ใต้ร่มธรรม
ริมระเบียงรับลมโชย => รับสายลมเย็นหน้าระเบียง => คุยสบาย นานาสาระ => ข้อความที่เริ่มโดย: aun63 ที่ สิงหาคม 07, 2010, 01:21:38 pm
-
:44:
-
:11:ลูกเตะอัตตาเพียงสิ่งที่จะทำให้เราท่านได้เข้าใจในสิ่งๆหนึงเพื่อสร้างสรรค์ความเข้าใจในบทบาทที่ท่านได้รับโดยธรรมชาติเพื่อธรรมชาติ
จุดเริ่มเมื่อผมได้รับทราบจากเสียงของเธอผู้กำลังได้รับบทบาทของความเป็นแม่นั้นบอกว่าฉันกำลังท้อง ซึ่งไม่ต่างกันเมื่อผู้ฟังเองก็จะได้รับบทบาทของความเป็นพ่อเช่นกัน ความรู้สึกในเวลานั้นมันดีใจในบทบาทที่กำลังจะได้รับ (ไม่มีรัยสวยหรูและเป็นอย่างที่คิดได้เสมอ555+) เราจะเป็นพ่อคนแล้วโว้ย
-
เหวย เหวย ลูกใครหว่า :12:
(http://img19.imageshack.us/img19/1677/dsc06993f.jpg)
-
:43:ในระยะเวลาที่บทบาทนั้นเริ่มขึ้นการท่องบทก็ตามมา ตำหรับตำราในการดูแล ในการเตรียมตัวเพื่อจะเรียกได้ว่าพ่อที่ดีของลูก (หรือจิงๆอยากให้ใครเห็นว่าเราเป็นพ่อที่ดีกันแน่น้า) มันเกิดขึ้นมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกได้ว่าหน้าที ผมไม่เคยเห็นตัวตนของตัวเองเลยว่าผมน่าลำคาญสำหรับเธอผู้ที่อุ้มท้อง เธอแพ้ท้องจน8เดือนก็ยังไม่ชนะสักที 555+ ผมจะเอามือลูบท้องเพื่อที่จะสื่อถึงลูกว่าพ่ออยู่นี่นะ พ่อรักหนูนะเมื่อรัยเราจะได้เจอกัน พ่อจะสวดมนต์ให้หนูฟังนะ สวดไปสวดไปเบาๆนะ มีเสียงหนึงก็ดังขึ้น นี่ฉันจะนอน เสียงแม่ของลูกนี่เอง555+
ไม่เป็นรัยเอาmp3อัดมาให้ฟังก็ได้ ทำเพื่อลูก (หรือทำเพื่อตัวเองน้า) เราเอาใจใส่ลูกมากจนเรามองข้ามความรู้สึกที่แปรปรวนของภรรยาผู้ซึ่งรับบทบาทที่หนักมากจิงๆ (CyodHiydgTvot๗
-
:11: ความต้องการที่จะดูแลลูกเอาใจใส่ลูกมันมากขึ้นเรื่อยๆกังวล ว้าวุ้น เมื่อรัยเธอจะเลิกหงุดหงิดเสียงของผมพูดขึ้นกับภรรยา เพื่อนๆผมไม่เคยแพ้ท้องผมไม่เคยรู้เลย
ว่ามันสาหัสขนาดไหน ผมคิดถึงแต่ความคิดตัวเอง เธอมีความรักต่อลูกมากมายกว่าผมมากนัก เพราะนั้นคือเลือดและเนื้อของเธอ ความรักที่ใช้แต่ความคิดตัวเองเพียงฝ่ายเดียวนั้นไม่ใช่ความรักนี่คือสิ่งที่สะท้อนกลับมาเมื่อผมและภรรยาทะเลาะกันเพราะตัวตนของผม ( รักนะคุณแม่) ^ ^
-
:44:เมื่อวันจวนคลอดมาถึง ถ้าคุณแม่มีอาการปวดท้อง หรือน้ำเดินเมื่อรัยให้รีบมาโรงพยาบาลได้เลย คุณหมอว่ามาอย่างนั้น อืมมเธอนี้ก็ครบกำหนดแล้วปวดท้องยัง เป็นยังงัยบ้างมีอาการรัยป่าว ยังงัยดี อืมพรุ่งนี้ไปหาหมอกัน .... เสียงของหมอบอกว่า..เด็กแข็งแรงดีครับอืมมหรือจะผ่า เด็กตัวใหญ่นะ ถ้าผ่าก็นอนคืนนี้พร่งนี้ผ่าเลย ภรรยาผมใจเด็ดมากผ่าเลย ให้ตายเถอะเพื่อน ความกล้ามันเกิดขึ้นมาได้สักพักเดียว ความกลัวก็ตามมาแระ ฉันกลัวนั้นคือสิ่งที่เธอบอกผม ไม่ต้องกลัวไม่เห็นมีรัยเลยจะกลัวทำมัย ( ก็เราไม่ได้ผ่าเองหนิก็พูดได้ดิ 555+) เพื่อนเห็นอะรัยมั้ยนั้นคือความกลัวของเราเหมือนกันแต่เราโยนภาระให้คนอื่น เคยปะ (มันใช้ได้กับทุกๆเรื่องนะ)
-
