ผู้เขียน หัวข้อ: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน  (อ่าน 17565 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2014, 09:40:54 am »
แนะเทคนิคการจอดรถอย่างถูกวิธี ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

-http://car.kapook.com/view87521.html-


ปภ. แนะเทคนิคการจอดรถอย่างถูกวิธี ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ (ปภ.)

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะเทคนิคการจอดรถอย่างถูกวิธีในสถานที่ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ทั้งการจอดรถในช่องจอดรถ จอดรถบนช่องทางเดินรถ จอดรถบนทางลาดชัน เพื่อไม่ให้กีดขวางช่องทางจราจร ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า การจอดรถไม่ถูกวิธีและในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะเทคนิคการจอดรถอย่างถูกวิธี ดังนี้

          กรณีจอดรถในช่องจอดรถ ควรจอดรถให้อยู่ภายในช่องที่กำหนดไว้  โดยจอดขนานกับเส้นที่กำหนด และกะระยะห่างจากเส้นให้เหมาะสม  เพื่อให้รถอยู่กึ่งกลางของช่องจอดรถ ไม่จอดรถชิดไปด้านใดด้านหนึ่ง  ชิดด้านท้าย หรือล้ำไปด้านหน้ามากเกินไป พร้อมพับกระจกข้าง จะช่วยเพิ่มพื้นที่ให้รถคันอื่นสามารถขับผ่านหรือเข้าจอดได้สะดวก

          หากจอดรถกีดขวางช่องทางรถคันอื่น ให้ปลดเกียร์ว่าง หรือเลื่อนคันเกียร์ไปไว้ที่ตำแหน่ง N ไม่ดึงเบรกมือ เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้ แต่หากจอดรถในช่องทางปกติ ควรเลื่อนคันเกียร์ไปไว้ที่ตำแหน่ง P เพื่อป้องกันรถเลื่อนไปชนรถคันอื่น รวมถึงไม่จอดรถบริเวณหัวมุม ทางโค้ง หรือทางแคบ เพราะมีพื้นที่จำกัด อีกทั้งยังกีดขวางช่องทางจราจร ทำให้ รถคันอื่นขับผ่านไม่สะดวก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้

          กรณีจอดรถบนช่องทางเดินรถ ควรจอดรถบริเวณด้านซ้ายของทางเดินรถ โดยให้ด้านซ้ายของรถชิดและขนานกับขอบหรือไหล่ทางในระยะไม่เกิน 25 เซนติเมตร ในลักษณะที่ไม่กีดขวางช่องทางจราจร ไม่จอดรถในบริเวณที่ห้ามจอด เช่น บนทางเท้า บนสะพาน ในอุโมงค์ บริเวณทางร่วมทางแยก เป็นต้น เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย

          กรณีรถจอดเสียบนทางเดินรถ ควรให้สัญญาณการจอดรถโดยเปิดไฟฉุกเฉิน นำกรวย  ป้ายสะท้อนแสง กิ่งไม้ หรือวัสดุอื่นมาวางให้ห่างจากรถในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพื่อเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นทราบว่ามีรถจอดเสีย จะได้เพิ่มความระมัดระวังและเปลี่ยนช่องทางเดินรถได้ทัน โดยจอดให้ชิดริมไหล่ทางในลักษณะที่ไม่กีดขวางช่องทางการจราจร จากนั้นให้พยายามนำรถออกให้พ้นช่องทางเดินรถโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

          กรณีจอดรถบนทางลาดชัน ควรจอดรถให้ชิดขอบทาง ฟุตบาท หรือกำแพงให้มากที่สุด โดยหมุนพวงมาลัยให้ล้อหน้าเลี้ยวไปทางขอบทาง หากรถเคลื่อนที่จะได้ไม่ไหลไปกีดขวางช่องทางจราจร กรณีเป็นทางลาดชันที่ไม่มีขอบทาง ฟุตบาท หรือกำแพง ควรหมุนพวงมาลัยให้ล้อหน้าเลี้ยวไปทางด้านตรงข้ามกับถนน หากรถเคลื่อนที่จะได้ไม่ไหลไปกีดขวางช่องทางจราจร ที่สำคัญ หลังจากดับเครื่องยนต์และให้ดึงเบรกมือขึ้นจนสุด เลื่อนเกียร์ไปยังตำแหน่งถอยหลังสำหรับรถเกียร์ธรรมดา และตำแหน่ง P สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัว รวมถึงนำก้อนหิน ขอนไม้ หรือวัสดุที่แข็งแรงมารองหลังล้อรถ จะช่วยให้จอดรถได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

          อย่างไรก็ตาม การจอดรถบนทางลาดชัน ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะก่อนออกรถ เพราะล้อยังอยู่ในตำแหน่งเลี้ยวและมีวัตถุรองหลังล้อรถ ควรหมุนพวงมาลัยกลับคืนตำแหน่งให้ล้อตรงและนำวัตถุรองหลังล้อรถออกก่อน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ การเรียนรู้เทคนิคการจอดรถจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
-http://www.disaster.go.th/dpm/-

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 07:52:21 pm »
ไม่รู้ว่า จะทำได้แค่ไหน เหอๆๆๆๆๆ

น่าจะมีการลงทะเบียนสำหรับผู้แจ้ง  แล้วให้ค่าปรับ 50% ผมว่า งานนี้ น่าจะขับรถกันดีแน่ๆ 

