ผู้เขียน หัวข้อ: เพ่งนิมิตจิตมุทรา : การเยียวยาด้วยสมาธิจากการสวดมนต์  (อ่าน 2534 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



การเยียวยาด้วยสมาธิจากการสวดมนต์



ทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียวในพุทธภาวะ ธรรมชาติแห่งพุทธะ จิต โลก ดวงดาว เวลาและอวกาศ ทุกสิ่งสมบูรณ์ในความเป็นหนึ่งนี้ แม้แต่สิ่งที่โดยปกติเรา เห็นเหมือนไม่สมบูรณ์ ธรรมชาติแห่งพุทธะอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและใน รายละเอียดของชีวิตทุกวัน ถึงที่สุดพุทธะอยู่เหนือจิตนาการ คำพูดหรือ ความคิด ซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์ของจิตที่ยึดติดทวินิยม


นี้คือสิ่งที่ชาวพุทธเชื่อ ดังนั้นเมื่อชาวตะวันตกบางคนเริ่มสนใจพุทธศาสนา พวกเขาพูดบางอย่างเช่นนี้ " นี้คืออะไรที่เราต้องการทิ้งไว้เบื้องหลัง สวด มนต์เพื่อพลังขั้นสูงนอกตัวเรา " เป็นสถานการณ์ที่น่าขบขันอะไรเช่นนี้ วิ่ง หนีการสวดมนต์ เพียงเพื่อค้นหาความเชื่อและคนสวดมนต์รออยู่รอบ ๆ ที่ มุมถัดไป


ใช่ มันคือความจริงที่จักรวาลทั้งหมด คือ ธรรมชาติแห่งพุทธและความ สงบนั้นวางอยู่ภายในตัวเรา ดังนั้นทำไมต้องฝึกกาสวดมนต์ มันเป็นทาง หนึ่ง เรามีเพื่อปลดปล่อยความคิดถึงตัวตน ความเชื่อช่วยเราเพื่อเปิดเผย มัน เป็นการปลดเปลื้องความสงสัยและความกลัว การเปิดเผยและเปิดใจ ว่าง คือ วิถีทางเพื่อการขอความช่วยเหลือที่เราต้องการ


นิกายพุทธศาสนาบางนิกาย ย้ำถึงการกระทำด้วยความอ่อนน้อมเหมือน การฝึกฝนการสวดมนต์ นี้เป็นวิถีทางง่าย ๆ ของการสละละตัวตน เรา ยอมรับความเชื่อว่าการยึดติดและการพยายามควบคุมทุกสิ่งทำเราห่างจาก ปัญญา ศรัทธายังคงเป็นไปได้แม้อยู่ภายนอกศาสนาดั่งเดิม ตัวอย่างเช่น โปรแกรมรักษาคนติดสุราเรื้อรัง ๑๒ ขั้นตอน ย้ำการสลัดทิ้งความเมา ทีละน้อย " ฉัน " ที่พยายามควบคุมมันยอมมรับความต้องการสำหรับ การช่วยเหลือจาก " พลังที่สูงกว่า " ในวิถีทางอะไรก็ตามที่เข้าใจโดย ปัจเจกชน


ในศาสนาพุทธ การสวดมนต์เป็นการพัฒนาความไว้วางใจในพระพุทธ เจ้าเหมือนผู้นำ วางใจในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเหมือนทาง และวางใจในพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเหมือนผู้ช่วยเหลือในการ เดินทางทางวิญญาณ


การสวดมนต์ หมายถึง การขอร้อง ความเข้มแข็งท่ามกลางมรรค ความ สมหวังของความต้องการทางวิญญาณของเรา อาจไม่อยู่ในรูปแบบที่เรา อยากหรือคาดหวังเสมอไป หรือตามตารางเวลาของเรา จุดสำคัญของ ศรัทธา คือ ความปลอดโปร่งซึ่งเป็นทางที่จะรับพรความสุขและปลด เปลื้องความทุกข์



ปัลตรุล รินโปเช อ้างถึงคำของ คุรุ ปัทมสัมภวะ ไว้ว่า
 
 
ถ้าจิตของเธออิสระจากความสงสัย ความปรารถนาจะประสบความสำเร็จ ถ้าเธอวางใจในการสวดมนต์อย่างเต็มเปี่ยม ความสุขจะเข้ามาหาเธอ
 

