ประชาสัมพันธ์ > โครตเกรียนล้างโลก - ลงชักโครกซะ !
บ่นเรื่อยเปื่อย...เมื่อยก็พัก...ตามประสา นักปฏิบัติไม่เอาไหน ฯ ( Episode 4 )
บัวผ่อง:
อ่ะ เอามาฝาก โพสไว้ตอนเที่ยง ๆ
พอ บ่าย แก่ ๆเก๊าะ ได้รับประทานแบรนด์ ก่อนมื้อดินเนอร์ เหอ...เหอ...
แหม๊ ? ทำสถิติ รับประทานแบรนด์แบบสายฟ้าแล่บเป็นประวัติการ
ภายใน 1 ชม. เชียวนะ ( เจ๋ง ป่ะ เธอว์ ) หุหุ :29:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะคุณ สมาชิกหมายเลข 717192
เนื่องจากทีมงานพบว่าการโพสต์ของคุณในกระทู้ เช่น 30146176 30146166 30146163 ฯลฯ
" ? ??. . .เยื่อพรหมจารีย์ ของ เหล่าอิสตรี นี่มันมีความสำคัญในสายตาของท่านผู้อ่าน แค่ไหนกันหนอ ?. . .? ??"
นั้นเป็นการโพสต์กระทู้ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายล่อเป้า/บลั๊ฟ/เกรียน/ชวนทะเลาะ ในหน้าบอร์ดหลักเป็นการรบกวนการใช้งานของเพื่อนสมาชิกซึ่งถือว่าผิดกติกาจึงมีความจำเป็นต้องระงับการโพสต์ของท่านชั่วคราวเพื่อทำการแจ้งให้ท่านรับทราบเงื่อนไขในการใช้งานของเว็บพันทิปเสียก่อน
ทั้งนี้ทีมงานขอความกรุณาท่านสมาชิกตอบกลับมายัง contact.pantip.com เพื่อแจ้งเหตุผลในการโพสต์ข้อ ความลักษณะดังกล่าวค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กาทู้ฉบับรากหญ้า
. . .เยื่อพรหมจารีย์ ของ เหล่าอิสตรี นี่มันมีความสำคัญในสายตาของท่านผู้อ่าน แค่ไหนกันหนอ ?
1.เยื่อพรหมจารีย์ ของ เหล่าอิสตรี นี่มันมีความสำคัญ
ในสายตาของท่านผู้อ่าน แค่ไหนกันหนอ ?
2.แล้วถ้าเลือกได้ คุณจะขอเลือกมีสิ่งใดไว้ในครอบครองเจ้าคะ
ระหว่าง พรหมจารีย์ กับ พรมเช็ดเท้า ?
รบกวน สอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้จาก ท่านผู้อ่าน
ทั้งใน ห้อง ปรัชญา /ศาสนา /ปัญหาชีวิต /ความรักวัยรุ่น
เพื่อขอความเห็นที่หลากหลาย เจ้าคะ
ปล.1
โพสที่ห้อง ปรัชญา
เพราะ ต้องการความเห็น เกี่ยวกับ
การให้คุณค่ากับ เยื่อพรหมจารีย์ในมุมมองเชิง ปรัชญา
โพสที่ห้อง ศาสนา
เพราะ ต้องการความเห็น เกี่ยวกับ
การให้คุณค่าของ เยื่อพรหมจรรย์ ในมุมมองเชิง ศาสนา