--------------------------------------------------------


ขสมก. ดีเดย์ 12 พ.ค. รถเมล์วิ่งขวา-ไม่รับผู้โดยสาร เจอปรับแน่
-http://hilight.kapook.com/view/101831-





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ขสมก. เตรียมเปิดโครงการ ประชาชนเดินทางปลอดภัยซ้ายตลอดจอดทุกป้าย รับเปิดเทอม พร้อมออกมาตรการคุมเข้มรถเมล์ ขสมก. และรถร่วมฯ เพิ่มโทษปรับ หากฝ่าฝืน

          วันที่ 9 พฤษภาคม 2557 นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ขสมก. จะมีพิธีเปิดโครงการ “ประชาชนเดินทางปลอดภัยซ้ายตลอดจอดทุกป้าย (เมื่อผู้โดยสารจะขึ้น-ลง)” เพื่อให้ผู้โดยสารทั้งนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยในช่วงเปิดเทอม

          โดยในโครงการดังกล่าว จะมีการควบคุมให้พนักงานขับรถเมล์ของ ขสมก. และรถเอกชนร่วมบริการ ให้ขับรถชิดซ้าย และจอดรับ-ส่งทุกป้ายที่มีผู้โดยสารต้องการขึ้น-ลง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแม้ว่าโครงการให้รถเมล์ขับชิดซ้ายจะทำมาแล้วหลายปีแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จากการเก็บข้อมูลพบว่า 80% ของข้อร้องเรียนและการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการขับรถออกขวา จึงมีความพยายามลดข้อร้องเรียนเรื่องนี้ให้ได้ เพราะถือว่าเป็นสาเหตุใหญ่ โดยตั้งเป้าไว้ให้เหลือเพียง 50% ซึ่งนำไปสู่การลดจำนวนการเกิดอุบัติให้ได้ 50% เช่นกัน

          สำหรับมาตรการลงโทษจะเพิ่มการลงโทษให้หนักขึ้น หากเป็นพนักงานขับรถ ขสมก. จะมีโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน โดยดูจากเจตนาการกระทำความผิดและจำนวนครั้ง ส่วนรถร่วมเอกชนได้แจ้งขอความร่วมมือไปแล้ว หากถูกร้องเรียนจะมีโทษเป็นการเปรียบเทียบปรับ

          นายนเรศ เผยอีกว่า ตนได้เสนอคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ (บอร์ด) ขสมก. ให้อนุมัติเพิ่มโทษค่าปรับรถเอกชนร่วมบริการแล้ว เพื่อให้เกิดความระมัดระวังในการให้บริการมากขึ้น โดยบอร์ดอนุมัติตามที่เสนอคือ เพิ่มอัตราค่าปรับขั้นแรกที่กำหนดไว้ 200-1,000 บาท เพิ่มเป็น 500-2,000 บาท และอัตราค่าปรับขั้นสูงจากที่กำหนด 200-3,000 บาท เป็น 500-5,000 บาท ซึ่งหากเป็นการกระทำผิดของพนักงานจะพิจารณาปรับในโทษขั้นแรก แต่สำหรับผู้ประกอบการจะมีการพิจารณาโทษที่สูงขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างออกประกาศเรื่องใหม่ คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ได้ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้

          ทั้งนี้ สถิติการให้บริการผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1348 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2557 พบว่า มีประชาชนโทรเข้าใช้บริการทั้งสิ้น 292,705 สาย เป็นการสอบถามเส้นทาง 291,569 สาย ร้องเรียน 1,326 สาย โดยเรื่องร้องเรียนที่มีมากที่สุดคือ ขับรถประมาทหวาดเสียว 304 สาย รองลงมาเป็นเรื่องขับรถช่องทางขวา ไม่หยุดรับ 191 สาย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก -http://www.dailynews.co.th/Content/bangkok/236228/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B212%E0%B8%9E.%E0%B8%84.%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89-

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2014, 03:49:37 pm »
ขออภัย เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับกฎจราจร ครับ




---------------------------------------------------


10 อ็อพชั่นในรถยนต์ที่ควรมีไว้ หากกำลังจะออกรถใหม่


-http://auto.sanook.com/7197/10-%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89-%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/-


 การเลือกรถยนต์คู่ใจสักคันหนึ่งนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา นอกเหนือจากรูปลักษณ์ความสวยงามและสมรรถนะของเครื่องยนต์แล้ว อุปกรณ์พื้นฐานติดรถ หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า 'อ็อพชั่น' ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน





     ปัจจุบันเทคโนโลยีในรถยนต์ก้าวหน้าไปกว่าแต่ก่อนมาก จนทำให้รถยนต์รุ่นใหม่ๆมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นมากมาย โดยไม่จำกัดอยู่ในเฉพาะรถยนต์หรูราคาแพงอีกต่อไป เราจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จัก 10 อ็อพชั่นในรถยนต์สมัยนี้ ควรจะมีอะไรมาให้บ้าง?

