ผู้เขียน หัวข้อ: รวม เตือนภัย ที่ใกล้ตัว อย่าประมาท และเป็นความรู้การป้องกันตนเอง  (อ่าน 74929 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เรื่องนี้  ตำรวจ ต้องจับตายอย่างเดียวครับ




---------------------------------------------------


โจรลักพาตัวพ่อค้าปลาเรียกค่าไถ่ โมโหญาติขอต่อรอง ตัด “นิ้ว“ ส่งมาขู่


-http://news.sanook.com/1669949/%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%96%E0%B9%88-%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2/-



นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (18 ก.ย.) พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์ รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร ผกก.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ท.วีระยุทธ ประสานนาม รองผกก.สส.สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมชุดสืบสวนสภ.บางใหญ่ ได้รับการร้องเรียนจากชาวเวียดนามที่มาค้าขายอยู่ที่ตลาดบางใหญ่ ว่าญาติตนชื่อ นายบอล (THAI HUU HAI) อายุ 39 ปี พ่อค้าแผงปลา ชายชาวเวียดนามได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้กำลังบังคับลักพาตัวขึ้นรถแท๊กซี่หลบหนีไปที่หน้าตึกแมนชั่น 7 ชั้นภายในตลาดบางใหญ่ ตึ้งแต่เมื่อคืนวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา

หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่อง ได้ออกติดตามและประสานกับทางญาติชาวเวียดนาม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ก.ย. กลุ่มคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาทางญาติของนายบอล เพื่อให้นำเงินจำนวน 1,500,000 บาท มาไถ่ตัว แต่ทางญาติได้ขอต่อรองลงมาเหลือ 300,000 บาท ทำให้กลุ่มคนร้ายดังกล่าวไม่พอใจ จึงได้ตัดปลายข้อนิ้วก้อยของนาย บอล ส่งมาให้ทางนาง ตัน ตี คุก อายุ 43 ปี ที่เป็นภรรยาและญาติดู และได้บอกว่าถ้าหากนำเงินที่กลุ่มคนร้ายร้องขอมาให้ไม่ได้ ก็จะไม่รับรองชีวิตของนายบอล

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้สืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้นำตัวนายบอลไปไว้ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ที่ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังเข้าไปช่วยเหลือตัวนายบอล ออกมาได้จากบ้านร้างดังกล่าว

โดยในที่เกิดเหตุนั้น พบนายบอลถูกขังอยู่ภายในห้องน้ำร้าง โดยมีโซ่มัดไว้และถูกล่ามโซ่กับขื่อเสาห้องน้ำ มีสภาพอิดโรย มีอาการบาดเจ็บและมีแผลตามร่างกายบวมเขียวช้ำตามหน้าและลำตัวหลายแห่ง ที่ปลายนิ้วก้อยมือขวา ถูกตัดขาดหายไป จึงรีบนำตัวส่งรพ.เพื่อรักษาอาการ

จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปิดล้อมซุ้มเฝ้าดูบ้านร้างดังกล่าว พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ไหวตัวหลบหนีไปได้

ด้านพ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร ผกก.สภ.บางใหญ่ ได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้รู้ตัวกลุ่มคนร้ายพร้อมทั้งได้ออกหมายจับ กลุ่มคนร้ายดังกล่าวมีจำนวน 5 คน เป็นชายชาวเวียตนาม คือ

1) นายบอยหรือลอง (Long) อายุ 25ปี
2)นายเหงียน เท ไฮ หรือเบิรด์ (Ngyen The Hai) อายุ 26ปี
3)นายทอง สินหรือศรรม (Thong Sinv) อายุ 30ปี
4)นายนิ่ม หรือเนียม อายุ 30ปี
5)นายเหงียน เตียน ล๊ายหรือหล๊อบ หรือต้น (Nguyen Tien Lap) อายุ 25ปี

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่ประจำด่านตามแนวชายแดนไว้หมดแล้ว หากผู้ใดพบเห็นหรือให้ที่หลบซ่อน หรือที่พักพิงกับกลุ่มคนร้ายดังกล่าว ให้รีบติดต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงโดยด่วน มิฉะนั้นจะมีความผิดฐานให้ที่พักพิงและมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สยอง ลิฟต์ขัดข้อง เลื่อนขึ้นเอง อัดร่าง น.ศ. ดับคาประตู


-http://hilight.kapook.com/view/108302-




ลิฟต์ขัดข้อง เลื่อนขึ้นเอง อัดร่าง น.ศ. ดับคาประตู


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ hao feige สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          สยอง ลิฟต์ขัดข้อง เลื่อนขึ้นกะทันหันโดยประตูยังไม่ปิด ดึงร่างนักศึกษาชายไปบีบอัดคาประตู ค่อย ๆ ขาดใจตาย กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน

          เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2557 มีรายงานจากเว็บไซต์ chinadaily ว่า เกิดเหตุลิฟต์หนีบนักศึกษาเสียชีวิต ที่อาคารเรียนของมหาวิทยาลัยหัวเฉียว ในเมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา

          รายงานระบุว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดระบุเวลาเกิดเหตุตอน 17.47 น. นักศึกษาชายคนหนึ่งก้าวเข้ามาในลิฟต์ แต่ในขณะที่ก้าวขาเข้ามาได้เพียงข้างเดียว ลิฟต์ก็เกิดเลื่อนขึ้นกะทันหัน ดึงร่างของนักศึกษาคนดังกล่าวขึ้นไปถูกบีบอัดอยู่ระหว่างพื้นลิฟต์และปากประตูลิฟต์ด้านบน ในสภาพศีรษะ อก แขน และขาอย่างละข้างอยู่ด้านในลิฟต์ ร่างของเขายังกระดุกกระดิกอยู่เป็นนาทีก่อนจะนิ่งไป

          ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุและมาถึงที่ในเกิดเหตุเมื่อช่วง 18.00 น. แต่นักศึกษาคนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว ในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของการเสียชีวิตมาจากอวัยวะภายในฉีกขาด

          ทั้งนี้หลังมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป ทำให้เป็นที่หวาดวิตกสำหรับผู้ที่ใช้ลิฟต์ในการขึ้นลงอาคารเป็นประจำ จึงมีการเตือนกันว่าให้รอดูลิฟต์ดี ๆ ก่อนที่จะก้าวเข้าไปด้วย


“現實版死神來了”華僑大學壹名學生被卡教學樓電梯窒息死亡,事發廈門校區
-http://www.youtube.com/watch?v=RhcswqkqcGs-

คลิป “現實版死神來了”華僑大學壹名學生被卡教學樓電梯窒息死亡,事發廈門校區  โพสต์โดยคุณ hao feige สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ปัญหาร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ไม่สะอาด ทางร้านรับผิดชอบไม่เต็มที่ ผู้บริโภคสามารถทำอะไรได้บ้าง?
วันอังคาร 7 ตุลาคม 2557 เวลา 05:00 น.

-http://www.dailynews.co.th/Content/Article/271940/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%94+%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A0%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%3F-

ปัจจุบันการทานอาหารบุฟเฟ่ต์ในห้างสรรพสินค้า กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนเมือง เนื่องด้วยความสะดวกสบายที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหารเอง และสามารถมั่นใจในเรื่องความสดใหม่และความสะอาดของวัตถุดิบอีกด้วย แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น มีกรณีศึกษาที่พูดถึงความสะอาดของร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ตามห้างสรรพสินค้าอยู่มากมาย พบแมลงตามโต๊ะอาหาร หรือตามถาดอาหารบ้าง

ล่าสุดเกิดกรณีพบตัวอ่อนแมลงสาบอยู่ตามถาดอาหารและที่นั่งในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พบว่าในหม้อน้ำซุปที่รับประทาน มีตัวอ่อนแมลงสาบถูกต้มจนเปื่อยแล้ว ซึ่งมาจากอาหารหรือของสดที่ตักมาจากถาดอาหาร นอกจากนี้ยังพบบนโต๊ะอาหาร และกล่องทิชชู่ด้วย ผู้ใช้บริการจึงรีบแจ้งผู้จัดการร้านทันที แต่ได้รับเพียงคำขอโทษและข้อเสนอโปรโมชั่นลดราคา เมื่อนำเรื่องไปแจ้งผ่านแฟนเพจของร้านดังกล่าว ก็ได้รับการติดต่อจากผู้ดูแลว่ารับทราบเรื่องแล้ว ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะหามาตรการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทมีนโยบายในการควบคุมดูแลคุณภาพ รักษามาตรฐานอาหารและความสะอาดทุกสาขา

