ แต่เพียงว่า “ผู้รู้ไม่พูด  ผู้พูดไม่รู้”

อะไรคือชายชราผู้นั้น?  อะไรคือไฮยากุโจ? ไม่ใช่ทั้งคน ไม่ใช่ทั้งหมาป่า อะไรก็ตาม เป็นเคียงแค่  “มัน”  อะไรก็ตามเป็นเพียงแค่เหตุปัจจัย(และผล) เราจะพูดอะไรได้อีก?

โมนจุ โชเซทสุ(คัมภีร์เล่มหนึ่ง) กล่าวว่า “คนมีความคิดนอกลู่นอกทาง ไม่ตกกระทะทองแดง” ที่นี้สมบูรณ์แท้  ไม่มีนรกกระทะทองแดงที่ไหนเลย และยังกล่าวต่อไปว่า “นักบุญก็ไม่ขึ้นสวรรค์” ที่นี่สมบูรณ์แล้ว  ไม่มีสวรรค์ที่ไหนอีก เมื่อทั้งจักรวาลเป็นเหตุปัจจัยแล้ว มันจะมี”ตกอยู่ภายใต้”  “ไม่ตกอยู่ภายใต้” ได้อย่างไร?  เธออาจพูดได้อย่างถูกต้องว่า “ไม่อยู่ภายใต้”  หรือ “ไม่ละเลย”  ก็ได้  ถ้าความคิดเกิดขึ้น  “ไม่อยู่ภายใต้,” “ไม่ละเลย”  ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้น ความผิดเพี้ยนแม้เพียงเล็กน้อย ทำให้เกิดความแตกต่างที่สำคัญเท่าชีวิตได้  ขั้วทั้งสองแยกห่างกัน และเธอก็กลายร่างเป็นหมาป่า และตกกระทะทองแดง

เธออาจพูดว่า “ไม่ละเลยกฎแห่งเหตุและผล”  หากความคิดแยกแยะเกิดขึ้นและเธอยึดติดกับคำว่า “ไม่ละเลย” เธอก็กลายเป็นหมาป่า   เธออาจพูดว่า “ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล” และเธอก็ไม่ยึดติดกับมัน เธอก็เป็นอิสระจากร่างของหมาป่า สาระของโกอานนี้จะรู้ได้เมื่อเข้าถึง”ไม่มีจิต”  จึงไม่มีทวิลักษณ์ระหว่าง “ไม่อยู่ภายใต้”และ  “ไม่ละเลย” ไม่ว่าบุคคลเป็นคนดีส่วนผู้อื่นไม่  เมื่อแทงทะลุและอยู่เหนือ “อยู่ภายใต้”,”ละเลย”

บางทีฉันพูดประเด็นนี้มากพอแล้ว  ดังนั้นกลับสู่รายละเอียดของโกอานต่อไป



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 03, 2014, 01:16:01 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2011, 07:06:53 am »



การกล่าวถึงสมัยพระกัสสปพุทธเจ้าแสดงว่า เรื่องนี้เกิดนานมาแล้ว  พระกัสสปพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่หก พระศากยมุนีพุทธเจ้าเป็นองค์ที่เจ็ดแห่งกัลป์นี้ ครั้งนั้น ชายชราเป็นประธานสงฆ์แห่งวัดนี้

ท่านอาจารย์เอไก รู้จักทั่วไปในชื่อ ไฮยากุโจ ตามชื่อภูเขาที่ท่านอาศัยอยู่ ท่านมีชีวิตอยู่ ๙๕ ปีในสมัยราชวงศ์ถัง  ซึ่งเป็นสมัยที่เซนกำลังรุ่งเรือง และมีบทบาทในวัฒนธรรมจีน จึงมีความจำเป็นต้องมีกฎวินัยในวัดเซน เป็นที่รู้กันดีในเซนว่า ไฮยากุโจเป็นผู้ตั้งกฎข้อแรก ซึ่งภายหลังเรียกว่า “กฎของไฮยากุโจ”  ท่านใช้ชีวิตเซนอย่างขยันขันแข็ง และสร้างสรรค์ ใช้แรงงานร่วมกับพระทั้งหลายแม้จะชรามากแล้ว และมีชื่อเสียงกับคติพจน์ “ วันไหนไม่ทำงาน ก็ไม่ต้องกิน

ท่านเกิดในฟูชูกุ ในประเทศจีน ออกบวชเมื่อเยาว์วัยและได้เข้าเรียนปริยัติธรรม. ต่อมาได้ยินกิตติศัพท์ของท่านบะโซ ซึ่งกำลังสอนเซนในโกไซ จึงได้ศึกษาเซนอยู่กับท่านบะโซ นันเซน ฟูกัน และ เซโด ชิโซ ซึ่งต่อมากลายเป็นอาจารย์เซนที่มีชื่อเสียง ก็เป็นศิษย์อาจารย์บะโซในสมัยนั้นเช่นกัน ทุกท่านล้วนแต่ปฏิบัติอย่างหนักทั้งสิ้น