:24: :47: :45:เสียงแรกของการรอคอย เป็นเสียงที่สัมผัสถึงความรู้สึกรักที่บริสุทธิอย่างจับใจ น้ำตา ความดีใจ ความทราบซึ่งใจมันเกิดขึ้น สิ่งที่สะท้อนกลับมาคือความเข้าใจในรักที่พ่อและแม่มีให้แก่เรา พ่อครับแม่ครับ ขอบคุณนะครับ ผมเข้าใจแล้วว่าพ่อกับแม่รักผมมากขนาดไหน เอาหละเรื่องราวต่างๆกำลังจะดำเนินขึ้น พลังแห่งชีวิตที่เปลี่ยนวิถีคิด และปฎิบัติได้อย่างเข้าใจมันกำลังเกิดขึ้นแล้วเพื่อนๆ
-
เกิดซะที ลุ้นหน้าห้องคลอดจนตัวโก่ง 555+
-
:12:1-2 ปีแรก ผมเหมือนจงอางที่หวงไข่555+ ใครแตะลูกผมไม่ได้ ทำรัยที่ผิดหลักการดูแล โน้นนี่นั้น ผมจะพูด เชิงบ่นเล็กๆ เพื่อนเชื่อมั้ยจนแม่ยายผม นอนไม่หลับแค่ลูกผมโดนยุงกัดกลัวว่าผมจะตำหนิ ภรรยาผมเริ่มพูด ว่าอั๋นเธอจะอะรัยกันมากมายเธอเลี้ยงได้มั้ย ถ้าได้ลองมาเลี้ยงดู เพื่อนเอยความกล้ามันมาเร็วจิงๆ ผมลองเลี้ยงเอง โอ้วพ่อเจ้า เข้าใจแระว่าเป็นงัยเลี้ยงเด็กไม่ใช่ตุ๊กตา นั้นคือจุดเริ่มที่ผมเริ่มเข้าใจคนรอบข้างที่เค้าดูแลลูกของผม ความเข้าใจทำให้ผมไม่มากมายในการดูแลด้วยประสบการณ์ของแม่ยาย การที่ผมไม่มากมายมันทำให้ผมดูและเรียนรู้ด้วยความเข้าใจอย่างใกล้ชิด การทะเลาะกันเรื่องการดูแลลูกมันเป็นเรื่องปกติที่ทุกๆคนต้องเจอ สิ่งหนึ่งที่ได้คือทุกคนทำด้วยความรัก ต่อนะ สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นนั้นคือสิ่งที่ลูกสัมผัสและสื่อมายังเราผู้ที่เรียกตนเองว่าพ่อ นี่คือสิ่งที่ผมมองข้ามมา ต้นข้าวคือลูกสาวที่น่ารัก เธอเกิดมาพร้อมกับภาวะที่บริสุทธิ และความรักของคนในครอบครัว ทุกคนรักและอยากให้ต้นข้าวเป็นคนดีในสิ่งที่คิดและคาดหวัง รวมถึงตัวพ่ออย่างผมด้วย
-
เมื่อลูกได้3ปีลูกต้องเข้าเรียน ก็จะมีการสอบถามกันในหมู่เพื่อนที่มีลูกรุ่นๆกันว่าจะให้ไปเรียนไหน สังคมยังงัย เรียนดีเรียนเด่น ภาวะนั้นมีนะ ที่ต้องการและปราถนาในสิ่งนั้นเพื่อลูกหรือเพื่อหน้าตาของตัวเองแล้วคิดว่าลูกจะได้ไม่น้อยหน้าใครหรือเราไม่น้อยหน้าใครกันแน่ ถามเองตอบเอง555+ เพื่อนๆผมได้คำตอบด้วยภาวะนั้นมันทำเพื่อตัวเองนี้หว่า มันยึดในความคิดคนอื่น บ้าจิงๆทำมัยผมถึงใช้ชีวิตอยู่กับความคิดคนอื่น จิงๆลูกผมไม่ได้ต้องการไปแข่งกับใครทำมัยผมต้องไปบังคับลูกผมให้ลงแข่งความเก่ง นั้นคือหนึงที่ผมหลงทางผมกำลังสร้างสังคมที่แข่งขันตามๆกันไปเองนั้นคือความจิงที่ผมกำลังจะดำเนินและปลูกต้นข้าวให้เป็นแบบนั้น นั้นคือตัวตนที่แท้จิงของผม วันนี้ปัจุบันนี้และนาทีนี้ผมได้รู้แล้วว่า ต้นข้าวเกิดมาเพื่อตัวเค้าและคนอื่นเพื่อที่จะเจริญเติบโตไปกับความเข้าใจทั้งกายและจิตตน เค้าทำให้พ่ออย่างผม เข้าถึงภาวะความเป็นพ่อที่แท้จิง ผมเคยไม่รู้ถึงความรู้สึกของลูก ผมละเลยความต้องการที่ลูกปราถนา
ด้วยความบริสุทธิ ว่าเค้าร้องไห้ ว่าเค้างอแงเพราะอะรัย มีแต่เสียงดุที่ต้นข้าวได้รับและไม้เรียวก้านยมจากแม่ของเธอ ผมปฎิเสธไม่ได้ว่าไม่พอใจในสิ่งที่ภรรยาทำกับลูกสาว
แต่เมื่อถึงช่วงจังหวะที่ผมเข้าใจ นั้นคือสิ่งที่เค้าได้เรียนรู้ของกันและกันละหว่างแม่และลูก ผมเริ่มเข้าใจในสัมผัสจากจิตของลูกมากขึ้น เวลา ต้นข้าวอยู่กับผมเธอจะมีความ