เนื่องจาก คำว่า เยื่อพรหมจารีย์ มันเกี่ยวข้องกับหลักคำสอน
เรื่องการรักนวลสงวนตัว ที่มีบัญญัติไว้ในศาสนาต่าง ๆ
โพสที่ห้องปัญหาชีวิต / ความรักวัยรุ่น
ต้องการความเห็น เกี่ยวกับคุณค่าของ เยื่อพรหมจรรย์
ในมุมมองของสังคมและวัยรุ่น
อีกทั้ง เรื่อง การสูญเสียบริสุทธิของผู้หญิง
มันก็เป็นปัญหาชีวิต ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ ในวัยรุ่น /สังคมไทย
ปล.2
ที่แยกโพส เป็นรายห้อง
โดยไม่แตะต้อง ระบบแท็ก
เพราะเคยตั้งกระทู้ ทำนองนี้
พอแท็กห้อง ปรัชญา /ศาสนา /ปัญหาชีวิต /ความรักวัยรุ่น
แล้ว โดน ญิ๋งเล็ก แจ้งบล็อก กาทู้
โดยบอกประมาณว่า อิฉันแท็กมั่วซั่ว
ถามอะไรในประเด็นต้องห้าม
สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเกิดการกระทบกระทั่ง กัน ค่ะ
อิฉัน จึง ขออนุญาต โพสกระทู้ซ้ำซาก
ทีละกระทู้ เป็นรายห้องนะเจ้าคะ
ปอลิง 3
ต้องขออภัย ด้วย ที่คราวนี้ ตั้งกระทู้ นี้
ด้วยภาษาแบบบ้าน ๆ ที่มีแต่ความตื้นเขิน
ไร้ซึ่ง ความลุ่มลึกเชิงปรัชญา ให้เอามาขบคิด
แถมยัง ขาด อรรถรส ในแง่ วรรณศิลป์ เช่นนี้
แต่ทำไงได้ล่ะ ก็คนไทยมันอ่านหนังสือ กัน ปีละไม่ถึง 8 บรรทัด นี่นะ
ขืน เขียนอะไร ในแนวโพสโมเดิร์น มากเกินไป
เดี๋ยวพวกหัวอนุรักษ์นิยม จะอ่านแล้วไม่สบอารมณ์
จะพลอยทำให้ อมยิ้มของอิฉันโดนเจี๋ยน อีกหน แหะ...แหะ...
บัวผ่อง:
ถ้าเลือกได้ คุณจะเลือกเป็นผู้ครอบครอง สิ่งไหนดีคร้าาา ? พรหมจารีย์ หรือว่า ... ?
รบกวน ทั่นผู้อ่านช่วยโหวตเลือก
พร้อม กับ บอกเหตุผล ด้วยน้าา
ว่าทำไม คุณถึง ตัดสินใจเลือกเช่นนั้น ?
โหวต V1
ถ้าคุณเลือกที่จะเป็นผู้ครอบครอง
เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ไอ้เยื่อบาง ๆ กลางหว่างขา ของผู้หญิง
( หรือ ถ้า เรียกให้สั้น ๆ ว่า มัน คือ ผังผืดพรหมจรรย์ )
โหวต V2
ถ้าคุณเลือกที่จะเป็นผู้ครอบครอง
เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ พรมเช็ดเท้า สักผืน
เอาไว้ใช้ประโยชน์ เพื่อใช้ ทำความสะอาด ซ่งติง ของคุณ
โหวต V3
อื่น ๆ โปรดระบุ ....