            วันหนึ่ง ขณะที่ท่านไฮกำลังเดินอยู่กับอาจารย์บะโซ  ห่านป่าตัวหนึ่งกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า  ท่านบะโซจึงถามว่า “นั่นอะไร?”  ท่านไฮยากุโจตอบว่า “ห่านป่าครับท่าน” ท่านบะโซจึงถามต่อไปว่า “มันบินไปไหน?”  ท่านไฮยากุโจตอบว่า  “มันไปแล้ว”  ทันใดนั้น ท่านบะโซบีบจมูกท่านไฮยากุโจไว้แน่น แล้วบิดอย่างแรง ท่านไฮยากุโจร้องด้วยความเจ็บปวด ท่านบะโซจึงถามว่า “ท่านบอกว่า มันบินไปแล้ว ใช่ไหม?”  ทันใดนั้น ท่านไฮยากุโจก็ตื่นขึ้น

            หลายปีต่อมาท่านไฮยากุโจได้ทดสอบธรรมกับท่านบะโซ หลังจากผ่านการสนทนาธรรมเรื่องแส้ปัดยุงที่แขวนอยู่ ท่านบะโซตะโกนเสียงดัง ซึ่งนี่เป็นการปลุกท่านไฮยากุโจสู่การรู้แจ้งอย่างสมบูรณ์
            สองเรื่องนี้เป็นที่รู้จักกันดีในประวัติศาสตร์เซน คนจำนวนมากมาศึกษากับท่าน ต่อมาได้รับนิมนต์ไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบนภูเขาไดยุในโกชู ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า วัดไฮยากุโจ มีพระภิกษุเป็นศิษย์ท่านมากมาย รวมทั้ง อีซาน ไรยุและ โอบากุ คิอุนด้วย ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. ๑๓๕๗  รวมอายุได้ ๙๕ ปี


            ท่านอาจารย์โอบากุ(ฮวงโป)  เกิดในฟุกุชุ  ออกบวชตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ในวัดเซนในฟุกุไซเกนในฟุกุชุ ท่านมีชื่อว่า  โอบากุซาน เคมปุกุจิ (โอบากุ เป็นชื่อของไม้ชนิดหนึ่งใช้ย้อมผ้า  ขึ้นดกดื่นใกล้วัดที่ท่านอยู่)  ภายหลัง ผู้ว่าฯ ไฮเกียวศิษย์ของท่านได้สร้างวัดถวายในโกชู   คิอุนซึ่งรักชนบทที่ท่านอยู่มาก เรียกวัดของท่านว่า  โอบากุซาน และชื่อของท่านก็กลายเป็น โอบากุ  ท่านเขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ เดนชิน โฮโย ซึ่งแสดงถึงลักษณะแห่งเซนของท่าน

            เมื่อท่านยังท่องเที่ยวศึกษาปริยัติธรรมในพุทธศาสนานั้น ท่านได้ยินกิตติศัพท์ของท่านไฮยากุโจ จึงมาเป็นศิษย์ มีบันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อท่านไปเยี่ยมนันเซน ขณะกำลังลากลับ   นันเซนซึ่งมาส่งที่ประตู ยกหมวกของโอบากุขึ้นแล้วกล่าวว่า “ตัวท่านใหญ่ แต่หมวกกลับเล็ก  จริงหรือไม่? “ โอบากุตอบว่า “แต่ทั้งจักรวาลกลับอยู่ใต้มัน”  นันเซนจึงพูดต่อว่า “รวมทั้งฉันด้วย ใช่ไหม?”  เมื่อได้ยินเช่นนั้น โอบากุก็เดินจากไปโดยไม่เหลียวกลับมาแม้แต่เพียงครั้งเดียว   รู้กันทั่วไปถึงร่างอันใหญ่โตของท่าน

            วันหนึ่ง ไฮยากุโจถามโอบากุว่า  “เธอไปไหนมา?”  “ผมไปเก็บเห็ดที่เชิงเขามา”  โอบากุตอบ  “แล้วเธอเจอเสือหรือเปล่า?”   เมื่อได้ยินคำถามดังนั้น  โอบากุจึงคำรามเสียงดัง  โอบากุกลายเป็นเสือไปแล้ว  ไฮยากุโจแกว่งขวานหมายฟันท่าน แต่ท่านโอบากุจับแขนไว้ ตบหนึ่งที แล้วจากไปพร้อมเสียงหัวเราะทั้งจิตใจ ต่อมาเมื่อมีถึงรายการแสดงธรรม  ท่านไฮยากุโจขึ้นแสดงธรรม “มีเสือตัวหนึ่งที่เชิงเขา ควรระวังกันให้ดี  วันนี้ฉันถูกเขา(๓)กัดครั้งหนึ่ง



ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2011, 01:07:09 pm »


            มีบันทึกว่า เซนของท่านโอบากุดูสดใสมีชีวิตชีวา เหมือนแสงเรืองรองของดวงประทีปส่องประกายฉายฉานไปรอบๆ  ด้วยบุคคลิกที่ยิ่งใหญ่ เข้มงวด ละเอียดรอบคอบ ของท่านมีอิทธิพลต่อวงการเซนในสมัยนั้นอย่างใหญ่หลวง ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. ๑๓๙๓ ห้าปีภายหลังการทำลายล้างพุทธศาสนาโดยจักรพรรดิบูโซแห่งราชวงศ์ถัง