การสวดมนต์เหมือนพระอาทิตย์หลอมละลายความยึดมั่นในตัวตนและ การยอมให้ธรรมชาติแท้จริงของเราเราเปล่งแสงออกมา ปัลตรุล รินโปเช กล่าวถึงคำของ ดรีกุง คีอออปปะ รินโปเช ว่า
 

จากอาจารย์ผู้เหมือนภูเขาหิมะ ปราศจากสัมผัสของลำแสงของการสวดมนต์ ความสุขที่เหมือนสายน้ำไม่ได้หลั่งไหล ดังนั้นพยายามใช้จิตของเธอในการฝึกฝนการสวดมนต์
 
 
ถ้าเราไม่มีความเชื่อมั่นหรือการสวดมนต์ แม้ถ้าพระพุทธเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ ตรงหน้าเธอตัวต่อตัวเรา จะได้รับผลประโยชน์อย่างยากเย็นสำหรับจิตของ เราซึ่งเป็นเพียงกุญแจสู่การเติบโตทางวิญญาณของเรา ไม่พร้อมสำหรับ โอกาส นี่แหละทำไมสุภาษิตทิเบต กล่าวว่า
 
 

จากใครก็ตามที่เห็นเหมือนพระพุทธเจ้า พรความสุขก็ได้รับเหมือนจากพระพุทธเจ้า จากใครก็ตามที่เห็นเหมือนคนโง่ ผลที่ตามมาเหมือนจากคนโง่



ดังนั้นธรรมชาติแห่งพุทธะอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่เป็นไปได้ที่ฝึกฝนการ สวดมนต์โดยการทำสมาธิต่อพระพุทธเจ้า ตัวอย่างเช่น ในรูปแบบของ ปฏิมากรรมหรือภาพในใจ ตัวปฏิมากรรมเองไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ชีวิตของเราได้ จิตเราต่างหากที่สามารถเปิดสู่การกระทำแห่งการสวด มนต์ นี้คือแก่นแท้ของวิถีทางแห่งความชำนาญ วัตถุทางจิตสามารถ บันดาลใจเราได้ แต่ส่วนสำคัญไม่ใช่วัตถุอื่นใดเป็นเพียงทางที่เราเห็น มันในแง่ดีอย่างแท้จริง และทางที่เรารู้สึกด้วยความเสียสละและวางใจ ที่ช่วยเราท่ามกลางมรรค


ความเชื่อมั่นต่อวัตถุทางจิตหรือภาพในใจ เป็นทางหนึ่งเพื่อเพิ่มพลังให้ ตัวเราด้วยความเบิกบานที่เกิดจากพุทธะภายในตัวเราทั้งหมด


กระทั่งบัดนี้ ข้าพเจ้าขอย้ำว่าใครก็ตามสามารถปฏิบัติ เพ่งสมาธิต่อบ่อเกิด ของเกิดของพลังของตัวเองตามที่ได้เลือกเอาไว้ เช่น พระอาทิตย์ พระจันทร์ หรือภาพส่วนตัว แต่ที่นี้ข้าพเจ้าจะพรรณาบ่อเกิดพลังที่เป็นชาวพุทธโดย เฉพาะ การปฏิบัติสมาธิอย่างจดจ่อต่อ คุรุ รินโปเช ปัทมสัมภวะ ผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธทิเบต ในศตวรรษที่ ๙ ผู้ซึ่งรวบรวมผู้รู้แจ้งทั้งหมด พุทธะ เทพ นักบุญหรือบัณฑิต



