แสงธรรมนำใจ > ศิษย์โง่ไปเรียนเซ็น
นิทานเซ็น :จากมุมสงบ Kitty's Home
ฐิตา:
ผู้รับ ผู้ให้
อูเมชุ ซิบิ เป็นพ่อค้าผู้มั่งคั่งแห่งเมืองเอโด ทราบว่าท่านอาจารย์เซอิเซตสุ มีความประสงค์จะขยายศาลาโรงธรรม เพราะที่มีอยู่เดิมคับแคบไม่พอกับผู้ที่มาฟังธรรม อูเมชุ ซิบิ จึงตกลงใจที่จะเป็นผู้บริจาคปัจจัย เพื่อเป็นค่าก่อสร้างเสียเอง เป็นจำนวนเงินถึง 500 เหรียญทอง ซึ่งในสมัยนั้นนับว่ามากที่สุดแล้ว เพราะว่าเงินเพียง 3 เหรียญทอง ก็สามารถใช้สอยอยู่กินได้ตลอดปีแล้ว ท่านพ่อค้าได้หิ้วถุงเงินเข้าไปหาท่านอาจารย์ แล้วน้อมถวายบอกความประสงค์ให้ทราบ ท่านอาจารย์ ก็กล่าวแต่เพียงว่า
"ดีแล้ว อาตมาจะรับไว้" แล้วก็นั่งนิ่งเงียบ
อูเมชุ ซิบิ นั่งรอ ด้วยหวังว่าท่านอาจารย์คงจะกล่าวอนุโมทนาและอวยพรให้ตนโชคดีทำมาค้าขึ้นต่อๆ ไป แต่เห็นท่านอาจารย์ก็ยังคงนั่งนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงนั่งกระสับกระส่ายฟุ้งซ่านต่างๆ นานา แหมเงินตั้ง 500 เหรียญทองเชียวนะ ท่านอาจารย์ไม่เห็นกล่าวอนุโมทนาเลยสักนิด คิดแล้วก็ทำใจกล้ากราบเรียนว่า
"หลวงพ่อครับ เงินในถุงใส่ไว้ครบ 500 เหรียญเลยครับ"
"เมื่อตะกี้ เธอบอกแล้วไม่ใช่เรอะ ?" หลวงพ่อตอบ
ท่านพ่อค้ายิ่งตีสีหน้าไม่ถูก นั่งนิ่งกันไปอีกพักใหญ่ ท่านพ่อค้าก็เลยตัดสินใจอีกครั้ง กล่าวเลียบเคียงให้หลวงพ่อโมทนาให้พร
"หลวงพ่อครับ เงินจำนวน 500 เหรียญทองนี่ แม้ผมจะค้าขายใหญ่โต ก็ยังรู้สึกว่ามันมากอยู่นะครับ"
"เธออยากให้ฉันขอบใจเธอใช่หรือเปล่าล่ะ ?" หลวงพ่อเดาใจ
"ครับ นิดหนึ่งก็ยังดีครับ" พ่อค้าตอบอย่างดีใจ
"ทำไมต้องให้ฉันขอบใจด้วยล่ะ ผู้ใดเป็นผู้ให้ทาน ผู้นั้นต่างหากที่ควรจะขอบใจ"
ท่านอาจารย์เซอิเสตสุตอบ แล้วนิ่งเงียบอืก
ถ้ามองอย่างสามัญแล้ว เมื่อมีการให้ย่อมอยากได้รับการตอบสนองกลับบ้าง ความจริงการให้หรือการทำบุญนั้น เป็นอุบายอย่างหนึ่งในการทำลายความยึดมั่นว่าตัวกูของกูลง แต่จะมองเห็นกันหรือไม่เท่านั้น
ฐิตา:
เรื่องของอิคคิว
ในสมัยอาชิคากะที่ประเทศญี่ปุ่น มีเด็กน้อยผู้หนึ่งชื่อว่าอิคคุยุ ชอบติดตามมารดาไปวัดอยู่เสมอ หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็ชอบเรียกไปใช้สอยอย่างใกล้ชิด วันหนึ่งขณะที่กำลังปัดกวาดทำความสะอาดอยู่นั้น ก็บังเอิญไปปัดเอาถ้วยชาอย่างดีราคาแพงของหลวงพ่อตกแตก เด็กน้อยรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นของหาไม่ได้อีกแล้ว เสียงหลวงพ่อก็กำลังเดินเข้ามาในห้อง หนูน้อยอิคคุยุไม่มีเวลาคิดมากกระวีกระวาดลุกขึ้นยืน ทั้งสองมือถือถ้วยชาที่แตกซ่อนไว้ข้างหลัง ตาจ้องมองหลวงพ่อที่นั่งลงบนอาสนะ อิคคุยุก็แน่ใจว่าหลวงพ่อคงยังไม่ได้ยืนเสียงถ้วยชาแตก จึงเกิดปฏิภาณ ขึ้นทันที
"หลวงพ่อครับ คนเรานี่ต้องตายทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้นเลยหรือครับ ?"