 

     1.ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ

     ไฟหน้าถือเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานที่สุดในรถยนต์ เพราะนอกจากจะช่วยให้มองเห็นถนนได้ชัดเจน ยังช่วยให้ผู้ใช้ถนนคนอื่นๆสามารถมองเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ระดับซิตี้คาร์เริ่มมีการติดตั้งระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติมาให้บ้างแล้ว ซึ่งช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลาลงอุโมงค์ หรือ เข้าที่จอดรถใต้อาคาร เพราะคนส่วนใหญ่มักมองข้ามที่จะเปิดไฟหน้ารถกันในสถานการณ์แบบนี้

 

     2.ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ

     แม้ว่าระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติอาจดูไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วระบบนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างมากเมื่อฝนลงเม็ด เพราะไม่จำเป็นต้องคอยพะวักพะวงอยู่กับการปรับความเร็วตามสภาพน้ำฝน ที่เดี๋ยวเบาบ้างแรงบ้าง ช่วยให้โฟกัสกับการขับขี่ได้ดีขึ้นเยอะ เพิ่มความปลอดภัยขึ้นได้อีกด้วย

 

     3.ปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย

     รถยนต์รุ่นใหม่ๆมักติดตั้งปุ่มที่ต้องใช้งานบ่อยไว้บนพวงมาลัย เช่น เครื่องเสียง, โทรศัพท์, ระบบควบคุมความเร็ว เป็นต้น ซึ่งทำให้ผู้ขับไม่ต้องปล่อยมือออกจากพวงมาลัย เพียงแค่ขยับข้อมือนิดหน่อย ก็ช่วยให้การเปลี่ยนเพลงเป็นไปอย่างสะดวกสบาย และปลอดภัย

 

     4.กุญแจรีโมทอัจฉริยะ+ปุ่มสตาร์ท

     กุญแจรีโมทอัจฉริยะคือกุญแจที่สามารถพกไว้ในกระเป๋า โดยไม่จำเป็นต้องหยิบออกมาเพื่อการเข้า-ออกรถ และสตาร์ทรถ ซึ่งแทบจะกลายเป็นจุดขายของรถสมัยใหม่เกือบทุกยี่ห้อ เพราะมีให้เห็นตั้งแต่อีโคคาร์ไปจนถึงรถยุโรปราคาหลายล้านบาท

     นอกจากจะช่วยเรื่องความสะดวกสบายแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งหากเกิดเหตุการณ์จี้ชิงรถแบบต่อหน้า เพราะหากกุญแจไม่อยู่ในตัวรถ จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อีกหากดับเครื่องยนต์ ซึ่งหากเป็นระบบกุญแจธรรมดาแล้วล่ะก็ ฉลุยยันชายแดนเชียวล่ะ!

 

     5.Bluetooth

     การคุยโทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แต่หากจำเป็นจริงๆแล้วล่ะก็ ระบบบลูทูธในรถ จะช่วยให้สามารถสนทนากับคู่สายได้โดยไม่ต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู อย่างน้อยๆก็ช่วยให้สามารถจับพวงมาลัยได้ทั้งสองมือ ขณะที่รถยนต์บางรุ่นสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆได้อีกด้วย

 



     6.ช่องต่อ USB

     พอร์ต USB ในรถยนต์ จะช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ในการฟังเพลงขณะขับรถของคุณได้ เพราะปัจจุบันสามารถโหลดเพลงที่ชอบมาไว้ใน iPod หรือ แฟลชไดรฟ์ได้อย่างง่ายดาย แล้วนำไปต่อเข้ากับพอร์ตที่ว่านี้ ทีนี้ไม่ว่ารถจะติดขนาดไหน หากมีเพลงคู่ใจให้ร้องตาม ก็ไม่น่าเบื่อต่อไปแล้วล่ะ

 

     7.พวงมาลัยปรับเข้า-ออกได้

     ปกติแล้วรถยนต์รุ่นใหม่ๆมักติดตั้งพวงมาลัยที่สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้มาให้ แต่จะดีขึ้นไปอีกหากสามารถปรับเข้า-ออกได้ด้วย เนื่องจากสรีระของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากใครยังไม่เคยปรับมาก่อนก็ควรลองปรับดู เผื่อจะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างสบายยิ่งขึ้น

 

     8.ถุงลมนิรภัยคู่หน้า

     รถยนต์ในปัจจุบันควรติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า สำหรับผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้ามาให้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากผู้โดยสารด้านหน้ามักจะได้รับผลกระทบจากการชนมากที่สุด ช่วยลดการปะทะกับวัตถุต่างๆเช่น คอนโซลหน้า หรือ กระจกบังลมหน้าได้เป็นอย่างดี

 

     9.ระบบเบรค ABS

     ระบบป้องกันล้อล็อค ถือเป็นระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานชิ้นหนึ่งไปแล้ว เนื่องจากสภาวะอากาศ รวมถึงสภาพถนนที่ย่ำแย่ในบ้านเรา ระบบ ABS จะช่วยให้ระยะเบรคสั้นลงอย่างชัดเจนทั้งบนถนนแห้งและถนนเปียก รวมถึงสามารถบังคับทิศทางของรถขณะเบรคได้อีกด้วย

 

     10.ระบบควบคุมการทรงตัว

     ปัจจุบันมีชื่อเรียกต่างๆมากมายตามแต่ผู้ผลิตจะตั้ง เช่น ESP, VSC หรือ VSA เป็นต้น ซึ่งระบบเหล่านี้จะช่วยลดอาการหน้าดื้อ-ท้ายปัด อันเป็นสาเหตุให้รถเกิดอาการแหกโค้งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะฝนตกหรือถนนเปียก

 

     อ็อพชั่นต่างๆที่กล่าวมานี้ อาจไม่ใช่อุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นต้องมีในรถทุกคัน แต่หากจำเป็นต้องเลือกรถยนต์คู่ใจไว้ใช้งานยาวๆแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยเพิ่มอรรถรส และความปลอดภัยในการขับขี่พอสมควรเลยทีเดียวครับ




คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2014, 10:03:12 pm »
ตำรวจวอนเลิกพฤติกรรมขับไปแชตไป หลังพ่อค้าหัวใสผลิตสแตนดี้ติดมือถือไว้กับพวงมาลัยรถ พบเริ่มแพร่หลายในโลกโซเชียล ฮึ่มห้ามใช้เด็ขาดถือเป็นความผิดฐานโทรขณะขับโทษปรับ400-1,000บาท
วันพุธ 30 กรกฎาคม 2557 เวลา 11:04 น.