            บุรุษผูตรัสรู้แล้ว  คือผู้ผ่านการฝึกเซนและรู้แจ้งแล้ว  เป็นผู้ตรัสรู้ พบความหลุดพ้น บรรลุศานติที่แท้จริง ไม่ตกอยู่ภายใต้ผลของกรรมและการเวียนเกิดตายอีกต่อไป อิสรภาพจากกฎแห่งเหตุและผล เป็นเป้าหมายสูงสุดแห่งการปฏิบัติในพุทธศาสนามหายาน นี่เป็นความจริงที่ชัดเจน ไม่ต้องถกเถียงกันอีก ทีนี้ประธานสงฆ์องค์ก่อนพูดตรงชัดเจนแจ่มแจ้ง “ผู้ตรัสรู้แล้ว  ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล” ทำไมเพราะพูดอย่างนี้จึงต้องกลายร่างเป็นหมาป่าตั้งห้าร้อยชาติ  อิสรภาพจากผลของกรรมคืออะไร สัจจะแห่งเซนอยู่ที่นี่    แน่นอนว่าคำสอน”ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล” ต้องทำให้บุคคลกลายร่างเป็นหมาป่า  เว้นเสียแต่ท่านจะรู้ว่า สัจจะที่แท้เป็นอย่างไร

            เมื่อชายชราพูดว่า “บัดนี้ ได้โปรดช่วยกระผมด้วย โปรดพูดแก้ชะตาของกระผมช่วยกระผมให้พ้นจากร่างหมาป่าด้วยเถิด” ไฮยากุโจตอบในทันทีว่า ““พวกเขาไม่ละเลยกฎ” (คำกล่าวแก้คือคำที่นำจิตกลับสู่สัจจะและปลุกจิตสู่การตรัสรู้  การแสดงออกเพียงอย่างเดียวของสัจจะ)
            แปลความหมายตามตัวหนังสือ คำตอบของไฮยากุโจหมายความว่า “บุคคลผู้ตรัสรู้แล้ว ไม่ละเลยกฎแห่งเหตุและผล แต่มีชีวิตอยู่สอดคล้องกับมัน “ มันตรงข้ามกับ “ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎ” ทำไมท่านไฮยากุโจจึงกล้าตอบปฏิเสธอย่างนั้น ซึ่งแย้งคำสอนของมหายานที่สอนให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด และดูเหมือนสนับสนุนการเวียนว่ายตายเกิด  ที่นี่ เป็นอีกครั้งที่เราควรค้นให้พบความหมายที่พูดไม่ได้ แสดงออกไม่ได้

            อาจารย์ของฉันเคยพูดถึงโกอานนี้ไว้ว่า  “น่าเกลียดอะไรเช่นนั้น”  ท่านกล่าว “ถ้าถามฉัน ฉันจะพูดขึ้นเสียงดัง แล้วตอบว่า “พวกเขาไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล”” อาจารย์ตอบจากหลักการไหน?  ฉันอยากพูดว่า  “ไม่อยู่ภายใต้”, “ไม่ละเลย”  แตกต่างกันอย่างไร ? ความขัดแย้งของคำพูดนี้ทำให้โกอานนี้เป็นโกอานที่ดีและน่าสนใจ

“เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็รู้แจ้งทันที”  ชายชรารู้แจ้งเมื่อได้ยินไฮยากุโจตอบ “พวกเขาไม่ละเลยกฎ”  บุคคลย่อมทำความผิดร้ายแรงที่แก้ไขไม่ได้หากคิดว่า “ไม่อยู่ภายใต้กฎ” เป็นคำตอบที่ผิด และ “ไม่ละเลยกฎ”  เป็นคำตอบที่ถูก และเข้าใจว่า ชายชราได้เห็นแจ้งว่าบุคคลผู้รู้แจ้งแล้ว”ไม่ละเลยกฎ”
            ต่อถ้อยคำนี้    ชายชรารู้สึกราวกับทั้งจักรวาลถล่มทลาย ไม่มีทั้งชายชราและหมาป่า  “ไม่อยู่ภายใต้”,    “ไม่ละเลย”  ถูกกวาดออกไปจากใจของท่านจนหมดสิ้น ไม่มีอะไรเหลืออยู่ในใจของท่าน ท่านตื่นสู่การตรัสรู้แล้ว  ถ้าใครยึดมั่นกับคำนี้  “ไม่ละเลย” ก็มีค่าเท่ากับ “ไม่อยู่ภายใต้”  และถ้าไม่มีอุปาทานกับคำว่า “ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล”  มันก็มีค่าเท่ากับ “ไม่ละเลยกฎแห่งเหตุและผล”

            จงฟังอาจารย์เซนแต่โบราณกล่าวไว้อย่างกล้าหาญ
                        ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล”
                        และท่านก็กลายร่างเป็นหมาป่า  ความผิดแรก
            “ไม่ละเลยกฎแห่งเหตุและผล”
            และท่านก็กลับร่างจากหมาป่า  ความผิดที่สอง

เมื่ออยู่เหนือ “ไม่อยู่ภายใต้,”และ   “ไม่ละเลย”  และมันถูกกวาดทิ้งแล้ว  จะเป็นครั้งแรกที่เธอจักได้เห็นท่านไฮยากุโจและท่านมูมอนและจับฉวยความหมายที่แท้ของโกอานนี้ได้ มันเป็นประสบการณ์อย่างไร และอยู่เหนือ  “ไม่อยู่ภายใต้,”และ   “ไม่ละเลย” เป็นอย่างไร การปฏิบัติเซนต้องมุ่งมั่นจดจ่ออยู่ที่นี่


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 03, 2014, 01:12:05 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2011, 09:07:35 pm »