มีตัวแทนทางจิตมากมายที่สามารถบันดาลใจเราเหมือนบ่อเกิด ของพลัง เช่น เราสามารถเพ่งสมาธิต่อพระพุทธเจ้าศากยมุนี เพื่อช่วยเราได้รับผล เพื่อช่วยเราได้รับผล คือ ปัญญา หรืออายุรพุทธะเพื่อการเยียวยา หรือ ตาราพุทธะในรูปของผู้หญิงเพื่อให้ความกลัวและตรายทั้งหมดสงบลง ข้าพเจ้าได้เลือก คุรุ รินโปเช เพราะความเมตตาอันไร้ขอบเขตของท่าน ซึ่งได้ช่วยเหลือประชาชนมากมายผู้ขอร้องท่านมานานนับศตวรรษ ซึ่ง ได้ระลึกถึงท่านและเพราะว่าตัวข้าพเจ้าฝึกฝนในสายตาขจองท่าน การ ปรากฏอันศักสิทธิ์ของ คุรุ รินโปเช คือ การปรากฏวัชระของพุทธภาวะ อันสมบูรณ์ ความเข้มแข็งและความสุขอย่างล้นเหลือของจักรวาลซึ่ง กำราบความยุ่งยากทั้งหมด


เหมือนเบื้องหลังสำหรับการปฏิบัติสมาธินี้ ข้าพเจ้าจะนำไปสู่รายละเอียด เล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการที่เราหลับตามองเห็นภาพ คุรุ ริโปเช ได้อย่างไร รายละเอียดทุกอย่างของรูปบูชาสัมพันธ์กับภาพศักดิ์สิทธิ์ให้คำสอน และ เครื่องหมายสัญลักษณ์ สี และท่าทางเหล่านี้สามารถปลุกความรู้สึกทาง บวกในตัวเราที่ส่องสะท้อนคำสอนเหล่านั้นทั้งทีละส่วน และเราอาจเห็น และรู้สึกถึงพวกมันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมด


รายละเอียดสามารถช่วยนักปฏิบัติสมาธิที่มีประสบการณ์ พักอยู่ในความ รู้สึกของภาพทางใจซึ่งเต็มและสมบูรณ์ แต่อย่ากังวลใจถ้าเธอไม่มีประสบ การณ์และความชำนาญ เพียงหลับตามองเห็นที่เธอรู้สึกสภาพมากที่สุด คือ ความรู้สึก พยายามแสดงออก ใช้ความรู้สึกเพื่อปลุกภาพ ปัทมสัมภวะในใจ ของเธอที่ไม่ซับซ้อนแต่รู้สึกด้วยใจ ถ้าเธอเพียงรู้สึกอบอุ่นและเห็นปัทม- สัมภวะ ในตัวของเธอเองสามารถเป็นกรเยียวยาอย่างยิ่ง



จำไว้เช่นกันว่าการแปลอันวิจิตรเช่นในหนังสือเล่มนี้ ถุกมุ่งหมายเหมือน การช่วยเหลือ รูปภาพหรือประติมากรรมบันดาลใจเธอ สอนเธอหรือช่วย เหมือนจุดเริ่มต้นสำหรับปฏิบัติสมาธิ แต่อย่ารู้สึกถูกจำกัดโดยมัน อะไรก็ ตามที่เกิดขึ้นในสมาธิเป็นเพียงภาพในจิตของเธอและความอบอุ่นและความ ปลอดโปร่ง ซึ่งสามารถมาสู่การสวดมนต์




การปลุกภาพศักดิ์สิทธิ์ของปัทมสัมภวะ
 
 
 
เหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานจากความว่างเปล่า การปรากฏอันศักดิ์สิทธิ์ของ ปัทมสัมภวะเกิดจากจินตนาการ ในรัศมีของแสงอันสวยงาม คุรุ รินโปเช ผู้ผ่องใสและอ่อนเยาว์นั่งอยู่บนวงกลมแห่งดวงจันทร์ที่กำลังส่องแสงเหนือ ขึ้นไปเป็นวงกลมแห่งพระอาทิตย์อันเจิดจ้าอบอุ่น พระจันทร์และและพระ อาทิตย์สงบอยู่เหนือดอกบัวใหญ่ ซึ่งหอมอบอวนและสดชื่นด้วยความ ชุ่มชื่น ดอกบัวมีกลีบที่มีสีสันสดใสเป็นพัน ๆ กลีบ


พระอาทิตย์ พระจันทร์และดอกบัว เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดของพระ องค์ พระองค์เกิดโดย " การเกิดอันบริสุทธิ์ " ใน " ปัทมะแห่งพุทธวงศ์ " ออกมาจากการรวมกันของปัญญา( พระอาทิตย์ ) และความเมตตา(พระจันทร์)