     จากที่ปัจจุบันมีผู้ที่โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลายและนิยมใช้แอพฟลิเคชั่นพิมพ์สนทนาเช่น โปรแกรมไลน์ วอทแอพ เป็นต้นซึ่งบางคนมีพฤติกรรมติดการแชทอย่างหนัก ติดการแชทตลอดเวลาไม่เว้นแม้กระทั่งการขับรถจึงทำให้มีพ่อค้าหัวใสคิดอุปกรณ์สนองความต้องการผู้ติดแชทด้วยการทำสแตนดี้วางโทรศัพท์มือถือติดตั้งกับพวงมาลัยรถเพื่อให้แชทได้สะดวกสนองกับความต้องการผู้ที่ติดการติดต่อผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆและเริ่มมีการแพร่หลายมากขึ้นจนล่าสุดมีผู้ที่ได้แสดงความห่วงใยต่อกรณีดังกล่าวได้โพสภาพและข้อความทางโซเชียลเน็ตเวิร์กและมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่

      พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.)เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ขับขี่รถยนต์การนำเอาสแตนดี้วางโทรศัพท์มือถือเพื่อยึดติดกับพวงมาลัยรถยนต์เพื่อใช้โปรแกรมแชทในขณะขับรถว่าการกระทำดังกล่าวไม่สามารถกระทำได้เพราะเข้าข่ายความผิดถือว่าเป็นการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถซึ่งยึดตามพ.ร.บ.จราจรทางบกแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่8)พ.ศ.2551 ตามมาตร43ห้ามมิให้ผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนขณะขับรถเว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมีอุปกรณ์เสริมสำหรับสนทนา(สมอลล์ทอล์ค)โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์ แต่การใช้สแตนดี้ดังกล่าวถือว่าเป็นการรบกวนสมาธิในการขับรถอย่างมากเนื่องจากต้องละสายตาจากท้องถนนและการพิมพ์ข้อความก็ต้องละมือข้างหนึ่งไปจากการควบคุมพวงมาลัยรถ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายมีโทษปรับไม่เกิน400- 1,000 บาท

      อย่างไรก็ตามการติดสแตนดี้มือถือหากเปิดลำโพงเสียงเพื่อสนทนาเท่านั้นไม่ถือว่าเป็นความผิดซึ่งจะมีคล้ายกับการใช้สมอลล์ทอล์ค โดยกฎหมายดังกล่าวได้เริ่มประกาศใช้ไปตั้งแต่วันที่8 พ.ค.2551 แล้วทั้งนี้หากตำรวจดำเนินการจับกุมแล้วผู้กระทำผิดไม่ยอมรับจะต้องมีการนำเรื่องไปพิจารณาบนชั้นศาลเพื่อดูหลักฐานพยานว่ามีเจตนาเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถหรือไม่

      พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตามสำหรับปัจจุบันนี้จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่ามีประชาชนส่วนมากที่นิยมเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถโดยเฉพาะโปรแกรมไลน์ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถือว่าอันตรายมากเพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วนั้นที่สำคัญจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุและการจราจรติดขัดมากยิ่งขึ้นเพราะขณะที่กดโทรศัพท์หลายครั้งจะทำให้สมาธิจดจ่ออยู่กับหน้าจอและเมื่อสัญญาณไฟเขียวก็จะทำให้มองไม่เห็นอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่อยากจะจับกุมพฤติกรรมเหล่านี้เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความวุ่นวายบนท้องถนนโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนแต่ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มองเห็นถึงความสำคัญเพราะหากไม่ดำเนินการตามกฎหมายก็จะส่งผลเสียในหลายด้านอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อผู้ขับขี่หรือผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ดังนั้นผู้ที่ขับรถจึงควรมีจิตสำนึกสาธารณะด้วย.

-http://www.dailynews.co.th/Content/bangkok/255915/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%AE%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%9B+%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B9%88-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2014, 07:36:40 am »
แนะนำวิธีขับรถขณะฝนตก ไม่ควรเปิดไฟกระพริบ



-http://club.sanook.com/47107/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%82%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%81-%E0%B9%84/-



เด็ดข่าวเด่น

ก่อนหน้านี้จราจรก่อนกลับบ้าน เคยนำเสนอวิธีการขับรถในขณะที่ฝนตกว่า คุณไม่ควรเปิดไฟกระพริบ เพราะจะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่น เกิดอาการตาพร่ามัวได้ วันนี้เรามีคลิปมายืนยัน

