อิ่มกาย อิ่มใจ > สุขภาพกับชีวิต
108 เคล็ดกิน
กระตุกหางแมว:
ขอบคุณมากครับพี่หนุ่ม
เสียดายน่าจะมีภาพด้วยนะครับจะสมบูรณ์แบบ
ในสไตล์ของพี่หนุ่ม.. :13:
sithiphong:
เก็บอาหารแห้ง ให้ปลอดเชื้อราหน้าฝน
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000110891
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 สิงหาคม 2553 16:47 น.
หน้าฝนแบบนี้คุณแม่บ้านทั้งหลาย อาจจะพบเจอปัญหาในครัวสารพัด ที่มาพร้อมฝน หนึ่งในปัญหานั้นคือ ความชื้นในอากาศที่เร่งให้เกิดรา โดยเฉพาะกับอาหารแห้ง “108เคล็ดกิน” จึงมีวิธีดีๆ ในการเก็บรักษาอาหารแห้งมาฝากกัน
เริ่มด้วย หอมและกระเทียม เป็นอาหารแห้งที่ไวต่อความชื้นและเชื้อรา หากเก็บไว้ในตะกร้าโปร่งที่อากาศถ่ายเทสะดวกแล้วยังไ ม่ได้ผล ให้เก็บใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น หรือใช้ถุงซิปล็อค ก่อนนำเข้าตู้เย็น ค่อยหยิบใช้เมื่อต้องการรับรองเชื้อราไม่มาแผ้วพาน
ส่วน กุ้งแห้ง ก่อนเก็บล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำไปต้ม พอเดือดใส่เกลือเล็กน้อย ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำแล้วนำมาคั่วให้แห้ง เก็บใส่ถุงซิปล็อคในช่องฟรีซ กุ้งจะสะอาดปราศจากสารปนเปื้อนและเก็บได้นานเป็นปี
เกลือและน้ำตาล ใส่ในขวดโหลปิดฝาให้สนิทกันมดแมลง ขณะใช้งานไม่ควรใช้ช้อนเปียกหรือชื้นตัก เพราะจะทำให้น้ำตาลหรือเกลือจับเป็นก้อน ส่วนน้ำตาลไอซิ่งโรยแป้งข้าวโพดลงไปเล็กน้อยเพื่อ ช่วยดูดความชื้น ก่อนเก็บในขวดแห้งและสะอาด
และ ข้าวสาร ควรเก็บแบบแพ็คสุญญากาศ นำมาเก็บในถังพลาสติกปิดสนิทจะสะอาดปลอดภัยกว่า หากข้าวสารมีมอด แมลง ให้นำข้าวใส่ถุง แช่ช่องฟรีซสัก 2-3 วัน เพื่อกำจัดแมลง ก่อนนำมาล้างและหุงตามปกติ
sithiphong:
"มังคุด" ผลไม้ไทยสารพัดประโยชน์
"มังคุด" ถือเป็นราชินีแห่งผลไม้ เพราะนอกจากจะรสชาติอร่อยหอมหวานกลมกล่อมแล้ว ผลไม้ไทยชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายสารพัด
คน ไทยสมัยโบราณรู้จักนำ "มังคุด" มาแปรรูปเป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรค ไม่ว่าจะเป็น "เปลือกมังคุด" ใช้ฝนกับน้ำปูนใส เพื่อทาแผลให้หายเร็วขึ้น และช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า หรือ ถ้านำไปต้ม ก็สามารถดื่มแก้อาการท้องร่วง ขณะที่เนื้อมังคุดมีกากใยช่วยเรื่องขับถ่าย และยังอุดมด้วยสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่นับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก
จนถึงปัจจุบันมีการนำ "มังคุด" ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ทั้งมังคุดอบแห้ง น้ำมังคุด ไวน์มังคุด อาหารเสริมจากมังคุด ยาสระผม ครีมนวดผม สบู่ โลชั่น โดยผลจากการศึกษาของศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย ภายใต้การนำของ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา, รศ.ดร.วิลาวัลย์ มหาบุษราคัม, รศ.ดร.เสาวลักษณ์ พงษ์ไพจิตร และ รศ.ดร.