หลายคนตั้งคำถามว่า ในฐานะผู้บริโภคแล้ว เราสามารถทำอะไรกับเหตุการณ์แบบนี้ได้บ้าง นอกจากรอทางร้านรับผิดชอบด้วยการยื่นข้อเสนอเป็นโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ บัตรกำนัลส่วนลดไว้ทานในครั้งต่อไป โดยที่ไม่รู้ว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน วันนี้ 'เดลินิวส์ออนไลน์' มีโอกาสสอบถาม ผ.อ. ทรงศิริ จุมพล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลากสินค้า ถึงการรับมือเมื่อผู้บริโภคเจอเหตุการณ์ดังกล่าว

ผ.อ. ทรงศิริ กล่าวว่า ในด้านผู้บริโภค ขณะรัประทานอาหารอยู่แล้วพบสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งอันตรายในอาหาร ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะไม่จ่ายค่าอาหารในมื้อนั้นได้ จากนั้นสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนไปยัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ผ่านสายด่วน 1166 ผ่านทางเว็บไซต์ของสคบ. หรือกรอกแบบฟอร์มคุ้มครองผู้บริโภคผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่นได้ เพื่อให้ชดเชยค่าเสียหาย โดยทางสคบ. จะเชิญผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้บริโภค มาพูดคุยเจรจาไกล่เกลี้ยปัญหา และชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้

สำหรับการเรียกร้องให้ตรวจสอบความสะอาดของร้านอาหารรวมทั้งคุณภาพของอาหาร ผู้บริโภคสามารถแจ้งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สายด่วน 1556 หรือ สำนักงานเขตหรือเทศบาลของพื้นที่ตั้งร้านอาหารนั้นๆ เพื่อให้อนามัยของแต่ละพื้นที่สามารถเข้าตรวจสอบร้านอาหารได้ หรือในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร ก็สามารถส่งเรื่องไปยังสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร โทร. 02-245-3933, 02-245-3845ได้เช่นกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหารควรหมั่นตรวจสอบคุณภาพอาหาร และทำความสะอาดพื้นที่ร้านอาหารรวมทั้งภาชนะที่ใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะต่อให้ผู้บริโภคได้รับเงินค่าชดเชยมากเพียงใด แต่ถ้าปัญหาด้านความสะอาดส่งผลต่อสุขภาพจนอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต มีเงินมากเพียงใดก็ซื้อกลับมาไม่ได้

@ArnonNunn

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สาวโพสต์เตือนภัย โดนทำร้ายในที่จอดรถห้างดังย่านบางนา

-http://hilight.kapook.com/view/109961-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          สาวโพสต์เตือนภัย การจอดรถในห้างดังย่านบางนา ระบุ เกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังโดนคนร้ายทำร้าย แถมทางห้างยังรับผิดชอบแค่ค่ารักษาพยาบาลครั้งแรก ตำรวจนิ่งกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว

          เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2557 ในโลกอินเทอร์เน็ต ได้มีการแชร์กระทู้หนึ่งของคุณ chimerism สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งเป็นกระทู้เตือนภัยการจอดรถในห้าง มีรายละเอียดคร่าว ๆ ว่า เจ้าของกระทู้ถูกคนร้ายทำร้ายที่ห้างดังแห่งหนึ่งย่านบางนา เมื่อเย็นวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยพยายามบีบแตรขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่ห้างไม่มีใครมาช่วย แถมคิดว่าเป็นวัยรุ่นตีกันเสียอีก อย่างไรก็ดี โชคดีที่เจ้าของกระทู้สามารถรอดชีวิตมาได้ เพราะคนร้ายหนีไปก่อน

          ทั้งนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าของกระทู้ระบุว่า ทางห้างพาผู้เสียหายไปปฐมพยาบาล พร้อมระบุว่า จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแค่ครั้งแรกเท่านั้น ส่วนที่เหลือผู้เสียหายรับผิดชอบเอง และได้แจ้งความเรื่องนี้ต่อ สภ.บางแก้ว แล้ว กระทั่งจนถึงวันนี้ ก็ไร้การติดต่อจากทางตำรวจและทางห้าง เจ้าของกระทู้จึงตัดสินใจตั้งกระทู้ขึ้นมา เพื่อไม่ให้เรื่องราวเงียบหายไป

สำหรับข้อความทั้งหมดของคุณ คุณ chimerism มีดังนี้

          เรื่องที่กำลังจะพิมพ์ทั้งหมดนี้อาจจะยาวสักหน่อย แต่ที่ต้องการพิมพ์เพื่อแจ้งเตือนให้ทุกคนระมัดระวังตัว และอยากทราบว่า เราทำอะไรได้บ้างนอกจากรอ...

          **เราต้องการให้ตำรวจจับคนร้ายคนดังกล่าวได้โดยเร็ว**

          **เราต้องการให้ทางห้างดังแห่งหนึ่งย่านบางนาออกมา**

          1. แสดงความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางห้าง

          2. แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณห้าง ของท่าน **มากกว่าการไปส่งที่ รพ. และออกค่ารักษาพยาบาลเพียงครั้งแรกครั้งเดียว** เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าท่านอื่น ๆ ด้วย

          3. การมีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ บีบแตร ที่เกิดขึ้นในลานจอดรถ และมีพนักงานของท่านได้ยิน แต่ไม่สนใจ "เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้างของท่านเป็นปกติหรือถึงไม่มีใครจะเข้ามาดูหรือให้ความช่วยเหลือในทันที ??"

=========================

          เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2557 (เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา)

          เราได้ขับรถเข้าไปจอดรถในลานจอดรถใต้ตึกในห้างฝั่ง Big C ช่อง S17 สีเขียว ซึ่งช่องดังกล่าวห่างจากทางเข้าประตูห้างเพียง 2 ล็อก

          เราขับรถเข้าไปจอดในช่องดังกล่าวตามปกติ พอดับเครื่องเตรียมลงจากรถ ก็มีผู้ชายคนหนึ่ง เดินมาจากด้านหลังรถอย่างรวดเร็ว และเปิดประตูรถฝั่งคนขับทันที

          ผู้ชายคนดังกล่าว พูดว่า "คุณครับ"

          ด้วยความตกใจ เราก็พูดไปว่า "เปิดประตูทำไม"

          หลังสิ้นเสียงที่เราถาม ผู้ชายคนดังกล่าวก็เอาตัวมาขวางประตูไม่ให้ปิด และก็กระหน่ำหมัดลงบนหน้าเราอย่างไม่ยั้ง (เราเป็นผู้หญิงไปคนเดียว อายุประมาณ 40 ปี) ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก

          เราสู้ ทั้งถีบ ทั้งตะโกน ทั้งบีบแตรรถ ทั้งขอความช่วยเหลือ ไม่มีใครเดินเข้ามา ไม่มีใครเข้ามาช่วย จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 นาที ผู้ชายคนดังกล่าวเห็นว่า ท่าไม่ดี และเราก็สู้ไม่ถอย จึงรีบวิ่งหนีไป

          หลังเกิดเหตุเราก็รีบปิดประตูรถ + ล็อครถ เพื่อเช็คหน้าตัวเอง มีเลือดไหลทั้งปาก จมูก และหน้าบวม และรอในรถสักพักจนแน่ใจว่า ผู้ชายคนดังกล่าวไม่อยู่แถวนั้นแล้ว จึงลงมาจากรถ

          และเห็นแม่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้น จึงถามแม่บ้านว่า "หนูโดนทำร้าย พี่ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือเสียงบีบแตรเลยหรอคะ

          แม่บ้านตอบว่า "ได้ยิน แต่คิดว่าวัยรุ่นทะเลาะกันเลยไม่ได้สนใจ"

          เราจึงบอกให้แม่บ้านพาไปหาหัวหน้า รปภ. เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด

          หัวหน้า รปภ. จึงพาไปที่ information เพื่อแจ้งเรื่องไว้ และขอข้อมูลต่าง ๆ ไป ทั้งชื่อ นามสกุล จุดที่เกิดเหตุ เบอร์ติดต่อกลับ และเลขบัตรประชาชน

          หลังจากนั้นก็พาไปที่ห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น ภายในห้าง ระหว่างที่ปฐมพยาบาลอยู่นั้น ก็มี รองผู้กำกับ จากสน.บางแก้ว เข้ามาดู และสอบถามกับเราว่า "คุณมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า" และ "คุณรู้จักกับคนที่ทำร้ายคุณมาก่อนหรือเปล่า"

          เราจึงบอกว่าไม่เคย และไม่มีศัตรูที่ไหน (ขอให้ทุกคนคิดภาพตาม เราอยู่ในสภาพหน้าบวม เลือดเต็มหน้า และได้รับคำถามแบบนั้น)

          หลังจากปฐมพยาบาลเสร็จ ก็มีรถของทางห้าง ขับรถไปส่งเพื่อทำการรักษาต่อที่ รพ.ปิยะมินทร์ ซึ่งก่อนขึ้นรถก็มีรปภ. แจ้งว่า "ทางห้าง ของเราจะจ่ายค่ารักษาให้กับคุณครั้งนี้เท่านั้น หากมีค่าใช้จ่าย หรือค่ารักษาเกิดขึ้นหลังจากครั้งนี้ คุณจะต้องเป็นผู้ออกเองไม่เกี่ยวกับทางห้าง"

          เราก็เริ่มเจ็บและปวดแล้ว จึงไม่ได้โต้ตอบอะไร ระหว่างทางที่ไป รพ. คนขับรถที่พาไปก็ยื่นรูปในโทรศัพท์มาให้ดู เพื่อให้เรายืนยันว่า "ใช่คนที่มาทำร้ายหรือไม่" ซึ่งเรายืนยันว่า "ใช่ คนนี้แหละ" (ขอไม่เปิดเผยรูปถ่าย เพราะอาจทำให้เสียรูปคดี)

          พอไปถึง รพ. คนขับรถจากห้าง ก็มาส่งจริง ๆ ค่ะ มาส่งเสร็จ แล้วก็ไปเลย ให้ญาติเราดำเนินชีวิตต่อไปในสภาพเจ็บทั้งตัว และขวัญเสียมาก ซึ่งจากการตรวจที่ รพ. พบว่า

          1. กรามฝั่งขวาบวมมาก และเบี้ยวจนเห็นได้ชัด จะต้องเข้าพบศัลยแพทย์ เพื่อดูฟิล์ม และปรึกษาอีกทีว่าต้องผ่าตัดกรามที่เบี้ยวหรือไม่

          2. เย็บในปากจำนวน 4 เข็ม เนื่องจาก ถูกต่อยจนฉีกขาด

          3. ปากแตก

          4. เลือดกำเดาไหล

          5. หน้าบวม

          หลังจากเสร็จที่ รพ. ประมาณ 20.00 น. ก็เดินทางไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางแก้ว พบร้อยเวรประจำวัน ร้อยตำรวจโท นเรศ (ขอสงวนนามสกุล)

          ทางร้อยเวรแจ้งกับเราว่า "หากคนร้ายมุ่งจะชิงทรัพย์ จะต้องเปิดประตูรถฝั่งซ้ายเพื่อทำร้ายและชิงทรัพย์ แต่ในกรณีของคุณ คนร้ายเปิดที่ฝั่งขวา นั่นแปลว่า คนร้ายมุ่งมาทำรายคุณ ไม่ใช่มุ่งมาที่สิ่งของ ๆ คุณ"

          เราจึง บอกตำรวจว่า "เป็นไปได้มั้ยที่คนร้ายจะเข้ามาทำร้าย ที่ฝั่งคนขับเพื่อประชิดตัว ทำร้ายให้สลบ เพื่อจะชิงทั้งทรัพย์ และชิงทั้งรถ"

          (ซึ่งเราเองไม่ได้มีแพลนที่จะไปล่วงหน้า แต่ที่ไปเพราะว่าเรามีต้องส่งของ เราจึงคิดว่า เราจะวนเข้าไปเพื่อส่งของภายในห้าง เป็นเพียงทางผ่านเข้าไปทำธุระเท่านั้น)

          ร้อยเวรท่านนั้นก็ตอบว่า "ก็อาจจะเป็นไปได้" และลงบันทึกประจำไว้ พร้อมบอกว่า จะขอไปดูกล้องวงจรปิดที่ห้าง เพื่อขอภาพเคลื่อนไหว หากได้เรื่องอย่างไรจะติดต่อไป

##ความคืบหน้า วันที่ 17/10/57##

เวลาประมาณ 14.00 น.

          - พยาบาลของทางห้าง โทรศัพท์มาเพื่อสอบถามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราก็เล่าอาการ และบอกว่า วันเสาร์ที่ (18/10/57) ศัลยแพทย์นัดอีกครั้งเพื่อดูว่าจะต้องทำอย่างไรกับกรามที่บวมอย่างเห็นชัดได้บ้าง

          ทางพยาบาล สอบถามทันทีว่า "มีคนแจ้งหรือยังคะว่า ทางห้างจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้เพียงครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น หากมีการพบแพทย์หรือมีการรักษาในครั้งต่อ ๆ ไป ทางห้างจะไม่รับผิดชอบ คุณต้องเป็นผู้จ่ายเอง"

เวลาประมาณ 14.30 น.

          - ทางห้าง ก็โทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ เพิ่ม พร้อมแจ้งว่า "ได้ดูกล้องวงจรปิดแล้ว แต่จุดที่เกิดเหตุไกลจากจุดที่กล้องสามารถเห็นได้ จึงไม่สามารถเห็นตอนที่คุณโดนทำร้าย แต่เห็นภาพตอนคนร้ายวิ่งหนี" และจะประสานงานกับทางห้าง และทาง สน.บางแก้ว และร้อยเวรที่รับผิดชอบต่อไป (นี่คือคำตอบของห้างขนาดใหญ่ มี รปภ. กว่า 100 คน กล้องวงจรปิดทั่วทั้งห้าง)

เวลาประมาณ 15.00 น.

          - ร้อยเวรที่รับเรื่อง ก็โทรมาสอบถามรายละเอียดแบบเดียวกับที่ รองผู้กำกับเพิ่งสอบถามไป และแจ้งว่า จะเข้าไปดูกล้องวงจรปิดและดำเนินการต่อ

เวลาประมาณ 17.30 น.

          - ทางญาติของเราได้โพสข้อความทั้งหมดขึ้นเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อเตือนภัยสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้มีคนเข้ามาอ่าน และ แชร์ข้อความออกไปหลายคน

เวลาประมาณ 19.00 น.

          - มีคนรู้จักกับญาติของเราติดต่อเข้ามาว่า เค้ารู้จักกับผู้กำกับ สน. บางแก้ว ที่ทำคดีนี้อยู่ และกำลังอยากจะสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่ม พร้อมให้เบอร์ติดต่อ ผกก. มา

เวลาประมาณ 19.30 น.

          - เราจึงโทรไปตามเบอร์ที่ให้ คำถามแรกที่ ผกก. ถามคืออะไร ขอไม่บอกละกันคะ และทาง ผกก. ได้นัดหมายเพื่อสอบปากคำเพิ่มในวันที่ 18/10/57

##ความคืบหน้า ณ วันที่ 18/10/57##

เวลาประมาณ 9.00 น.

          - ญาติของเราได้รับข้อความจากเพื่อนผ่านทาง Line ซึ่งเป็นข้อความที่ ผกก. ได้โพสผ่านเฟสบุ๊ก (หากใครอยากทราบข้อความดังกล่าวสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ)

เวลาประมาณ 11.00 น.