คลิปนี้ส่งเข้ามาที่ศูนย์บังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.02 จากผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊คตามนี้(@Dmax Reef) ให้ชื่อคลิปว่า มนุษย์หิ่งห้อย บอกรายละเอียดมาว่าเวลาฝนตก แล้วเจอรถคันหน้าเปิดไฟกระพริบแบบนี้อันตรายมาก เพราะรถคันหลังจะไม่รู้เลยว่า คุณจะเปลี่ยนเลนไปทางซ้าย-ขวา ตอนไหน และที่สำคัญ แสงไฟที่กระพริบเมื่อมากระทบกับน้ำฝนที่เกาะกระจก มันจะยิ่งกระจายแสง ทำให้ผู้ขับขี่คันหลังตาลายจนอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ จึงฝากไปถึงผู้ขับขี่ทุกท่าน ไม่ควรเปิดไฟกระพริบ ทางที่ดีถ้าจะเปิดไฟ ก็เปิดไฟหรี่ หรือเปิดไฟรถธรรมดาไปเลย เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกท่านควรปฏิบัติ ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนด้วย


http://club.sanook.com/47107/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%82%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%81-%E0%B9%84/
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2014, 10:06:51 pm »

ว่าด้วยเรื่องของ "ทางเดินรถ" ตามกฎหมายจราจร เข้าใจง่ายแต่หลายคนยังไม่เข้าใจ (ยานยนต์)

-http://car.kapook.com/view89226.html-


          ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องของกฎหมายการจราจรกันนักทั้ง ๆ ที่เราก็ใช้รถใช้ถนนและต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายและผู้รักษากฎหมายในด้านการจราจรอยู่ทุกวัน เลยอยากนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับกฎหมายประเภทนี้ให้ผู้ใช้รถได้รู้ไว้บ้าง "เพื่อเป็นแนวทางและนำไปใช้ในชีวิตประจำได้อย่างถูกต้อง"

          โดยเรื่องแรกที่จะนำพูดนั่นคือ เรื่องของ "ทางเดินรถ" ซึ่งทางเดินรถสามารถแบ่งออกเป็นแบบใดได้บ้าง และทางเดินรถแบบไหนที่สามารถขับรถเข้าไปได้ อันนี้ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโดนจับปรับดำเนินคดีหรือเกิดอันตรายจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

          เมื่อสิ่งสำคัญต่อการใช้รถคือ ถนน เพราะรถทุกคันจำเป็นต้องวิ่งอยู่บนถนน ทว่าถนนไม่ได้สร้างมาเพื่อใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น การที่ทุกคนออกมาใช้ถนนร่วมกันจึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ และการขัดแย้ง แก่งแย่ง เอาเปรียบก็เกิดขึ้น และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจึงต้องมีข้อบังคับให้ทุกคนอยู่ในกรอบและทิศทางเดียวกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ซึ่งตามกฎหมายถนนที่ใช้กันเรียกว่า "ทางเดินรถ" ที่หมายความถึง พื้นที่ที่ทำไว้สำหรับการเดินรถ ไม่ว่าในระดับพื้นดิน ใต้หรือเหนือพื้นดิน แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันด้วยว่า "ทางเดินรถนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับคำว่า เลน (Lane)"



ขับรถสวนกันให้ถูกต้อง

          การขับรถบนถนนทุกวันนี้ หลายคนมีข้อสงสัยว่าแท้จริงแล้วจะต้องขับอย่างไรจึงจะถูกต้อง สิ่งแรกที่ทุกคนต้องจำคือผู้ใช้ทางต้องวิ่งในส่วนที่กำหนดและจะต้องระมัดระวังไม่ให้รถที่ขับไปชนหรือเฉี่ยวชนคนเดินเท้า ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนใดของทาง ที่สำคัญต้องให้สัญญาณเตือนแกคนเดินเท้าด้วย

          รถทุกคันจะต้องขับรถทางด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำเส้นกึ่งกลางที่แบ่งไว้ (ด้านซ้ายในที่นี้ไม่ใช่เลนซ้ายตามที่เข้าใจ แต่เพราะบ้านเราถูกกำหนดให้รถวิ่งด้านซ้าย ต่างจากต่างประเทศที่วิ่งด้านขวา จึงเรียกว่าด้านซ้าย) แต่มีข้อยกเว้นหากด้านซ้ายของเลนวิ่งมีสิ่งกีดขวาง ถูกปิดกั้นการจราจร หรือถูกกำหนดให้เป็น ทางเดินรถทางเดียว (One Way) รวมถึงทางเดินรถที่กว้างไม่ถึง 6 เมตร แต่ในกรณีที่ไม่ได้กำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียวแล้วมีสิ่งกีดขวาง ผู้ขับขี่ต้อง "ลดความเร็วหรือหยุดรถ เพื่อให้รถที่สวนมาผ่านไปได้ก่อน"

          ส่วนในกรณีที่ทางเดินรถแคบมาก ๆ แต่ต้องขับรถสวนกันผู้ขับขี่คันอื่น แต่ละฝ่ายต้องลดความเร็วของรถเพื่อให้รถสวนกันได้โดยปลอดภัย แต่หากไม่สามารถขับสวนกันได้ผู้ขับขี่รถคันที่ใหญ่กว่า ต้องหยุดรถและชิดขอบทางด้านซ้าย ให้ผู้ขับขี่รถคันที่เล็กกว่าผ่านไปก่อน ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ผู้ขับขี่สามารถเดินรถล้ำไปทางด้านขวาหรือล้ำเส้นแบ่งออกไปได้โดยไม่มีความผิด แต่ต้องขับด้วยความระวัง