"ลูกเอ๋ย มันเป็นกฏธรรมชาติธรรมดา" หลวงพ่อชี้แจงโดยซื่อ และกล่าวต่อไปอืกว่า
"บรรดาทุกสิ่งในโลกไม่มียกเว้น เมื่อถึงคราวแล้วย่อมต้องตายอย่างแน่นอน"
อิคคุยุนั่งฟังหลวงพ่อเทศน์สอนจนจบ แล้วแบมือยื่นเศษถ้วยชาให้หลวงพ่อดู พร้อมกับทำหน้าเศร้าๆ ว่า
"ถ้วยชาของหลวงพ่อก็เหมือนกันครับ มันถึงคราวตายเสียแล้ว"
สมัยแรกๆ นั้น ทุกคนทราบแต่เพียงแววไหวพริบ ปฏิภาณของเด็กน้อยอิคคุยุเท่านั้น ยังไม่มีใครคาดฝันเลยว่า เด็กน้อยผู้นี้ ต่อมาจะกลับกลายมาเป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายเซ็นในสมัยที่ท่านโตและบวชเป็นพระ และตัวลูกศิษย์องค์นี้ กลับเป็นผู้บรรลุธรรมก่อนอาจารย์ผู้เฒ่าของท่านเสียอีก
ฐิตา:
เด็กวัดเซ็น
มีวัดอยู่ 2 วัดอยู่ไม่ห่างไกลกันนัก เด็กจากวัดหนึ่งมีหน้าที่ต้องไปเอาผักในหมู่บ้านทุกเช้า และต้องเดินสวนกับเด็กอีกวัดหนึ่งเป็นประจำ พอเดินสวนกัน เด็กวัดแรกก็จะถามเด็กอีกวัดว่า
"เธอจะไปไหน ?"
"ไปยังที่ๆ เท้าของฉันจะพาไปนั่นแหละ" เด็กอีกวัดตอบ
เด็กวัดแรกมึนงง แต่ก็พอจะรู้ว่า นี่ไม่ใช่การตอบแบบธรรมดา เมื่อกลับไปถึงวัด จึงเล่าเรื่องให้อาจารย์ของตนฟัง
"พรุ่งนี้ให้ถามเขาใหม่ ถ้าเขาตอบว่าจะไปยังที่เท้าพาไปอีก เจ้าจงสวนกลับไปเลยว่า ถ้าเธอไม่มีเท้าล่ะจะไปยังที่ใด ?" อาจารย์แนะนำ
วันรุ่งขึ้นเมื่อพบกัน เด็กคนแรกก็ถามด้วยคำถามเดิมอีก
"เธอจะไปไหน ?" พร้อมเตรียมคำถามจะสวนกลับ
"ไปยังที่ๆ ลมจะพัดไป" เด็กอีกคนตอบ
พอได้ยินคำตอบเปลี่ยนไป ที่อาจารย์สอนมาก็ใช้ไม่ได้อีกแล้ว เด็กคนแรกจึงกลับไปหาอาจารย์และเล่าเรื่องให้ฟังอีก ท่านอาจารย์พอได้ฟังก็ยิ้ม แล้วแนะว่า
"พรุ่งนี้เจ้าถามเขาอีก ถ้าเขาตอบว่าไปยังที่ลมพัดไป ก็ให้ถามดักว่า ถ้าหากไม่มีลมล่ะ เจ้าจะไปยังที่ใด ?"
รุ่งขึ้นพอเดินสวนกัน เด็กคนแรกก็ถามทันที
"เธอจะไปไหน ?"