พระพักตร์ของ คุรุ รินโปเช ขาวเจือด้วยสีแดงรื่อ เยาว์วัย และฉลาดอยู่ เหนืออาณาจักรแห่งการเปลี่ยนแปลงและการแก่ รอยยิ้มแห่งความเบิกบาน ของพระองค์อยู่เหนือความทุกข์ ดวงตาอันแจ่มใสไม่กระพริบเต็มไปด้วย ความรัก นำความสุขอันเป็นสากลมาให้ เยียวยาจิตของเราในการเคลื่อนไหว ทุก ๆ ขณะของมันและทุกข์อารมณ์และร่างกายของเราในทุกเซลล์และอะตอม


จีวรของพระองค์เปล่งรัศมี จีวรด้านในสีขาวและจีวรสีแดงเป็นสัญลักษณ์ ของความรู้แจ้งของพระโพธิสัตว์ ผู้ซึ่งช่วยสรรพชีวิตผู้ตกทุกข์ได้ยากใน โลกนี้ ผ้าคลุมด้านนอกสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์แห่งการ บรรลุนิพพาน และพระองค์สวมสังฆาฏิ เป็นสัญลักษณ์แห่งความพระที่ สมบูรณ์แบบ ผ้าคลุมยกดอกเป็นสัญลักษณ์ว่าการฝึกฝนทางศาสนาทั้งหมด เป็นหนึ่งเดียวในความจริงสากล ผ้าคลุมนี้ หมวกและรองเท้าของพระองค์ เป็นเครื่องเตือนให้ระลึกถึงพลังอันเร้นลับของพระองค์ ซึ่งเป็นของขวัญ จากราชาซาโฮรา ซึ่งรู้สึกพิศวงในพลังของพระองค์ พระราชาพยายาม เผาพระองค์ แต่ คุรุ รินโปเช เปลี่ยนไฟเป็นน้ำได้อย่างง่ายดายปัจจุบัน รู้จักกันในนามของทะเลสาบรีวัลซาร์ ในอินเดีย

คุรุ รินโปเช สัญลักษณ์ของคำสอน วัชระทองคำในมือขวาเป็นสัญลักษณ์ ของความชำนาญและพลังที่ไม่สามารถทำลายได้ เป็นกฏแห่งความแข็ง แกร่ง ( ผู้ชาย ) ในมือซ้ายพระองค์ทรงถืกระโหลกและถือแจกันที่เต็มไป ด้วยน้ำอมฤต กะโหลกเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกภาพของความ ว่างเปล่าและความสุข ซึ่งเป็นกฏของความเป็นหญิง ( ความอ่อนโยน ) แจกันและน้ำทิพย์เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตอันยืนยาวและความจริงแห่ง พุทธธรรมอันปราศจากกาลเวลา ( อกาลิโก )


ในพุทธศาสนา อาจารย์โบราณ เป็นหนึ่งเดียว มักรวมกับคู่ฝ่ายหญิงอย่าง หมดจด ปัญญาแห่งความเป็นหญิงถูกแสดงออกมาที่นี้โดย ตรี ซึ่งสะพาย อยู่ที่แขนซ้ายของ รินโปเช จุดแหลมทั้ง ๓ ประการของจิต คือ ความปลอด โปร่งโล่งสบาย ความบริสุทธิ์แจ่มใส และพลังแห่งความเมตตา ศรีษะทั้ง สามประดับตรี หมายถึง พุทธกายทั้งสาม หัวกะโหลก คือ ความปลอด โปร่งทั้งหมด หัวผู้ใหญ่ คือ รูปบริสุทธิ์ของพระพุทธะดังที่เป็นอยู่และ หัวเด็กเป็นรูปไม่บิสุทธิ์ของพุทธะที่เห็นโดยจิตธรรมดา


ท่ามกลางสัญลักษณ์อื่น ๆ คือ พู่ของสัตว์ที่แขวนจากตรี พวกมันทำให้ ระลึกถึงการฝึกฝนในป่าช้า ของการปฏิบัติสมาธิต่อการเลือนหายไปของ ร่างกาย และการเป็นอิสระแห่งการรู้ความจริงของการมีชีวิตและการตาย