อำไพ ปั้นทอง ซึ่งทำการวิจัยเรื่องคุณประโยชน์ ของมังคุดมานานกว่า 3 ทศวรรษ ค้นพบว่า มังคุดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูงมากในเชิงสุขภาพ โดยสามารถปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล ด้วยการลดการหลั่งสาร "Interleukin I" และ "Tumor Necrosis Factor" ซึ่งตามหลักวิชาของศาสตร์ภูมิคุ้มกัน จะช่วยลดอาการที่เกี่ยวกับการแพ้ภูมิตัวเอง และการอักเสบ พบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน, ตับเสื่อม, ไตวาย, ข้อเข่าอักเสบ, ความดันโลหิต, โรคพาร์กินสัน, ไทรอยด์เป็นพิษ และความผิดปกติของสมอง อันเกิดจากการอักเสบ ขณะเดียวกัน มังคุดก็สามารถเพิ่มการหลั่งสาร "Interleukin II" ของเม็ดเลือดขาว ช่วยให้ร่างกายสามารถต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรีย หรือเซลล์มะเร็ง
จากการร่วมวิจัยกับค่าย Henkel KGa ของประเทศเยอรมนี ทางคณะวิจัยจากศูนย์วิจัย และพัฒนามังคุดไทย ยังค้นพบด้วยว่า สารจากมังคุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือสาร GM-1 ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และระงับปวด โดยมีความแรงกว่ายาแอสไพรินถึง 3 เท่า จากจุดนี้เองได้มีการต่อยอดการวิจัยพัฒนาไปสู่การทำเครื่องสำอางต่างๆจาก สารสกัดเปลือกมังคุดเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อช่วยเหลือคนที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง และอาการแพ้
ขณะที่ใน ปัจจุบัน ทางคณะวิจัยดังกล่าวได้ร่วมมือกับเครือข่ายทางการแพทย์ในระดับนานาชาติ ทำการศึกษาถึงคุณประโยชน์ของการดื่มน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น เพื่อช่วยเยียวยาอาการป่วยของผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้าย ซึ่งหากงานวิจัยชิ้นนี้บรรลุผลสำเร็จจริงๆ ก็น่าจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยไปทั่วโลก
"มังคุด" ยังมีคุณประโยชน์ดีๆอีกนับไม่ถ้วน สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mangosteenrd.com
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
sithiphong:
สู้ฝนด้วยสมุนไพรเผ็ดร้อน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 สิงหาคม 2553 17:34 น.
ขิง
หน้าฝน มีอากาศเย็นและมีความชื้นสูง(ในวันฝนตก) ทำให้ร่างกายมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงควรเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ซึ่งการกินอาหารที่มีส่วนของสมุนไพรรสชาติเผ็ดร้อน ถือเป็นตัวช่วยวิธีหนึ่ง
และนี่คือสมุนไพรประเภทเผ็ดร้อน 5 ชนิดที่หากินได้ทั่วไป ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายแล้ว ยังมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆอีกด้วย
ขิง : ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยขับปัสสาวะ รักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ คลื่นไส้
กะเพรา : ช่วยขับลม บำรุงธาตุไฟ แก้ปวดท้องและจุกเสียด
ตะไคร้ : ขับลมในลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการไข้ ลดอาการปวดท้อง ขจัดอาการอ่อนเพลียของร่างกาย ลดอาการปวดหลัง
กระเทียม : แก้ไอ แก้ลม บำรุงธาตุ แก้ปวดมวนท้อง ช่วยเสริมให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พริกไทย : แก้ท้องอืดเฟ้อ ช่วยขับลม บำรุงธาตุ ลดเสมหะ
แก้วจ๋าหน้าร้อน:
:45: ขอบคุณมากมายครับพี่หนุ่ม
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version