สุข ทำในสิ่งที่อยากทำ อยากร้องไห้ แยกอ้อน อยากได้โน้น อยากไปนี่ อยากนอนดึกอยากดูการตูน จนที่บ้านเบื่อผม ว่าเวลาผมอยู่กับต้นข้าวแล้วต้นข้าวจะงี้เง่าไม่เอาใครเวลาอยู่กะยายกะแม่จะเป็นเด็กดีเชื่อฟังว่าง่ายน่ารัก เพื่อนๆคิดว่าผมทำผิดมั้ย ช่วยตอบหน่อยสิว่าสิ่งที่พ่ออย่างผมทำมันเรียกว่าตามใจใช่หรือไม่ วันหนึงเหตุการนั้นก็เกิดขึ้น
-
:44: วันนั้นผมกลับบ้านเร็ว ต้นข้าวมีความสุขมากที่ผมกลับบ้านไว จนดึกเธอต้องนอน เธอเริ่มงวงแต่เธอพยายามที่จะไม่หลับเพราะอยากมีเวลากะพ่อนานๆ เธอเริ่มงอแง่
สภาวะนั้นเธอต้องการให้เอาใจนั้นคือสิ่งที่ผมเห็น แต่เธอไม่หยุดร้อง ภรรยาผมจึงเริ่มออกอาการพยายามบอกให้ลูกหยุดร้องยิ่งบอกก็ยิ่งเหมือนเพิ่มปริมาณของเสียง
ภรรยาผมตีต้นข้าว แล้วพยายามบอกให้หยุดร้องแล้วนอน ภาวะนั้นผมได้แต่ดู ลูกพยายามที่จะวิ่งมาหาผมแต่ภรรยากันไว้ไม่ให้มาหาผม ผมเองก็รู้สึกภายในนะว่าส่งสารลูก
ความรู้สึกนั้นผมต้องนิ่งเพราะนั้นคือภาวะที่แม่และลูกรวมถึงผมต้องได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน ต้นข้าวพยายามหยุดร้องแต่ภายในยังคงร้องอยู่ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด
ต้นข้าวนอนผมจึงเข้าไปนอนข้างๆลูกแล้วถามต้นข้าวว่าอยากให้พ่อกอดมั้ย ต้นข้าวลุกขึ้นแล้วก็เข้ามากอดผมด้วยเสียงที่สะอึกสะอื้น ผมทำจิตให้สงบแล้วใช้จิตที่สงบนั้นสัมผัสกับจิตของต้นข้าว ผมบอกต้นข้าวว่าอย่าโกรธแม่นะ ที่แม่ตีหนูไม่ได้หมายความว่าแม่ไม่รักหนูนะแม่รักหนูมากแต่แม่ยังไม่เข้าใจเท่านั้นเอง อภัยให้แม่ด้วยนะ เพื่อนเชื่อมั้ยว่าจิตของต้นข้าว
สัมผัสได้เธอหยุดสะอึกสะอื่นในช่วงจังหว่ะนั้น เธอนอนลง พร้อมกับผม ภรรยาผมเธอยังไม่หลับยังลืมตา เธอถามผมว่ามีรัยจะพูดหรือป่าว ผมบอกว่ามี แต่ไม่พูดดีกว่า เธอบอกว่ามีรัยก็พดมาสิ ผมเลยตัดสินใจพูดไปว่า ไม่อยากให้ตีลูกด้วยอารม เค้าบอกว่าผมหนะทำให้ลูกเคยตัว อยู่กะผมทีรัยเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ผมจึงพูดขึ้นว่าสังเกตุมั้ยเวลาที่ลูกร้องทำมัยอั๋นไม่ห้าม
เพราะการร้องไห้คือการได้ระบายความรู้สึก สังเกตุมั้ยว่าทำมัยเค้าอยู่กะอั๋นถึงเป็นแบบนี้ เพราะเค้ารู้สึกว่าอั๋นเข้าใจในสิ่งที่เค้าต้องการ สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ลูกเคยตัวแต่นี้คือการได้เห็นตัวตนของลูกว่าลูกรู้สึกและต้องการอะรัย ขาดอะรัยนั้นคือสิ่งที่เราต้องแก้ไขตัวเอง นั้นคือการเข้าถึงตัวตนของลูกอย่างแท้จิงและสิ่งที่จะมอบให้เค้า ถ้าวันหนึงเค้ามีความเป็นตัวของตัว
เองมากขึ้นแล้วถ้าเค้าคิดว่าคนนอกบ้านเข้าใจในความรู้สึกของเค้ามากกว่าคนในบ้านเค้าเองเราจะทำอย่างรัย ถ้าวันนี้เราปิดกันความเป็นเค้า จิงมั้ย
-
ร้อยเรียงถ้อยคำจากหัวใจของผู้เป็นพ่อที่มีลูกสาวน่ารักครับ จนคนอ่านอยากตามต่อว่าจะเป็นอย่างไรระหว่าความรักของพ่อกับลูกสาวที่น่ารักในทุกๆวัน
^^ขอบคุณมากมายครับ เป็นการสัมผัสชีวิตในแง่มุมความรู้สึกของคุณพ่อดีครับ
ผมก็อยากมีซักคน แต่ป่านนี้ยังหาแฟนไม่ได้เลย อิอิ
ลูกสาวน่ารักครับตรงสายตาของเค้าที่มองเรา และลูกอ้อนที่เราต้องทำตามไร้ข้อปฏิเสธใดใด ^^
จะติดตามต่อไปครับผม..