        ผู้คนมักพูดบ่อยๆว่า ที่ชายชรากลายร่างเป็นหมาป่าเป็นเพราะ “ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล”  คือ ปฏิเสธกฎแห่งเหตุและผล เป็นการสุดโต่งด้านสมภาพ(๔)   ทัศนะที่ผิดเพราะแท้จริงไม่ได้เหมือน  ท่านถูกปลดปล่อยจากร่างหมาป่าเพราะ “ไม่ละเลยกฎแห่งเหตุและผล” เป็นการยอมรับกฎแห่งเหตุและผล และยอมรับความแตกต่าง(อสมภาพ)  แต่แก่นของโกอานนี้ไม่ได้อยู่ที่การแปลความแบบสามัญๆอย่างนั้น ฉันไม่ได้ปฏิเสธกฎแห่งเหตุและผล ฉันอยากให้เธอรู้ว่าเซนอยู่ในอีกมิติซึ่งเป็นอิสระในการใช้ “ไม่อยู่ภายใต้,” และ “ไม่ละเลย” 

            “ทำความเคารพท่านฮยากุโจแล้วพูดว่า “กระผมเป็นอิสระจากร่างของหมาป่าแล้ว ซึ่งอยู่หลังเขาลูกนี้  ขอความกรุณาท่านช่วยฝังสรีระอย่างสรีระพระภิกษุรูปหนึ่งด้วยเถิด” “

เมื่อหมาป่าเป็นหมาป่าโดยแท้จริง และไม่มีความคิดจำแนกแยกแยะ  ท่านก็เป็นเจ้าอาวาสองค์ก่อนโดยแท้จริงเช่นกัน เมื่อชายชราไม่สามารถเป็นชายชราและหลงทางไปกับความคิดแยกแยะ ท่านก็เป็นหมาป่า  ท่านโดเกนกล่าวว่า  “ทันทีที่เธอบรรลุการตรัสรู้  หากเธอต้องเวียนว่ายในภูมิทั้งหก{๑. มนุสสภูมิ – ภูมิอันเป็นที่อยู่ของมนุษย์
๒. ดิรัจฉานภูมิ – ภูมิอันเป็นที่อยู่ของสัตว์
๓. อสูรกายภูมิ – ภูมิอันเป็นที่อยู่ของพวกอสูร
๔. เปตวิสัยภูมิ – ภูมิอันเป็นที่อยู่ของพวกเปต
๕. นรกภูมิ – ภูมิอันเป็นที่อยู่ของพระยายมราชและพนักงาน กับพวกวิญญานที่กำลังใช้บาป
๖. ฉกามาพจรภูมิ – ภูมิอันเป็นที่อยู่ของพวกเทวดา หรือสวรรค์ }
  มันก็ไม่เป็นอื่นนอกจากการุณยภาพแห่งการตรัสรู้

หมาป่ามีความสุขตามที่เป็น ไม่ว่าจะกลับร่างหรือไม่  ชีวิตแบบเซนเป็นอย่างนี้เอง

ไฮยากุโจจึงนำพระไปที่ก้อนหินหลังเขา ค้นหาซากหมาป่า แล้วก็ประกอบพิธีฝังตามประเพณีฝังพระภิกษุ   ไฮยากุโจไม่มีความคิดแยกแยะระหว่างพระภิกษุและหมาป่า นี่เป็นการแสดงคุณลักษณะของเซน และเรื่องก็จบอย่างน่าพอใจ
ต่อไปเป็นตอนที่สองของโกอาน การแสดงธรรมตอนเย็น ท่าน”ไฮยากุโจเล่าเรื่องให้พระฟัง แล้วจึงทดสอบเซนของลูกศิษย์ 
โอบากุจึงถามว่า “ท่านพูดว่า ท่านผู้เฒ่าตอบผิดและต้องกลายเป็นหมาป่าถึงห้าร้อยชาติ ทีนี้หากแต่ละครั้งท่านเกิดตอบไม่ผิด ท่านจะเป็นอย่างไร?”
โอบากุก้าวมายืนข้างหน้า และตั้งคำถามเจาะประเด็น  “ท่านผู้เฒ่าตอบไม่ถูกและต้องกลายเป็นหมาป่าถึงห้าร้อยชาติ ทีนี้หากแต่ละครั้งท่านเกิดตอบถูก แต่ละครั้งที่ตอบถูกอย่างนั้นท่านจะเป็นอย่างไร?”  คำถามของท่านโอบากุหมายความว่า

 “สรรพสิ่งล้วนมีธรรมชาติแห่งพุทธะ สิ่งใหญ่ก็เป็นพุทธะใหญ่  สิ่งเล็กก็เป็นพุทธะเล็ก  ทุกสิ่งตามที่มันเป็นล้วนรู้แจ้ง(ตรัสรู้)  ทุกสิ่งตามที่เป็น ล้วนเป็นสัจจะ  ไม่มีทางจะหลงทางหรือผิดพลาด
คำถามอยู่ในคำตอบ คำตอบอยู่ในคำถาม”  เป็นคติพจน์เก่าแก่  โอบากุสะกิดสะเกาท่านไฮยากุโจ  เปิดเผยประเด็นหลักของเรื่องนี้