          ซึ่งลักษณะการใช้ทางแบบนี้จะเป็นการวิ่งแบบสวนกันซ้ายขวา หรือวิ่งได้ฝั่งละเลนเดียวนั่นเอง ปัญหาแบบนี้มักเกิดในตรอกซอกซอยที่หากไปเจอกับผู้ขับขี่ที่ดึงดันเอาแต่ใจตัวหรือเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักการกะจังหวะหรือไม่มีความอะลุ้มอล่วย ก็จะเกิดเหตุเฉี่ยวชนหรือลุแก่โทสะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้



ขับรถตามกันให้ถูกต้อง

          ส่วนเรื่องการใช้ทางที่แบ่งเป็นเลนโดยวิ่งไปในทิศทางเดียวกันคือ ทางเดินรถที่มีตั้งแต่ 2 เลนขึ้นไป และกำหนดให้เลนซ้ายสุดมีไว้สำหรับรถประจำทาง "ผู้ขับขี่ต้องขับรถในเลนที่ใกล้กับช่องเดินรถประจำมากที่สุดโดยเฉพาะ รถบรรทุก รถบรรทุกคนโดยสาร รถจักรยานยนต์ รวมถึงรถที่ใช้ความเร็วช้ากว่ารถคันอื่น" พูดง่าย ๆ คือเลนที่สองจากซ้ายนั่นเอง

          หลายคนเข้าใจว่าจะต้องวิ่งเลนซ้ายสุดอันนี้เข้าใจผิด "เพราะเลนดังกล่าวมีไว้สำหรับรถประจำทางเท่านั้น" และหากว่าเลนที่สองไม่สามารถวิ่งได้ ผู้ขับก็สามารถเปลี่ยนไปวิ่งในเลนที่สามได้แต่ต้องอยู่ในข้อกำหนดที่ว่า เลนที่สองนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร และทางเดินรถนั้นเจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียวไม่มีรถวิ่งสวนทางกลับมา

          อีกกรณีที่สามารถใช้เลนที่สามได้ก็ต่อเมื่อต้องการจะแซงขึ้นหน้าคันอื่น จากนั้นก็ให้กลับเข้ามาในเลนเดิม และจะต้องเข้าเลนให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วม ทางแยก

          ที่สำคัญผู้ขับขี่ต้องรับรถให้ห่างหรือเว้นระยะจากรถคันหน้าพอสมควร เพื่อที่จะหยุดรถได้ทันเมื่อจำเป็น ไม่ควรขับชิดคันหน้ามากเกินไป และต้องไม่คร่อมหรือทับเส้นแนวแบ่งเลน เว้นแต่เมื่อต้องการเปลี่ยนเลน เลี้ยวรถ หรือกลับรถ หากผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวรถ ต้องให้รถคันอื่นผ่านหรือแซงขึ้นหน้าไปก่อนจึงจะเปลี่ยนเลนได้ จะต้องลดความเร็ว และต้องให้สัญญาณเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 30 เมตร ก่อนถึงทางเลี้ยว

          ทว่าหลายคนยังใช้สัญญาณแบบผิดอยู่ในความเป็นจริงแล้วการให้สัญญาณในระยะทางที่มากกว่า 30 เมตรนั้นก็สามารถทำได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้ในขณะนั้น การให้สัญญาณแบบกระชั้นชิดนับว่าเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือเปลี่ยนเลนแล้วค่อยให้สัญญาณแบบนี้ไม่มีผล แถมยังเป็นตัวก่อให้เกิดปัญหาการจราจรมากขึ้นไปอีก อันนี้สามารถพบเห็นได้ง่าย ตามบริเวณเชิงสะพานและใกล้ทางแยกหลายคนที่ยังใช้สัญญาณไม่ถูก อันนี้ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ก็ดีกว่าพวกที่ไม่ใช้เลย หรือไม่จริง?



          ลองพิจารณาดูได้ว่าส่วนใหญ่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการทำอะไรที่ "กะทันหันและกระชั้นชิด" ว่ากันตั้งแต่ เบรกกะทันหัน เปลี่ยนเสนกะทันหัน ข้ามถนนติดหน้ากระชั้นชิด ผู้ขับขี่คนอื่นไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นก็หนักหน่อย จึงควรให้ความระมัดระวังกับเหตุการณ์แบบ Unforeseen นี้ไว้ด้วย

          สรุปแล้วว่ารถทุกคันถูกกำหนดมาว่าจะต้องขับอยู่ในเลนที่สองไม่ใช่เลนซ้ายสุดสำหรับทางที่มีหลายเลน มีเงื่อนไขว่าเลนซ้ายสุดนั้นเป็นทางของรถประจำทางนะ แต่สามารถเปลี่ยนจากเลนสองไปเป็นสามได้เมื่อมีสิ่งกีดขว้างด้านหน้า หรือต้องการแซงขึ้นคันหน้าเท่านั้น นอนเหนือจากนี้ต้องวิ่งเลนซ้ายสุด เท่านั้นไม่ว่าจะเป็นทางแบบไหนก็ตาม ทำความเข้าใจไว้จะได้ไม่ต้องมีปัญหาถกเถียงกับพี่เจ้าหน้าที่เขา