          - เราได้เข้าไปที่ สน.บางแก้ว เพื่อให้สอบปากคำเพิ่ม (ขอไม่แจ้งในรายละเอียดนะคะ เพราะอาจมีผลต่อรูปคดี) ซึ่งทางตำรวจเองแจ้งว่า ได้รายละเอียดของคดีนี้มากแล้ว และจะติดตามจับกุมคนร้ายมาได้อย่างแน่นอนซึ่งหลังจากสอบปากคำเพิ่มเสร็จ เราได้โทรแจ้งญาติเราที่เป็นคนโพสข้อความว่า ทาง ตร. อยากให้ลบรูปของคนร้ายที่โพสในเฟสบุ๊กออกก่อน เพราะจะมีผลต่อรูปคดี และอาจทำให้คนร้ายรู้ตัวและหลบหนีไป

          ญาติเราจึงตัดสินใจลบโพสที่โพสข้อความ+รูปคนร้ายที่ลงไว้เมื่อวันที่ 17/10/57 ออก

          ##พร้อมทั้ง โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวใหม่อีกครั้งในวันที่ 19/10/57 เวลาประมาณ 01.00 น.##

          โดยตัดเนื้อหาบางส่วน บางตอน และรูปคนร้ายออก ที่อาจทำให้มีส่วนทำให้รูปคดีเสีย หรือทำให้คนร้ายรู้ตัวและหลบหนีไป

          - และเราได้เข้าพบศัลยแพทย์ตามนัดเพิ่มดูแนวทางการรักษากรามที่เบี้ยวเพิ่ม แต่ยังโชคดีที่กรามที่เบี้ยวนั้น เกิดจากการบวม และอักเสบ จึงรับยามากินเพื่อรักษาอาการต่อไป แต่ก็ต้องหยุดงานหลายวันค่ะ

          - ในวันนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากทางห้างเลย


##ความคืบหน้า ณ วันที่ 19/10/57##

          - ไม่มีการติดต่อจากทางตำรวจ

          - ไม่มีการติดต่อจากทางห้าง

##ความคืบหน้า ณ วันนี้ 20/10/57 ##

เวลาประมาณ 13.50 น.

          - ไม่มีการติดต่อจากทางตำรวจ ซึ่งทางตำรวจมีรายละเอียด และเบอร์ติดต่อของเรา

          - ไม่มีการติดต่อจากทางห้าง ซึ่งทางห้างมีรายละเอียด และเบอร์ติดต่อของเราอย่างครบถ้วน

          **ซึ่งแปลว่า ไม่มีการติดต่อใด ๆ ทั้งจากทางตำรวจ และจากทางห้างมาเกิน 24 ชม. แล้ว

          เราจึงตัดสินใจโพสข้อความนี้ เพราะไม่อยากให้เรื่องราวเหล่านี้จะค่อย ๆ ถูกลืมไป โดยที่ยังไม่ได้ตัวคนร้าย และไม่ได้รับความชัดเจนเรื่องมาตรการความปลอดภัย และการแสดงความรับผิดชอบชองทางห้างแม้แต่น้อย

          @@ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 16/10/15 เวลาประมาณ 18.30 น. จนถึงวันนี้ 20/10/15 เวลาประมาณ 14.00 น. เป็นเวลากว่า 4 วัน@@

          - ทางห้างเอง ก็ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบใด ๆ นอกจากการรักษาพยายาลในครั้งแรก

          - ทางห้างเอง ก็ยังไม่ออกมาแสดงความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ห้างของคุณเพื่อสร้างความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย

          -ทางห้างเองก็ยังไม่ติดต่อเรามาเลยแม้แต่น้อย

===========================

          นี่คือเหตุการณ์จริง เรื่องจริง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตัวของเราเอง เราจึงขอให้พื้นที่ตรงนี้ เตือนภัยทุกคนนะคะ และขอให้ตำรวจจับตัวคนร้ายได้ไว ๆ และทางห้างออกมาแสดงความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัย และรับผิดชอบต่อลูกค้าค่ะ

          ไม่ได้มีเจตนาเพื่อทำลายชื่อเสียง หรือแอบอ้างชื่อ แอบอ้างองค์กร ใด ๆ เพื่อให้เกิดการเสื่อมเสีย

          แต่เรื่องทั้งหมด มีการลงบันทึกประจำวัน มีผลการตรวจจาก รพ. มีใบรับรองแพทย์ และที่สำคัญ มีคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการดังกล่าวจริง

          ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวทั้งหมดนะคะ




คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
มนุษย์ลุงอันลือลั่น! สู่อุทาหรณ์ “เหยื่อทาสอารมณ์“

-http://news.sanook.com/1687061/%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B9%8C/-





มนุษย์ลุงอันลือลั่น! สู่อุทาหรณ์ “เหยื่อทาสอารมณ์“

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

ช่วงนี้เสพข่าวในรอบสัปดาห์ จนสัมผัสได้ถึงจิตใจของมนุษย์บางจำพวกที่ทำเสมือนดั่งว่า ตูเจ๋ง ตูเปรี้ยวมาก บนโลกใบนี้

เอาแค่ในประเทศเรา หลายต่อหลายข่าว บ่งบอกว่าเวลานี้ คำว่า "มนุษย์เจ้าอารมณ์" มันได้เขี่ยคำว่า "เหตุผล" ทิ้งลงถังขยะซะอย่างนั้น

จากข่าวฮอตฮิตติดโลกโซเชียลตลอด 2-3 วัน กับชายที่แสดงอารมณ์เกี้ยวกราด บนเครื่องบินของสายการชื่อดัง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เราเห็นได้จากข่าวว่าคำว่า "การใช้อารมณ์เหนือเหตุผล" มันเกิดอะไรกับชีวิตเขา?

เอาละ แม้หลายคนจะมองว่า เฮ้ย! เรื่องนี้มันไกลตัว เราไม่มีทาง ที่จะทำให้สภาวะที่เรียกว่า "อารมณ์หลุด" แบบในข่าวเป็นแน่

อย่าเพิ่งชะล่าใจ.... ข่าวที่มากมายในทำนองนี้ ที่นับวันยิ่งมากขึ้น และมากขึ้นในทุกวี่วัน คือสิ่งที่กำลังบอกว่า "สังคมไทยเราในเวลานี้" มันตัดสินกันด้วย "อารมณ์" แทบทั้งสิ้น

เหตุการณ์จากข่าว หลายคนที่ได้ดูคลิป ทั้งคลิปเหตุการณ์บนเครื่องบิน ทั้งคลิปของชายคนนี้มาออกรายการดังทางช่อง3 แล้วได้แต่ส่ายหัวว่า "หมอนี่เป็นเอามาก"!

ไหนจะเหตุการณ์ที่ "เมกะบางนา" ที่อยู่ดี ๆ สาวคนหนึ่ง ถูกชายจากที่ไหนก็ไม่รู้ มาสาวหมัดใส่ โชะ ๆ ๆ ในรถยนต์ของตัวเอง

โดยหนุ่มคนดังกล่าวสารภาพหน้าตาเฉยว่า "เขาโมโหจนเกินจะควบคุมสติ" เมื่อคิดว่า สาวคนนี้ มาเฉี่ยวชนตัวเอง ย้ำนะครับว่าเขา "คิดว่า"!!!

สภาวะ "อารมณ์หลุด" เช่นนี้ มีให้เห็นมากมายในโลกของข่าว และ โลกของโซเชียล ที่เวลานี้ไวปานจรวด

นับวัน มันกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย และ ทุกอาชีพ ของทุกประเทศ

จุดจบของเรื่องทางอารมณ์ มักลงเอยด้วยเรื่องร้าย ๆ เสมอ แน่นอนว่าจุดจบสุดท้ายนี่ถึงขั้น "เสียชีวิต" ซึ่งปลายทางนำมาซึ่งความเศร้าสลดของญาติมิตร

ในทางกลับกัน หากเราลองมองย้อนกลับไป ถึงเรื่องราวที่ทำให้ มนุษย์ กลายเป็น "ทาสอารมณ์" สิ่งที่ต้องพานพบคือ เขาตกเป็นผู้ต้องหา หรือโดนสังคมตราหน้าว่าเลว ว่าชั่ว โดนต้นตอมันก็มาจาก "อารมณ์" ล้วนๆ

ใน 2 เรื่องที่ยกตัวอย่างมา หากย้อนกลับไปได้ แล้วชาย 2 กรณีนี้ ฉุดคิดถึงเหตุและผลที่ตามมา ก่อนที่จะลงมือกระทำในสิ่งที่สังคมรังเกียจเช่นนี้ เชื่อว่า "เขาก็คงไม่ทำเช่นนี้แน่"