"ฉันจะไปตลาดซื้อผัก" เด็กอีกคนตอบหน้าตาเฉย
ก็คงต้องมึนกันอีกเช่นเคย
-http://zenartandtea.com/
ฐิตา:
เรื่องของผี
นานมาแล้ว มีสามีภรรยาคู่หนึ่งรักกันมาก ต่อมาภรรยาเกิดล้มป่วยหนักจะไม่รอดแล้ว จึงได้ขอร้องสามีว่า ถ้านางตายจากไปแล้วขออย่าได้ไปมีหญิงอื่นอีก ถ้าไม่เชื่อนางก็จะเป็นผีมารบกวนไม่หยุด หลังจากภรรยาตายไปแล้ว ชายผู้นั้นก็ได้ปฏิบัติตามคำขอร้องด้วยดี จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 3 เดือน ก็ได้พบรักกับหญิงคนใหม่จนถึงกับทำการหมั้นหมายกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น พอตกกลางคืนผีภรรยาเดิม ก็มาตัดพ้อต่อว่าต่างๆ นานา แม้ชายผู้นั้นจะชี้แจงอย่างไร ผีภรรยาเดิมก็ไม่ยอม เขาไปทำอะไรๆ มาแม้จะลับอย่างไรผีภรรยาก็รู้หมด เป็นเช่นนี้ทุกคืน
เขาจึงกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร่างกายซูบผอม ญาติมิตรก็ได้แต่ปลอบโยน แต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ จนสุดที่จะทน ชายผู้นั้นจึงได้ไปหารือกับอาจารย์เซ็น ซึ่งอยู่วัดใกล้ๆ บนเขา ท่านอาจารย์นั่งฟังอย่างเห็นใจ ท่านรู้อยู่เต็มอกว่าผีภรรยาที่มาหาเขาทุกคืนนั้นคืออะไร แต่จะอธิบายให้เขาฟังคงยาก
"โอ ผีเมียเจ้านี่ช่างรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเลยรึ ตอนนี้ถ้ามันมาอีกเจ้าลองให้มันทายปัญหาดู และสัญญาไว้เลยว่า ถ้าหากผีตอบปัญหาได้ เจ้าจะยอมถอนหมั้นและอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต"หลวงพ่อแนะ
"จะให้ผมถามอะไรล่ะครับ ?" ชายผู้นั้นสงสัย
"เจ้าจงหาเมล็ดถั่วไว้กำมือใหญ่ แล้วให้ผีทายว่ามีกี่เมล็ด หากผีทายไม่ได้ เจ้าจะได้รู้เสียที ว่าผีที่เจ้ารู้เห็นนั้นคืออะไร"
ตกคืนนั้นผีก็มาอีก ชายผู้นั้นก็กล่าวยกย่องว่าผีฉลาด รู้อะไรไปเสียหมดทุกอย่าง
"แน่ละซี วันนี้เธอไปหาอาจารย์บนเขาฉันยังรู้เลย" ผีรับคำ
ชายผู้นั้นจึงรีบถามคำถามที่หลวงพ่อแนะนำมา
"เธอรู้ดีอย่างนั้น ลองบอกมาซิว่า ถั่วในกำมือนี้มีกี่เมล็ด ?"
ในที่สุด ชายผู้นั้นก็ทราบว่า "ผี" ที่มาหลอกทุกคืนนั้นคืออะไร ผีตอบไม่ได้ เพราะตัวเขาเองไม่ได้นับถั่วไว้ก่อนนั่นเอง
ฐิตา:
แบกไว้ทำไม
หลวงพ่อตันซัน เป็นพระเซ็นที่มีความแตกฉานมาก ท่านมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 100 ปีมานี่เอง ท่านเป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญาในมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลในโตเกียวด้วยวันหนึ่ง ท่านได้ชวนท่านเอกิโด เพื่อนพระภิกษุซึ่งเคร่งครัดหยุมหยิมในระเบียบแบบแผนต่างๆ ออกเดินธุดงค์ ระหว่างทาง พอมาถึงที่ต่ำเป็นแอ่งมีโคลนเฉอะแฉะ จะเดินอ้อมก็ไม่ได้ ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวเสียสวยงาม กำลังเก้ๆ กังๆ พยายามจะเดินข้ามตรงที่แฉะ แต่ไม่กล้า เพราะกลัวเครื่องแต่งกายที่งดงามจะเปรอะเปื้อน ก่อนที่ท่านเอกิโดจะแปลกใจที่มีหญิงสาวแต่งตัวเสียสวยงามมาเดินอยู่ในป่าคนเดียว ก็ต้องตกตะลึง เพราะเห็นท่านตันซันก้าวเดินสวบๆ เข้าไปหาหญิงผู้นั้น แล้วช้อนร่างอุ้มเดินข้ามแอ่งโคลนไป พอพ้นก็วางลงเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสองเดินทางต่อไปโดยไม่ได้ปริปากพูดจากัน จนกระทั่งถึงเวลาหยุดพักค่ำวันนั้น เมื่อจัดเตรียมที่พักแล้ว ท่านเอกิโดก็หลุดปากออกมาอย่างกลั้นใจจะไม่พูดไม่ไหว เป็นเชิงสั่งสอนท่านตันซัน ว่า
"พวกเราเป็นพระ น่าจะไม่เข้าใกล้ผู้หญิงจะดีกว่า ยิ่งแตะเนื้อต้องตัวด้วยแล้วยิ่งไม่ถูกต้อง ทำไมท่านถึงทำอย่างนั้น ?"
"ผมวางเด็กสาวคนนั้นลงไปตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว ท่านยังจะมาแบกเอาไว้จนถึงเดี๋ยวนี้อยู่อีกหรือ"
หลวงพ่อตันซันโปรดเพื่อนท่าน โดนย้อนเพียงเท่านี้ ท่านเอกิโดก็สว่างโพลงขึ้นทันที ตัวท่านก้าวพ้นตมมาเมื่อเช้านี้ แต่จิตของท่านเพิ่งจะมาข้ามพ้นในขณะนั้นนั่นเอง
ท่านละครับท่านข้ามพ้นตมหรือยัง หรือว่ากำลังสนุกลุยโคลนอยู่ ?
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version