          อ้อ...เกือบลืม ในขณะขับรถผู้ขับต้องนำใบอนุญาตขับขี่ (ที่ไม่หมดอายุ) ติดตัวไปด้วยนะครับ ถ้าไม่มีใบขับขี่ก็ไม่ต้องขับออกมาบนถนนสาธารณะ และใบอนุญาตขับขี่ที่ท่านพกไปนั้นจะต้องถูกต้องตามชนิดและประเภทของรถ พร้อมสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถติดตัวไปด้วย แต่อย่าเก็บสำเนาคู่มือจดทะเบียนไว้ในลิ้นชักรถล่ะ เพราะหากรถถูกขโมยไปพวกมิจฉาชีพก็สามารถเอาไปแอบอ้างได้เมื่อถูกตรวจคัน เพราะอันที่จริงสำเนาคู่มือทะเบียนรถมีไว้ใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถ เพราะหากเจ้าของรถเก็บไว้กับตัวแล้วเมื่อคนร้ายขโมยรถมาก็จะไม่มีสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ตำรวจสามารถยึดรถไว้เพื่อให้เจ้าของรถตัวจริงนำหลักฐานมาขอรับรถได้นั่นเอง อย่าลืมนะว่าสำเนาถ่ายไว้แล้วเก็บไว้กับตัวส่วนเอกสารตัวจริงก็เก็บไว้ที่บ้านเท่านั้นครับ



          การใช้ทางเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ทุกคนจำและทำตามจนเป็นนิสัย สิ่งที่ได้กลับมาคือ ปัญหาการจราจรทั้งหลายจะลดลงไป อุบัติเหตุการเฉี่ยวชนจะลดน้อยลง ผลพวงที่ตามมาคือเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งก็น้อยลง อีกทั้งไม่ต้องไปเสียเวลากับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่หลายคนพูดแล้วชาวบ้านตาดำ ๆ ฟังไม่เข้าใจ

          เรื่องกฎหมายการจราจรนี้ไม่ได้นำมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการต่อรองกับใคร แต่เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทางร่วมกันอย่างมีความสุขเท่านั้น เรื่องดี ๆ แบบนี้ไม่ต้องไปบอกให้คนอื่นทำตามหรอก แค่ตัวเองทำได้ก็มากพอแล้ว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือยานยนต์
ปีที่ 46 เล่มที่ 572 มกราคม 2557

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: สิงหาคม 16, 2014, 08:27:35 am »
ตำรวจฮึ่มล็อกล้อทั่วกรุง 18 ส.ค. จอดรถผิดที่ โดนแน่


-http://car.kapook.com/view95835.html-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ตำรวจนครบาลเริ่มปฏิบัติการล็อกล้อทั่วกรุง 18 สิงหาคมนี้ จอดรถในที่ห้ามจอด โดนแน่ เน้นกวดขันตามถนนสายรอง หลังพบจอดรถตามซอยหนีตำรวจ

          วันนี้ (15 สิงหาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะเริ่มปฏิบัติการ "ล็อกล้อทั่วกรุง" ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ โดย พลตำรวจตรี อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังจากดำเนินการกวดขันวินัยจราจรตามนโยบาย 5 จริง และ 5 จอม มาระยะหนึ่ง ยังพบว่ามีการกระทำผิดเรื่องการจอดรถผิดกฎหมายในหลายจุดอยู่ โดยเฉพาะในเส้นทางรองและตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้รถพยายามหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่เข้าไปจอดในเส้นทางดังกล่าว ส่งผลให้เส้นทางหลักรถติดบ่อยครั้ง

          ดังนั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงเตรียมเปิดปฏิบัติการ "ล็อกล้อทั่วกรุง" ดำเนินการล็อกล้อผู้กระทำผิดกฎจราจร จอดรถผิดกฎจราจร จอดรถในที่ห้ามจอด พร้อมเริ่มปฏิบัติการพร้อมกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ โดยจะยังคงเน้นย้ำนโยบาย 5 จอม ได้แก่

          - จอมปาด
          - จอมล้ำ
          - จอมขวาง
          - จอมย้อน
          - จอมปลอม

          และยังคงลุยมาตรการ "จับจริงจอมแชท" อย่างต่อเนื่อง ใน 90 ทางแยกสำคัญทั่วกรุงเทพมหานคร สำหรับผลการดำเนินการ "จับจริงจอมแชท" จะเตรียมสรุปผลการดำเนินงานในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ โดยประชาชนทั่วไปสามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ของกองบังคับการตำรวจจราจร

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: สิงหาคม 16, 2014, 08:41:37 am »
จอมแชต

จอมแชต
-http://www.youtube.com/watch?v=QAs7T3lVXWk-

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: สิงหาคม 16, 2014, 11:47:41 am »
ไฟฉุกเฉิน ใช้ไม่ถูกหลักอาจถึงตาย


-http://car.kapook.com/view95440.html-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Chevrolet Thailand สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          ไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมาก เป็นอุปกรณ์ที่มีติดในรถทุกคัน ที่ใช้ในกรณีรถยนต์เสียหรือมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นขณะอยู่บนเส้นทางจราจร เมื่อทำการเปิดไฟผู้ร่วมเส้นทางจะสังเกตเห็นได้อย่างเด่นชัด

          แต่ดูเหมือนในปัจจุบันนักขับหลายท่านมักจะนำมาใช้ผิด ๆ และเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายคือการ "เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อข้ามแยก" ทำให้รถที่มาจากทางซ้ายจะเห็นว่ารถคุณเปิดไฟเลี้ยวซ้าย จึงไม่ได้ชะลอรถขณะถึงทางแยกและเกิดอุบัติเหตุในที่สุด

