ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการเจริญสติ อาจริยบูชา ๑๐๐ ปี ชาตกาลหลวงพ่อเทียน  (อ่าน 1741 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

เนื่องในโอกาสอาจริยบูชา ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
จึงขอนำคำสอนเรื่องการเจริญสติ ซึ่งเป็นหัวใจของคำสอนของท่าน
มาเผยแผ่ให้พุทธศานิกชนทุกท่านได้ปฏิบัติตาม เพื่อความสุขความเจริญในธรรม

วิธีการเจริญสติ โดย หลวงพ่อเทียน

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
สาธุครับ  :13:
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด



การปฏิบัติธรรม แนวทางการเจริญสติ
แบบหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ แห่งวัดสนามใน

ความคิดเป็นธรรมชาติทางนามธรรมชนิดหนึ่ง
ซึ่งมีอิทธิพลอย่างสำคัญต่อวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของเรา
เราคุ้นเคยและอยู่กับความคิดเกือบตลอดเวลา
แต่เราแทบจะไม่รู้จักความคิดและกลไกการทำงานของมันในตัวเราเลย
ทั้งนี้เนื่องจากความคิดนั้น
มีความเร็วกว่า
แสงฟ้าแลบและไหลต่อเนื่องเหมือนสายน้ำ

ความคิดมีสองประเภท
ความคิดชนิดหนึ่ง มันเกิดขึ้นมาแวบเดียวมันไปเลย
ความคิดชนิดนี้มันนำ
โทสะ โมหะ โลภะเข้ามา

ความคิดอีกอย่างหนึ่ง เป็นความคิดที่เราตั้งใจคิดขึ้นมา
ความคิดชนิดนี้ไม่นำโทสะ โมหะ โลภะเข้ามา
เพราะความคิดชนิดนี้เราตั้งใจคิดขึ้นมาด้วยสติปัญญา

ความทุกข์เกิดขึ้นเพราะเราไม่เห็นความคิด
แต่ตัวความคิดจริงๆนั้นมันไม่ได้มีความทุกข์
สาเหตุที่มันมีความทุกข์เกิดขึ้นคือ
เมื่อเราคิดขึ้นมา เราไม่ทันรู้ ไม่ทันเห็น ไม่ทันเข้าใจความคิดอันนั้น
มันก็เลยเข้าไปในความคิด เป็น
โลภ เป็นโกรธ เป็นหลงไป
แล้วมันก็นำทุกข์มาให้เรา

เมื่อเราไม่รู้วิธีแก้ไข มันก็คิด คิดอันนั้น คิดอันนี้
คนเราจึงอยู่ด้วยทุกข์ กินด้วยทุกข์ นั่งด้วยทุกข์ นอนด้วยทุกข์
ไปไหนมาไหนด้วยทุกข์ทั้งนั้น
เอาทุกข์นั่นแหละเป็นอารมณ์ไป

แต่ถ้ามาเจริญสติให้รู้เท่าทันความคิด

พอดีมันคิดปุ้ป..ทันปั๊ป คิดปุ้ป..ทันปั๊ป มันไปไม่ได้
มันจะทำให้จิตใจของเราเปลี่ยนแปลงที่ตรงนี้
ความเป็นพระอริยบุคคลจะเกิดขึ้นที่ตรงนี้
หรือเราจะได้ต้นทางหรือกระแสพระนิพพานที่ตรงนี้

วิธีการเจริญสติ หรือการทำความรู้สึกตัว
สติ หมายถึง ความระลึกได้
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ "ให้รู้สึกตัว"
ให้รู้สึกตัวในการเคลื่อนการไหว
กระพริบตาก็รู้ หายใจก็รู้ จิตใจมันนึกมันคิดก็รู้

การเคลื่อนไหวเป็นสาระสำคัญของการเจริญสติ
ถ้าหากเรานั่งนิ่งๆ ไม่มีการเคลื่อนไหว
พอดีมันเกิดขึ้นมา เราก็เลยไปรู้กับความคิด
มันเป็นการเข้าไปอยู่ในความคิดเพราะไม่มีอะไรดึงไว้

ดังนั้นจึงมีการฝึกหัดการเคลื่อนไหวของรูปกาย
ให้รูปกายเคลื่อนไหวอยู่เสมอ
ถ้าเรามีสติรู้อยู่กับการเคลื่อนไหวของรูปกาย
เมื่อใจคิดขึ้นมา เราจะเห็น เราจะรู้

เพื่อให้เกิดญาณปัญญารู้แจ้งเห็นจริงตามความเป็นจริง
หลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ได้แนะนำให้เราเคลื่อนไหวตลอดเวลา
และ "รู้" การเคลื่อนไหวนั้น
โดยมีกลอุบายหรือเทคนิดในการเจริญสติอย่างต่อเนื่อง
ด้วยการสร้างจังหวะ ซึ่งประกอบด้วยการเดินจงกรม
และการเคลื่อนไหวมือเป็นจังหวะ



ดูรูปภาพประกอบ การเดินจงกรม การเคลื่อนไหวมือเป็นจังหวะ
และเนื้อหาอื่นๆจาก :http://se-ed.net/theeranun/
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