แต่ในเมื่อ ตัวเองดันพลาดพลั้ง และ ได้กระทำในสิ่งที่ตนเองได้ตกเป็น "เหยื่อของทาสอารมณ์"

ทางออกในเรื่องนี้ มันคงยากที่จะบอกว่าต้องทำเช่นไร และเพราะสุดท้ายแล้ว หากสภาวะจิตใจของคุณเป็นคนขี้โมโห ก้าวร้าว ไร้ซึ่งความยั้งคิด ให้รู้ไว้เลยว่า "คุณอาจเป็นเหยื่อของทาสอารมณ์" รายต่อไปก็เป็นได้

เรื่องโดย : บ.ส้มซิ่ง
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เผยเทคนิคทำตัวลอย แฉหมดเลย


http://www.youtube.com/watch?v=iMm_6pjGb58#t=95

-http://www.youtube.com/watch?v=iMm_6pjGb58#t=95-
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
บ้านผมถูกไฟไหม้วอดเพราะโคมลอย อุทาหรณ์สุดสลดรับลอยกระทง

-http://hilight.kapook.com/view/110577-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            เผยประสบการณ์สุดเลวร้ายของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการลอยโคม บ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง สูญเสียคนที่รักจากไฟไหม้เพราะโคมลอยที่จับมือใครดมไม่ได้

            แต่เดิมแล้วการลอยโคมเป็นประเพณีที่นิยมกันทางภาคเหนือ โดยชาวบ้านเชื่อว่าการปล่อยโคมลอยเป็นการลอยเคราะห์ลอยโศก สิ่งที่ไม่ดีไม่งามในชีวิตออกไป แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าการลอยโคมจะไม่ได้พบเห็นในเทศกาลวันงานประเพณีของชาวเหนือเท่านั้น แต่โคมลอยนั้นกลายเป็นกิจกรรมที่ผู้คนทั่วทุกภาคของไทยทำกันเป็นปกติกันไปแล้ว ไม่ว่าจะในเทศกาลลอยกระทง ปีใหม่ หรือเทศกาลอื่น ๆ โดยมีความเชื่อที่ไม่ต่างกันนั่นคือลอยเคราะห์ลอยโศก ส่วนผลพลอยได้ก็คงเป็นความสนุกสนานที่ได้ปล่อยโคมลอยแต่งแต้มแสงสว่างให้ท้องฟ้ายามค่ำคืน

            แต่ถึงแม้การลอยโคมจะเป็นที่นิยมของคนไทยทุกภาคมากเพียงใด ทุก ๆ ปีก็มักจะมีคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายของโคมลอยออกมาอยู่เสมอ เพราะการลอยโคมนั้นเกี่ยวข้องกับการจุดไฟ จึงเสี่ยงที่จะพลาดตกใส่บ้านของประชาชนจนนำมาซึ่งเหตุเพลิงไหม้ได้ทุกเวลา และที่ผ่านมาก็เกิดเหตุไฟไหม้เพราะโคมลอยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

            อย่างไรก็ดี หากใครกำลังคิดที่จะไปลอยโคมกันในเทศกาลลอยกระทงหรือปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึงนี้ วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำกระทู้จากพันทิปของคุณสมาชิกหมายเลข 925292 ที่เคยมีประสบการณ์บ้านแถวท่าน้ำนนท์ของเขาถูกไฟไหม้วอดทั้งหลังจากโคมลอยของใครสักคนซึ่งไม่สามารถเอาผิดกับใครได้เลย มาฝากกัน เพื่อให้ทุกท่านลองตระหนักถึงผลร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลอยเคราะห์ลอยโศกผ่านโคมลอยกันค่ะ

            "ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.4 บ้านของผมถูกไฟไหม้เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้วในคืนวันลอยกระทงครับ เนื่องจากโคมลอยมาตกใส่หลังคา คือบ้านมีลักษณะเป็นเต้นท์ผ้ายาง เรียงต่อ ๆ กันหลายหลังครับ ก็ถือว่าใหญ่พอสมควรเพราะว่าเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แต่ว่าภายในก็มีการโบกปูนทำเป็นห้อง ๆ สำหรับออฟฟิศและอยู่อาศัยแน่นหนา ภายในก็จะมีเฟอร์นิเจอร์มากมาย ตั้งแต่โซฟา ตู้ โต๊ะ เตียง ที่นอน ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้และที่นอนกาบมะพร้าวครับ(เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี) ทีนี้ตอนที่โคมลอยมาตก ให้จินตนาการว่ายางโดนเผาครับ มันจะหยด เลยลุกลามรวดเร็วมาก จนไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เสียหายทั้งหมด เหลือเพียงแค่ตู้เซฟ กับรถครับที่ไม่ถูกเผา นี่คือเรื่องย่อ แต่ผมจะขอเล่าถึงเหตุการณ์อย่างละเอียดนะครับ เพื่อสะท้อนจิตใจของผมและครอบครัวว่ามันเป็นอย่างไร ณ ตอนนั้น

            เรื่องมีอยู่ว่าผมออกไปงานวันลอยกระทงกับเพื่อนที่ศาลากลางครับ (อ้อ! ลืมบอกว่าบ้านของผมอยู่แถวท่าน้ำนนท์) ก็ไปช่วยแม่เพื่อนขายกระทง เพราะเราว่าง ๆ กะว่าเสร็จงานจะได้ลอยกระทงกับเพื่อนด้วย กว่าจะแยกกัน กลับมาถึงบ้านตัวเองก็เที่ยงคืนกว่าครับ วันนั้นบอกตรง ๆ ว่าเพลียแล้วคิดว่าคงหลับยาวแน่ ๆ หลังจากผ่านมาทั้งวัน พอกลับมาถึงเตรียมตัวจะนอน แม่ก็มาทักครับ แกยังไม่หลับ ก็บอกผมว่าอยากลอยกระทง พาไปลอยกระทงตอนนี้ได้ไหม ? เพราะแม่ตัดผมตัดเล็บน้อง ๆ ใส่กระทงไว้ (ตามความเชื่อของแม่) แต่ยังไม่ได้เอาไปลอย เพราะน้องยังเล็ก ไม่อยากพาออกไปตอนคนเยอะ ๆ กลัวว่าจะอันตราย ตอนนั้นน้องยังแบเบาะครับ ส่วนอีกคนอยู่อนุบาล ผมโตมากเพราะคนละพ่อ // ดูแกไม่สบายใจครับ ถ้าไม่เอาไปลอย แกตั้งใจไว้แล้ว ก็ไม่อยากเอาเศษผมกับเล็บน้องไปทิ้ง ด้วยว่าท่าน้ำมันไม่ได้ไกลมากด้วย ผมเลยพาแม่เดินออกมากันสองคนที่ท่าน้ำนนท์

            ตอนนั้นคนซาหมดแล้วครับ หลังจากลอยกระทงเสร็จ เราก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวกัน ใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นในขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน ก็เห็นมีคนวิ่งแตกตื่นแล้วตะโกนว่าไฟไหม้ ๆ ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ตกใจ เลยมองตาม ก็เห็นฟ้าบริเวณนั้นเป็นสีแดงครับ แม่ก็บอกว่าทางนั้นมันแถวบ้านเราเลย ใจไม่ดีเนอะ ผมก็บอกแม่ว่าอย่าคิดมาก แล้วก็พากันรีบเดินกลับอย่างไว สักพักก็มีคนขี่จักรยานวิ่งสวนมาครับ แล้วตะโกนเหมือนกันว่าไฟไหม้ ๆ เราเลยโบกให้เขาหยุดแล้วถามว่าไฟไหม้ที่ไหน ? พอเขาตอบว่าร้านเฟอร์นิเจอร์เท่านั้นแหละครับ แม่กรี๊ดเลย แล้ววิ่งนำผมไปอย่างเร็ว