-
:43:จากเหตุการวันนั้นที่ได้คุยกับภรรยา และต้นข้าวก็ได้นอนฟังอยู่ เพื่อนๆคับ ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่ต้นข้าวที่สัมผัสได้จากการสื่อสารจากเสียงและความรู้สึกที่พูดถึงตัวเธอ ( ต้นข้าว ) เด็กๆทุกคนหรือลูกของคุณเค้าเองจะรู้สึกเสมอที่พ่อแม่สื่อหรือพูดกับเค้าไม่ว่าจะสถาวะใดๆ ขอให้รู้ไว้ ว่าเด็กมีสัมผัสที่ไวเสมอกับทุกความรู้สึกและนั้นคือสิ่งที่จะไปตราตรึงใจของพวกเค้า ทำมัยจึงชื่อว่าลูกเตะอัตตา เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เบื้องต้น และตรงนี้ ผมเริ่มที่จะค้นหาความรู้สึกในตัวตน ของตนไปพร้อมกันกับลูก ถ้าเว้นตรงกลางของคำนั้นลูกผมก็คงค้นหาในตัวตนของเค้าและพ่อแม่เค้าไปพร้อมๆกันเช่นกัน จากคำที่ผมถามต้นข้าวเมื่อครั้งหนึ่งในช่วงเช้าที่สนามเด็กเล่นผมถามลูกว่าต้นข้าวชอบมั้ยจ๊ะลูก ต้นข้าวพูดที่ข้างหูของผมในขณะที่เธอขี่คอของผมคนที่เธอเรียกว่าพ่อจ๋า เสียงนั้นพูดที่ข้างหูของผมว่า....พ่อจ๋าวันนี้หนูมีความสุขมากที่สุดเลยพ่อพาหนูมาที่นี่อีกนะ เพื่อนๆคับผมรู้สึกสัมผัสความสุขที่มากมายของลูกจิงๆในวันนี้ :24: ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนั้นเพื่อที่จะถ่ายทอดออกมาให้เข้าถึงได้ยังงัยจิงๆ ถ้าคุณกำลังค้นใจตนเองเพื่อใครสักคนคุณจะเข้าใจในความรู้สึกนั้น นั้นคือความเข้าใจในความสุขของคนๆนั้น ต้นข้าวทำให้ผมเข้าใจในความรักที่มีตัวตน เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดๆจากผมที่เรียกตัวเองว่าพ่อ แล้วพยายามที่จะทำให้ลูกเชื่อในสิ่งที่ผมมอบให้ว่านี่คือสิ่งดี และนี่คือสิ่งเลว เพื่อที่จะอยู่ในสังคมบนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข แต่สิ่งหนึงที่ต้นข้าวทำให้ผมเข้าใจนั้นคือความรู้สึกสัมผัสจากภายใน เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากภายนอก แต่เธอเกิดมาเพื่อแค่ต้องการความเข้าใจจากภายในของความรู้สึกของเธอมากกว่า ยิ่งผมเข้าใจในตัวเองยิ่งเข้าใจในตัวเธอและพร้อมกันเธอเข้าใจตัวพ่ออย่างผมและตัวตนของเธอเองนั้นคือการดำเนินความเข้าใจในตนเองอย่างธรรม (ธรรมชาติ) ยิ่งสัมผัสยิ่งเข้าถึง เธอทำให้ผมกระจ่างในจิตนี้ว่า คนเราเกิดมาเพื่อที่จะเข้าใจในจิตตนเพื่อที่จะเข้าใจในจิตผู้อื่น เราเกิดมาเพื่อแค่เข้าใจซึ่งกันและกัน ความเข้าใจคือจุดมุ่งหมายในทุกๆสิ่งบนโลกและจักรวาลนี้ เราจะละและวางได้เมื่อรัย ถ้าวันนี้เรายังไม่เข้าใจอัตตา :45: ขอบใจนะคุณลูกสาว เธอไม่ใช่ต้นข้าวของพ่อ แต่เธอคือต้นข้าว พ่อรักต้นข้าวนะ ^^
-
น่ารักจังค่ะพ่อลูกคู่นี้ :13:
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/678/8678/images/29999.jpg)
-
เหวย เหวย ลูกใครหว่า :12:
(http://img19.imageshack.us/img19/1677/dsc06993f.jpg)
บอกตรงๆนะครับเด็กคนนี้น่ารักดีครับ ลูกสาวใครเอ่ย ความสงสัยยังไม่คลาย อิอิ :23:
-
เหวย เหวย ลูกใครหว่า :12:
(http://img19.imageshack.us/img19/1677/dsc06993f.jpg)
บอกตรงๆนะครับเด็กคนนี้น่ารักดีครับ ลูกสาวใครเอ่ย ความสงสัยยังไม่คลาย อิอิ :23:
:44:เด็กคนนี้ชื่อต้นข้าวครับ ^ ^
-
:23: น่ารักจังเลยครับ งือ..อิจฉาคุณพ่อคุณแม่ที่ได้ลูกสาวน่ารักมากมาย ^^
ธรรมะอวยพรครับ^^
-
:44:หน้าที่คือสิ่งที่เริ่มจากสิ่งที่ได้รับและสิ่งที่เลือกจะเป็น เข้าใจในหน้าทีเราจะมีความสุขในหน้าทีโดยธรรมชาติ ผมได้เลือกหน้าที่ของความเป็นพ่อ วันนี้ผมภูมิใจในความกล้าหาญในสิ่งนี้555+ นี่คือการชื่นชมตัวเองด้วยความเข้าใจ ^ ^ ผมได้เข้าถึงภาวะของความเป็นพ่อได้ด้วยองค์รวม นั้นคือ...ลูก หนึงในปัจจัยและที่สุดในองค์รวมนั้น การเข้าถึงภาวะของลูกได้นั้นคือการเข้าถึงภาวะและความรู้สึกของตนเอง เพราะอดีตเรานั้นคือลูกผู้ที่ผ่านประสบการณ์ของภาวะนั้น การมีลูกนั้นเป็นเหตุที่ทำให้ผมกลับไปยังอดีตของตัวเองเมื่อครั้งหนึง ความรู้สึกในตอนนั้น(อดีต)ของผม ไม่ต่างจากความรู้สึกของลูกสาวผมในปัจจุบัน กระบวนการเข้าถึงภาวะและความรู้สึกของลูกจึงค่อยๆเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ การสังเกตุจึงเกิดขึ้นพร้อมการเอาใจใส่ใน ภาวะของอารมณ์นั้นๆของลูกสาว ความเข้าใจซึ่งกันและกันเกิดขึ้นทั้งเธอและผมอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนั้นคือหนึงในเหตุและปัจจัยในความเข้าใจใน อัตตา เมื่อเข้าใจในอัตตา คือตัวและตนของกันและกันความผูกพันธ์ จึงถูกแยกออกเป็นผูก......พันธ์ ผูกนั้นในความรู้สึกอย่างสามัญมันแก้และปลดได้ง่ายกว่า...พัน จิงปะ ^ ^ 1ในหลายๆเรื่องที่ลูกสาวมั๊กจะสอนผม...มีครั้งหนึงผมพยายามที่จะบอกให้ลูกซึ่งอายุแค่อนุบาล1เก็บหนังสือนิทานที่ผมได้เรียงและจัดเอาไว้ เธอลื้อและเอาออกมาเพื่อที่จะให้ผมอ่านอีกแล้วไม่ยอมเก็บตามที่ผมพยายามจะให้เธอรู้จักเก็บของให้เป็นที่ ผมกำลังออกอาการบ่นเธอ..ต้นข้าวพ่อสอนหนูว่ายังงัยว่าถ้าลื้อออกมาต้องเก็บให้เป็นที่ของมันหนูจะได้จำได้นะ เธอโต้กลับทันควันว่า.. พ่อชั่งหนูเถอะ หนูก็เป็นของหนูแบบนี้ ผมอึ้งพร้อมกับนิ่งแล้วเอ่ยพูดกะตัวเองว่า..อืมมันคิดได้งัย..ต้นข้าวได้ยินสิ่งที่ผมเอ่ย เธอจะพูดต่อว่า คิดตี้งัยพ่อ คิดตี้อ่ะ ผมหละฮาเลย เค้าพยายามจะบอกผมว่าจะมาเอารัยกะเด็กอ่ะพ่อ ผมชอบบอกรักกับลูกและถามลูกเสมอ ว่าพ่อรักต้นข้าวนะมากที่สุดในจักรวาลนี้เลย ต้นข้าวรักแม่เท่าไหน เค้าจะบอกผมว่า ต้นข้าวรักแม่เท่าฟ้า แล้วต้นข้าวรักพ่อเท่าไหน เธอจะบอกผมว่าต้นข้าวรักพ่อเท่าเดิม เธอทำให้ผมเข้าใจในบางอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งค้นในหัวใจยิ่งเจอในความรู้สึกนั้น ความรู้สึกของความเข้าใจในกันและกันจิงๆ
-
:43:จากเหตุการวันนั้นที่ได้คุยกับภรรยา และต้นข้าวก็ได้นอนฟังอยู่ เพื่อนๆคับ ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่ต้นข้าวที่สัมผัสได้จากการสื่อสารจากเสียงและความรู้สึกที่พูดถึงตัวเธอ ( ต้นข้าว ) เด็กๆทุกคนหรือลูกของคุณเค้าเองจะรู้สึกเสมอที่พ่อแม่สื่อหรือพูดกับเค้าไม่ว่าจะสถาวะใดๆ ขอให้รู้ไว้ ว่าเด็กมีสัมผัสที่ไวเสมอกับทุกความรู้สึกและนั้นคือสิ่งที่จะไปตราตรึงใจของพวกเค้า ทำมัยจึงชื่อว่าลูกเตะอัตตา เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เบื้องต้น และตรงนี้ ผมเริ่มที่จะค้นหาความรู้สึกในตัวตน ของตนไปพร้อมกันกับลูก ถ้าเว้นตรงกลางของคำนั้นลูกผมก็คงค้นหาในตัวตนของเค้าและพ่อแม่เค้าไปพร้อมๆกันเช่นกัน จากคำที่ผมถามต้นข้าวเมื่อครั้งหนึ่งในช่วงเช้าที่สนามเด็กเล่นผมถามลูกว่าต้นข้าวชอบมั้ยจ๊ะลูก ต้นข้าวพูดที่ข้างหูของผมในขณะที่เธอขี่คอของผมคนที่เธอเรียกว่าพ่อจ๋า เสียงนั้นพูดที่ข้างหูของผมว่า....พ่อจ๋าวันนี้หนูมีความสุขมากที่สุดเลยพ่อพาหนูมาที่นี่อีกนะ เพื่อนๆคับผมรู้สึกสัมผัสความสุขที่มากมายของลูกจิงๆในวันนี้ :24: ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนั้นเพื่อที่จะถ่ายทอดออกมาให้เข้าถึงได้ยังงัยจิงๆ ถ้าคุณกำลังค้นใจตนเองเพื่อใครสักคนคุณจะเข้าใจในความรู้สึกนั้น นั้นคือความเข้าใจในความสุขของคนๆนั้น ต้นข้าวทำให้ผมเข้าใจในความรักที่มีตัวตน เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดๆจากผมที่เรียกตัวเองว่าพ่อ แล้วพยายามที่จะทำให้ลูกเชื่อในสิ่งที่ผมมอบให้ว่านี่คือสิ่งดี และนี่คือสิ่งเลว เพื่อที่จะอยู่ในสังคมบนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข แต่สิ่งหนึงที่ต้นข้าวทำให้ผมเข้าใจนั้นคือความรู้สึกสัมผัสจากภายใน เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากภายนอก แต่เธอเกิดมาเพื่อแค่ต้องการความเข้าใจจากภายในของความรู้สึกของเธอมากกว่า ยิ่งผมเข้าใจในตัวเองยิ่งเข้าใจในตัวเธอและพร้อมกันเธอเข้าใจตัวพ่ออย่างผมและตัวตนของเธอเองนั้นคือการดำเนินความเข้าใจในตนเองอย่างธรรม (ธรรมชาติ) ยิ่งสัมผัสยิ่งเข้าถึง เธอทำให้ผมกระจ่างในจิตนี้ว่า คนเราเกิดมาเพื่อที่จะเข้าใจในจิตตนเพื่อที่จะเข้าใจในจิตผู้อื่น เราเกิดมาเพื่อแค่เข้าใจซึ่งกันและกัน ความเข้าใจคือจุดมุ่งหมายในทุกๆสิ่งบนโลกและจักรวาลนี้ เราจะละและวางได้เมื่อรัย ถ้าวันนี้เรายังไม่เข้าใจอัตตา :45: ขอบใจนะคุณลูกสาว เธอไม่ใช่ต้นข้าวของพ่อ แต่เธอคือต้นข้าว พ่อรักต้นข้าวนะ ^^
(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/Vegetable/Nu_zom/emotion_040_orange.gif) ... เยี่ยมมม!! ไปเล๊ยยย ค่ะ คุณพ่ออั๋น .. ต้นข้าวโชคดีมากมายค่ะ ที่ได้เกิดมาเจอคุณพ่อที่รักเธอ เข้าใจเธอ มิใช่แค่เพียงเข้าใจถึงความรู้สึก/สัมผัสภายนอกเท่านั้น ...แต่ผู้รับบท เป็นคุณพ่ออั๋น มองเห็น ยอมรับ เข้าใจ และ สัมผัสภายในสื่อได้ ถึง "ธรรมะชาติ หรือ ความต้องการที่แท้จริง" ของผู้ รับบท เป็นลูกสาว ... และ น้องต้นข้าว :46: ก็เยี่ยมมมากมายเช่นกันค่ะ ที่ สามารถช่วย "เตะ" อัตตา ของผู้รับบทเป็นคุณพ่อ และอาจรวมไปถึงอีกหลายๆท่านที่ได้อ่านกระทู้นี้ ...ให้กระเด็นน ออกไปด้วยเช่นกันค่ะ ... :07:ขอบคุณมากมาย และ อนุโมทนา ทั้งกับคุณพ่ออั๋น และ น้องต้นข้าว และทุกคนที่มีส่วนร่วมในเรื่องราวตรงนี้ ด้วยใจจริง มา ณ.ที่นี้ด้วยนะคะ สาธุ!!~ ค่ะ :13:
-
:13: :19: :13:
ยินดีกับคุณอั๋นกับน้องต้นข้าวสำหรับสิ่งดีๆที่มีร่วมกันด้วยนะคะ...