ในปัญญาอันไม่มีขีดจำกัดของพระองค์ คุรุ รินโปเช รู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นใน จักรวาล พร้อมกันและปราศจากความไขว้เขวจากธรรมชาติอันความสมบูรณ์ และปลอดโปร่งของพะองค์ ความเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระองค์ ถูกเปิดกว้างสู่จักรวาลทั้งหมด และเข้าถึงสรรพชีวิตทุกชีวิตเหมือนแม่ที่ ประพรมน้ำแก่ลูกคนเดียวของเธอด้วยความรัก


GURU RINPOCHE ( Om Ah Hum Vajra Guru Pema Siddhi Hum )
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



ขณะนี้เรามีความคุ้นเคยบ้างกับภาพเหล่านี้ นี่คือสมาธิอย่างจดจ่ออัน กว้างขวาง



การอัญเชิญความแข็งแกร่งและความเมตตาของปัทมสัมภวะ
 
 
จินตนาการว่าเธอกำลังอยู่บนจุดที่สูง อย่างเช่น ยอดเขา มองดู ท้องฟ้า สีฟ้าที่กว้างขวาง แจ่มใส ชื่นชมภาพนั้น ๒ - ๓ นาที สงบอยู่ในความ ปลอดโปร่ง ภาพของการอยู่ในที่สูงจะยกจิตของเธอให้พ้นจากความ ยุ่งยากของเธอ ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งจะทำให้จินตนาการ ความคิดและ อารมณ์ที่อัดแน่นอยู่ในจิตของเธอได้แจ่มใสได้


จากความปลอดโปร่งนี้ ขั้นแรก จินตนาการถึงอาสนะรูปดอกบัวที่มีกลีบ งดงาม พระอาทิตย์กลมและเหนือขึ้นไป วงพระจันทร์ วงพระจันทร์ สุด ท้าย คุรุ รินโปเช ปรากฏขึ้นอย่างเรืองรอง



รู้สึกถึงความสงบสุขและความอบอุ่นอันไร้ขอบเขตและของเทพแห่งความ รักพระองค์นี้ และสงบอยู่อย่างสบาย ๆ ระยะหนึ่ง ในความรู้สึกนั้นปล่อย ให้การสวดมนต์ ละลายหัวใจของเธอขณะที่เธอรู้สึกตัวกับภาพ ( นิมิต ) ปล่อยให้ตัวเธอทั้งหมดสู่มัน ไม่เพียงเหมือนรูปที่ถูกสร้างโดยจิตของเธอ แต่เหมือนคุรุ ผู้เยียวยาที่แท้จริงและบริสุทธิ์


ณ บัดนี้ จินตนาการโลกทั้งหมดถูกเติมเต็มด้วยสรรพชีวิตทุกชนิดด้วย หัวใจเสียสละ ใบหน้ายิ้มแย้มและดวงตาอันเบิกบาน ทั้งหมดกำลังมอง ไปยังใบหน้าที่เปี่ยมรัก งดงามและทรงพลังของคุรุ รินโปเช บ่อเกิดแห่ง การเยียวยาทั้งหมด จินตนาการว่าเธอได้ยินพวกเขากำลังสวดมนต์เป็น เสียงเดียวกัน ในท่วงทำนองที่กังวานอ่อนหวาน มันต์เป็นคำสวดถึง คุรุ รินโปเช เป็นวิถีทางแห่งการเยียวยาปัญหาของเรา ปรากฏการณ์แห่งความ เบิกบานของพลังทางจิตและกาย การสรรเสริญการปรากฏขึ้นของเทพ องค์นี้ ตั้งสมาธิในเสียงอันบริสุทธิ์ซึ่งมีธรรมชาติแห่งความเป็นหนึ่งอยู่ ในตัวเอง



จากส่วนลึกของจิตของเธอ สวดมนต์แห่ง คุรุ รินโปเช ในรูปแบบใดรูป แบบหนึ่งต่อไปนี้


ในสันสกฤตแบบทิเบต โอม อา หุง เบดซาร์ คุรุ เปมะ สิทธิ หุง
 
 
ในภาษาสันสกฤต โอม อา หุม วัชร คุรุ ปัทมะ สิทธิ หุม
 
 