          หากนักขับทั้งหลายเข้าใจแล้วว่าการเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อข้ามแยกจะเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น  เรามาช่วยกันบอกต่อ และปรับเปลี่ยนวิธีการขับที่ผิด ๆ แบบนี้กันเถอะครับ


http://www.youtube.com/watch?v=LuPpoH6d9wo#t=15
-http://www.youtube.com/watch?v=LuPpoH6d9wo#t=15-

Chevrolet Drive Through EP 4: ถ้าต้องการขับรถทางตรงผ่านสี่แยก ต้องเปิดไฟผ่าหมาก ถูกต้องหรือไม่?
คลิป ต้องเปิดไฟผ่าหมาก ถูกต้องหรือไม่? เปิดตัวแล้ววันนี้! พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ  โพสต์โดยคุณ Chevrolet Thailand สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: กันยายน 21, 2014, 07:01:04 am »
คลิปเตือนสติเวลาเจอช้าง อย่าใช้แตรรถ - อย่าดับเครื่องยนต์ (ชมคลิป)

-http://auto.sanook.com/8327/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%96-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B/-



เตือนสติเวลาเจอช้าง ช้างป่าละอู ดูไว้เตือนสติ
-http://www.youtube.com/watch?v=MhpMyDMVd1s-

โพสต์ยูทูบโดย Ibaike Magnum
Published on Jan 14, 2014




   วิธีปฏิบัติเมื่อพบช้างป่าบนถนนนะค่ะ (ข้อมูลจาก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)

1. หยุดรถให้ห่างจากช้างอย่างน้อย 30 เมตร หากช้างเดินเข้าหา ให้เคลื่อนรถหนี รอจนกว่าช้างจะหลบจากถนน จึงเคลื่อนรถผ่านไป

2. อย่าใช้แตรรถ หรือส่งเสียงดังรบกวนช้างหรือไล่ช้าง เพราะอาจทำให้ช้างโกรธ และตรงเข้ามาหาเราได้

3. งดการใช้แฟลชถ่ายรูป เพราะอาจทำให้ช้างตกใจและตรงเข้ามาทำร้ายไ­ด้

4. ให้ติดเครื่องรถยนต์ไว้เสมอ เพื่อให้สามารถเคลื่อนรถหนีได้ทันท่วงที

5. หากพบช้างในเวลากลางคืน ให้เปิดไฟรถไว้เสมอ เพื่อให้สามารถสังเกตอาการของช้างและระยะห­่างระ

หว่างรถกับช้างได้โดยสะดวก

6. เมื่อตกอยู่ในวงล้อมของช้าง ตั้งสติให้มั่น หากเป็นเวลากลางคืน ให้ใช้ไฟสูง แล้วเลือกเคลื่อนรถไปในทางที่มีช้างอยู่น้­อย แม้บางครั้งจำเป็นต้องเข้าใกล้หรือเบียดโข­ลงช้างไปก็ตาม อย่าดับเครื่องยนต์ และปิดไฟรถเป็นอันขาด ค่อยๆเคลื่อนรถ ให้เสียงเครื่องยนต์นิ่งมากที่สุด

7. ไม่ควรจอดรถดูช้าง เพราะอาจมีรถคันอื่นตามมา แล้วรถของคุณกีดขวางรถผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ถูกทำร้ายแทนรถของคุณได้

8. ไม่ควรจอดรถแล้วลงไปถ่ายรูปช้างในระยะใกล้ เพราะอาจทำให้คุณวิ่งหนีขึ้นรถไม่ทัน ควรระลึกอยู่เสมอๆว่า โดยทั่วไปช้างมักจะอยู่รวมกันเป็นครอบครัว­หรือโขลง ขณะที่คุณเจอช้างเพียงตัวเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีช้างตัวอื่นๆ อยู่ในบริเวณนั้น โขลงช้างอาจจะกระจายกันหากินอยู่ในบริเวณป­่าข้างๆทางนั้นก็เป็นได้



   วิธีสังเกตุอารมณ์ของช้างอย่างง่าย ๆ

- เมื่ออารมณ์ดี หูจะสะบัดไปมา หางจะแกว่งและใช้งวงสะบัดไปมา หรือเกี่ยวดึงต้นไม้กิน ไม่ค่อยสนใจเรา

- เมื่ออารมณ์ไม่ดี หูจะตั้งกาง ไม่สะบัดหาง งวงจะนิ่งแข็ง และอยู่นิ่งจ้องมองมาทางเรา...

ปกติช้างจะวิ่งไล่ผู้รบกวนเป็นระยะทางสั้น ๆ เพียง 2 -- 3 ครั้ง หากวิ่งตามผู้รบกวนไม่ทันก็จะเลิกวิ่งไล่ไ­ปเอง ช้างเมื่ออารมณ์ดี จะไม่ทำร้ายแม้รถจะวิ่งเข้ามาใกล้ก็ตาม

แต่หากช้างโกรธ หรือไม่ไว้ใจสิ่งใด เช่น ช้างแม่ลูกอ่อน อาจตรงเข้าทำร้ายผู้รบกวนได้ในระยะไกล จึงพึงสังเกตอารมณ์ และอาการของช้างไว้ประกอบการตัดสินใจด้วยครับ


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)