ท่านอาจารย์ตอบ “เข้ามาใกล้ๆฉัน แล้วฉันจะตอบเธอ”  โอบากุจึงเข้าไปใกล้ๆ และตบ(หน้า)อาจารย์หนึ่งครั้ง 
ไฮยากุโจ  ผู้เป็นอาจารย์เป็นนักเลงโดยแท้จริง และรู้ถึงจิตใจของศิษย์อย่างดี  ท่านโอบากุไม่พอใจคำตอบธรรมดาๆแน่ๆ  จึงพูดว่า “เข้ามาใกล้ๆ แล้วฉันจะตอบเธอ” โฮบากุก็รู้ดีว่าตอบด้วยคำพูดไม่ได้  ดังนั้นเมื่อเข้าใกล้ไฮยากุโจ จึงตบหน้าท่านหนึ่งที,  นี่หมายความว่า “คำตอบของท่าน  กระผมให้ท่าน? ” มหัศจรรย์โดยแท้คือความยิ่งใหญ่ของไฮยากุโจ  วิเศษโดยแท้คืออิสรภาพของท่านโฮบากุ อาจารย์และศิษย์อยู่ในมิติเดียวกัน  และที่นี่งานของเซนก็เกิดขึ้น  ควรจับจุดนี้ให้ได้
 
“ท่านอาจารย์หัวเราะเสียงดัง ปรบมือ แล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าเคราของชาวต่างชาติมีสีแดง  แต่มันเป็นชาวต่างชาติพร้อมเคราสีแดง” “
ไฮยากุโจยิ้มด้วยความร่าเริง เพราะการกระทำอันยิ่งใหญ่ของลูกศิษย์ ซึ่งแสดงว่าท่านไม่ยอมเป็นรองอาจารย์ของตน(?)  อาจารย์ปรบมือเสียงดังและพูดพร้อมหัวเราะร่วน “ฉันคิดว่าเคราของชาวต่างชาติมีสีแดง  แต่มันเป็นชาวต่างชาติพร้อมเคราสีแดง” อาจพูดต่างกัน แต่ความหมายเหมือนกัน หมายความว่า “ฉันกำลังจะตบหน้าเธอ  แต่เธอกลับตบหน้าฉัน” จิตใจของท่านอาจารย์และศิษย์เหมือนกระจกเงา  สะท้อนซึ่งกันและกัน อัจฉริยะย่อมเข้าใจอัจฉริยะ นี่คือความเข้าใจ,ซาบซึ้งใจที่แท้  ทั้งคู่เป็นอัศวินผู้ยิ่งใหญ่   จุดจากหมึกเดียวกัน  ขณะนั้น เท่ากับท่านไฮยากุโจยอมรับการบรรลุของโอบากุแล้ว


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2017, 11:33:42 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ แปดคิว

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 797
  • พลังกัลยาณมิตร 389
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.blogger.com/home
Re: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2011, 09:44:54 pm »
 :46: :46: :45:
*8q*

ก่อนเกิดใครเป็นเรา
เมื่อเกิดแล้วเราเป็นใคร

สิ่งที่ทำอยู่คือกรรมใหม่
ผลที่ได้รับคือกรรมเก่า

ฟังในสิ่งที่ไม่ได้ยิน
มองในสิ่งที่ไม่เห็น
ทำในสื่งที่ไม่มี   

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2011, 10:09:03 am »


ฉันขอถามท่านอีกครั้งที่นี่  “ ถ้าคำตอบไม่ผิด แต่ละครั้ง
เขาจะกลายเป็นอะไร?”
ไขปริศนา คำวิจารณ์ของท่านมูมอน
ท่านมูมอนวิจารณ์  “ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล” 
ทำไมถึงต้องกลายเป็นหมาป่า ?

“ไม่ละเลยกฎ” ทำไมถึงคืนจากร่างของหมาป่า ?
ถ้าเธอมีดวงตาที่เห็นแจ้งแทงตลอดเรื่องนี้
เธอจะรู้ว่า ประธานสงฆ์องค์ก่อนของวัดนี้มีชีวิตที่เปี่ยมสุข
แม้ในร่างหมาห้าร้อยปี
ด้วยคำวิจารณ์ยืดยาว ท่านมูมอน
สรุปความหมายของโกอานด้วยสองส่วน
ท่านฉลาดอย่างเด่นชัดในเรื่องจับหัวใจของเรื่องเพื่อลูกศิษย์

  ประเด็นแรก ทำไมประธานสงฆ์องค์ก่อนจึงกลายเป็นหมาป่า เมื่อตอบว่า บุคคลผู้ตรัสรู้แล้วไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล แล้วจึงถามเพื่อตรวจสอบ “ทำไมท่านคืนร่างจากหมาป่าเมื่อตอบว่า บุคคลผู้ตรัสรู้แล้วไม่ละเลยกฎ?” กล่าวกันแต่โบราณว่า แก่นของเซนอยู่ที่คำถามว่า “ทำไม?” ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น  ฉันขอถาม  โดยแท้จริงแล้ว ไม่มี ตกอยู่ภายใต้  ไม่มีกลับคืนร่าง จากจุดยืนนี้ อะไรที่กลับคืนจากร่างของหมาป่า ? และเป็นอะไรที่มีชีวิตอย่างหมาป่า ?  เราต้องสืบสวนที่จุดนี้ให้ละเอียดยิบ  ท่านมูมอนถามเราให้กวาดอุปสรรคต่างๆทิ้งให้หมด เช่นกลายร่างเป้นหมาป่า กลับคืนจากร่างของหมาป่า ฉันขอยกบทร้อยกรองของอาจารย์แต่โบราณอีกครั้ง เนื่องจากมันอาจชี้แนะแนวการศึกษาของเธอได้


            ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล”
                        และท่านก็กลายร่างเป็นหมาป่า   ความผิดแรก
           “ไม่ละเลยกฎแห่งเหตุและผล”
                        และท่านก็กลับร่างจากหมาป่า  ความผิดที่สอง
 
            มูมอนพูดว่า “ถ้าเธอมีดวงตา”  คือดวงตาแห่งธรรมะที่เห็นโดยพื้นฐานว่า พระพุทธเจ้าและสรรพสัตว์เป็นหนึ่งเดียวกัน ความบริสุทธิ์และความเศร้าหมองเป็นหนึ่งเดียวกัน  จากจุดยืนที่สมบูรณ์  ทวิลักษณ์ต่างๆถูกข้ามไป นี่คือดวงตาที่สาม  ถ้าเธอมีดวงตานี้คือดวงตาแห่งการตรัสรู้  เธอจะรู้ว่า  ห้าร้อยชาติที่ประธานสงฆ์องค์ก่อนเป็นหมาป่า ก็มีความสุขดี เมื่อชายชราเป้นชายชราอย่างเต็มที่ ชีวิตก็มีความสุขและบรรลุถึงสุขคติ  เมื่อหมาป่าอยู่เหนือตกอยู่ภายใต้ และกลับคืนร่าง”และเป็นหมาป่าอย่างเต็มที่ ชีวิตก็มีความสุขและบรรลุถึงสุขคติ  ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ห้าร้อยชาติ  แต่ความสุขนิรันดรทุกอายุและทุกที่จะเกิดขึ้น  ไม่ต้องกล่าวมากไป  คำวิจารณ์ของท่านมูมอน ตอบคำถามของโอบากุอย่างดียิ่ง 

“หากแต่ละครั้งท่านเกิดตอบไม่ผิด ท่านจะเป็นอย่างไร?” 
ไขปริศนา บทร้อยกรองของท่านมูมอน

            ไม่อยู่ภายใต้, ไม่ละเลย  คู่และคี่ อยู่ที่ลูกเต๋าเดียวกัน
            ไม่ละเลย, ไม่อยู่ภายใต้
  นับร้อยพันความเสียใจ
           
            มูมอนสรุปคำวิจารณ์ไว้ในบทร้อยกรองนี้อีกครั้ง

            จากจุดยืนของเซน
ทั้ง “ไม่อยู่ภายใต้”, “ไม่ละเลย” เป็นเพียง “มัน” (แก่นแท้แห่งเซน ไม่ว่า”มัน”จะอยู่ที่ไหน เมื่อไร “มัน”ย่อมเป็นกฎแห่งเหตุและผลในตัวมัน  ไม่มีสิ่งใดอยู่นอกเหนือไปจากสิ่งนี้ คู่และคี่อยู่ในลูกเต๋าลูกเดียวกัน  หรือเป็นสองหน้าของเหรียญเดียวกัน แต่ หากพูดว่าเป็นหนึ่งเดียวหรือเป็นความเหมือนเดิม  คนอาจยึดติดกับคำนี้   อาจจะพูดว่า  ไม่ละเลย,หรือ ไม่อยู่ภายใต้  มันก็เป็นความเสียใจนับร้อยนับพัน

ฉันขอถามเธอท้ายนี้ว่า มันเป็นชีวิตชนิดไหน ที่มีนับร้อยพันความเสียใจ? อยากจะบอกว่า แก่นของโกอานนี้อยู่ที่บรรทัดสุดท้าย (ของย่อหน้าที่ผ่านมา-ผู้แปล) หัวใจของชีวิตทีเปี่ยมสุขห้าร้อยชาติซ่อนอยู่ตรงนี้ 

เริ่มแปล วันศุกร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
แปลเสร็จ  วันอาทิตย์ที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑


[๑] ชาวต่างชาติในที่นี้หมายถึง  ท่านโพธิธรรม  เพราะท่านเป็นชาวอินเดีย
[๒] เอกภาพ   ความเป็นหนึ่งเดียว  สหภาพ  ความหลากหลาย
[๓] สังเกตว่า  ใช้คำว่า  “เขา”  กับเสือ   หมายถึงคนที่ปรีชาสามารถ ขนาดควรให้สมญาว่า เป็นเสือ
[๔] สมภาพ  ความเหมือน
[๕] หากยังยึดติดกับ ไม่ละเลย หรือ ไม่อยู่ภายใต้   ก็ต้องประสบทุกข์อีกนับร้อยนับพันครั้ง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2017, 10:33:14 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2011, 11:14:25 am »
       "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง   



๑ ด่านที่ไร้ประตู 
๒ พระพุทธองค์ทรงชูดอกบัว 
๓ พบบุรุษแห่งมรรคระหว่างทาง(เล่ม ๒) 
๔ ซุยกันเรียกตนเอง 
๕ ฮยากุโจและหมาป่า 
๖ โจชูเห็นธรรมชาติที่แท้ของสองอนาคาริก

     



ที่มา : http://www.dhamma4u.com/index.php/section-blog/63-zen/594-2009-12-08-10-24-17.html?start=4
Pics by : Google
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 03, 2014, 01:27:56 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2011, 06:28:04 pm »
 :13: อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับพี่แป๋ม
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: ด่านที่ไร้ประตู "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 10:09:35 pm »


                     

ด่านที่ไร้ประตู ลำดับการแปล ๑
ชื่อเรื่อง :เซนโจะแยกร่าง
โกอาน
โกโสะถามพระรูปหนึ่ง  “ เซนโจะและวิญญาณของเธอแยกจากกัน  อันไหนเป็นของจริง ?

