ธรรมะคือยารักษาจิต ถ้ารู้จักคิดจิตก็หายป่วย คนเรามีจิตป่วยอยู่เสมอเพราะธรรมชาติของจิตชอบนึกคิดเองได้เสมอ และชอบเอาสิ่งที่ผ่านไปแล้วในอดีตที่มีเรื่องทำให้เกิดทุกข์ เอามาคิดนึกปรุงแต่งให้เกิดทุกข์เป็นทุกข์ซ้ำซาก หรือชอบนึกคิดไปในกิเลสกามตัณหา คืออยากทำโน่นอยากทำนี่ อยากเอาโน่นอยากเอานี่ อยากไปโน่นอยากไปนี่ อยากเป็นโน่นอยากเป็นนี่อยู่เสมอ หรือมีความพยาบาทเห็นคนที่ตัวเองไม่ชอบไม่พอใจ ก็เกิดความนึกคิดติเตียนว่าร้ายเขาให้ใจเป็นทุกข์ หรือมีความคิดเบียดเบียนคือวิหิงสาวิตกคิดอยากทำร้ายคนที่เราไม่ชอบใจไม่พอใจก็เป็นทุกข์ หรือมีความอิจฉาริษยาเห็นใครได้ดีไม่ได้จะเป็นทุกข์ จึงทำให้จิตป่วยฟุ้งซ่านหงุดหงิดเครียดเป็นทุกข์ เพราะความอยากคือกิเลสกาม หรืออกุศลธรรมอันเป็นบาปคือสาเหตุให้คนเรามีทุกข์ เพราะเราต้องอยู่กับการรับรู้ใน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย อยู่เสมอตลอดเวลา จึงทำให้เราเกิดความรู้สึกยินดียินร้ายบ้าง เกิดความรู้สึกพอใจหรือไม่พอใจบ้าง เกิดความรู้สึกชอบใจหรือไม่ชอบใจบ้าง ตลอดเวลา จึงทำให้จิตของเราเกิดกิเลสกาม เกิดอกุศลธรรมอันเป็นบาป เป็นสาเหตุให้เราหลงไปในการนึกคิดปรุงแต่งให้จิตเป็นทุกข์อยู่เสมอ
ธรรมะจึงเป็นยารักษาจิตไม่ให้ป่วยเกิดเป็นทุกข์ ด้วยการน้อมนำเอาธรรมะมาคิดมาภาวนาเป็นความดำริชอบ เป็นกุศลวิตก หรือเป็นการคิดพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่เป็นประจำ (เป็นการคิดแก้คิด) ในจิตของตนว่า “ไม่ยินดียินร้าย...ไม่ว่าร้ายใคร...ไม่คิดร้ายใคร...” การมีธรรมะภาวนาไว้เสมอเพื่อสร้างความรู้ตัวให้กับจิต จะทำให้เกิดสติ ยับยั้งไม่ให้จิตเกิดกิเลสกาม ไม่ให้จิตเกิดอกุศลธรรมอันเป็นบาป การมีสติอยู่เสมอ จะทำให้จิตของเราอยู่ในความสงบนิ่งและเย็น เพราะการมีสติ จะทำให้จิตเป็นกุศลธรรมอันเป็นบุญ จึงทำให้เรามีความระวังในการกระทำทางกายทางวาจาเป็นศีล มีความระวังจิตไม่ให้ส่งออกไปยินดียินร้ายในผัสสะ ทำให้จิตสงบนิ่งเป็นสมาธิ จึงทำให้จิตเกิดปัญญารู้เห็นสภาวธรรมตามความเป็นจริงในไตรลักษณ์ เราจึงอยู่เย็นเป็นสุขในชาตินี้ สุขในชาติหน้าด้วย ดังนี้.
โดยหลวงพ่ออุดม มหาปุญโญ วัดป่าหนองเลง
*************************************************
บูชา ธรรมาภิบาล
Shared publicly - 7:40 AM #วาง
... พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกก็เพื่อทำหน้าที่ชี้บอก
ให้คนทั้งหลายรู้จักการปล่อยวาง
หลักพระพุทธรรมทั้งหมดหากจะสรุปโดยย่อ
ก็เหลือเพียงคำว่า " วาง " คำเดียวเท่านั้น. . .
ศีล คือ ให้วางบาป ทางกาย วาจา
สมาธิ คือ ให้วางนิวรณ์ สิ่งกวนใจทั้งห้า
ปัญญา คือ ให้วางมิจฉาทิฐิ หรืออุปทานทั้งปวง
มีข้อสรุปโดยสังเขปเพียงให้เห็นชัดเจน
จากคำสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ของขวัญวันนี้ซึ่งเป็นวันพระ คือ
#วาง หรือ #ปล่อยวาง ให้ได้ครับ
+บูชา ธรรมาภิบาล
๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
..
..
ศาสตร์แห่ง " ความสมดุลย์ "
ความสมดุลย์ นำมาซึ่งความสำเร็จ
เปรียบได้กับหลักธรรมทางพุทธศาสนา
" มัชฌิมาปฏิปทา " คือการปฏิบัติทางสายกลาง...
ด้วยความพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป....