อาทิเช่น ตรูโลภมาก เอ๊ย รักพี่เสียดายน้อง
เลยอยากจะได้ ทั้ง ผังผืดพรหมจรรย์ และ พรมเช็ดเท้า
เอามาไว้ในครอบครองงงงงงงงงงงงงงงงง
ที่มาของกาทู้
--- อ้างถึง ---
" พรหมจารีย์ไม่เอา เอาพรมเช็ดเท้า ! "
อืม.... เคยอ่านเจอข้อความนี้
ในหนังสือ มติชน ( สมัยอยู่ ม.ต้น )น่ะ
มันเป็น ความคิดเห็นหนึ่งที่ผู้อ่านส่งมา
เมื่อ บก. จุดประเด็นถกกันเรื่อง การรักนวลสงวนตัว
และ เยื่อพรหมจารีย์ของหญิงสาว
ซึ่งก็มีคนสำแดงความคิดเห็น ถกเถียงกันหลากหลายเลยทีเดียว
อ่านไป ก็ให้นึกสงสัยว่า ...ทำไม ผู้คนต้อง ยึดติด
แล้วเถียงกันจน หน้าดำคร่ำเครียด
กับ เยื่อบาง ๆ กลางหว่างขาของผู้หญิงด้วยนะ
เจ้าสิ่งนี้ มันต่างจาก ไส้ติ่ง ตรงไหน กันหนอ
ไม่เห็นมันจะมีประโยชน์อันใดกับร่างกายคน
เหมือนอวัยวะอื่น ๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด เลย
ซึ่งพอ มาเจอ คำพูด " พรหมจารีย์ไม่เอา เอาพรมเช็ดเท้า " เข้าให้
อ่านแล้วก็ขำก้าก แทบตกเก้าอี้เลยมั้ง
อืม....ประโยคสั้น ๆ สองประโยคนี่
มันบอกอะไรให้ รับรู้หลายอย่างนะ
ที่สำคัญ คำพูดนี้ มันมีส่วนช่วยหล่อหลอมความคิดและมุมมองในชีวิต
เกี่ยวกับ ศีล ข้อ 3 มาจนถึงทุกวันนี้
และ เมื่อได้เข้าเรียนในมหาลัย ได้มีโอกาส อ่าน
บทความวิเคราะห์ เรื่อง พรหมจารีย์
ใน ฐานเศรษฐกิจสัปดาห์วิจารณ์ ฉบับหนึ่ง
จึงได้รู้ว่า ในบางสังคม ถ้า เจ้าเยื่อบาง ๆ นี่ถูกทำลาย
เจ้าของก็กลุ้มใจจนแทบจะผูกคอตายเลยมั้ง
อ่านแล้ว ก็เกิดอาการกลัวขึ้นมาจับใจ
ถามตัวเองว่า ถ้าผังผืดพรหมจรรย์ ของตัวเองชำรุด
มันจะฉุดให้เยื่อหุ้มสมอง ของตรูอักเสบ
แบบผู้หญิงที่น่าสงสารนั่นไหมหนอ
และจากการอ่านครั้งนั้น ก็ทำให้ได้รู้อีกด้วยว่า
บางสังคม เจ้าเยื่อบาง ๆ อย่างเดียวกันนี้
กลับเป็นบาป เป็นสิ่งไร้ค่าที่ต้องถูกกำจัด
สมัยหนึ่งหญิงอินเดีย จะต้องทำลายเจ้าเยื่อบางๆ นี่ ให้ลูกสาว ตั้งแต่ยังเด็ก
มิฉะนั้น จะไม่มีผู้ชายคนไหนยอมแต่งงานกับลูกสาวของเธอ
แถมในบางพื้นที่ หญิงสาวทุกคนจะต้องเข้าพิธีทำลายเจ้าเยื่อบาง ๆ นั่น
โดยให้ ชนชั้นกษัตริย์ มาประกอบพิธีให้
สุดท้าย เมื่อมีผู้หญิงที่เข้าพิธีมีมาก ๆ
กษัตริย์ ทำไม่ไหว จึงมีการสร้างศิวลึงค์
มาช่วยในพิธีทำลายเยื่อพรหมจารีย์แทนกษัตริย์
อ่านข้อเท็จจริงเหล่านี้ แล้ว ก็ยิ่งแปลกใจ
และ เห็น ความ ไม่เที่ยง ของค่านิยมในสังคม หนักเข้าไปใหญ่
วัฒนธรรมทั้งหลายในโลกให้ความสำคัญและ ตีค่า
ไอ้เจ้า เยื่อบาง ๆ กลางหว่างขาของผู้หญิง ไม่เหมือนกันเลย...
อนึ่ง และ เนื่องจากวันนี้เห็นว่า
เทศกาลเสียตัว...เอ๊ย...เทศกาลวาเลนไทน์ .
มัน ก็กำลังคืบคลาน ใกล้จะมาถึงแล้ว อ่ะค่ะ
เลย ขอ อนุยาด ทำดูเร็กซ์โพล...เอ๊ย...ทำประชาพิจารณ์
เพื่อ สำรวจความคิดเห็นกันหน่อย
ว่า ส่วนใหญ่ ทั่นผู้อ่านทั้งหลาย
ให้ความสำคัญ กับ สิ่งไหน มากกว่ากัน ระหว่าง...
