ริมระเบียงรับลมโชย > รับสายลมเย็นหน้าระเบียง
ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
sithiphong:
ภาพสยองจากกล้องวงจรปิด เวบข่าวตำรวจศรีสะเกษ ในรูปแบบที่แตกต่าง
ภาพสยองจากกล้องวงจรปิด เวบข่าวตำรวจศรีสะเกษ ในรูปแบบที่แตกต่าง
ภาพสยองจากกล้องวงจรปิด เวบข่าวตำรวจศรีสะเกษ ในรูปแบบที่แตกต่าง
-http://www.youtube.com/watch?v=sZAoE1Sv50s-
sithiphong:
5 วีธีขับขี่ปลอดภัยช่วงปีใหม่
-http://auto.sanook.com/6261/6-%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/-
ช่วงเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวนมาก วันนี้ Sanook!Auto มีข้อแนะนำ 5 ข้อง่ายๆเพื่อการขับขี่ปลอดภัยรับช่วงปีใหม่ 2557 มาฝากกันครับ
สถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว (ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2555 จนถึง 2 ม.ค 2556) พบว่า เกิดอุบัติเหตุทั่วประเทศกว่า 3,176 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 365 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 3,329 ราย ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นเส้นทางตรงเสียด้วยครับ ถ้างั้นเรามาดูข้อปฏิบัติ 5 ข้อง่ายๆกันเลยดีกว่า
ข้อควรปฏิบัติ 5 ข้อง่ายๆเพื่อการขับขี่ปลอดภัย
1.ใช้ความเร็วที่เหมาะสม
เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีผู้ใช้รถร่วมกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรใช้ความเร็วให้น้อยลง เพื่อการตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลดลงนั่นเอง ทั้งยังเป็นการประหยัดน้ำมันไปในตัวอีกด้วย
แต่หากกังวลว่าจะถึงที่หมายไม่ทันเวลานั้น ก็เพียงเริ่มออกเดินทางให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ก็จะทำให้ถึงที่หมายได้ตรงตามเวลา และยังปลอดภัยอีกด้วย
2.ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่
การใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์เป็นสิ่งอันตราย เพราะจะทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิในการขับรถ และทำให้การตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินช้าลงอีกด้วย ทางที่ดีควรให้ผู้ที่นั่งไปด้วยเป็นผู้สนทนาแทนจะดีกว่า หรือหากจำเป็นก็ควรหยุดรถให้เรียบร้อยเสียก่อน
3.ผ่อนคลาย..ไม่หงุดหงิด
การใช้รถใช้ถนนร่วมกันกับผู้คนอีกมากมายนั้น อาจทำให้ผู้ขับขี่เลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความหงุดหงิดขณะขับรถ แต่สิ่งสำคัญนั่นก็คือ การควบคุมอารมณ์ตนเองมิให้อยู่เหนือการกระทำ ยกตัวอย่างเช่น หากถูกรถคันอื่นปาดหน้า ก็ควรปล่อยเขาไป ไม่ต้องเอามาใส่ใจให้เสียอารมณ์
4. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า
ผู้ขับสามารถลดความเสี่ยงต่อการชนท้ายได้ง่ายๆ เพียงรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าไว้ 2 วินาที วีธีการก็คือ ให้เริ่มต้นนับจากจุดที่รถคันหน้าขับผ่าน โดยอาจสังเกตจากป้ายบอกถนนหรืออะไรก็ตาม จากนั้น เราควรใช้เวลาประมาณ 2 วินาทีในการขับผ่านจุดดังกล่าว จึงจะถือเป็นระยะห่างที่เหมาะสม
นอกจากนั้น ในกรณีที่ทัศนวิสัยย่ำแย่มาก เช่น หากมีฝนตกหรือหมอกลงจัด ก็ควรใช้ระยะห่างมากขึ้นกว่าเดิม