" ความภูมิใจ " ในตัวเองเป็นสิ่งที่ดี
แต่ถ้าภูมิใจมากเกินไป
จนกลายเป็น " พูดข่ม " คนอื่นไปทั่ว
คุณจะกลายเป็นคน "คุยโว โอ้อวด"
" ความมั่นใจ " ในตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ
แต่ถ้ามั่นใจมากเกินไป
จนกลายเป็นคน " ไม่ฟัง " ใคร
คุณจะกลายเป็นคน " หยิ่งยะโส "
" ความรู้ " เป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จ
แต่ถ้ามีความรู้มาก
จนคิดว่าตัวเอง " ถูกเสมอ "
คุณจะกลายเป็นคนมี " *อัตตา * " คือถือตัวเองเป็นสำคัญ
" ความอ่อนน้อม " จะทำให้คุณเป็นคนน่ารัก
แต่ถ้ามีมากเกินไป
จนกลายเป็น " ยอม " ทุกคน
คุณจะกลายเป็นคน " อ่อนแอ "
" ความจริงจัง " จะทำให้คุณดูมุ่งมั่น
แต่ถ้ามีมากเกินไป
จนกลายเป็น " หวังผลลัพธ์สูง "
คุณจะกลายเป็นคน " เครียด " ตลอดเวลา
" ความนิ่ง " จะทำให้คุณดูสุขุม
แต่ถ้ามีมากเกินไป
จนกลายเป็นความ " เฉื่อยแฉะ "
คุณจะกลายเป็นคน " ไร้น้ำยา "
" #บริหารตัวเองให้สมดุล "
" #ภูมิใจ #แต่ #เคารพผู้อื่น "
" #มั่นใจ #แต่ #พร้อมรับฟัง "
" #อ่อนน้อม #แต่ #แข็งแกร่ง "
" #จริงจัง #แต่ #มีความสุข "
" #นิ่ง #แต่ #มีพลัง "
ขอบพระคุณ อาจารย์สถาพร เพ่งพิศ
เพจ +บูชา ธรรมาภิบาล
๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘
..
..
อย่าหวั่นไหวกับโลกธรรม
" โลกธรรม " แปลว่า " ธรรมดาของชาวโลก"
ยามได้ลาภ มียศ ร่ำรวย มีคนชม มีความสุข ไม่ควร
ดีใจจนเกินไป อาจทำให้ลืมตัว คนอื่นอาจหมั่นไส้
ได้ ควรมีสติให้คิดว่า มันไม่แน่นอน วันหนึ่งอาจจะ
หมดไปก็ได้ และเมื่อยามเสียลาภ เสียยศ มีคน.....
นินทา มีความทุกข์ ก็ไม่ควรเสียใจ เพราะความ
เศร้าใจ จะบั่นทอนจิตใจให้ย่ำแย่ ควรมีสติยอมรับ
ความจริงว่า ทุกสิ่งก็เป็นอย่างนี้
...ดังพุทธภาษิตที่ว่า "ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส จะ
นินทา ปะสังสา จะ สุขัง จะ ทุกขัง เอเต อนิจจา .....
มนุเชสุ ธัมมา มา โสจิ กึ โสจะสิ โปฏฐปาทะ แปลว่า
ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ
สุข และทุกข์ สิ่งเหล่านี้ เป็นธรรมดาในหมู่มนุษย์....
อย่าเศร้าโศกเลย ท่านจะโศกเศร้าไปทำไม"
ดังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิด ก็ต้องปล่อยให้มันเกิด อย่า
มัวแต่เศร้าโศกเสียใจ ควรรับรู้ ทำใจ ยอมรับความ....
เสียใจ แล้วปล่อยวาง ก็จะสบายใจ
เพจ +บูชา ธรรมาภิบาล
๑ กรกฎคม ๒๕๕๘
***********************************
Manoonthum Thachai
สนทนาธรรมตามกาล - 9:40 AM #ตักบาตร
คำถาม - สวัสดีคะ ขออนุญาตเรียนถามท่านอาจารย์คะ พอดีไปอ่านเจอว่า “พระบิณฑบาตยืนให้พร...ต้องอาบัติทุกกฏ” จริงหรือเปล่าคะ? เพราะใส่บาตรตั้งแต่เล็กจนโต พระส่วนใหญ่ก็ให้พร เป็นการอาบัติจริงหรือเปล่าคะ?
คำตอบ - ในเสขิยวัตร มีอยู่ข้อหนึ่ง ที่ห้ามพระภิกษุยืนแสดงธรรมแก่ฆราวาสที่นั่งอยู่หรือนอนอยู่ แต่ในกรณีที่พระสงฆ์ให้พร ตอนใส่บาตร ไม่ได้เป็นการแสดงธรรมโดยตรงเป็นเรื่องเป็นราว แต่เป็นการให้พรมากกว่า น่าจะไม่ผิดเสขิยวัตรอยู่แล้ว แต่ถ้าญาติโยมไม่สบายใจเกรงจะเกิดอาบัติแก่พระได้ คุณก็ควรยืนรับพร หลังใส่บาตรก็ได้ จะได้สบายใจ
#ตักบาตร #อาจารย์วศิน
------------------------------------
เมตตามโนกรรมครับ...
ช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตศรัทธา ของผู้ที่ชื่อว่าชาวพุทธมีต่อพระสงฆ์
พระสงฆ์เหมือนดอกบัวที่อยู่ท่ามกลางพุ่มหนามครับ.....
(ความเห็นของท่านที่ใช้นามว่า "บ้านนอกคอกนา")
****************************************