คำวิจารณ์ของมูมอน
       ถ้าคุณรู้แจ้งถึงโกอานบทนี้  คุณจะรู้ว่าการออกจากเครื่องหุ้มกายอันหนึ่งแล้วก็หาอันใหม่มันก็เหมือนกับนักท่องเที่ยวชอบพักชั่วคราวตามโรงแรม  ถ้าคุณยังไม่รู้แจ้ง  ก็อย่ารีบร้อนอย่างคนตาบอด เมื่อธาตุทั้งสี่เสื่อมสลายอย่างฉับพลัน  คุณจะเป็นเหมือนปูถูกโยนใส่น้ำร้อน  ดิ้นรนด้วยแขนทั้งเจ็ดและขาทั้งแปด อย่าพูดว่าฉันไม่เคยเตือนคุณ

  บทร้อยกรองของมูมอน
    ความเหมือนอยู่นี่  ดวงจันทร์กลางหมู่เมฆ
    ความต่างอย่างนี้   ขุนเขาและหุบเหว
             ช่างน่าอัศจรรย์        น่าชมเสียจริง
             นี่เป็นหนึ่งเดียวหรือ   เป็นคู่


ไขปริศนา โกอาน
       โกอานนี้ดูเหมือนธรรมดาๆ  ในสมัยก่อนโกอานนี้ถูกใช้เป็น นันโตะโกอาน  อาจารย์ โฮเอนต่อมาชื่อว่า อาจารย์โกโสะเพราะพักที่ภูเขานี้   ท่านบวชเป็นภิกษุเมื่ออายุ ๓๕ ปี เริ่มต้นด้วยการศึกษาปริยัติธรรมจนกลายเป็นปราชญ์ท่านหนึ่ง วันหนึ่งท่านอ่านตำราพบข้อความว่า “พระโพธิสัตว์เมื่อมองด้วยสายตาแห่งความรู้แจ้ง  การปฏิบัติและหลักปริยัติถูกหลอมรวมกัน  ปรากฏการณ์และแก่นแท้เป็นหนึ่งเดียวกัน  และอัตวิสัยและภววิสัยก็ไม่ได้แยกกัน"   ปราชญ์นอกศาสนาค้านว่า “ถ้าอัตวิสัยและภววิสัยไม่ได้แยกจากกัน  จะพิสูจน์ความจริงกันอย่างไร””  แต่อาจารย์เกนโจะพูดว่า  “เหมือนกับคนดื่มน้ำย่อมรู้ว่าน้ำเย็นหรือร้อนด้วยตัวเขาเอง

อาจารย์โฮเอนพูดว่า “ฉันรู้ว่าน้ำร้อนหรือเย็น แต่ฉันไม่รู้ว่า  “รู้ด้วยตนเอง” เป็นอย่างไร ”  ท่านถามอาจารย์ แต่อาจารย์ไม่สามารถให้เข้ากระจ่างแจ้งแก่ท่านได้กลับพูดกับท่านว่า หากท่านต้องการคำตอบ  ให้ลงไปทางใต้และถามอาจารย์เซน” ด้วยความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยว  ท่านเดินทางพบอาจารย์เซนมากมาย  ขณะที่ท่านศึกษาอยู่กับอาจารย์ฮะกุน ชูตัน  มีพระองค์หนึ่งถามท่านอาจารย์แต่กลับถูกดุอย่างรุนแรง   เหตุการณ์นี้กลายเป็นแรงบันดาลใจอย่างใหญ่หลวง  ท่านจึงต้องการรู้ความจริงด้วยตนเอง ต่อมาท่านได้ยินโกอานว่า “มีพระเซนมากมายจากภูเขาโร ทั้งหมดล้วนรู้แจ้งแล้ว  ถ้าเธอถามเขาจะตอบอย่างดียิ่ง  หากถามโกอาน เขาจะตอบอย่างชัดเจน ถ้าให้เขาเขียนคำอธิบายเพราะๆ เขาก็เขียนได้อย่างดี  แต่เขาก็ยังจับฉวย “มัน”  ไม่ได้”  คำไขปริศนานี้ทำความสงสัยอย่างใหญ่หลวงแก่โฮเอน  ภายหลังศึกษาโกอานนี้อย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดท่านก็รู้แจ้งอย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังขจัดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเซนจนหมดสิ้น ต่อมาภายหลัง  ชื่อเสียงของท่านก็ค่อยๆขจรขยายไปในวงการเซน

            เป็นเวลากว่าสี่สิบปีที่ท่านสอนศิษย์อย่างกระตือรือร้น วันหนึ่งท่านได้ประกาศลากลางที่ประชุม กลับกุฏิสรงน้ำปลงผมอย่างประณีตบรรจง  วันรุ่งขึ้นก็มรณภาพโดยอาการสงบในปี พ.ศ.๑๑๐๔ ขณะนั้นท่านมีอายุกว่า ๘๐ ปี อาจารย์  เอนโกผู้รวบรวมโกอาน เฮกิกันโรกุ(บันทึกหินสีฟ้า)เป็นหนึ่งในศิษย์หลายท่านของท่าน