พรหมจารีย์ ก๊ะ พรมเช็ดเท้า !
--- End quote ---
+++++++++++++++++
และเช่นเคย ขอ ใช้สิทธิ ของการ เป็น จขกท.
โหวต เลือก ดังนี้ คร้าาาา
ถ้า อิฉัน เกิดมาเป็น ผู้ชาย อิฉันเลือก V1 อ่ะ เพราะว่า...
--- อ้างถึง --- ผังผืดพรหมจรรย์ นั้นมันหายากส์
ต้อง ลำบากแทบตาย กว่าจะได้ ไอ้เจ้าสิ่งนี้ มาไว้ในครอบครอง
ส่วน พรมเช็ดเท้านั้น มันควักกระเป๋าจ่ายเงิน ซื้อเมื่อไร ก็ได้ อ่ะ
อีกอย่าง อิฉันชอบคำกล่าว ของใครคนหนึ่ง
ที่เคยไว้ พูดไว้น่ะ เขาบอกว่า...
การที่ผู้หญิงสักคน สามารถรักษาไอ้เจ้าเยื่อบาง ๆ กลางหว่างขา เอาไว้
ให้รอดปากเหยี่ยวปากกา มาได้จนตลอดรอดฝั่ง
จนกระทั่งถึงวันที่ได้เป็นเจ้าสาวเนี่ย
แสดงว่า อย่างน้อย ผู้หญิงคนนั้น
ก็ต้องมี ใบการันตีคุณภาพ ( ในระดับหนึ่ง)
ว่า She ฉลาด และ ปฏิภาณไหวพริบมากพอ
จึงสามารถรักษาตัวให้รอดพ้นจากเสือสิงห์กะทิงแรด มาได้จวบจนถึงวันนี้
ที่สำคัญ คือ สามารถ มั่นใจ ได้ ว่า
ผู้หญิงคนนี้จะมี ยีนแห่งความยับยั้งชั่งใจ
และ มีความเข้มแข็งในดวงจิตเพียงพอ
ที่จะไม่หน้ามืดไหลไปตามกิเลสตัณหาและกามราคะ อ่ะ
ฉะนั้น ถ้าเลือก ผู้หญิงงี้ มาเป็นแม่ของลูก
อย่างน้อย ก็จะได้ สบายใจได้ระดับหนึ่ง
ว่า ลูกสาวที่เกิดมา จะไม่กลายเป็น ผู้หญิงที่อ่อนต่อโลก
และ อ่อนไหวไปตามกระแสแห่งกามอารมณ์ ( ภาษาชาวบ้านเรียก ใจง่าย )
จนถูกบรรดาไอ้กระรอกทั้งหลาย มันหลอกเจาะไข่แดง ฟันแล้วทิ้ง อ่ะค่ะ
อ้อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อิฉันก็ไม่ได้ หมายความว่า
ผู้หญิงที่ ไร้ซึ่ง ผังผืดพรหมจรรย์ จะเป็น อิสาวใจง่ายทุกคนน้าา
ถ้าเป็น ผู้หญิงดี ๆ ที่โชคร้าย ที่ถูกไอ้ชายหื่นหมื่นกามมันข่มเหงกระทำชำเรา
( แบบ อิเจ้เซียวเหล่งนึ่ง หวานใจ ไอ้ตี๋ก้วยยี้ ในเรื่องมังกรหยก )
อันนี้ อิฉันก็พร้อม จะซูฮก รีบปูพรมแดง
ขอเชิญมาเป็น แม่ของลูก เหมือนกัน นะ
ต่อให้ เอา อินู๋ซิ๋ง ๆ แบบ แม่นางก้วยเซียง สัก ร้อยคนมาแลก
ก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจจาก น้อง เล้งยี้ เด็ดขาดดดดดดดดดด
--- End quote ---
อ้อ แต่ถ้า อิฉัน เกิดมาเป็น ผู้หญิง อิฉันเลือก V2 อ่ะ เพราะว่า...