5. เมาไม่ขับ
ข้อนี้สำคัญที่สุดนะครับ เพราะทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเมาแล้วขับ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย และเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างอย่างยิ่ง ดังนั้น หากใครเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดื่มสังสรรค์ ก็ควรมอบกุญแจรถให้ผู้อื่นขับแทน หรือใช้บริการรถสาธารณะเสียเลยจะดีกว่า
ที่กล่าวมาแต่ละข้อล้วนแต่เป็นเรื่องง่ายๆที่เราทราบดี เพียงแต่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จึงจะช่วยลดอุบัติเหตุได้อย่างจริงจัง
sithiphong:
5 ท่าคลายเมื่อยหลังพวงมาลัย คนขับรถไกล ๆ ลองทำดู
-http://health.kapook.com/view78820.html-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลทีไร ถนนหนทางเส้นหลัก ๆ ในต่างจังหวัดที่จะพาไปสู่สถานท่องเที่ยวนั้นช่างติดขัดสาหัสเสียจริง ๆ ทำเอาคนขับรถเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว อ่อนเพลียเอาได้ง่าย ๆ และทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมีสูงขึ้นไปด้วย แต่ถ้าไม่อยากให้ทริปท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวหมดสนุก ลองมาดูข้อมูลดี ๆ จากกรมอนามัย ที่ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวที่ขับรถยนต์ทางไกลกันเลย
ป้องกันปวดหลัง ด้วยการปรับเบาะนั่ง
เพื่อไม่ให้ปวดหลังและเมื่อยล้า ต้องเริ่มจากการปรับเบาะที่นั่งคนขับก่อน ด้วยการเลื่อนเบาะที่นั่งให้อยู่ในระดับเหมาะสมกับตนเอง หลังพิงพนักพอดี ไม่ควรนั่งห่างหรือชิดพวงมาลัยมากเกินไป เพราะจะทำให้หลังโค้ง พิงพนักไม่ได้ หรือพิงได้แต่เวลาขับต้องเหยียดแขนและเข่ามากขึ้น จนกลายเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปวดหลัง ซึ่งหากมีอาการปวดหลังเป็นเวลานานและไม่มีการดูแลป้องกันอย่างถูกวิธีแล้ว อาจทำให้เสี่ยงปวดหลังถาวรได้
5 ท่าง่าย ๆ คลายเมื่อยล้าหลังขับรถนาน
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ได้แนะนำวิธีบริหารร่างกายด้วย 5 ท่าง่าย ๆ ให้ผู้ขับรถทางไกลนำไปใช้ลดอาการเมื่อยล้ากันแบบนี้
ท่าที่ 1 ท่าหงายมือแขนแนบลำตัว อาจยกด้วยมือเดียวหรือสองมือก็ได้ เกร็งข้อศอกแล้วยกขึ้นถึงหัวไหล่ จากนั้นค่อย ๆ เอาแขนลงช้า ๆ ทำซ้ำเช่นนี้สลับกันทั้ง 2 แขน จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการบังคับพวงมาลัยรถเป็นเวลานาน ๆ
ท่าที่ 2 ท่ายืดกล้ามเนื้อใต้ท้องแขนส่วนบน เริ่มจากยกแขนขวาตั้งศอกให้ขนานกับพื้น ตั้งฉากกับลำตัว ใช้มือซ้ายจับข้อศอกขวา แล้วออกแรงผลักไปข้างหลังค้างไว้ นับ 1-5 แล้วสลับข้าง ทำซ้ำกัน 5 ครั้ง
ท่าที่ 3 ท่ายืดไหล่ ทำได้โดยนั่งยืดตัว แล้วบีบไหล่ยกขึ้นไปหาใบหู ค้างไว้ นับ 1-2 แล้วเอาลง ทำซ้ำ 5 ครั้ง จะรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น
ท่าที่ 4 ท่าบิดตัว นั่งยืดตัวตรงขึ้น มือจับที่ขอบเบาะ มือซ้ายสอดใต้ขาขวา บิดตัวค้างไว้ นับ 1-5 ทำสลับข้างไปสัก 5 ครั้ง
ท่าที่ 5 ท่าบริหารเท้า นั่งเหยียดขาออกไปด้านหน้า ยกเท้าให้ลอยขึ้นพ้นพื้น เหยียดปลายเท้าให้สุด จากนั้นกระดกปลายเท้าขึ้น-ลง ทำ 5 ครั้งแล้วสลับข้างซ้าย-ขวา จะช่วยคลายเมื่อยได้
Note !