            แม่กรี๊ดว่าลูกกู ๆ ! (ขออภัยถ้าไม่สุภาพนะครับ) ผมรีบวิ่งตามแม่ไป จับมือ แล้วบอกใจเย็น ๆ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ได้แค่วิ่งไปให้เร็วที่สุดที่จะทำได้ ประคองแม่ด้วย กลัวแม่จะล้ม เพราะแม่ดูสติแตกแล้ว เราก็กลัวมาก ในใจยังคิดว่าหวังว่าคงยังไม่น่าจะใหญ่โต แต่เปล่าเลยครับ ผิดคาด พอใกล้ถึงบ้านเราก็เห็นคนเป็นร้อย (ไม่เว่อร์นะครับ) มุงรอบบ้านเรา พร้อมกับรถดับเพลิงอีก 3 คัน กำลังฉีดน้ำ ตอนนั้นไฟมันท่วมจนพีคมากแล้ว รัศมีสูงประมาณตึก 3 ชั้น (นี่คือมองจากไกล ๆ นะครับ ยังไม่ถึง) ตอนนั้นเข่าอ่อน เราสองคนแม่ลูกวิ่งแทรกผลักคนอื่นออกหมดเลย แม่ก็ตะโกนหาน้องเหมือนคนสติแตก ผมก็ด้วยครับ คุมอะไรไม่อยู่เลย จนกระทั่งชาวบ้านรั้งเราทั้งคู่ไว้แล้วบอกว่า เด็ก ๆ ออกมากันหมดแล้ว เราถึงหยุดแล้วมันตื้อไปหมด ถามชาวบ้านว่าคนในบ้านอยู่ตรงไหนกัน ก็มีคนพาเราไปเจอน้อง ๆ กับพ่อเลี้ยงครับ นั่งอยู่ริมฟุตบาตไกล ๆ มือนึงอุ้มคนเล็ก อีกมือจับคนโต มันทั้งโล่งใจทั้งเศร้าใจ หลายอารมณ์มาก สงบใจได้ไม่ทันถึงนาทีก็ต้องเหลียวกลับไปมองครับ ว่าไฟยังไหม้อยู่

            เรากลับไปถามหาสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ จากชาวบ้านครับ ว่าใครอยู่ไหนบ้าง ?  เพราะอยู่กันเยอะ มีครอบครัวลุงด้วย มีลูก ๆ แล้วก็คนงานอีกหลายคน ก็ทำให้รู้ว่าตอนนี้ทุกคนออกมาแล้ว แต่เห็นว่ามีคนแก่ติดอยู่ !! ตอนนั้นหัวใจมันระเบิดเลยครับ นึกได้ว่ามีคุณตาอยู่ด้วย เวลานั้นมันคิดอะไรไม่ทันครับ แล้วทั้งหมดที่เล่าก็รวดเร็วมาก คุณตาของผมเป็นอัมพฤกษ์ด้วย ขยับได้แค่ครึ่งตัวด้านขวา ฉะนั้นแกไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แน่ พอแม่ได้ยินอย่างนั้นก็กรี๊ดอีกรอบครับ ทีนี้จะวิ่งฝ่าไฟเข้าไป แกตะโกนเรียกคุณตาว่าพ่อ ๆ ! ผมนี่กอดแม่แน่นเลย แม่ดื้อจะลุยเข้าไปให้ได้ ซึ่งผมมองด้วยสายตาแล้วมันไม่ทันจริง ๆ ครับ ไฟสูงมาก แม้จะยังมีหลายส่วนยังไม่ถูกเผา แต่ว่าข้างในมันต้องเหมือนเขาวงกตไฟแน่ ๆ เพราะตู้ เตียง วางเรียงกั้นเป็นทางเดินไว้ แม่ไม่ไหวแน่ถ้าเข้าไป ตัวผมเองก็ด้วย แม่กรี๊ด ๆ ทั้งดิ้นทั้งทุบให้ผมปล่อย ร้องไห้สติแตก ผมก็ไม่ต่างกัน แต่ผมเสียแม่ไปไม่ได้ อยากเข้าไปช่วยตา แต่ต้องตัดใจ ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมาก เพราะต้องประคองแม่ไว้ ในขณะที่จิตใจของตัวเองก็แย่พอกัน

            อยู่ ๆ ลุงของผมก็วิ่งมาจากอีกทางครับ แกวิ่งฝ่าคนเข้ามาพร้อมกับชาวบ้านที่อาสา แล้วอ้อมไปหลังบ้าน ซึ่งเป็นซอกแคบ ๆ ติดกับบ้านคนอื่น พอให้เดินได้แทรกเขาไปได้ พวกเขาเอาค้อนทุบ ๆ ๆ ๆ กำแพงจนแตกในที่สุด พอกำแพงแตกเท่านั้นแหละครับ ไฟพุ่งฟู่ ๆ ๆ ออกมาจากช่องเลย แต่ยังพอมองเห็นว่าข้างในยังไม่ไหม้หมดครับ พวกเขาก็เข้าไปในตัวบ้าน สักพักลุงก็แบกคุณตาอย่างทุลักทุเล พยายามจะออกมาจากกำแพงแตก ๆ ผมกับแม่ก็ทำได้แค่ภาวนาครับ เข้าไปช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะไฟพวยพุ่งออกมาเป็นระยะ สุดท้ายลุงก็ร้องขอความช่วยเหลือ จนอาสารุดเข้าไปแทน แล้วลุงก็วิ่งหนีออกมาพร้อมกับเนื้อตัวที่ไหม้พองและเยิ้มรุนแรงจากการถูกเผา ลุงไหว้แม่แล้วบอกว่าพี่ไม่ไหวจริง ๆ คือทุกคนเข้าใจ แล้วหันกลับไปมองที่เดิม ก็เห็นพี่อาสาแบกคุณตาขี่หลังครับ ดูทุลักทุเลเหมือนกัน เนื่องจากทางแคบและลึกกว่าจะออกมาได้ แล้วคุณตาก็ค่อนข้างตัวใหญ่ ประกอบกับพื้นตรงนั้นเป็นดินโคลนครับ ชุ่มไปด้วยน้ำจากรถดับเพลิงด้วย พี่คนนั้นเลยลื่นหงายหลัง และทำคุณตาหัวฟาดกับพื้น พอพี่เขาลุกได้ก็ไหว้คุณตาบอกว่าผมขอโทษ ผมไม่ไหว ๆ แล้ววิ่งออกมาเลยครับ ตอนนั้นคุณตาตะโกนไล่หลังมาว่าไอ้หนุ่ม อย่าทิ้งตา ๆ คือบอกตรง ๆ ว่าใจจะสลายที่ทำอะไรไม่ได้เลย // พี่อาสาวิ่งออกมาทั้งกราบทั้งไหว้พวกเราครับ ตอนนี้ทั้งตัวพี่เขาเองก็ชุ่มไปด้วยแผลไฟไหม้ครับ เราเข้าใจว่าทุกคนทำสุดความสามารถแล้ว เราสงสารเขาด้วยซ้ำที่เข้าไปเสียงให้ มองกลับไปคือเห็นไฟมันพุ่ง ๆ มาลนคุณตาครับ ในลักษณะที่แกนอนดิ้น ๆ เหมือนจะขาดใจ ทำได้แค่พยายามสาดน้ำเข้าไปให้ไฟมันดับบ้าง แล้วก็หาทางจะเข้าไปช่วยต่อ เสียงแกแผ่วลง ๆ ไฟก็ยังคงสูงและลามอยู่อย่างนั้น มันโหดร้ายมากที่เราทำได้แค่ไม่หลบตา มองดูแกอย่างนั้น พยายามกันอยู่นานกว่าจะสามารถกลับไปช่วยแกได้อีก พอหามคุณตาออกมาได้ก็สายไปแล้วครับ แกไปแล้ว

            หลังจากนั้นก็มีรถพยาบาลมาพาคุณตาไปครับ พร้อมกับยืนยันว่าไม่สามารถช่วยแก เราให้ลุงกับพี่อาสาไปกับรถพยาบาลเพราะแผลมันแย่มากครับ // ถึงตอนนี้ไฟก็ยังคงไหม้อยู่ เราเดินหาสมาชิกคนอื่นที่เหลือแล้วพากันมองไฟลุกต่อไปครับ ตัดใจแล้ว ทีมกู้ภัยบอกว่าดับไม่ได้แล้วครับ ตอนนี้เน้นสกัดไม่ให้ลามไปบ้านอื่น ใช่ครับ ในสายตาเรามันก็ดูจะไม่เหลืออะไรให้หวังแล้ว ชาวบ้านมองเราด้วยความสงสาร หาน้ำหาผ้าห่มมาให้ เรากอดกันร้องไห้มองดูไฟเผาทุกอย่าง จนมันแผ่วลง ๆ แล้วในที่สุดก็ดับครับ