--- อ้างถึง --- อิฉันมักจะมอง สิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว
จาก ประโยชน์ใช้สอย อ่ะค่ะ
ไม่ว่า จะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ ผู้ชาย
หรือ แม้กระทั่ง ผังผืดพรหมจรรย์ เอิ๊กๆ
ซึ่ง เท่าที่ เปรียบเทียบดู ประโยชน์ ใช้สอยแล้ว
พรมเช็ดเท้า ย่อมมีประโยช์โภชผล ก๊ะ อิฉัน มากกว่า ผังผืดพรมจจรย์ อ่ะ
( เพราะว่า มันเอาไว้ ทำความสะอาด ซ่งติง ได้ไงคร้าาา อิอิ )
ส่วน ไอ้เจ้า ผังผืดพรหมจรรย์ เนี่ย
มันเอาไปใช้สอยหาประโยชน์ อะรัยไม่ค่อยจะได้ เล๊ยย พับเผื่อย
นอกจากเอาไว้เป็นเครื่องรางของขลัง ของชาวบ้านชาวช่อง
เวลาที่ พวกมันต้องการผู้หญิงสักคน มา ปักตะไคร้ไล่ฝน
หรือ หาคนไปเป็นแรงงานเถื่อน ช่วยกวนข้าวทิพย์ อ่ะค่ะ
ฉะนั้น ในสายตาของอิฉันแล้ว
พรมเช็ดเท้าย่อมมี คุณค่า
และสามารถเอาไปใช้สอยหาประโยชน์
ได้มากกว่า ไอ้เจ้าผังผืด พรหมจรรย์ อ่ะ
จึงขอเลือกที่จะเป็น เจ้าข้าวเจ้าของ
เลือกที่จะครอบครอง พรมเช็ดเท้า ดีกว่าคร้าาา
ส่วน ผังผืดพรหมจรรย์ นั้นน่ะ
ถึงจะไม่มีมัน อิฉันก็มั่นใจว่า
ตัวเองสามารถสร้างคุณค่า ให้ตัวเอง ได้
โดยไม่จำเป็น ต้อง กระเตง ไอ้เยื่อบาง ๆ พวกนี้
เอาไว้ ที่กลางหว่างขา ให้เกะกะ อ่ะเจ้าค่ะ
อืม...แต่ จะว่าไป ถึงแม้ ไอ้เจ้าผังผืดพรหมจรรย์ เนี่ย
มันจะ มีคุณค่า สู้ พรมเช็ดเท้า ไม่ได้ ในสายตาของอิฉัน
แต่ มันก็ไม่ถึงกับ ไร้ประโยชน์ ซะทีเดียวหรอกนะจ๊ะ
เพราะ อย่างน้อยมันก็ทำให้ เราได้มีการละเล่นที่สนุก ๆ ทำ อ่ะค่ะ
อาทิเช่น ครึ้ม ๆ เราก็ งัดเอาผังผืดพรหมจรรย์ ออกไปอ่อย
ให้ ไอ้พวกไอ้เข้ไอ้โขง ทั้งหลาย มันน้ำลายหกเล่น ๆ
โดยที่ไม่ต้องรู้สึกสะทกสะท้าน เวลาโดน พวกมันก่นด่า
ครหาว่า เราเป็น อินังผู้หญิงหน้าโง่ ที่ ใจง่าย แรดได้ทุกสถานการณ์ ว่ะ
เนี่ย เคยเจอมากะตัวเองแระ ขนาด โดนมันโพสด่า ประมาณ ว่า
บัวเหล่าที่ 5 อย่างอิฉันนั้น
มัน เป็น อิพวกดอก(บัว)ทอง(คำ)
อิฉันยัง นั่งอ่านไป ขำไป
แล้วหัวเราะจนแทบตกเก้าอี้ เล๊ยยยยยย เอิ๊ก ๆ
เฮ้ออ จะว่า ไป ไอ้เจ้าผังผืดพรหมจรรย์ เนี่ย
มันก็ยังจะพอที่เอาไปใช้สอยประโยชน์ ได้บ้าง
ก็ตรงที่ ได้อาศัยมันไว้ เป็น ไม้กันหมา แบบนี้แหล่ะ 5555
--- End quote ---
บัวผ่อง:
รบกวนสอบถามเรื่อง....