สิ่งสำคัญที่สุดในการขับรถคือความปลอดภัย ดังนั้น ผู้ขับขี่ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา และห้ามดื่มของมึนเมาเด็ดขาด
ถึงจะไม่ปวดหลัง ไม่เมื่อยล้า แต่ถ้าเกิดรู้สึกเพลีย ง่วงนอนขึ้นมาเมื่อไร ต้องแวะจอดพักในสถานที่ปลอดภัยทันที อย่าฝืนขับรถต่อไปเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ยอมเสียเวลาพักเอาแรงนิดหน่อยจะได้มีแรงขับรถต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ดีกว่าต้องมาเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก-http://www.anamai.moph.go.th/ewt_news.php?nid=5946&filename=index-
sithiphong:
เรืองรถยนต์ ไม่เกี่ยวกับ การขับรถ
แต่ขอลงไว้ให้เป็นความรู้กันครับ
---------------------------------------------------------------------------------
4 เรื่องที่คุณไม่รู้ของแอร์ในรถยนต์
-http://club.sanook.com/21365/4-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81-
แอร์รถยนต์ ไม่เพียงแค่เป็นแหล่งรวมของฝุ่นละออง แต่ยังเป็นที่อยู่ของเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคุณและครอบครัว เพื่อสุขภาพอนามัย เราจึงควรล้างตู้แอร์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และนี่คือ 4 เรื่องที่คุณไม่รู้ที่ควรอ่าน
- ฝุ่น จากภายนอกรถจะเข้ามาในระบบแอร์ทุกครั้งที่เปิดแอร์ เมื่อฝุ่นละอองมาเกาะอยู่ตามแผงคอยล์เย็นในตู้แอร์ ทุกครั้งที่เปิดแอร์ ลมแอร์ก็จะพัดเอาฝุ่นเล็ก ๆ เข้ามาในตัวรถ ยิ่งนั่งอยู่ในรถนาน ก็ยิ่งสูดฝุ่นเข้าไปในร่างกาย สะสมไปเรื่อย ๆ นานวันก็จะกลายเป็นสาเหตุของปัญหาโรคภูมิแพ้ โรคเยื่อบุในระบบทางเดินหายใจ
- ซากแมลงที่เน่าเปื่อยตายอยู่ในตู้แอร์ เป็นสิ่งที่พบได้เสมอ และนับเป็นอันตรายที่มองไม่เห็นและส่งผลต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง นอกจากคุณจะสูดฝุ่นละอองเข้าไป คุณยังสูดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย นั่นทำให้ร่างกายรับสารและก่อให้เกิดโรคแปลก ๆ ที่ไม่คาดคิดมากมาย โดยเฉพาะโรคจากการติดเชื้อในปอด และอวัยวะภายในร่างกาย
- เครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่จะอยู่ด้านหลัง แต่ตัวคุณขับรถอยู่ด้านหน้า ลมแอร์ที่เป่าออกมา จึงเหมือนส่งตรงเข้าจมูก ปอด ให้สูดก่อนที่เครื่องฟอกอากาศจะฟอกอากาศ ในขณะที่การหาซื้อเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีมาติดตั้ง ต้องใช้เงินมากกว่ามาก ดังนั้นการกำจัดที่สาเหตุ ด้วยการล้างตู้แอร์จึงเป็นทางหลีกเลี่ยงโรคภัยที่ดี และประหยัดกว่า
- หนึ่งในการล้างตู้แอร์ที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองโดยองค์การอาหารและยา คือ การนำตู้แอร์มาทำความสะอาด ผ่านการล้างน้ำยาด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถแวะทำความสะอาดได้กับศูนย์บริการใกล้บ้าน
ขอบคุณข้อมูลจาก วิชาการดอทคอม
http://club.sanook.com/21365/4-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81
sithiphong:
นครบาลเตรียมจับ-ปรับจริง! 13 ข้อหาจราจร ตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้้
-http://auto.sanook.com/6335/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87-13-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1-1-%E0%B8%81.%E0%B8%9E/-
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจรและคณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป จะเริ่มจับจริงปรับจริง 13 ข้อหาหลักตามพ.ร.บ.จราจร เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากพบว่าฝ่าฝืนจะถูกเรียกปรับทันที
13 ข้อหาจับปรับจริงตั้งแต่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป
จอดรถในที่ห้ามจอด
จอดรถซ้อนคัน
จอดรถบนทางเท้า
ขับรถบนทางเท้า
แซงรถในที่สาธารณะ
ขับรถย้อนศร
ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง
เมาแล้วขับ
ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
แซงรถในที่คับขัน
ไม่มีใบอนุญาตขับขี่
ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ซึ่งข้อหาดังกล่าว เป็นความผิดจราจรที่พบเห็นได้บ่อย และก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตำรวจนครบาลจึงจะบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนนั่นเอง
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version