คำแปลของมนต์ คือ " รูปร่างตัวตนของกาย วาจา และใจของพุทธะ โอ ปัทมะ ( สัมภวะ ) โปรดจงประทานพรทั้งหลาย "
 
 
เหมือนผลของผู้สวดและความปลอดโปร่ง ลำแสงแห่งพรอันหลากสี จาก คุรุ รินโปเช สัมผัสกับเธอนำความอบอุ่นและความปลอดโปร่ง เข้าสู่กายและจิต แสงเหล่านี้ไม่เพียงมีรูปสวยงามและบริสุทธิ์ แต่เป็น พลังแห่งความสงบ อบอุ่น ความสุขสบายและปลอดโปร่งปล่อยให้ ความรู้สึกนี้แผ่ซ่านในตัวเธอทั่วทุกขุมขนและทวาร ปัดเป่าความกังวล และความทุกข์โศกทั้งหมดไปเหมือนแสงอาทิตย์ขจัดความมืด รู้สึกว่า ร่างกายทั้งหมดของเธอเปลี่ยนไปเป็นแสงและพลังแห่งการเยียยา


ท่องมนต์ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ปล่อยให้ตัวเธอทั้งหมดจดจ่อกับเสียงจินตนา การว่าการสวดของเธอ ได้เปิดจิตของสรรพชีวิตทั้งหมดสู่ความเบิกบาน อันน่าเลื่อมใสและแสงจาก คุรุ รินโปเช แผ่ไปทุกทิศทาง ขจัดความยุ่ง ยาก ความเศร้า ความเจ็บปวดทั้งหมด สรรพชีวิตทั้งหมดได้รับอิสระใน การสวดมนต์ประสานเสียงอันทรงอำนาจ การสวดมนต์เติมเต็มจักรวาล ซึ่งกลายเป็นหนึ่งเสียง แสง และความเบิกบาน


รู้สึกเบิกบานในความอบอุ่นและความปลอดโปร่งนี้ ปล่อยให้ความคิด และความรู้สึกทั้งหมดกลมกลืนไปกับมหาสมุทรแห่งความสงบ อันน่า
เลื่อมใสในที่ซึ่งไม่มีความแตกต่างและขอบเขต อยู่เหนือความเจ็บปวด และความตื่นเต้น ความดีและความชั่ว สิ่งนี้หรือสิ่งนั้น เธอหรือฉัน แต่เป็นทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวกัน


แม้ว่าจุดหมายที่สูงกว่าของการปฏิบัติสมาธินี้ คือ การรู้แจ้งทางจิตเธอ อาจเพ่งจิตไปยังคุรุสัมภวะเหมือนบ่อเกิดของพลัง เพื่อการเยียวยาตาม ปกติของปัญหาทางอารมณ์และทางกาย โดยการสร้างนิมิตในรูปแห่ง พลังเยียวยาส่องแสงออกมาจากภาพนิมิต เหมือนเช่นแสงเลเซอร์ หรือ จินตนาการน้ำทิพย์โอสถจากแจกันของคุรุ รินโปเช กำลังไหลชะโลม ตัวเธอ อันดับแรก ชำระล้างความทุกข์ทางใจ อารมณ์และทางกายของ เธอจนหมดสิ้น จากนั้นเติมกายและจิตทั้งหมดของเธอด้วยความสงบ และความเข้มแข็ง คุรุ รินโปเช สามารถเป็นบ่อเกิดของพลังระหว่าง การปฏิบัติสมาธิในบุคคลอื่นแต่ละคน กระทำเหมือนผู้เยียวยาสำหรับ เธอ


การสร้างนิมิตใด ๆ ก็ตาม เธอสามารถทำซ้ำระหว่างการนั่งสมาธิ บ่อยเท่าที่เธอรู้สึกสบายอยู่


เมื่อเธอกำลังทำงานประจำวัน สามารถนำเอาความรู้สึกปลอดโปร่ง ของการปฏิบัติสมาธิสู่ชีวิตของเธอได้บ่อย ๆ เธอสามารถสวดมนต์ เสียงดังหรือสวดในใจเมื่อเธออยู่ในที่ชุมชน
 