ถ้าเรามีปัญหาชีวิตให้ต้องขบคิด และต้องการคำตอบ
เลย ตั้งกาทู้สอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับ เรื่อง...
พรหมจารีย์และการรักนวลสงวนตัวของหญิงสาว
โดยอาศัยการเปรียบเทียบแบบตรรกะ เชิงสัญลักษณ์ ตามสไตล์ ปรัชญา ศาสนา
ด้วยการเอา พรหมจารีย์ ไปเปรียบเทียบ ประโยชน์ใช้สอยกับ พรมเช็ดเท้า
เพื่อโยนหินถามทาง ว่า ในสายตาของคนอ่าน สิ่งไหนมีความสำคัญ มากกว่ากัน แบบ กาทู้นี้
--- อ้างถึง ---
. . .ถ้าเลือกได้ คุณจะเลือกเป็นผู้ครอบครอง สิ่งไหนดีคร้าาา ? พรหมจารีย์ หรือว่า ... . . .
http://pantip.com/topic/30144366
--- End quote ---
นี่มัน สามารถ แท็กในห้อง ปรัชญา /ศาสนา /ปัญหาชีวิต /ความรักวัยรุ่น
เพื่อขอความเห็นที่หลากหลาย จากท่านผู้อ่านได้หรือไม่เจ้าคะ ?
เฮ้ออ ? ชัก รู้สึกขาดความมั่นใจในการตั้งกาทู้อีกแล้ว เจ้าค่ะ T - T
แก้วจ๋าหน้าร้อน:
:45: สวัสดีวันแห่งความรักของฝาหรั่งครับคุณแม่
:13: คุณแม่ยังดูมีพลังเหมือนเดิมนะครับ รักษาสุขภาพนะครับ
ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับผม
บัวผ่อง:
--- อ้างจาก: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2013, 03:48:33 pm --- :45: สวัสดีวันแห่งความรักของฝาหรั่งครับคุณแม่
:13: คุณแม่ยังดูมีพลังเหมือนเดิมนะครับ รักษาสุขภาพนะครับ
ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับผม
--- End quote ---
สวัสดีวันเสียตัวของคนไทย...เอ๊ย...วันวาเลนไทน์ เช่นกันจร้าาคุณลูก
อ่ะ บทความข้างล่างนี้ คุณแม่ขราา โพส เอาไว้
ให้ คุณลูก และ น้อง ๆ นู๋ๆ ทั้งหลายได้อ่านเล่นๆ
เพื่อ เป็นของขวัญเนื่องในวาระ วันสุกดิบ
ก่อนที่จะถึง...เทศกาลเสียตัว เอ๊ย เทศกาลวาเลนไทน์ จร้าาา :12:
ถ้าไอ้หนุ่มที่คุณแอบชอบ มาชวนไปนอนด้วย
คุณจะยอม โอเคนะคะ ก๊ะ มันไหมคร้าาาาาา ?
--- อ้างถึง ---
สมัยอยู่ ม.ปลาย เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง
เคยถามหนูบัวฯ เล่น ๆ ประมาณว่า ถ้าไอ้หนุ่มที่หนูบัวแอบชอบ
( อาทิเช่น พระเอกหนังสุดหล่อ ขวัญใจของเธอ )มาชวนไปนอนด้วย
หนูบัว จะยอม โอเคนะคะ ก๊ะ มันไหม?