            เรื่อง “เซนโจะและวิญญาณของเธอแยกจากกัน” เป็นตำนานสมัยราชวงศ์ถัง  ในโกชูในจีนมีชายคนหนึ่งชื่อโชกัน เขามีลูกหญิงสองคน  เนื่องจากคนแรกตายไป เขาจึงรักคนที่สองมาก  และทำทุกๆอย่างเพื่อลูก  เนื่องจากเธอสวยมาก หนุ่มๆหลายคนจึงอยากแต่งงานกับเธอ  พ่อของเธอตกลงใจเลือกฮินเรียว และตั้งใจยกเซนโจะให้เขา เซนโจะกลับรักโอชูซึ่งเป็นหลานของโชกัน  เมื่อโอชูยังเล็กอยู่วันหนึ่ง พ่อของเซนโจะพูดเล่นๆกับเขาว่า “โอชูและเซนโจะเข้ากันได้ดี  เมื่อโตน่าจะแต่งงานกัน “  คำพูดนี้ทำให้เขาทั้งสองเชื่อว่าได้หมั้นกันแล้ว  และเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็พบว่าเขาทั้งสองรักกัน

            เซนโจะ  ผู้ได้ยินโดยกะทันหันว่าพ่อหมั้นไว้กับฮินเรียว เกิดเสียใจและโศกเศร้าอย่างรุนแรง  เช่นเดียวกับโอชูซึ่งเมื่อรู้เรื่องก็ตัดสินใจหนีจากบ้าน เพราะเขาไม่สามารถอยู่ใกล้ๆเธอได้  เย็นวันหนึ่งเขา(โอชู)ก็จากบ้านอย่างเงียบๆไม่บอกใครแม้เซนโจะ  เวลาเที่ยงคืนเขาเห็นเงาตะคุ่มๆวิ่งไปตามริมน้ำตามเรือของเขา  เขาหยุดมอง และก็ดีใจอย่างที่สุด เมื่อพบว่าเป็นที่รักของเขานั่นเอง  ทั้งสองกอดกันพร้อมทั้งน้ำตา เมื่อไม่สามารถกลับไปหาพ่อของเซนโจะได้ จึงหนีไปอยู่ที่โชกุและแต่งงานกัน

            ห้าปีผ่านไป เซนโจะซึ่งกลายเป็นแม่ของลูกสองคน คิดถึงบ้านมาก วันหนึ่งจึงบอกกับสามี “เพราะรักเธอฉันจึงยอมมาอยู่กับเธอที่นี่  แต่ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นอย่างไรบ้าง  ที่จากมาโดยพ่อแม่ไม่ยินยอม ฉันคงกกลับบ้านไม่ได้”   โอชูก็คิดถึงบ้านเช่นกัน  จึงพูดว่า “เรากลับโกชูและเขาขมาพ่อแม่ของเธอด้วยกัน” ทั้งสองเช่าเรือแล้วก็กลับบ้านเกิด
            ทิ้งเซนโจะไว้ที่ท่าเรือ โอชูวิ่งไปที่บ้านของโชกัน ขอขมาในความผิด แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง  โชกันรู้สึกพิศวง ถามโอชูว่า “เธอพูดถึงผู้หญิงคนไหน”   “เซนโจะ  ลูกของท่าน”  โอชูตอบ โชกันกลับพูดว่า “ลูกฉันหรือ  เซนโจะ ตั้งแต่เธอจากไปแล้ว เธอก็นอนป่วยอยู่บนเตียงแล้วก็พูดไม่ได้ “ โอชูเมื่อถูกถามก็พยายามอธิบาย “เซนโจะแน่ๆ เธอตามผมไปอยู่ด้วยกันที่โชกุ เธอมีลูกที่แข็งแรงสองคน ถ้าท่านไม่เชื่อก็ไปดูที่ท่าเรือ  เธออยู่ที่นั่นกำลังรอผมอยู่”

            โชกันรู้สึกพิศวงงงงวยอีกครั้ง  ส่งคนใช้เก่าไปดู คนใช้บอกว่าจริง โชกันกลับบ้านก็พบว่าเซนโจะยังนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเล่าเรื่องให้เซนโจะฟัง  ด้วยความดีใจอย่างสุดขีด เธอลุกขึ้นจากเตียงโดยพูดอะไรไม่ออก  ขณะนั้นเซนโจะซึ่งจากไปก็กลับมาด้วยเกวียน เซนโจะที่ป่วยออกจากบ้านไปพบอีกเซนโจะ ขณะที่เซนโจะจากเกวียนลงจากเกวียน ทั้งสองก็รวมเป็นคนเดียวกัน

            โชกัน ผู้เป็นพ่อ จึงพูดกับเซนโจะว่า  “ตั้งแต่โอชูจากหมู่บ้านนี้ไป เซนโจะไม่พูดแม้คำเดียว และปราศจากความรู้ตัวเหมือนคนเมา ขณะนี้ฉันเห็นแล้วว่า วิญญาณของเธอได้จากร่างของเธอไปแล้วไปอยู่กับโอชู” เซนโจะจึงตอบไปว่า “ฉันไม่รู้เลยว่าฉันป่วย เมื่อฉันรู้ว่าโอชูจากบ้านไปด้วยความทุกข์  ฉันก็ตามเรือของเขาไป ด้วยความรู้สึกราวกับฝันไป ฉันเองไม่แน่ใจว่า คนไหนเป็นตัวจริงของเซนโจะ คนที่อยู่กับพ่อ  นอนป่วยอยู่บนเตียง หรือคนที่ตามโอชูไป”   
            นี่เป็นเรื่องย่อๆของ “เรื่องวิญญาณที่แยกกัน