สมาธิในความปลอดโปร่ง
 
 
ในทัศนะของชาวพุทธที่สูงขึ้น ปรากฏการณ์เกิดขึ้นจากความว่างเปล่า และสูญสลายไปอีกครั้ง
 
 
ดังนั้นเราเริ่มปฏิบัติสมาธิโดยการสวดมนต์ โดยการนำเข้ามาสู่สภาวะ แห่งความปลอดโปร่ง แจ่มแจ้ง ปล่อยให้ภาพนิมิตเกิดขึ้นเหมือนภาพ สะท้อนของกระจกอันใสสะอาด หลังจากการพักอยู่ในความสงบเหนือ ภาพ เราสิ้นสุดด้วยความปลอดโปร่งและความเป็นหนึ่งอีกครั้ง มันเป็น กระบวนการเหมือนการเกิด การมีชีวิตอยู่และการตาย ทางที่ดีของการ ฝึกฝน คือ การปล่อยให้มันมาและก็ไป ในขั้นสุดท้ายของการปฏิบัติ สมาธิเพียงอยู่ในความปลอดโปร่งแห่งสภาวจิตของเธอ ดังที่มันเป็น ปราศจากการยึดถือ


การอาศัยอยู่กับสภาวจิตของเรา เราอาจพักนานเท่านานในความว่าง ของความปลอดโปร่ง เราอาจเริ่มด้วยการสร้างภาพนิมิต จากนั้นละ ทิ้งเทคนิคและเพียงเพ่งสมาธิในทางแห่งความปลอดโปร่ง ทำให้ประ สบการณ์ของการปฏิบัติสมาธิที่เกิดขึ้น ไม่สำคัญมากนักอาจเป็นไป ได้ที่จะผสานกลมกลืนกับประสบการณ์กับผู้มีประสบการณ์ และวิถี ทางแห่งการมีประสบการณ์ทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่ง


อย่าพยายามสร้างภาพความปลอดโปร่งหรือมองมันเหมือนเป็นสิ่ง หนึ่งหรือสิ่งอื่น ๆ หรือหวังประโยชน์อะไรจากมันเพียงปล่อยให้ มันเป็นไป นี้คือหนทางที่จะค้นพบจุดศูนย์กลางของเธอ ถ้าเธอเชื่อ มั่นในธรรมชาติที่แท้จริงของเธอ เธอไม่จำเป็นต้องมองไปยังศูนย์ กลางอื่นใด เพียงรู้สึกปลอดโปร่งและรู้สึกตัว


ตราบเท่าที่เรายังตกอยู่ใต้อำนาจของสิ่งที่เกิดขึ้นได้ของความทุกข์ สมาธิสามารถทำให้เรามีความคิดลึกซึ้งและเข้มแข็งขึ้น ขณะที่เรา เห็นธรรมชาติที่แท้จริงของความปลอดโปร่ง สมาธิจะละลายสู่ชีวิต ประจำวัน



การเชื่อมันในบ่อเกิดแห่งการเยียวยาภายนอกจะเป็นประโยชน์และ สำคัญ ตราบเท่าที่เราอยู่ภายใต้การควบคุมของความคิดทวินิยมและ ขึ้นอยู่กับวัตถุภายนอก ถึงอย่างไร สำคัญมากที่จะทำความเข้าใจว่า การเยียวยาอย่างสมบูรณ์ดำเนินไปโดยอยู่เหนือการขึ้นอยู่กับพลังภาย นอก การเยียวยาเป็นการรักษาธรรมชาติอันปลอดโปร่งและความสุข สงบส่วนตัวของเราเอง ดังนั้นเราสามารถเข้าถึงความสงบและความ ปลอดโปร่งทั้งหมดนั้นได้ด้วยตัวเอง
 
 
- จาก พลังรักษจิต โดย ท่าน ตาถัง ตูลกุ ทอนดรุป -


Om ah hum vajra guru padma siddhi hum mantra
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
 :13: อนุโมทนาสาธุครับ ขอบคุณครับพี่มด
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~