หนูบัวฯยิ้ม ๆ แล้วตอบไปว่า
" ถ้าพอใจผู้ชายคนไหน
หนูบัวฯ ก็ชวนมันนอนด้วย ได้ทั้งนั้น
(โดยไม่คิดจะตั้งเงื่อนไขผูกมัด อะไรกับมันด้วย )
แต่บังเอิญ เธอรู้สึกว่ายังไม่มีผู้ชายคนไหนที่เห็นแล้ว
ทำให้เธอ พอใจ จนรู้สึกอยากจะนอนกับมัน ว่ะ "
เพื่อนฟังคำพูดของหนูบัวฯ แล้วตีหน้าทะแม้ง ๆ
ตั้งแต่นั้น มันก็เลิกถามเรื่องพรรณนี้กับเธออีกเลย
หนูปูเป้ รูมเมทรุ่นน้อง สมัยอยู่มหาลัย เคยนั่งถกกับหนูบัวฯ
เกี่ยวกับประเด็น เรื่อง การรักนวลสงวนตัว ของหญิงสาว
หนูบัวฯ ก็ตอบน้องมันไป แบบเดียวกับที่เคยตอบเพื่อนนั่นแหล่ะ
แต่หนูปูเป้ ไม่ยักกับทำท่าแปลก ๆ
เธอมีสีหน้าครุ่นคิด และ ยังคงนั่งคุยเรื่องนี้กับหนูบัวฯ ต่อ
พอครึ้ม ๆ นึกเอ็นดูอีหนูมัน
หนูบัวฯก็เลย เลคเชอร์เรื่อง
เยื่อบาง ๆ กลางหว่างขาของผู้หญิง ให้ฟัง
พร้อมกับเตือนมันว่า
กรอบจำกัดของผู้หญิง
ไม่ใช่อยู่ที่เยื่อเหล่านั้นหรอกนะ ปูเป้
แต่ อยู่ที่การมีมดลูก ต่างหาก
ผู้หญิงมักใช้ เซ็กส์ เพื่อแลกกับความรัก
แต่ผู้ชายมักจะใช้ ความรัก แลกกับเซ็กส์
และไม่ว่า จะเป็นแบบไหน มันก็คือการแลกเปลี่ยน...
เกิดการตีค่า เกิดการสมมุติ และ เกิดการยึดติด ขึ้นมา
จนบางครั้ง ก็เกิดความสับสนระหว่างคำ สองคำ
... ความรัก กับ ความใคร่...
ดังนั้นเวลามีความรัก จงระวังให้มาก
เพราะเจ้าความรักมันมีเล่ห์กลสารพัด
ที่จะงัดมาใช้เพื่อล่อลวงทำให้คนตาบอด
ถ้าริจะมีความรัก เวลานึกอยากจะทำอะไรต้องอย่าประมาท
การมีเซ็กส์กับผู้ชาย ก่อนเวลาอันควร มันอันตรายมาก
แม้การรู้จักวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้ท้อง มันจะทำให้ทุกอย่างดูค่อนข้างปลอดภัย
แต่การยอมนอนเตียงเดียวกับผู้ชายสักคน
มันก็เหมือนการยินยอมให้ผู้ชายคนนั้น มามีอิทธิพล เหนือชีวิตเรา
ถ้าไม่อยากสูญเสีย อิสรภาพของชีวิตที่สดใส จงอย่าคิดสั้นทำอะไรมักง่ายเด็ดขาด
ผู้ชายเป็นสัตว์โลกที่ไม่เคยเชื่อง
อย่าประมาทไปเล่นกับไฟ
เมื่อไรที่มันได้ครอบครอง
แล้วเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
เรานั่นแหล่ะที่จะเดือดร้อน
เพราะถ้ามีรู้สึกว่า เข้ากันไม่ได้
เราไม่มีสิทธิ (ไม่แต่จะคิด )
ที่จะเขี่ยมันออกจากชีวิต
(นอกเสียจาก ว่า มันจะเบื่อ และ เขี่ยเราทิ้งเอง)
หนูบัวฯ ยกตัวอย่างให้ ปูเป้ฟัง
ถึง เรื่อง พาดหัวข่าวตามหน้าหนังสือพิมพิ์
ประเภท ไอ้หนุมรักคุดเอาน้ำกรดสาดหน้าอีสาวคนรัก แล้วยิงตัวตาย
ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ปูเป้ มันจะคิดยังไงกับสิ่งที่เธอ พูด
เพราะ เห็นมันนั่งฟังตาแป๋ว แล้วทำท่าขยาดอย่างไรพิกล
สุดท้ายมันก็บ่นพึม " เจ๊ พูดซะ เค้าไม่อยากมีแฟนเลย "
ครั้งหนึ่งเจ้าพี่ชายนอกไส้ เคยสอนหนูบัวฯ ประมาณว่า
"จะผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ก็มี ความต้องการ เหมือน ๆ กัน
เพียงแต่ ความต้องการของผู้หญิง
มักจะถูกขัดขวางไว้โดยศีลธรรม
ปรัชญาฟันแล้วทิ้ง นั้น ผู้ชายที่ไหน ก็ทำได้ ง่ายจะตาย
แต่สิ่งที่ยากกว่านั้น...คือการไม่ทำต่างหาก
เพราะสัญชาตญาณของสัตว์ มันย่อมชอบสมสู่อยู่แล้ว
และการสมสู่ไม่เลือกนี่เอง
ที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สังคมวุ่นวาย"
ฟังแล้ว บางครั้ง หนูบัวฯก็ขอบคุณกรรมเก่าแต่ปางก่อนนะ
ที่โน้มนำให้เธอมี โครโมโซมคู่ที่ 23 เป็น XX
เพราะหาก เป็น XY คนที่นิยม ลัทธิ เสพสุข
และ มี ราคจริต เป็นเจ้าเรือน อย่างเธอคงเป็นเอดส์ตาย แน่ ๆ
นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ บางครั้งขนบธรรมเนียม
จารีตประเพณีอันหยุมหยิมทั้งหลายแหล่ ที่จำกัดสิทธิของผู้หญิง
มันก็ช่วยเป็นเกราะป้องกันคุ้มครองหนูบัวฯ
ไม่ให้หลงระเริงกับกิเลสตัณหาได้มากขึ้นนะ
บางครั้ง น้องชายของหนูบัว ฯ เคยเลคเชอร์สอนเธอว่า
" จำไว้นะ ไอ้บัวฯ
ผู้หญิงน่ะมันก็แค่เล่นตัวนิด ๆ หน่อย ๆ
ตอนเริ่มจีบเท่านั้นแหล่ะ
แรก ๆ ก็ยอมทนตามใจนังพวกนี้มันไปก่อน
พอตกเป็นของเรา เมื่อไร
ขี้คร้านจะเดินตามเรา ต้อย ๆ
เรียกเรา คุณคะ คุณขาาาาาาาาาาา "
ต้อง ขอบคุณน้องมันนะ ที่ให้ข้อคิดสะกิดใจ
ทำให้ หนูบัวฯ ฟังแล้ว หวาดกลัว
ไม่อยากสติแตก ต้องตกเป็น
ผู้หญิงที่เดินตามใครต้อย ๆ
แล้วพูดว่า คุณคะ คุณขาาาาาาาาาาา
เฮ้อ ประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต
และการได้ฟัง พี่ชายนอกไส้ และ น้องชายในไส้มันเลคเชอร์ ครั้งนั้น
มีผลกับ มุมมองความคิด ในเรื่องโลกีย์
( โดยเฉพาะในส่วนของ กาเม ) ของหนูบัวฯ อย่างมาก เลยนะ
ด้วยเหตุนี้ เลยทำให้ เธอ สามารถ รักษาศีลข้อ 3 นี้
ได้ค่อนข้างง่ายมาก (ถ้าพูดถึงในส่วน เฉพาะ กายกรรม )
อย่างน้อยเมื่อมีอารมณ์เกิดขึ้น
ก็ไม่เคยคิดฉุดคร่า ผู้ชายคนไหน ไปข่มขืนสักทีนะ แหะ ๆ
--- End quote ---
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version