(http://www.myremembranceday.org.uk/images/how_arboretum.jpg)
-
:44:หน้าที่คือสิ่งที่เริ่มจากสิ่งที่ได้รับและสิ่งที่เลือกจะเป็น เข้าใจในหน้าทีเราจะมีความสุขในหน้าทีโดยธรรมชาติ ผมได้เลือกหน้าที่ของความเป็นพ่อ วันนี้ผมภูมิใจในความกล้าหาญในสิ่งนี้555+ นี่คือการชื่นชมตัวเองด้วยความเข้าใจ ^ ^ ผมได้เข้าถึงภาวะของความเป็นพ่อได้ด้วยองค์รวม นั้นคือ...ลูก หนึงในปัจจัยและที่สุดในองค์รวมนั้น การเข้าถึงภาวะของลูกได้นั้นคือการเข้าถึงภาวะและความรู้สึกของตนเอง เพราะอดีตเรานั้นคือลูกผู้ที่ผ่านประสบการณ์ของภาวะนั้น การมีลูกนั้นเป็นเหตุที่ทำให้ผมกลับไปยังอดีตของตัวเองเมื่อครั้งหนึง ความรู้สึกในตอนนั้น(อดีต)ของผม ไม่ต่างจากความรู้สึกของลูกสาวผมในปัจจุบัน กระบวนการเข้าถึงภาวะและความรู้สึกของลูกจึงค่อยๆเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ การสังเกตุจึงเกิดขึ้นพร้อมการเอาใจใส่ใน ภาวะของอารมณ์นั้นๆของลูกสาว ความเข้าใจซึ่งกันและกันเกิดขึ้นทั้งเธอและผมอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนั้นคือหนึงในเหตุและปัจจัยในความเข้าใจใน อัตตา เมื่อเข้าใจในอัตตา คือตัวและตนของกันและกันความผูกพันธ์ จึงถูกแยกออกเป็นผูก......พันธ์ ผูกนั้นในความรู้สึกอย่างสามัญมันแก้และปลดได้ง่ายกว่า...พัน จิงปะ ^ ^ 1ในหลายๆเรื่องที่ลูกสาวมั๊กจะสอนผม...มีครั้งหนึงผมพยายามที่จะบอกให้ลูกซึ่งอายุแค่อนุบาล1เก็บหนังสือนิทานที่ผมได้เรียงและจัดเอาไว้ เธอลื้อและเอาออกมาเพื่อที่จะให้ผมอ่านอีกแล้วไม่ยอมเก็บตามที่ผมพยายามจะให้เธอรู้จักเก็บของให้เป็นที่ ผมกำลังออกอาการบ่นเธอ..ต้นข้าวพ่อสอนหนูว่ายังงัยว่าถ้าลื้อออกมาต้องเก็บให้เป็นที่ของมันหนูจะได้จำได้นะ เธอโต้กลับทันควันว่า.. พ่อชั่งหนูเถอะ หนูก็เป็นของหนูแบบนี้ ผมอึ้งพร้อมกับนิ่งแล้วเอ่ยพูดกะตัวเองว่า..อืมมันคิดได้งัย..ต้นข้าวได้ยินสิ่งที่ผมเอ่ย เธอจะพูดต่อว่า คิดตี้งัยพ่อ คิดตี้อ่ะ ผมหละฮาเลย เค้าพยายามจะบอกผมว่าจะมาเอารัยกะเด็กอ่ะพ่อ ผมชอบบอกรักกับลูกและถามลูกเสมอ ว่าพ่อรักต้นข้าวนะมากที่สุดในจักรวาลนี้เลย ต้นข้าวรักแม่เท่าไหน เค้าจะบอกผมว่า ต้นข้าวรักแม่เท่าฟ้า แล้วต้นข้าวรักพ่อเท่าไหน เธอจะบอกผมว่าต้นข้าวรักพ่อเท่าเดิม เธอทำให้ผมเข้าใจในบางอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งค้นในหัวใจยิ่งเจอในความรู้สึกนั้น ความรู้สึกของความเข้าใจในกันและกันจิงๆ
...เพิ่งจะว่าง กลับมาอ่านต่อ (เป็นระยะๆค่ะ ไม่ว่ากันโน๊ะ^^" แหะ แหะ.. ) การให้ความรัก ยอมรับ และ เข้าใจ แบบเงื่อนไร้ไข จึงจะเป็นการรักและเข้าใจทั้งลูก(ผู้อื่น) และ ตัวเราเอง อย่างแท้จริงค่ะ .. :07: :19: อนุโมทนา+ขอบคุณ2พ่อลูกผู้น่ารัก & Family ...อีกครั้งนะคะ สำหรับการถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆน่ารักๆ ให้ข้อคิดเตือนสติ แถมเตะเจ้า "อัตตา" ที่มักมีมากมาย แบบมิรู้ตัวในทุกคน.. ให้กระเด็นหายย สลายไป.. มา ณ.ที่นี้ เพื่อให้พวกเราทุกคนได้เสมือนมีส่วนร่วม และ นำไปปรับใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันทั้งทางธรรม-ทางโลกได้จริงตรงนี้ด้วยค่ะ ^^ .... :13:
-
ไม่รู้ว่าตัวเองมัวไปทำอะไรถึงได้ไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะ
วันนี้ได้มีโอกาสอ่าน ก็อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ
ขอบคุณคุณพ่ออั๋น ที่นำเรื่องราวมาแบ่งปันให้อ่านค่ะ ^_^
การเลี้ยงลูกเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ค่ะ
ไม่มีลูกและไม่เคยเลี้ยงลูก แต่เห็นจากพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่เป็นทั้งคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายเลี้ยงกันแล้ว
ต้องขอบอกว่าเห็นแล้วเหนื่อยแทน
ความเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นกันตลอดชีวิต จะสิ้นสุดก็เมื่อหมดลมหายใจเท่านั้น
ตัวเองไม่คิดเป็นแม่ใคร เพราะมั่นใจว่าเลี้ยงใครให้ดีไม่ได้แน่ๆ :14:
ยังมีอีกหลายเรื่อง มากสิ่งที่คุณพ่ออั๋นจะได้เรียนรู้ค่ะ
เอาใจช่วยคุณพ่อและคุณลูกให้ได้เรียนรู้กันและกันค่ะ :13:
-
ชอบมุขคิดตี้อะ
พ่อคิดตี แต่ลูกคิตตี้ (เอาตัวรอดเก่งจริงนะ ตัวแค่เนี๊ยะ 555+)
-
ชอบมุขคิดตี้อะ
พ่อคิดตี แต่ลูกคิตตี้ (เอาตัวรอดเก่งจริงนะ ตัวแค่เนี๊ยะ 555+)
:12: .. โน๊ะๆ น่ารักดีค่ะ หรือ พูดอีกที คุณพ่อคิดด้วน! ส่วนคุณลูกคิดได้...(น่ารัก คัก คัก ค่ะ อิอิ..^^)
-
ลูกไม้ของผลต้นน่ารัก หล่นไปไม่ไกลต้น.. :13:
-
:44:การดูแลลูกเป็นเรื่องที่มีความสุขนะ หลายๆคนจะมองว่าเหนื่อย อันนี้ก็ไม่ได้เถียง แต่ในเหนื่อยมันมีสัมผัสของความรู้สึกที่เบาเสมอหละ เคยอยู่กะเด็กๆแล้วสัมผัสถึงความรู้สึกที่เบาๆสบายๆไม่คิดรัยยิ้มและหัวเราะไปในกิจกรรมของเค้า นั้นเป็นการหวนคืนความรู้สึกของเราเองเมื่อครั้งยังเด็กๆที่บางครั้งเราอาจจะจำไม่ได้แต่นั้นคือจิตเดียวกันกับเรา เราไม่จำเป็นต้องมีลูกถึงจะสามารถเข้าถึงในภาวะความรู้สึกนั้นได้นะ เพียงแค่เราได้ใกล้เด็กๆมีกิจกรรมไปตามธรรมชาติความรู้สึกนั้นกับเค้าเราก็สามารถจะจำได้เช่นกันหละ :47: เด็กรอบๆตัวเราเค้าก็คือลูกหลานเรานะเค้าคือครอบครัวเดียวกะเรา ด้วยสัญญาเค้าจะต้องการให้ทุกคนเห็นค่าในตัวเค้าเสมอ ถ้าเราเข้าใจในธรรมชาติในสัญญา หรือความจำของตัวเอง เราจะรู้ว่าเค้าเองก็เหมือนเรา เพียงแต่ตอนนี้อาจจะต่างกันที่ประสบการณ์ อย่านะอย่ายัดเยียดประสบการณ์เราที่เราเคยผ่านให้เค้า เพราะบางครั้งอาจจะเป็นการปิดกั้นในประสบการณ์ที่เค้าต้องได้รู้จักด้วยตัวเองก็ได้ ประสบการณ์เรามีเพียงเพื่อทางเลือกของเค้าเท่านั้น แต่ต้องให้ตัดสินใจในสิ่งนั้นๆด้วยตัวเอง เพราะนั้นแหละคือสิ่งที่ดีสำหรับทั้งเค้าและเราจิงๆนะ ถ้าเรายอมรับสิ่งนั้นๆได้เท่ากับเราได้ผ่านบางสิ่งที่เรียกว่าห่วง ที่พ่อและแม่กลัวนั้นเอง การที่เราก้าวผ่านความกลัวนั้นคือการที่เราได้ก้าวสู่ความกล้าหาญในพร้อมกัน :47:
-
:20: อิจฉาจังเลย ร้อนรุ่มๆ อยากมีลูกสาวน่ารักๆ เหมือนพี่อั๋น