            เวลาประมาณตีห้า บ้านที่เคยมีตอนนี้เหลือแค่ซากตะโกครับ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและแจ้งว่า พบอีกหนึ่งศพ เป็นเถ้ากระดูกในตัวบ้าน ทราบภายหลังว่าเป็นพี่คนงานที่น่าสงสารอีกคนที่เราคุ้นเคยดีครับ แกเป็นคนพิการ หูหนวกเป็นใบ้ คืนนั้นมีงานฉลอง พี่เขาก็คงจะเมาด้วยแล้วคงไม่ได้ยินด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกว่าจะรู้ตัวก็คงสาย นอกจากนี้ยังพบว่ามีโครงเสาเหล็กของเต้นท์ทับหน้าอกแกด้วย สะเทือนใจมากครับ แล้วก็เลยพบหลักฐานของเหตุเพลิงไหม้นี้ ว่าคือซากของโคมลอย ตกอยู่บริเวณที่นอนห้องผม และเป็นห้องต้นเพลิง // เรื่องนี้ขนลุกมากครับ ทำให้ย้อนคิดไปว่าถ้าแม่ไม่ชวนผมออกมา ตอนนี้ผมคงไม่รอด

            หลังจากที่เจ้าหน้าที่เช็กทุกอย่าง เราจึงมีโอกาสเดินสำรวจรอบ ๆ มันน่าเศร้าใจมากครับที่เห็นทุกอย่างเป็นเศษเถ้าถ่าน มันหมดแล้วจริง ๆ ผมไม่แน่ใจว่าตอนนั้นเราสูญไปเท่าไหร่ แต่มันหนักหนาจริง ๆ ไม่มีที่ซุกหัวนอน จนต้องไปอาศัยชาวบ้านแถวนั้นอยู่พักใหญ่ ทุกท่านใจดีกับเรามากจริง ๆ สภาพเราตอนนั้นมันแย่ที่สุด แต่ละคนเลอะเขม่า หัวฟู รุงรัง คราบน้ำตาเปรอะเหมือนคนบ้า กว่าจะคิดว่าชีวิตมันต้องดำเนินยังไงต่อไปมันใช้เวลามากครับ

            ตอนนี้ครอบครัวเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ค่อย ๆ เริ่มกันใหม่ และมันคงไม่มีทางลืมง่าย ๆ เราไม่ได้รับอะไรนอกจากการช่วยเหลือเล็กน้อยจากทางรัฐ เพราะเราทำประกันไม่ได้ครับ ตัวบ้านมันไม่ได้มาตรฐาน (เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจรายละเอียด เพราะตอนนั้นยังเด็ก อยากให้ข้ามไปนะครับ) สำหรับทั้งหมดที่ผมเขียนมานี้ ผมอาจจะเขียนน่าเบื่อ ยืดเยื้อ แต่ผมเขียนด้วยความรู้สึกที่มันเจ็บปวดจริง ๆ มันโหดเกินไปจริง ๆ เชื่อไหมครับ ? ว่าพวกเราไม่ได้คิดจะโทษใครเลย กลับโทษตัวเองในหลาย ๆ เรื่อง เพราะเราไม่รู้จะโทษใคร แล้วไม่รู้ว่าโทษแล้วจะได้อะไร ตอนนี้เมื่อมองกลับไป สำหรับผมมันเป็นบทเรียนราคาแพงมาก ผมคิดว่ากว่าจะผ่านมาได้ ทุกคนเข้มแข็งขึ้นมาก ผมคิดว่าผมโตขึ้นเยอะจากเรื่องนี้ เพราะมันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจนถึงปัจจุบัน

            อย่างไรก็ตาม ผมอยากฝากเป็นสิ่งเตือนใจถึงทุกท่านในสังคมนะครับ กรุณาเถอะครับ อย่าให้ใครต้องเจอเรื่องราวแบบนี้เลย ตัวผมเองก็ไม่เคยลอยโคมสักครั้งในชีวิต ผมเลยรู้สึกว่ามันก็ตลกดีที่กลับเป็นฝ่ายมาโดน // สำหรับประเพณี มันเป็นสิ่งสวยงามครับ ผมไม่ขอร้องให้หยุด แต่ผมอยากถามว่า มีสักกี่คนครับ ? ที่คิดว่าหลังจากที่เราลอยความทุกข์ของตนไปกับโคมไฟแล้ว หลังจากนั้นมันจะเป็นอย่างไรต่อ ? มันจะลอยขึ้นไปสู่ฟากฟ้าไม่รู้ดับ หรือหวังว่ามันคงค่อย ๆ มอดและล่วงลงอย่างสงบ ? หรือเราจะให้ใครเก็บมันหลังจากนั้น ? // ผมเชื่อว่าทุกท่านปล่อยโคมด้วยเจตนาอันดีครับ ฉะนั้นผมก็หวังเช่นกันว่าเมื่อท่านได้อ่านเรื่องจริงของผมแล้ว อาจเป็นอุทาหรณ์ที่ท่านจะสามารถนำไปเล่าต่อ ๆ กันได้ // ประเพณีที่สวยงาม ผมเชื่อว่ามันจะยังคงสวยงาม หากผู้ที่สานต่อมีความเข้าใจ และสืบสานคงไว้ให้เหมาะสมตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ไม่จำเป็นต้องเลิก แต่ขอให้สานต่ออย่างประณีต อย่าทำไปด้วยฉาบฉวย ขอเท่านี้แหละครับ

            ขอบคุณที่อดทนอ่านจนจบครับ :")"


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สุ่มตรวจร้านหมูกระทะ พบยาดองศพปนเปื้อนในปลาหมึกอื้อ

-http://health.kapook.com/view105227.html-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
         
           แพทย์ประจำสาธารณสุขจังหวัดเลย สุ่มตรวจสารปนเปื้อนในอาหารตามร้านจำหน่ายหมูกระทะ พบมีสารฟอร์มาลีนหรือน้ำยาดองศพปนเปื้อนอยู่ในปลาหมึกอื้อ

           วันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร แพทย์ประจำสาธารณสุขจังหวัดเลย ได้นำเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจร้านจำหน่ายหมูกระทะในพื้นที่อำเภอเมืองเลย เพื่อป้องกันการใช้สารปนเปื้อนในอาหาร ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า บางร้านมีสารฟอร์มาลีนหรือน้ำยาดองศพปนเปื้อนอยู่ในปลาหมึก ซึ่งเจ้าของร้านก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ใส่สารชนิดดังกล่าวเอง พร้อมบอกว่าปลาหมึกที่นำมาขายจะมีรถมาส่งให้ถึงร้าน

           นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังทำการตรวจสอบสารบอแรกซ์ในเนื้อหมูด้วย ซึ่งปรากฏว่าไม่พบสารปนเปื้อนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้คำแนะนำในเรื่องสุขอนามัยกับบรรดาร้านต่าง ๆ อีกด้วย ส่วนสำหรับร้านที่พบว่ามีสารฟอร์มาลีนนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบที่มาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

           ผู้สื่อข่าวระบุเพิ่มเติมว่า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลยได้ฝากเตือนมายังประชาชน ว่าให้เลือกร้านที่น่าไว้วางใจเท่านั้น เนื่องจากผู้ค้าขายบางร้านไม่ห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภค อาจใช้น้ำยาที่เป็นอันตราย เช่น ฟอร์มาลีน น้ำยาล้างห้องน้ำ มาแช่เนื้อปลาหมึกหรือใช้ล้างเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ได้

           ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาดังกล่าว ผู้บริโภคจะต้องคำนึงถึงสุขภาพอนามัยของตัวเอง โดยให้สังเกตที่เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ว่าจะต้องไม่แดงจัดจนเกินไป และสีผิวต้องสม่ำเสมอ ไม่มีลักษณะของเม็ดสาคูฝังในเนื้อ และเพื่อหลีกเลี่ยงพยาธิต่าง ๆ ในการย่างควรต้องย่างให้สุกก่อน ไม่ควรรับประทานแบบสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะเสี่ยงต่อการเป็นพยาธิ อีกทั้งถ้าป่วยแล้วอาจถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้จะต้องไม่ย่างจนเกรียมเกินไป เพราะการไหม้เกรียมมีสารก่อมะเร็งอีกด้วย   

           นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลยยังกล่าวอีกว่า หากผู้บริโภคสงสัย สามารถนำตัวอย่างเนื้อสัตว์มาส่งตรวจได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลยหรือโรงพยาบาลชุมชนได้ทุกแห่ง ซึ่งจะให้บริการตรวจฟรี 5 สาร คือ สารบอแร็กซ์ สารกันรา สารฟอกขาว ฟอร์มาลีน สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ส่วนสารเร่งเนื้อแดงผู้บริโภคจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจเอง


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://social.tnews.co.th/content/116704/-




คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เปิดคลิปชายขอทานแกล้งแขนด้วน ลุกขึ้นทีแขนโผล่

-http://hilight.kapook.com/view/111715-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Doolen Acoustic

            เล่นกันแบบนี้เลย ชายขอทานซ่อนแขนไว้ในเสื้อ หลอกว่าแขนด้วน ขายความสงสารหาประโยชน์จากคนอื่น

            วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 เฟซบุ๊ก Doolen Acoustic ได้เผยคลิปเปิดโปงพฤติกรรมของชายขอทานแขนพิการรายหนึ่ง ซึ่งมานั่งขอทานอยู่ริมฟุตปาธ แต่แล้วในที่สุดกลับปรากฏว่าที่จริงแล้ว ชายคนดังกล่าวไม่ได้มีแขนพิการแต่อย่างใด เพียงแต่ซ่อนแขนของตนเองไว้ในเสื้อเพื่อหลอกใช้ความสงสารจากผู้คนให้ช่วยทำทานเท่านั้น ดังที่จะเห็นได้จากคลิปนี้



            - ชายขอทานผู้มีแขนพิการทั้ง 2 ข้าง นั่งขอทานอยู่ริมฟุตปาธ



            - แต่แล้วหลังจากที่รู้ตัวว่าถูกถ่ายคลิป ชายขอทานรายนี้ก็ลุกขึ้น



            - ในจังหวะนั้นเองที่เห็นแขนของเขาโผล่ออกมาจากปลายเสื้อ



            - เมื่อลุกขึ้นยืน 2 แขนที่ซ่อนไว้ภายในเสื้อก็ยิ่งโผล่ออกมาชัดเจน



            - กระทั่งในที่สุด ชายขอทานรายนี้ก็รีบวิ่งหนีไปเมื่อรู้ตัวว่าถูกจับโกหกได้

            นอกจากนี้เจ้าของคลิปยังเปิดเผยด้วยว่า จริง ๆ แล้วตนรู้สึกสงสารคนที่ลำบากจริง ๆ แล้วมาขอทาน แต่สำหรับกรณีที่มีคนมาแสวงหาประโยชน์กับการขอทานเช่นนี้ ตนไม่รู้สึกสงสารเลยจริง ๆ

https://www.facebook.com/doolen.nj
-https://www.facebook.com/doolen.nj-


------------------------------------------------------------------------------------


ลุยแล้ว จัดระเบียบขอทานใน กทม. จับพิสูจน์แม่-ลูก

-http://hilight.kapook.com/view/111735-



จัดระเบียบขอทานกทม.3วันจับได้96ราย (ไอเอ็นเอ็น)
 
             อธิบดีกรมพัฒนาสังคม เผยการจัดระเบียบขอทาน กทม. 3 วัน จับกุมได้ 96 คน พร้อมขยายผลต่อเนื่องในจังหวัดท่องเที่ยว

             วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2557) นายอนุสันต์ เทียนทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ภายหลังการลงพื้มที่จับกุมขอทานในเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2557 รวมเป็น 3 วัน สามารถจับกุมขอทานได้ 96 คน ซึ่งเป็นคนไทย 35 คน และเป็นคนต่างด้าว 61 คน

             นอกจากนี้ เมื่อมีการจัดระเบียบขอทานในกรุงเทพฯ แล้ว ก็จะดำเนินการขยายผลต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดแหล่งท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น อุบลราชธานี ชลบุรี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และสงขลา ซึ่งการดำเนินการก็จะมีลักษณะการปฏิบัติการคล้ายกับของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ

             ทั้งนี้ ภายหลังการจับกุมแล้ว ทางกรมพัฒนาสังคมฯ จะมีการแบ่งแยกคัดกรองใน 5 เรื่อง อาทิ ด้านกลุ่มยาเสพติด ด้านอาวุธ ด้านของสุขภาพร่างกาย ด้านสุขภาพจิต และด้านการคัดแยกกลุ่มการค้ามนุษย์
 
             นอกจากนี้ การดำเนินการยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการดูแลจัดการคัดแยกกลุ่มคนที่มา จากการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ยังมีกระทรวงสาธารณสุขดูแลด้านสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในการดำเนินคัดแยกตัวบุคคล และสัญชาติว่าเป็นคนไทยหรือต่างด้าว

             พร้อมกันนี้ ยังพบว่ามีแม่ที่อุ้มลูกมาขอทาน เบื้องต้นทางกรมพัฒนาสังคมฯ ได้ประสานงานไปยังศูนย์แลกรับคนไร้ที่พึง ที่นนทบุรี เพื่อตรวจพิสูจน์ความเป็นแม่ลูก ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะดำเนินการในการตัดวงจรของกลุ่มการค้ามนุษย์





คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เจ้าหน้าที่ทางราชการ  รวมทั้งตำรวจ

ทำผิด  ไม่ต้องรับผิด และ ไม่ต้องติดคุก  ใช่หรือไม่ ?????????  !!!!!!!!!!

ไม่มีข่าว แต่อย่างใด



-------------------------------------------



พนง. เก็บขยะ คดีเก็บแผ่นซีดีขาย นำเงิน 2 หมื่น มอบกองทุนยุติธรรม

-http://hilight.kapook.com/view/111729-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ข่าวสด         

           พนักงานเก็บขยะถูกศาลตัดสินจำคุก หลังเก็บแผ่นซีดีขาย นำเงินที่ได้รับบริจาคมามอบให้กองทุนยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นตน

           จากกรณีที่นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา พนักงานเก็บสิ่งปฏิกูลเขตสะพานสูง กทม. เก็บแผ่นซีดีไปขาย ต่อมาได้ถูกศาลฎีกาปรับเป็นจำนวนเงิน 133,400 บาท แต่นายสุรัตน์ไม่มีเงินชำระค่าปรับ ทำให้ศาลตัดสินกักขังเป็นเวลา 1 ปี แต่ต่อมามีผู้ใจบุญมาชำระค่าปรับให้ ทำให้นายสุรัตน์ได้รับการปล่อยตัวนั้น

           ล่าสุด วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรัตน์ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อมอบเงิน 20,000 บาทที่ได้รับจากการบริจาคจากประชาชนมามอบให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ นำเข้ากองทุนยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นตน

           ทั้งนี้ พ.ต.อ. ณรัชต์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กองทุนยุติธรรมได้รับเงินบริจาคเข้ากองทุน ซึ่งก่อนหน้านี้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้เคยนำเงินกองทุนยุติธรรมไปประกันปล่อยตัวชั่วคราวนายสุรัตน์ออกมา และต่อมามีผู้ช่วยเหลือนำเงินไปเสียค่าปรับให้ แต่ยังเหลือเงินที่มีผู้บริจาคอีก 20,000 บาท นายสุรัตน์จึงต้องการมอบเงินที่เหลือให้กองทุนยุติธรรมนำไปใช้ประโยชน์กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเหมือนตัวเอง

           ด้านนายสุรัตน์ กล่าวว่า ตนเคยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมในการประกันตัวออกมาสู้คดี ต่อมาเมื่อถูกศาลฎีกาสั่งปรับก็มีผู้หวังดีนำเงินมาชำระค่าปรับให้ และมีเงินของประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่มาบริจาคให้คน ตนจึงมองว่าเงินนี้เป็นของประชาชน จึงตัดสินใจมามอบให้กองทุนยุติธรรมนำไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1416637372-






คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)